ในยุคที่ร้านอาหารถูกบังคับให้ต้องพึ่งพาระบบเดลิเวอรี การตลาดออนไลน์จึงยิ่งมีการแข่งขันสูงขึ้น โดยมีเป้าหมายให้ลูกค้าซื้ออาหารจากร้านของตัวเอง ซึ่งหนึ่งในวิธีที่จะช่วยดึงดูดลูกค้าได้ คือการสร้างโฆษณาที่น่าสนใจ แต่จะทำอย่างไรให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น ลองมาศึกษาหลักจิตวิทยาการตลาด ที่จะช่วยเพิ่ม ยอดขายร้านอาหาร ของคุณด้วยเทคนิค FOMO ครับ
หลักจิตวิทยาการตลาด: เทคนิค FOMO
ช่วยเพิ่ม ยอดขายร้านอาหาร
FOMO เป็นคำย่อมาจาก Fear Of Missing Out ซึ่งเป็นกลยุทธ์การตลาดจากทำให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกว่า “ไม่อยากพลาดโอกาส” เช่น กลัวจะไม่ได้รับสิทธิพิเศษที่มีจำกัด ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น เป็นการเลือกจากความรู้สึกในตอนนั้นมากกว่าการใช้เหตุผล และทำให้เกิดความพอใจที่ซื้อได้ทันเวลา รู้สึกคุ้มค่า เหมือนเวลาที่เผลอซื้อสินค้าช่วง Flash Sales แม้จะไม่จำเป็นนั่นแหละ หรือแม้แต่การกด Like เพจที่รวมโปรโมชันอาหารต่างๆ ในเฟสบุ๊ก เพราะไม่มีใครอยากพลาดโอกาสกันหรอกครับ
จะเห็นว่าหลักจิตวิทยาแบบนี้พบได้จริงในชีวิตประจำวัน และเกิดขึ้นได้ในทุกเพศทุกวัย รวมถึงช่องทางออนไลน์ก็สามารถเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ได้ โดยที่มีค่าใช้จ่ายไม่สูงมากนัก ผู้ประกอบการร้านอาหารในยุคนี้ จึงควรจะรู้จักการทำโปรโมชันด้วยเทคนิค FOMO เพื่อทำ ยอดขายร้านอาหาร ให้สูงขึ้น ซึ่งมีแนวทางดังต่อไปนี้
ช่วงเวลานาทีทอง
การตั้งเงื่อนไขพิเศษในช่วงเวลาที่จำกัด จะช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของลูกค้า เพราะมีความกดดันจากเวลาที่ลดลงไปเรื่อยๆ โดยเรามักจะเห็นดีลที่ขึ้นเวลานับถอยหลังให้เห็นกันชัดๆ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโรงแรม หาที่พัก ทัวร์ต่างๆ หรือ Flash sale ในแอปพลิเคชันซื้อสินค้าออนไลน์ ที่บีบให้เราต้องรีบตัดสินใจ ซึ่งบางครั้งเราก็เผลอกดซื้อสินค้าหรือบริการนั้น แม้ว่าจะไม่ได้มีการวางแผนที่จะซื้อมาก่อนเลยก็ตาม ร้านอาหารก็สามารถนำเทคนิคนี้มาปรับใช้ได้เช่นกัน ทั้งการจำกัดระยะเวลาการส่งฟรี หรือช่วงเวลาที่จัดโปรโมชั่น ตัวอย่างเช่น
- สั่งซื้อภายใน 1 ชั่วโมงนี้ รับส่วนลด 10 % ทันที!!
- ส่งฟรี!! เมื่อสั่งอาหารครบ 300 บาทขึ้นไป (สิ้นสุดเวลา __:__ น.)
- โปรโมชันอาหารราคาพิเศษ เฉพาะสัปดาห์นี้เท่านั้น
ซึ่งการตั้งช่วงเวลาแบบนี้ ควรจะตรงเวลาตามที่ระบุกับลูกค้า เพราะการยืดเวลาออกไปจะทำให้ลูกค้ารู้สึกถูกหลอกได้ ดังนั้น เมื่อหมดช่วงเวลาจึงควรหยุดข้อเสนอและเปลี่ยนราคาทันที
สร้างความรู้สึกในการพลาดโอกาส
ภาษาที่ใช้ในการโฆษณาก็เป็นเรื่องสำคัญ ผู้ประกอบการควรเลือกใช้คำที่จะสร้างความรู้สึกแบบ FOMO หรือคำที่ให้ความรู้สึกว่าสินค้ามีจำกัด และกำลังจะหมดลงไป เช่น จำนวนจำกัด พลาดไม่ได้ นาทีทอง โอกาสพิเศษ โปรโมชั่นพิเศษ หรือประโยคอื่นๆ เพื่อสื่อสารกับลูกค้าว่าต้องซื้อตอนนี้แล้ว ไม่เช่นนั้นจะเสียใจนะครับ
- สั่งด่วน เมนูพิเศษเฉพาะเดือนนี้ !!
- Limited Menu อร่อยจนห้ามพลาด
- อย่าพลาดโปรเด็ด!! คุ้มกว่านี้ต้องแจกฟรีแล้ว
- ส่งฟรี!! เฉพาะลูกค้าที่สั่ง 20 ท่านแรก
นอกจากนี้ อาจจะมีการขึ้นแจ้งเตือนโปรโมชันในช่วงเวลาก่อนหน้านี้ ที่ลูกค้าพลาดไปแล้ว ซึ่งการแจ้งเตือนโปรโมชันที่ลูกค้าไม่ได้รับนี้ จะมีผลช่วยกระตุ้นให้ลูกค้ารีบซื้อมากขึ้นในโอกาสหน้า เพราะกลัวที่จะพลาดไปอีกครั้ง
โอกาสครั้งที่สองพลาดไม่ได้
ต่อจากข้อที่แล้ว ทุกคนควรได้รับโอกาสเพิ่มเติม โดยเฉพาะโอกาสในการซื้ออาหารจากร้านของเรา เมื่อพลาดโอกาสแรกไปแล้ว ลูกค้ามีแนวโน้มที่จะตัดสินใจซื้อเร็วขึ้น เพราะถูกกระตุ้นจากการที่ไม่ได้รับในครั้งแรก แต่โปรโมชันของร้านแต่ละครั้ง ไม่ควรเหมือนกันจนเกินไป เพราะจะทำให้ลูกค้าที่ซื้อในครั้งแรกไม่รู้สึกสนใจ และความรู้สึกคุ้มค่าในการซื้อลดน้อยลง
จ่ายเท่าเดิม เพิ่มเติมของแถม
แน่นอนว่าของฟรีใคร ๆ ก็ชอบ ดังนั้น อีกกลยุทธ์พื้นฐานที่พบบ่อยก็คือ การมีของแถมเล็กๆ น้อยๆ ให้กับลูกค้า หรือการเพิ่มปริมาณหรือจำนวนอาหารให้มากขึ้น ซึ่งจะเพิ่มความรู้สึกคุ้มค่าในการซื้อสินค้าและบริการ รวมถึงช่วยมีโอกาสที่ลูกค้าจะตัดสินใจซื้อได้มากขึ้น แต่ก็ต้องอยู่ภายใต้การบริหารจัดการต้นทุนที่ดีนะครับ
- พิเศษ 30 ออเดอร์แรก รับของหวานฟรี!!
- สั่งซื้อตอนนี้ รับส่วนลด 15 % สำหรับสั่งอาหารครั้งถัดไป
- สั่งเซตอาหารกลางวัน แถมฟรี!! ชานมสูตรใหม่ ไข่มุกนุ่มหนึบ
ทำให้ลูกค้าเป็นคนพิเศษ
ทุกคนย่อมรู้สึกดีที่ได้รับความใส่ใจ การจัดโปรโมชั่นลูกค้าใหม่ โปรโมชั่นเฉพาะสมาชิก หรือลูกค้าประจำของร้านในช่วงเวลาที่กำหนด ก็เป็นอีกทางที่จะช่วยเพิ่ม ยอดขายร้านอาหาร ได้เช่นกัน และเป็นการเจาะจงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมากขึ้นอีกด้วย
หลักจิตวิทยาการตลาด หรือ FOMO marketing นี้อาจจะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้เร็วขึ้น แต่อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการไม่ควรใช้ถี่จนเกินไป หรือใช้คำโฆษณาที่ดูเกินจริง เพราะจะเป็นการทำให้ภาพลักษณ์ของร้านดูไม่ดี และลูกค้าอาจจะเกิดรู้สึกว่าถูกหลอกได้ รวมถึงควรเตรียมพร้อมกับการจัดการออเดอร์ที่อาจจะเพิ่มขึ้นจากการจัดโปรโมชัน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาความล่าช้าหรือผิดพลาดในการส่งอาหารให้แก่ลูกค้า
อย่าลืมว่าความซื่อสัตย์ต่อลูกค้าเป็นเรื่องสำคัญ และจำเป็นต่อการที่ร้านอาหารจะอยู่ได้อย่างยั่งยืน หวังว่าเทคนิคนี้จะช่วยเพิ่มยอดขายร้านอาหาร สำหรับทุกท่านที่ลองนำแนวทางเหล่านี้ไปปรับใช้กันนะครับ