เทคนิคลับ พูดอย่างไรให้ ลูกค้าสั่งอาหารเพิ่ม - Amarin Academy

เทคนิคลับ พูดอย่างไรให้ ลูกค้าสั่งอาหารเพิ่ม

เทคนิคลับพูดอย่างไรให้ ลูกค้าสั่งอาหารเพิ่ม

ทราบหรือไม่ว่านอกจากโปรโมชั่นแล้ว พนักงานเสิร์ฟถือเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยให้ยอดขายภายในร้านอาหารพุ่งกระฉูด โดยพนักงานเสิร์ฟช่วยทั้งในแง่การบริการและการขาย ฉะนั้นอีกหนึ่งทักษะที่เจ้าของร้านควรเทรนด์พนักงานเสิร์ฟ คือการพูดจูงใจให้ ลูกค้าสั่งอาหารเพิ่ม แต่จะมีวิธีใดบ้าง ไปดูกันเลย

1.เสนอเมนูที่ทำกำไรสูงกว่า

แน่นอนว่าอาหารทุกจานในร้านอาหารได้กำไรไม่เท่ากัน มากบ้าง น้อยบ้างคละเคล้ากันไป ฉะนั้นพนักงานเสิร์ฟที่ดี ไม่ใช่แค่ทำหน้าที่รับออร์เดอร์ตามที่ลูกค้าสั่งเท่านั้น แต่จะต้องรู้ว่าเมนูไหนทำกำไรมาก ก็ควรเสนอขายเมนูนั้นให้มากขึ้น เช่น เมื่อลูกค้าจะสั่งอาหารจานหลักที่ราคาสูง แต่ได้กำไรน้อย พนักงานเสิร์ฟอาจเสนอขายเมนูที่ใกล้เคียงกัน แต่ราคาย่อมเยากว่า (และได้กำไรมากกว่า) แทน เทคนิคนี้จะทำให้ลูกค้ารู้สึกประทับใจว่า เราได้เสนอทางเลือกที่คุ้มค่ากว่าให้เขา หรืออีกวิธีหนึ่งที่แฟรนด์ไชน์ใหญ่ๆ มักทำคือ การเสนอให้ลูกค้าอัพไซส์อาหาร จากเดิมที่ไซส์ S ราคา 159 บาท ก็ลองเสนอลูกค้าว่าเพิ่มเป็น M ในราคา 179 บาทที่คุ้มค่ากว่า หรือเสนอให้ลูกค้าเพิ่มเงินอีกเล็กน้อยแต่ได้เฟรนช์ฟรายเพิ่ม วิธีนี้นอกจากทำให้ร้านได้กำไรเพิ่มขึ้นแล้ว ยังทำให้ลูกค้าประทับใจอีกด้วย

2.เสนอขายเมนูอาหารว่าง

ส่วนใหญ่แล้วเมนูอาหารว่างมักเป็นเมนูที่ขายง่ายและทำกำไรให้ร้านอาหารมากกว่าเมนูอื่นๆ (รองจากเมนูเครื่องดื่ม) ฉะนั้นจึงเป็นเมนูที่ควรนำเสนอให้ลูกค้า แทนที่จะเสนอว่า “รับอาหารว่างก่อนไหมครับ/คะ” เพราะส่วนใหญ่จะถูกปฏิเสธ ก็ควรแนะนำเมนูกับลูกค้าโดยตรง เช่น วันนี้ร้านเพิ่งคิดสูตรอาหารว่างเมนูใหม่…(อธิบายความพิเศษของเมนู) ที่จะขายเพียงช่วงนี้เท่านั้นนะคะ สนใจรับเป็นของว่างระหว่างรออาหารรึเปล่า

วิธีนี้จะทำให้ลูกค้ารู้สึกสนใจอาหารของเรามากขึ้น ขณะเดียวกัน หากลูกค้ายังไม่ค่อยสนใจก็ลองเสนอเมนูอื่นๆ หรือเสนอเครื่องดื่มพิเศษแทน แต่หากลูกค้าไม่สนใจเลย ก็ควรหยุดเสนอขายเพิ่มเติม เพราะอาจทำให้ลูกค้ารู้สึกรำคาญมากกว่าประทับใจ  ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของพนักงานเสิร์ฟด้วยว่า ควรเสนอขายเมนูต่อลูกค้าโต๊ะใดและมากน้อยแค่ไหนด้วย

3.เสนอจานหลักกินคู่กับเมนูอื่นๆ

เมื่อลูกค้าเข้ามาในร้าน เขาต้องสั่งอาหารจานหลักแน่นอน และหากเขาสั่งจานหลักได้แล้ว พนักงานเสิร์ฟควรเสนอเมนูอื่นๆ ที่เข้ากับจานหลักที่เขาสั่ง เช่น หากร้านอาหารของคุณจำหน่ายสเต็ก ก็ควรแนะนำเขาว่า วันนี้มีซุปหัวหอมกับสลัดผักออร์แกนิคสดๆ จากแปลงผักหลังร้าน สนใจรับเมนูไหนมารับประทานคู่กับสเต็กไหมครับ เพียงเท่านี้ก็จะทำให้การเสนอขายของเราดูราบรื่นกว่าการถามว่า รับอย่างอื่นเพิ่มเติมไหม (ที่ลูกค้าส่วนใหญ่มักตอบว่า “ไม่”) แล้วล่ะ

4.เสนอของหวานปิดท้ายมื้ออาหารอย่างสมบูรณ์แบบ

การเสนอขายสิ่งสุดท้ายที่พนักงานเสิร์ฟทำได้ คือการเสนอเมนูของหวาน โดยพนักงานเสิร์ฟต้องคอยสังเกตว่าลูกค้ารับประทานอาหารจานหลักเสร็จหรือยัง หากรับประทานเสร็จแล้ว เราควรเสนอเมนูของหวานก่อนเขาจะเรียกเก็บเงิน โดยอาจเข้าไปสอบถามข้อมูลในเบื้องต้นว่าพึงพอใจในรสชาติอาหารมากน้อยแค่ไหน พร้อมปิดท้ายด้วยการนำเสนอเมนูของหวานให้ลูกค้า เช่น หากเป็นลูกค้าในกลุ่มครอบครัว ควรนำเสนอว่า “วันนี้เชฟเราของหวานทำเมนูพิเศษต้อนรับวันแม่ ด้วยเมนูลูกตาลลอยแก้ว ในน้ำลอยดอกมะลิ ให้คุณลูกมอบให้คุณแม่ สนใจรับไหมคะ” วิธีนี้จะช่วยสร้างความรู้สึกร่วมให้ลูกค้า อยากสั่งมามอบให้คุณแม่ หรือถ้าเป็นลูกค้ากลุ่มเพื่อน ก็อาจเสนอเมนูที่รับประทานร่วมกันได้หลายๆ คน เช่น วาฟเฟิล ฮันนี่โทส เป็นต้น เพียงเท่านี้ร้านอาหารของเราก็จะเพิ่มยอดขายได้อีก 100-300 บาทต่อโต๊ะแล้ว

การพูดให้ลูกค้าสั่งอาหารเพิ่มขึ้นไม่ใช่เรื่องยาก เพียงทราบเทคนิคและใส่ใจในรายละเอียดให้มาก ก็สามารถเพิ่มยอดขายในร้านได้ โดยไม่จำเป็นต้องทำ โปรโมชั่น ลดราคาเลย แถมยังสร้างความประทับใจให้ลูกค้าอีกต่างหาก ถ้าลองให้แล้วดีอย่าลืมบอกต่อกันนะครับ

 


 

                       การทำร้านอาหาร ยังมีอีกหลายเรื่องราว หลายขั้นตอนที่เจ้าของร้านควรรู้ ดังนั้น ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง กับงานใหญ่ส่งท้ายปี  Amarin Academy 3rd Anniversary : Food Trend Connect  งานครบรอบ 3 ปีของ Amarin Academy กับการรวมตัวของเหล่าผู้ประกอบการร้านอาหารกว่า 150 ร้าน พร้อมโอกาสการสร้าง Connection กับร้านชื่อดังต่างๆมากมาย อีกทั้งยังรวบรวมผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายแขนงที่จะมาอัพเดทเทรนด์ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็น วิเคราะห์พฤติกรรมการบริโภคของลูกค้า / งานดีไซน์ร้านสุดเจ๋ง / กลยุทธ์เรียกลูกค้าเข้าร้านสไตส์ Influencer ชื่อดัง ปิดท้ายด้วยปาร์ตี้สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ร่วมพูดคุยกับเหล่ากูรูและเจ้าของร้านผู้มากประสบการณ์ในบรรยากาศเป็นกันเอง ซึ่งงานจะจัดขึ้นในวันอังคารที่ 17 ธันวาคม 2562

 

สมัครเข้าร่วมงาน Amarin Academy 3rd Anniversary : Food Trend Connect  คลิก!!

Amarin Academy

เรื่องแนะนำ

สร้างแบรนด์

How to ให้ลูกค้าเต็มใจจ่ายแม้ราคาสูง! ตอบโจทย์ด้วย การสร้างแบรนด์

เคยสงสัยไหมว่า ร้านอาหารที่ขายเมนูเหมือนๆกัน ใช้วัตถุดิบคุณภาพเดียวกัน รสชาติก็ยังอร่อยเหมือนกันอีก แต่ทำไมบางร้านที่ขายอาหารในราคาสูง กลับมีลูกค้าที่พอใจมาใช้บริการแทนที่จะไปร้านที่ราคาถูกกว่า สิ่งที่สามารถยกระดับร้านอาหารขึ้นมาและเพิ่มมูลค่าได้ นั้นคือ “การสร้างแบรนด์” How to ให้ลูกค้าเต็มใจจ่ายแม้ราคาสูง! ตอบโจทย์ด้วย การสร้างแบรนด์ มีประโยคหนึ่งที่มีคนกล่าวไว้ “ของแพงไม่มีอยู่จริง มีแต่ของที่คุ้ม กับไม่คุ้ม” แน่นอนว่าราคามีผลต่อการตัดสินใจซื้อ แต่มากกว่านั้นคือลูกค้ายอมจ่ายเพิ่มขึ้นสำหรับสิ่งที่ให้ความพึงพอใจได้มากกว่า เรียกได้ว่าถ้าโดนใจแล้ว ราคาเท่าไหร่ก็คุ้มค่า เหมือนการซื้อกาแฟจากร้านแบรนด์ดัง ลูกค้าจะรู้สึกถูกยกระดับขึ้นทันที เมื่อได้ถือไปที่ต่างๆ หรือแม้แต่ถ่ายรูปอวดเพื่อน นั่นคือความสำคัญของแบรนด์ต่อธุรกิจอาหาร   การสร้างแบรนด์ คืออะไร ? Branding หรือกระบวนการสร้างแบรนด์ เป็นการออกแบบภาพลักษณ์และความเป็นตัวตนของร้านอาหาร ผ่านการออกแบบโลโก้ สื่อโฆษณา คอนเทนต์ในสื่อออนไลน์ต่างๆ แม้แต่คอมเมนต์ในที่โต้ตอบกับลูกค้าในโซเชียลมีเดีย ก็ถือเป็นการสร้างแบรนด์ทั้งสิ้น  โดยการสร้างแบรนด์นี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อสื่อสารให้แก่ลูกค้าว่า ร้านอาหารของเราขายอะไร มีจุดเด่นเอกลักษณ์อะไรบ้าง สร้างความแตกต่างให้ร้านโดดเด่นออกมาจากร้านอื่น ๆ เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้บริโภค และนำไปสู่ความสนใจใช้บริการร้านอาหาร อาหารอร่อยอยู่แล้ว ทำไมสร้างแบรนด์อีก ? สมัยนี้ ความอร่อยอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ เพราะร้านอาหารที่อร่อยนั้นหาได้ง่าย ความอร่อยกลายเป็นพื้นฐานที่ร้านอาหารควรมี แต่สิ่งที่จะทำให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกร้านคุณนั้นก็คือ “ความรู้สึก” […]

ยอดขายร้านอาหาร

จิตวิทยาการตลาด เพิ่ม ยอดขายร้านอาหาร ด้วย “เทคนิค FOMO”

        ในยุคที่ร้านอาหารถูกบังคับให้ต้องพึ่งพาระบบเดลิเวอรี การตลาดออนไลน์จึงยิ่งมีการแข่งขันสูงขึ้น โดยมีเป้าหมายให้ลูกค้าซื้ออาหารจากร้านของตัวเอง ซึ่งหนึ่งในวิธีที่จะช่วยดึงดูดลูกค้าได้ คือการสร้างโฆษณาที่น่าสนใจ แต่จะทำอย่างไรให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น ลองมาศึกษาหลักจิตวิทยาการตลาด ที่จะช่วยเพิ่ม ยอดขายร้านอาหาร ของคุณด้วยเทคนิค FOMO ครับ หลักจิตวิทยาการตลาด: เทคนิค FOMO  ช่วยเพิ่ม ยอดขายร้านอาหาร         FOMO เป็นคำย่อมาจาก Fear Of Missing Out ซึ่งเป็นกลยุทธ์การตลาดจากทำให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกว่า “ไม่อยากพลาดโอกาส” เช่น กลัวจะไม่ได้รับสิทธิพิเศษที่มีจำกัด ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น เป็นการเลือกจากความรู้สึกในตอนนั้นมากกว่าการใช้เหตุผล และทำให้เกิดความพอใจที่ซื้อได้ทันเวลา รู้สึกคุ้มค่า เหมือนเวลาที่เผลอซื้อสินค้าช่วง Flash Sales แม้จะไม่จำเป็นนั่นแหละ หรือแม้แต่การกด Like เพจที่รวมโปรโมชันอาหารต่างๆ ในเฟสบุ๊ก เพราะไม่มีใครอยากพลาดโอกาสกันหรอกครับ          จะเห็นว่าหลักจิตวิทยาแบบนี้พบได้จริงในชีวิตประจำวัน และเกิดขึ้นได้ในทุกเพศทุกวัย  รวมถึงช่องทางออนไลน์ก็สามารถเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ได้ โดยที่มีค่าใช้จ่ายไม่สูงมากนัก ผู้ประกอบการร้านอาหารในยุคนี้ […]

ปรับร้านอาหาร

ปรับร้านอาหาร รับตรุษจีน เรียกลูกค้าเข้าร้าน

ตรุษจีน เทศกาลวันขึ้นปีใหม่ของชาวไทยเชื้อสายจีน เราจะ ปรับร้านอาหาร เพื่อดึงลูกค้า โกยกำไรรับเทศกาลนี้ได้อย่างไรบ้าง ไปดูกัน

การตลาดร้านอาหาร

ถอดบทเรียน การตลาดร้านอาหาร จากเทศกาลกินเจ

แม้ว่าเทศกาลกินเจในปีนี้จะจบลง แต่ช่วงระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน ทำให้เงินสะพัดหลักพันล้านบาท เราถอดบทเรียน การตลาดร้านอาหาร ที่น่าสนใจ ได้ดังนี้

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2023 AMARIN PRINTING AND PUBLISHING PUBLIC COMPANY LIMITED.