SACIT Craft Collection 2025 คราฟต์ไทยสู่เวทีโลก - Amarin Academy

SACIT Craft Collection 2025 คราฟต์ไทยสู่เวทีโลก

สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) หรือ SACIT เปิดเวทีรวบรวมผลิตภัณฑ์เพื่อรับการรับรองผลิตภัณฑ์ที่สร้างสรรค์ความยั่งยืนให้กับงานศิลปหัตถกรรมไทย ภายใต้โครงการ SACIT Craft Collection 2025 คัดสรรผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทยทุกแขนงจากครูศิลป์ของแผ่นดิน ครูช่างศิลปหัตถกรรม  ทายาทช่างศิลปะหัตกรรม ไปจนถึง New Young Craft ทั่วประเทศ ให้เป็นแม่แบบผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทยที่นำเสนอความโดดเด่นของทักษะเชิงช่าง การผสมผสานความดั้งเดิมด้วยความคิดสร้างสรรค์ และบอกเล่าเรื่องราวของความยั่งยืนที่สอดรับกับทิศทางและรูปแบบการใช้งานในชีวิตประจำวัน เพื่อผลักดันผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทยให้แพร่หลาย ไปไกลในระดับโลก

SACIT ได้ดำเนินการยกย่องเชิดชูกลุ่มผู้สร้างสรรค์ผลงานศิลปหัตถกรรม ได้แก่ ครูศิลป์ของแผ่นดิน ครูช่างศิลปหัตถกรรม ทายาทช่างศิลปหัตถกรรม สมาชิก สศท. และ New Young Craft ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์ที่สร้างสรรค์โดยกลุ่มคนดังกล่าวเป็นผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทยมีความโดดเด่น สามารถสร้างภาพลักษณ์อันดี จนนำมาสู่การสร้างความเชื่อมั่นในระดับประเทศและผลักดันสู่การเป็นที่ยอมรับในระดับสากลต่อไป

สำหรับการคัดสรรผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมที่สร้างสรรค์ โดยครูศิลป์ของแผ่นดิน ครูช่างศิลปหัตถกรรม ทายาทช่างศิลปหัตถกรรม สมาชิก สศท. และ New Yong Craft เพื่อรับรองเป็นผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทย ภายใต้ SACIT Craft Collection ได้แบ่งประเภทการรับรองผลิตภัณฑ์ศิลปหัตกรรมออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่

  1. Master Craft หรือหัตถศิลป์ระดับประเทศ (The Legacy of Master Craftsmanship) เน้นผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นด้านความเป็นเลิศเชิงช่าง (Craftsmanship) และความดั้งเดิม (Authenticity)
  2. Trendy Craft หรือนวัตศิลป์เพื่อตอบสนองความต้องการของปัจจุบันและอนาคต (Bridging tradition and tomorrow) เน้นผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นด้านนวัตกรรม (Innovation) และความสามารถทางการตลาด (Marketability)
  3. Conscious Craft หรือหัตถกรรมรักษ์โลก (Where sustainability meets creativity) เน้นผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นด้านการสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืน (Sustainability) และนวัตกรรม (Innovation)

ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมที่ผ่านการคัดเลือก และได้รับรองเป็นผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทยภายใต้ SACIT Craft Collection ประโยชน์ที่ผู้ผ่านการคัดสรรจะได้รับ

  1. การยอมรับและข้อเสนอแนะ เช่น ตราสัญลักษณ์ ประกาศนียบัตรรับรอง คำแนะนำ จนถึงการจัดแสดงผลงานในนิทรรศการพิเศษ
  2. โอกาสทางธุรกิจ เช่น การสนับสนุนด้านการตลาด จัดแสดงผลงานในระดับนานาชาติ ขยายช่องทางการขายทั้งออฟไลนและออนไลน์ การจับคู่ทางธุรกิจ
  3. ประชาสัมพันธ์ในเครือข่ายสื่อพันธมิตร เพื่อสร้างโอกาส สร้างการเป็นที่รู้จักและยอมรับ

 

เงื่อนไขการสมัคร:

* หากท่านยังมิได้เป็นสมาชิก สศท. โปรดสมัครสมาชิกก่อนส่งผลิตภัณฑ์เข้ารับการคัดสรรฯ

สมัครสมาชิก สศท. ได้ที่นี่ : https://member.sacit.or.th/register

  • ส่งผลิตภัณฑ์เข้าร่วมรับการพิจารณาในโครงการ SACIT Craft Collection 2025 ได้ที่: https://forms.gle/E1rSAukoSnvwM1ze8
  • กรุณากรอกข้อมูลลงใน “แบบฟอร์มใบสมัคร” ให้ถูกต้อง ครบถ้วน
  • ปิดรับสมัคร และส่งผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่วันนี้ – ภายในวันที่ 15 สิงหาคม 2568
  • ประกาศผลการคัดเลือกผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรม ที่ผ่านการรับรองมาตฐานภายใต้ SACIT Craft Collection ในวันที่ 31 สิงหาคม 2568

เรื่องแนะนำ

ชวน ฟิน กิน Thai SELECT สิทธิพิเศษจาก KTC

              กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC ส่งเสริมโอกาสทางการตลาดให้กับร้านอาหารที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT และสร้างการรับรู้ให้ผู้บริโภคได้รู้จัก และได้ลิ้มลองรสชาติของอาหารไทย จากร้านที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า จึงได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย พร้อมมอบโปรโมชั่น ส่วนลด และสิทธิพิเศษต่าง ๆ แก่ลูกค้า ภายใต้แคมเปญ “ชวน ฟิน กิน Thai SELECT”               สนับสนุนสิทธิพิเศษจากบัตรเครดิต KTC รับส่วนลดสูงสุด 10% หรือสิทธิพิเศษอื่นๆ อีกมากมายเมื่อใช้บริการที่ร้านอาหารตราสัญลักษณ์ Thai SELECT อีกทั้งยังสามารถแลกรับเครดิตเงินคืน 10% เมื่อใช้คะแนน KTC FOREVER เท่ายอดใช้จ่ายผ่านบัตร/เซลส์สลิปมากไปกว่านั้น! ต่อที่ 1 ยังสามารถรับส่วนลดสูงสุด 10% หรือสิทธิพิเศษอื่นๆ และต่อที่ 2 หากทำการลงทะเบียน ยังสามารถแลกรับเครดิตเงินคืนได้ถึง 10% […]

เทรนด์ธุรกิจอาหาร

5 เทรนด์ธุรกิจอาหาร ในประเทศไทย ปี 2020 ที่ยังโตได้

ในปีหน้า 2020 ธุรกิจอาหารในประเทศไทย ยังไปต่อได้ไหม? ยังน่าลงทุนอยู่หรือไม่? เชื่อว่านี่คงเป็นคำถามที่เจ้าของธุรกิจร้านอาหาร หรือแม้แต่ผู้ที่กำลังจะก้าวเข้ามาในแวดวงธุรกิจอาหาร มีข้อสงสัยในเรื่องนี้ ซึ่งข้อมูลจาก EUROMONITOR พบว่า ธุรกิจตลาดอาหารในประเทศไทยยังไปได้ดี แต่จะมี เทรนด์ธุรกิจอาหาร ประเภทใดที่จะไปต่อได้ในปี 2020 มาดูกัน   5 เทรนด์ธุรกิจอาหาร ในประเทศไทย ปี 2020 ที่ยังโตได้ อย่างที่กล่าวไปว่า ในปีหน้า หรือปี 2020 นั้น เหล่าผู้ประกอบการร้านอาหาร คงมีความกังวลอยู่ว่า แนวโน้มตลาดอาหารในประเทศไทยนั้น จะไปในทิศทางใด และจะมีโอกาสที่เติบโตมากขึ้นหรือไม่ ซึ่งก็ได้มีข้อมูลจาก EUROMONITOR บริษัทชั้นนำด้านข้อมูลการตลาด เผยว่า ภาพรวมตลาดอาหารในประเทศไทยเมื่อปีที่ผ่านมานั้น มีมูลค่ากว่า 4 แสนล้านบาท ในขณะที่ปัจจุบัน และในอนาคต พฤติกรรมของผู้บริโภคเองก็มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงไป ดังนั้น ผู้ประกอบการเอง ก็ควรที่จะทำความเข้าใจในพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคเช่นกัน เมื่อตลาดอาหารในประเทศไทยปีหน้า ยังไปต่อได้ แล้ว เทรนด์ธุรกิจอาหาร ประเภทใดที่ยังน่าสนใจ และต้องจับตาในปี 2020 มาดูกัน   […]

“อาหารเพื่อสุขภาพ” เทรนด์มาแรงสายคลีน โอกาสทองของคนอยากมีธุรกิจ

หนึ่งในปัจจัยภายในที่จะทำให้มีสุขภาพที่ดีได้นั้น คงหนีไม่พ้น “อาหาร” นาทีนี้เรื่องของ “อาหารเพื่อสุขภาพ” หรือ อาหารคลีนฟู้ด กำลังได้รับความนิยม อาจเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเทรนด์มาแรงของคนยุคใหม่ ที่หันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพมากยิ่งขึ้น ส่งเสริมให้ตลาดธุรกิจร้านอาหารเพื่อสุขภาพขยายตามไปด้วยเช่นกัน สำหรับคนที่สนใจอยากเปิดร้านอาหาร การลงทุนกับอาหารเพื่อสุขภาพเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจและเริ่มต้นได้ไม่ยาก วันนี้เราจึงขอนำเสนอแนวทางที่จะช่วยให้ทุกคนตีโจทย์ลักษณะของธุรกิจร้านอาหารเพื่อสุขภาพมาเป็นแนวทางในการนำไปเริ่มธุรกิจกัน 1.จุดยืนของอาหารเพื่อสุขภาพ ธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพเป็นธุรกิจที่ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคว่า อาหารของเราทำมาจากวัตถุดิบที่สดใหม่และได้คุณภาพ ปรุงรสและผ่านกรรมวิธีที่ไม่ได้ลดคุณค่าทางอาหารจนเกินไป หากสนใจลงทุนกับธุรกิจด้านนี้แล้ว เจ้าของธุรกิจอย่างเราก็ควรศึกษาหาความรู้เรื่องโภชนาการและคุณค่าทางอาหารต่างๆ ด้วยเช่นกัน เพราะเมื่อเอ่ยถึงอาหารเพื่อสุขภาพแล้ว ผู้บริโภคล้วนมองหาสิ่งดีๆ ที่จะช่วยให้พวกเขามีสุขภาพที่ดีมาจากภายใน  เรื่องของคุณภาพวัตถุดิบที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี กรรมวิธีการปรุงอาหารที่ไม่มากเกินไปจนทำให้เสียคุณค่าทางอาหาร สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งสำคัญที่กลุ่มคนรักสุขภาพมองเป็นหลัก ส่วนใหญ่มักจะมองหาอาหารที่ช่วยควบคุมแคลอรี่และน้ำหนัก แต่ขณะเดียวกันก็ต้องมีรสชาติที่ดี  มีเมนูให้เลือกอย่างหลากหลาย ไม่จำเจหรือน่าเบื่อจนเกินไป จะเป็นเมนูอาหารเช้า ขนมทานเล่น ของหวาน หรือเมนูหลักก็สามารถสร้างสรรค์ให้หลากหลายได้ หลักในการปรุงส่วนใหญ่นั้น  ร้านควรเน้นวัตถุดิบเพื่อสุขภาพ ไม่มีวัตถุดิบพวกหมักดอง หรือ ขัดขาว เช่นน้ำตาลทรายขาว ข้าวขาว อาหารควรไร้ไขมัน มีน้ำมันประกอบอาหารได้ในจำนวนน้อยและใช้น้ำมันพืชที่ดี เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันดอกทานตะวัน และปรุงรสให้กลมกล่อมแบบกลางๆมากกว่าการเน้นรสจัด ที่สำคัญควรต้องครบห้าหมู่ 2.กลุ่มผู้บริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ แม้จะดูเหมือนว่าอาหารเพื่อสุขภาพเป็นธุรกิจที่เจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม แต่แท้จริงแล้วกลุ่มผู้บริโภคอาหารเพื่อสุขภาพกระจายอยู่ในหลายอาชีพและช่วงอายุ ทั้งกลุ่มนักศึกษาที่อยู่หอพักหรือคอนโด ซึ่งไม่ได้มีพื้นที่ในการทำอาหารมากนัก, กลุ่มพนักงานออฟฟิศที่ไม่ได้มีเวลาดูแลตัวเองเท่าที่ควร หรือกลุ่มผู้สูงอายุซึ่งต้องเริ่มใส่ใจกับอาหารการกินมากขึ้น จะเห็นได้ว่ากลุ่มผู้บริโภคไม่ได้เฉพาะเจาะจงแค่กลุ่มคนรักสุขภาพที่เข้าฟิตเนส […]

DBD OMG2

เริ่มแล้ว! พาณิชย์รุกหนักต่อเนื่อง สร้างความแข็งแกร่งเศรษฐกิจ ผนึกกำลังกูรูอีคอมเมิร์ซ เปิดหลักสูตรปั้นร้านค้าออนไลน์ขั้นเทพ รุ่นที่ 2

เริ่มแล้ว! พาณิชย์รุกหนักต่อเนื่อง สร้างความแข็งแกร่งเศรษฐกิจ ผนึกกำลังกูรูอีคอมเมิร์ซ เปิดหลักสูตรปั้นร้านค้าออนไลน์ขั้นเทพ รุ่นที่ 2 (Online Marketing Genius : OMG#2) 21 ก.พ. 2565 อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ท่านทศพล ทังสุบุตร เป็นประธาน พร้อมด้วยพาณิชย์จังหวัด วิทยากร และผู้ประกอบการ เปิดการสัมมนา หลักสูตรปั้นร้านค้าออนไลน์ขั้นเทพ รุ่นที่ 2 (Online Marketing Genius : OMG#2) “อัพสกิลการตลาดออนไลน์ สร้างยอดขายทะลุล้าน” โดยการสัมมนาจะจัดขึ้นในรูปแบบออนไลน์ผ่านระบบ Zoom ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-เดือนเมษายน พ.ศ 2565 พุ่งเป้าไปยังผู้ประกอบการฐานรากหรือผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่มีร้านค้าออนไลน์เข้าร่วมโครงการให้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยแบ่งตามยุทธศาสตร์การค้ากลุ่มจังหวัด 18 กลุ่ม ของกระทรวงพาณิชย์ซึ่งคาดว่าจะมีผู้ประกอบการเข้าร่วมกว่า 3,000 ราย หลักสูตรดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการทั้งแบบธุรกิจดั้งเดิมและรูปแบบออนไลน์ ให้สามารถปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงของโลกดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ เน้นการเสริมสร้างทักษะด้านการตลาดออนไลน์ (Digital Marketing) และการทำแผนธุรกิจออนไลน์ (Online Business Plan) พร้อมฝึกปฏิบัติ […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.