3 ปัจจัยที่ทำให้ ร้านอาหารต้องพัฒนาเมนู อยู่เสมอ - Amarin Academy

3 ปัจจัยที่ทำให้ ร้านอาหารต้องพัฒนาเมนู อยู่เสมอ

3 ปัจจัยที่ทำให้ ร้านอาหารต้องพัฒนาเมนู อยู่เสมอ

เมนูอาหาร นับเป็นปัจจัยหลักที่ดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการร้านอาหารของเราและกลายเป็นลูกค้าประจำ บางร้านอาจคิดว่า เมื่อเรามีเมนูที่ดีหรือเป็นที่นิยมของลูกค้าอยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องพัฒนาก็ได้ แต่รู้หรือไม่ว่า นั่นเป็นจุดอ่อนสำคัญที่ทำให้ธุรกิจของคุณหยุดนิ่งหรืออาจล้มหายไปจากตลาด ฉะนั้นมาดูปัจจัยที่ทำให้ ร้านอาหารต้องพัฒนาเมนู อยู่เสมอกันดีกว่า

1.พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนตลอดเวลา

 

“การรักษามาตรฐานเป็นสิ่งสำคัญ แต่การตามกระแสให้ทันก็เป็นสิ่งจำเป็น” ก่อนอื่นเจ้าของธุรกิจต้องทราบว่า พฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไป ไม่ได้มีความซื่อสัตย์ต่อแบรนด์เช่นเดิม เมื่อมีร้านอาหารเปิดใหม่หรือมีเมนูแปลกๆ ใหม่ๆ เข้ามา พวกเขาก็พร้อมไปลองอยู่เสมอ

พฤติกรรมนี้ถือเป็นทั้งวิกฤตและโอกาสไปพร้อมๆ กัน โดยจะเป็นวิกฤตก็ต่อเมื่อร้านอาหารนั้นไม่เคยพัฒนาเมนูเลย แต่จะเป็นโอกาสสำหรับร้านอาหารที่ปรับตัวได้เร็ว เช่น กระแสชาโคลที่กำลังมาแรง ร้านแรกๆ ที่นำมาเพิ่มในเมนูก็จะได้ทั้งยอดขายที่เพิ่มขึ้นและได้ free marketing ที่ลูกค้าพร้อมจะถ่ายภาพเมนูใหม่ และนำไปแชร์ในโลกโซเชียล ยิ่งถ้าร้านไหนเป็นผู้ปลุกกระแสเป็นรายแรกๆ ก็ยิ่งมีโอกาสได้ยอดขายมากตามไปด้วย

ฉะนั้นหากเจ้าของร้านอาหารปรับตัวทัน พัฒนาเมนูใหม่อยู่เสมอ ก็จะได้รับประโยชน์จากพฤติกรรมผู้บริโภคนี้ไปเต็มๆ

2.ราคาวัตถุดิบที่ขึ้นลงอยู่เสมอ

เมื่อราคาวัตถุดิบสูงขึ้น ร้านอาหารส่วนใหญ่มักปรับราคาอาหารขึ้นตาม ถ้าช่วงนั้นเป็นช่วงที่เศรษฐกิจดี ผู้บริโภคมีกำลังซื้อสูงก็ถือว่าไม่เป็นปัญหา แต่ถ้าเศรษฐกิจกำลังย่ำแย่ อยู่ในภาวะเงินฝืด สินค้าล้นตลาด เพราะผู้บริโภคไม่มีกำลังซื้อ จนซัพพลายเออร์พยายามเสนอขายวัตถุดิบและให้ส่วนลดร้านอาหารแบบสุดๆ ล่ะ จะทำอย่างไร

ร้านอาหารบางร้านอาจคิดว่าผู้บริโภคอาจไม่รู้ในข้อนี้ แต่จริงๆ แล้ว พวกเขารู้ เพราะราคาวัตถุดิบในตลาดหรือห้างสรรพสินค้าที่เขาเดินเป็นประจำก็ปรับลดลงเช่นกัน เมื่อจะเข้าร้านอาหารจึงมักเปรียบเทียบราคาในใจเพื่อดูความคุ้มค่าอยู่เสมอ หากราคาอาหารยังคงเดิม ทั้งๆ ที่ต้นทุนถูกลง เขาอาจจะเลือกทำอาหารรับประทานเอง ซึ่งต้นทุนต่ำกว่า หรือเลือกเข้าร้านอาหารอื่นที่ราคาย่อมเยาก็เป็นได้ ฉะนั้นลองคำนวณความคุ้มค่า หากสามารถปรับลดราคาอาหารบางเมนูตามวัตถุดิบได้ ก็ลองปรับลดดู ตามสภาพตลาด เพื่อแสดงให้ลูกค้าเห็นว่าคุณซื่อสัตย์กับเขาจริงๆ

ขณะเดียวกัน ลองสังเกตว่าวัตถุดิบตัวใดกำลังเป็นที่ต้องการของตลาด พยายามหาวัตถุดิบนั้นมาสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ แม้ต้นทุนวัตถุดิบชนิดนั้นอาจจะสูง แต่คุณก็สามารถตั้งราคาสูงและทำกำไรจากเมนูนั้นได้ เพราะกำลังเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค

3.ตลาดแรงงานคุณภาพขาดแคลน

หลายคนสงสัยว่า เมื่อแรงงานขาดแคลนแล้วเกี่ยวอะไรกับการพัฒนาเมนู เราจะอธิบายให้ฟัง สมมติว่าร้านของคุณเป็นร้านขนาดใหญ่ มีที่นั่ง 200 ที่นั่ง มีเมนูกว่า 200 เมนู คิดดูว่าต้องใช้พนักงานเสิร์ฟกี่คน ต้องมีพนักงานในครัวมากแค่ไหน

สำหรับพนักงานเสิร์ฟ หากเป็นร้านอาหารไม่ต้องการคนที่มีคุณภาพสูงนัก ก็อาจไม่เป็นปัญหา แต่พนักงานครัวซึ่งเป็นแรงงานคุณภาพและเป็นแรงงานหลักนี่สิสำคัญ การปรับเปลี่ยนหรือพัฒนาเมนูนี่แหละ จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหานี้ได้

สิ่งที่คุณควรทำคือ ลองเช็คดูว่าเมนูไหนไม่เป็นที่นิยมและไม่ทำกำไร ก็ตัดออกเสีย เพื่อประหยัดเวลาและแรงงาน การทำเช่นนี้นอกจากไม่กระทบต่อการบริการแล้ว ยังช่วยลดภาระการทำงาน ทำให้พนักงานมีเวลาไปโฟกัสกับการทำเมนูที่คนนิยมสั่งและทำกำไรให้ร้านได้มากขึ้นอีกด้วย

การปรับเปลี่ยนหรือพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ร้านอาหารอยู่รอดได้ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงเช่นปัจจุบัน

เรื่องแนะนำ

#ถอดบทเรียน BEARHOUSE ลงทุนเป็นแสน ทำเพลงให้ร้านชานม “Music Marketing” กลยุทธ์ที่ให้มากกว่าความเพลิดเพลิน

#ถอดบทเรียน BEARHOUSE ลงทุนเป็นแสน ทำเพลงให้ร้านชานม การสร้าง Brand Loyalty และอยากเป็น “เพื่อน” “Music Marketing” กลยุทธ์ที่ให้มากกว่าความเพลิดเพลิน เพราะเพลงมีอิทธิพลต่ออารมณ์และความรู้สึกของมนุษย์… สอง youtuber ดัง คุณกานต์ และคุณซารต์ เจ้าของแบรนด์ Bear House ได้ออกมาเล่าถึงแรงบันดาลใจในการทำเพลงหรือ BEARHOUSE Playlist เพื่อนำมาเปิดในร้าน โดยทั้งคู่ได้มาแชร์เรื่องราวของการทำเพลงนี้ ดังนี้ 🔸แรงบันดาลใจ💖 โดยคุณกานต์ และคุณซารต์ได้เล่าว่า จุดเริ่มต้นของการทำเพลงนี้ มาจากช่วงที่พวกเขาต้องทำงานอยู่บ้านหรือ Work frome Home นั้น ได้มีการเปิดเพลย์ลิสต์เพลงของแบรนด์สินค้าสุดมินิมอลอย่าง Muji ฟังอยู่ตลอด ซึ่งการฟังเพลงนี้ได้ทำให้เขารู้สึกราวกับว่าเขากำลังเลือกซื้อของอยู่ในร้าน Muji อะไรอย่างนั้นเลย อีกทั้งยังทำให้เขาเกิดความรู้สึกจงรักภักดีต่อแบรนด์ จนรู้สึกว่าถ้าไปห้างจะต้องแวะไปซื้อของที่ Muji ด้วย ทั้งนี้จึงทำให้พวกเขาเกิดแรงบันดาลใจว่าเมื่อเพลงของ Muji ทำให้เกิดความรู้สึกแบบนี้ได้ ก็อยากให้ Bear House มีเพลงที่ฟังแล้วสามารถคิดถึง Bear House […]

ตั้งราคาขาย

ตั้งราคาขาย อย่างไร ให้ขายได้และร้านอยู่รอด

        ในช่วงวิกฤตแบบนี้ สิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ร้านอาหารอยู่รอดได้ คือการบริหารจัดการต้นทุนที่ดี และการ ตั้งราคาขาย (Price Strategy) ของอาหารที่เหมาะสม โดยเฉพาะในวงการอาหารเดลิเวอรีที่มีการแข่งขันสูง มีร้านอาหารแบบเดียวกันเป็นจำนวนมาก ผู้ประกอบการจะต้องใช้กลยุทธ์ทุกอย่างที่ทำได้ เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อจากร้านของเรา ลองมาดูการตั้งราคาขายอาหารและกลยุทธ์ต่างๆ ที่อาจจะช่วยร้านของคุณได้ครับ ตั้งราคาขาย อย่างไร  ให้ขายได้และร้านอยู่รอด         พื้นฐานของการ ตั้งราคาขาย อาหาร ต้องคำนวณมาจากต้นทุนของร้าน เช่น ต้นทุนวัตถุดิบ ควรอยู่ที่ 30-35% ของยอดขาย ตัวอย่างเช่น ต้นทุนวัตถุดิบเท่ากับ 30 บาท ราคาขายก็ควรจะตั้งไว้ประมาณ 100 บาท เป็นต้น          แต่ไม่ใช่ว่าการคำนวณแบบนี้จะเหมาะสมกับทุกร้านอาหาร เพราะยังมีต้นทุนอื่นๆ ได้แก่ ค่าจ้างพนักงาน ค่าเช่าที่ และค่าการตลาดอื่นๆ ส่วนใครที่นำร้านอาหารเข้าร่วมกับผู้ให้บริการเดลิเวอรีต่างๆ ก็อย่าลืมต้นทุนค่า GP […]

การตลาดออนไลน์เบื้องต้น ที่คุณต้องรู้!

การทำธุรกิจในยุคดิจิตัลแบบนี้ คงปฏิเสธการใช้การตลาดออนไลน์ (Online Marketing) ได้ยาก ฉะนั้นอะไรบ้างที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับ การตลาดออนไลน์เบื้องต้น

“อาหารเพื่อสุขภาพ” เทรนด์มาแรงสายคลีน โอกาสทองของคนอยากมีธุรกิจ

หนึ่งในปัจจัยภายในที่จะทำให้มีสุขภาพที่ดีได้นั้น คงหนีไม่พ้น “อาหาร” นาทีนี้เรื่องของ “อาหารเพื่อสุขภาพ” หรือ อาหารคลีนฟู้ด กำลังได้รับความนิยม อาจเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเทรนด์มาแรงของคนยุคใหม่ ที่หันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพมากยิ่งขึ้น ส่งเสริมให้ตลาดธุรกิจร้านอาหารเพื่อสุขภาพขยายตามไปด้วยเช่นกัน สำหรับคนที่สนใจอยากเปิดร้านอาหาร การลงทุนกับอาหารเพื่อสุขภาพเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจและเริ่มต้นได้ไม่ยาก วันนี้เราจึงขอนำเสนอแนวทางที่จะช่วยให้ทุกคนตีโจทย์ลักษณะของธุรกิจร้านอาหารเพื่อสุขภาพมาเป็นแนวทางในการนำไปเริ่มธุรกิจกัน 1.จุดยืนของอาหารเพื่อสุขภาพ ธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพเป็นธุรกิจที่ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคว่า อาหารของเราทำมาจากวัตถุดิบที่สดใหม่และได้คุณภาพ ปรุงรสและผ่านกรรมวิธีที่ไม่ได้ลดคุณค่าทางอาหารจนเกินไป หากสนใจลงทุนกับธุรกิจด้านนี้แล้ว เจ้าของธุรกิจอย่างเราก็ควรศึกษาหาความรู้เรื่องโภชนาการและคุณค่าทางอาหารต่างๆ ด้วยเช่นกัน เพราะเมื่อเอ่ยถึงอาหารเพื่อสุขภาพแล้ว ผู้บริโภคล้วนมองหาสิ่งดีๆ ที่จะช่วยให้พวกเขามีสุขภาพที่ดีมาจากภายใน  เรื่องของคุณภาพวัตถุดิบที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี กรรมวิธีการปรุงอาหารที่ไม่มากเกินไปจนทำให้เสียคุณค่าทางอาหาร สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งสำคัญที่กลุ่มคนรักสุขภาพมองเป็นหลัก ส่วนใหญ่มักจะมองหาอาหารที่ช่วยควบคุมแคลอรี่และน้ำหนัก แต่ขณะเดียวกันก็ต้องมีรสชาติที่ดี  มีเมนูให้เลือกอย่างหลากหลาย ไม่จำเจหรือน่าเบื่อจนเกินไป จะเป็นเมนูอาหารเช้า ขนมทานเล่น ของหวาน หรือเมนูหลักก็สามารถสร้างสรรค์ให้หลากหลายได้ หลักในการปรุงส่วนใหญ่นั้น  ร้านควรเน้นวัตถุดิบเพื่อสุขภาพ ไม่มีวัตถุดิบพวกหมักดอง หรือ ขัดขาว เช่นน้ำตาลทรายขาว ข้าวขาว อาหารควรไร้ไขมัน มีน้ำมันประกอบอาหารได้ในจำนวนน้อยและใช้น้ำมันพืชที่ดี เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันดอกทานตะวัน และปรุงรสให้กลมกล่อมแบบกลางๆมากกว่าการเน้นรสจัด ที่สำคัญควรต้องครบห้าหมู่ 2.กลุ่มผู้บริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ แม้จะดูเหมือนว่าอาหารเพื่อสุขภาพเป็นธุรกิจที่เจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม แต่แท้จริงแล้วกลุ่มผู้บริโภคอาหารเพื่อสุขภาพกระจายอยู่ในหลายอาชีพและช่วงอายุ ทั้งกลุ่มนักศึกษาที่อยู่หอพักหรือคอนโด ซึ่งไม่ได้มีพื้นที่ในการทำอาหารมากนัก, กลุ่มพนักงานออฟฟิศที่ไม่ได้มีเวลาดูแลตัวเองเท่าที่ควร หรือกลุ่มผู้สูงอายุซึ่งต้องเริ่มใส่ใจกับอาหารการกินมากขึ้น จะเห็นได้ว่ากลุ่มผู้บริโภคไม่ได้เฉพาะเจาะจงแค่กลุ่มคนรักสุขภาพที่เข้าฟิตเนส […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2023 AMARIN PRINTING AND PUBLISHING PUBLIC COMPANY LIMITED.