แชร์ 10 เทคนิค ออกแบบเมนู อย่างไรให้ปัง - Amarin Academy

แชร์ 10 เทคนิค ออกแบบเมนู อย่างไรให้ปัง

เคยไหม ร้านอาหารบางร้านออกแบบร้านสวยงาม อาหารอร่อย บริการก็ดี แต่การออกแบบเมนูกลับไม่ดึงดูด เพราะบางคนมองว่าเป็นแค่เรื่องเล็กไม่จำเป็น บางร้านไม่ให้ความสำคัญถึงขั้นปล่อยให้เล่มเมนูขาดบ้าง หลุดบ้าง แต่ความจริงแล้วการ ออกแบบเมนู ให้ดูน่าสนใจก็สำคัญไม่แพ้ส่วนอื่นๆ และก็เป็นจิตวิทยาอย่างนึงที่ช่วยให้ลูกค้าสั่งอาหารตามที่เรากำหนดได้ด้วย 

 

เทคนิค ออกแบบเมนู อย่างไรให้ปัง

การออกแบบเมนู เป็นจิตวิทยาช่วยดึงดูดลูกค้าได้อย่างไร เคยสำรวจตัวเองเวลาไปทานอาหารที่ร้านหรือไม่ บางครั้งเราใช้เวลาไม่นาน ในการตัดสินใจเลือกเมนู แต่บางครั้งก็ดูแล้วดูอีกก็ยังเลือกไม่ได้ นั่นแหละครับ การออกแบบเมนู ส่งผลต่อการตัดสินใจด้วยเช่นกัน ถ้าเจ้าของร้าน ออกแบบเมนูดี สะดุดตาก็จะช่วยดึงดูด ให้ลูกค้าสั่งอาหารได้เร็วขึ้น มากขึ้น และบางครั้งยังชักจูงให้ลูกค้าสั่งอาหารจานที่เรากำหนดได้ด้วย โดยใช้หลักการหลายอย่างประกอบ เช่น การใช้สี การจัดวางองค์ประกอบ การใช้คำ เป็นต้น ลองทำตามเทคนิคเหล่านี้กันเลยครับ

 

  1. สีสื่อความหมายต่อผู้บริโภค

ทฤษฎีสี เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการร้านอาหารควรศึกษาไว้ เพราะสีส่งอิทธิพลต่อการรับรู้ของมนุษย์ได้มากกว่าที่คิด เช่น สีเขียว สื่อความหมายถึงความสดชื่น จึงควรใช้ประกอบเมนูที่โดดเด่นด้านความสด สะอาด / สีส้ม ช่วยกระตุ้นความอยากอาหาร สีเหลือง สื่อความหมายถึงความสุข จึงดึงดูดสายตาของลูกค้าได้ดี สีแดง กระตุ้นให้เกิดการซื้อ ฉะนั้นจึงควรใช้กับเมนูที่เราอยากขายมากที่สุด เป็นต้น

  1. ทฤษฎีสามเหลี่ยมทองคำ

ทฤษฎีนี้ เกี่ยวกับการจัดองค์ประกอบที่มีชื่อว่า Golden Triangle โดยปกติแล้วเวลาเรามองเมนูอาหาร สายตาจะตรงไปที่บริเวณกึ่งกลางก่อน จากนั้นจึงค่อยๆ เลื่อนสายตาไปด้านขวาบน และสุดท้ายจะหยุดที่ด้านซ้ายบน เกิดเป็นสามเหลี่ยมกลับหัว ฉะนั้น คุณควรใส่เมนูที่โดดเด่น และต้องการให้ลูกค้าสั่งมากที่สุด บริเวณ 3 จุดนี้ รับรองว่าได้ผลแน่นอน

  1. ใช้คำให้ดูน่าตื่นตาตื่นใจ

การใช้คำอธิบายเมนู เช่น “จานเด็ด” “Recommend dish” “ไก่กรอบหมักซอสซุปเปอร์” “หมูสะท้านโลก” ซึ่งคำอธิบายเหล่านี้ช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าสนใจและอยากสั่งอาหารได้มากเลยทีเดียว ว่าเมนูนี้มีหน้าตาอย่างไร ส่วนผสมอะไรบ้าง ดังนั้น ลองคิดคำเด็ดๆ แล้วใส่ลงไปในเมนูที่คุณอยากขาย แต่อย่าใส่มากเกินไป เพราะลูกค้าอาจจะสับสนได้ เลือกมาเฉพาะเมนูเด็ดๆ ก็พอแล้ว

  1. เลือก 2 เมนูเด็ด ไว้บนสุดของเมนู

ใครเคยเป็นบ้าง ดูเมนูมาตั้งนาน สุดท้ายย้อนกลับไปสั่ง 2 จานแรกที่อยู่บนสุดของเมนู นี่ถือเป็นพฤติกรรมส่วนใหญ่ของผู้บริโภคก็ว่าได้ ส่วนตำแหน่งที่ 3 ที่คนนิยมสั่งรองลงมาคือ บริเวณท้ายสุดของเมนู ฉะนั้นหากจานไหนเด็ดจริง (และมีกำไร) วาง 3 จานนั้นไว้ทั้ง 3 จุด ได้เลย

  1. ตั้งราคาให้ดึงดูด

เทคนิคการตั้งราคา ที่คุ้นเคยและเห็นได้บ่อยๆ ก็คือ เทคนิคการตั้งราคา 199 หรือ 259 หรือ 299 แทบทุกร้านนิยมใช้เทคนิคนี้ เพราะทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าราคาไม่แพงจนเกินไป (แม้จะเพิ่มอีกแค่ 1 บาทก็ตาม) ฉะนั้น

 

  1. เมนูไม่จำเป็นต้องเยอะ

บางร้านมีเมนูให้เลือกเป็นร้อยๆ ซึ่งดูเหมือนจะดีมีทางเลือกเยอะ แต่ความจริงแล้วเมนูยิ่งเยอะ ลูกค้ายิ่งเลือกยาก และยิ่งเป็นการเพิ่มต้นทุนร้านอีกด้วย ซึ่งตัวเลขที่เหมาะสม ไม่มากหรือน้อยเกินไปคือ ชนิดละ 7 เมนู (อาจแบ่งหมวดเป็นจานผัด จานทอด ของหวาน ฯลฯ)

  1. ต้องมีเรื่องราว

ใครจะรู้ว่าประวัติของอาหาร มีอิทธิพลต่อผู้ซื้อไม่แพ้รสชาติ และราคา เพราะมันทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าอาหารที่เขาซื้อมีคุณค่ามากยิ่งขึ้น ยิ่งเรื่องราวลึกซึ้งกินใจมากเท่าไร คนก็ยิ่ง “อิน” มากเท่านั้น ลองยกตัวอย่างง่ายๆ ถ้ามีร้านพายแอปเปิ้ล 2 ร้านตั้งอยู่ใกล้กัน ร้านหนึ่งใช้ชื่อเมนูว่า พายแอปเปิล อีกร้านใช้ชื่อว่า พายแอปเปิลของคุณยาย คุณว่าลูกค้ามีแนวโน้มจะเลือกเดินเข้าร้านไหนมากกว่ากัน

  1. ให้ข้อมูลลูกค้าให้มากขึ้น

ข้อนี้เป็นเทคนิคสำหรับร้านอาหารที่ต้องการจำหน่ายไวน์ ซึ่งมีการแข่งขันค่อนข้างสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดกลุ่ม Hi-end ฉะนั้นเทคนิคสำคัญในการจูงใจลูกค้าให้เลือกไวน์ที่เราต้องการจำหน่ายคือ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับไวน์ขวดนั้นๆ ให้มากที่สุด เพราะยิ่งเราให้ข้อมูลมากเท่าไร ลูกค้าก็มีแนวโน้มเลือกไวน์ขวดที่เราเสนอมากเท่านั้น

  1. วางเมนูเด็ดไว้บริเวณพื้นที่โล่งๆ

ตามธรรมชาติของคน เมื่อใช้สายตาอ่านมากไป มักหันไปพักสายตากับพื้นที่ว่างๆ ดูสบายตา นักออกแบบเมนูจึงใช้หลักการนี้เป็นข้อได้เปรียบ หากเจ้าของร้านอาหารต้องการจำหน่ายอาหารจานไหนเป็นพิเศษ มักจะจัดวางเมนูนั้นไว้ที่พื้นที่ที่ค่อนข้างโล่ง แยกออกจากส่วนที่เป็นตัวอักษร เพราะเป็นส่วนที่มั่นใจได้ว่าลูกค้าจะต้องหันมาพักสายตาและเห็นเมนูนี้แน่นอน

  1. วัสดุที่ทำเมนูส่งผลต่อภาพลักษณ์ของร้าน

เคยสังเกตไหมว่า ร้านอาหารระดับ Hi-end ส่วนใหญ่ มักใช้แผ่นหนังหรือกระดาษแข็งคุณภาพสูงในการจัดทำเมนู เพราะวัสดุเหล่านี้สะท้อนภาพลักษณ์ของร้านอาหารได้เช่นกัน ทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่า อาหารทุกจานต้องมีคุณภาพสูงตามวัสดุที่ใช้ทำเมนูไปด้วย

 

เห็นไหมครับ ว่าการออกแบบเมนูอาหารให้ดี มีอิทธิพลต่อการสั่งอาหารของลูกค้ามากเพียงใด เมื่อทราบแบบนี้แล้ว เจ้าของร้านอาหารท่านไหนกำลังจะออกแบบเมนูใหม่หรืออยากจะปรับปรุงเมนูเดิม อย่าลืมนำเทคนิค ออกแบบเมนู เหล่านี้ไปใช้นะครับ

ขอบคุณ http://aaronallen.com

 

อ่านต่อบทความที่น่าสนใจ

5 เทรนด์ธุรกิจอาหาร ในประเทศไทย ปี 2020 ที่ยังโตได้

สรุปประเด็นความรู้สำคัญ จากงาน Food Trend Connect 2019 โดย Amarin Academy

6 เทคนิค แต่งร้านรับลมหนาว ดึงดูดลูกค้าเข้าร้าน

รวมเรื่องเข้าใจผิด! เกี่ยวกับการเปิดร้านในศูนย์การค้า

“อาหารเพื่อสุขภาพ” เทรนด์มาแรงสายคลีน โอกาสทองของคนอยากมีธุรกิจ

เรื่องแนะนำ

airbnb

Airbnb ธุรกิจห้องพัก ที่ไม่มีห้องพักของตัวเองสักห้อง!

Airbnb สามารถสร้างเครือข่ายห้องพักได้มากกว่า 3 ล้านแห่ง และทำรายได้ปีละ 2,800 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ! ทั้งๆ ที่ไม่ได้ลงทุนก่อสร้างห้องพักเองสักห้อง!

เปิดร้านของตัวเอง

เปิดร้านของตัวเอง VS ซื้อแฟรนไชส์ แบบไหนดีกว่ากัน?

เชื่อว่าหลายคน มีความคิดว่าอยากจะมีธุรกิจเป็นของตัวเองสักครั้ง แต่การจะเริ่มต้นทำธุรกิจนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยค่ะ โดยเฉพาะมือใหม่ที่อยากเริ่มมีธุรกิจของตัวเอง ที่ต้องคิดทั้งเรื่องสินค้า การตลาด บัญชี การเงิน เยอะแยะไปหมด และมักจะมีคำถามว่าจะลงทุน เปิดร้านของตัวเอง หรือซื้อแฟรนไชส์ จะเลือกแบบไหนดี? มาดูกันว่าข้อดี ข้อเสียของทั้งสองแบบว่าเป็นอย่างไร แล้วค่อยมาตัดสินใจให้เหมาะกับธุรกิจของคุณเองกันค่ะ   เปิดร้านของตัวเอง VS ซื้อแฟรนไชส์ เลือกแบบไหนดี? ข้อดีของการเปิดร้านของตัวเอง มีอิสระในการบริหารจัดการ การตัดสินใจและกำหนดทิศทางธุรกิจของเราเองได้อย่างเต็มที่ สามารถทำตามไอเดียของตัวเอง สร้างแบรนด์ที่เป็นตัวตนของเราเองได้ ถ้าเป็นธุรกิจอาหารก็สามารถที่จะเพิ่ม หรือดัดแปลงสูตรเมนูของร้านได้ อีกทั้งยังมีความยืดหยุ่นสูง ในการปรับเปลี่ยนพัฒนาธุรกิจ การสร้างแบรนด์เองอาจจะเหมาะกับคนรุ่นใหม่ หรือคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ อยากทำอะไรใหม่ๆ แบบที่ไม่ต้องตามแบบใครค่ะ การเปิดร้านเอง อาจไม่ต้องลงทุนสูงมาก เพราะบางคนก็มีทุนน้อย หรือมีจำกัด แต่อยากที่จะทำธุรกิจ ก็สามารถทำได้ไม่จำเป็นต้องเปิดร้านใหญ่จนเกินตัว ค่อยๆเริ่มต้นจากธุรกิจเล็กๆ แล้วต่อยอดไปเรื่อยๆ จนสามารถขยายกิจการ สร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักได้ในอนาคต เรื่องส่วนแบ่งกำไร หากคุณเปิดร้านเอง แน่นอนว่า คุณไม่จำเป็นต้องแบ่งกำไร คุณสามารถบริหารกำไรของคุณทั้งหมดได้เอง อย่างที่บอกว่าใครก็อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง แล้วหากคุณทำได้ ข้อดีนี้ก็คือ ความภาคภูมิใจที่คุณทำ และมีความสุขที่ได้เริ่มต้นทำสิ่งใหม่ๆ และถ้ายิ่งพัฒนาไปจนแบรนด์ประสบความสำเร็จ […]

ร้านอาหารใต้น้ำ

Under ร้านอาหารใต้น้ำ สถาปัตยกรรมที่เป็นมากกว่าอาคาร

Under ร้านอาหารใต้น้ำ ณ จุดใต้สุดของชายฝั่งนอร์เวย์ร้านที่มีไอเดียการสร้างสรรค์ตัวร้านไม่เหมือนใคร ด้วยการผสมผสานสถานที่สังเกตการณ์และร้านอาหารไว้ด้วยกัน

Digital Delicious

Digital Delicious เทรนด์ใหม่รูปแบบนำเสนออาหารสุดล้ำ เปิดประสบการณ์ผู้บริโภค

ในยุคนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามามีบทบาทกับทุกๆสิ่ง ไม่เว้นแม้แต่แวดวงอาหาร ซึ่งปัจจุบันการเลือกรับประทานอาหารของผู้บริโภคไม่ได้หยุดเพียงแค่ รสชาติอร่อย หน้าตาอาหารสวยงาม หรือแม้แต่การบริการที่ดีเท่านั้น แต่สิ่งที่จะดึงดูดผู้บริโภคในยุคนี้ได้ก็คือ ประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นและแปลกใหม่ในการรับประทานอาหารนั่นเอง เพื่อให้เกิดการจดจำ สร้างความประทับใจ และเป็นที่พูดถึง เรากำลังพูดถึง Digital Delicious ที่นำอาหารและดิจิทัลอาร์ต มารวมไว้ด้วยกัน กับรูปแบบการนำเสนอสุดล้ำที่ชวนว๊าว   เปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้บริโภคด้วย Digital Delicious  ปัจจุบันนี้แวดวงอาหารบ้านเรา ก็มีวิวัฒนาการที่น่าสนใจมากขึ้นทุกวัน อย่างเช่นล่าสุดที่บอกไปว่ามีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาในการพรีเซ้นท์อาหาร เพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้บริโภค นั่นก็คือโปรเจคDigital Delicious ที่ริเริ่มโดยบริษัท Doozy Digilab ผู้นําด้านการสร้างสรรค์ประสบการณ์ดิจิทัลรูปแบบใหม่ ได้นำอาหารและดิจิทัลอาร์ตมารวมไว้ด้วยกัน ในรูปแบบของอาหาร Fine Dining โดยเชฟชื่อดัง เช่น เชฟเอริก ไวด์มันน์ ผู้คว้าตำแหน่งเชฟกระทะเหล็ก Iron Chef Thailand จาก Oriental Residence Bangkok, เชฟแพม-พิชญา อุทารธรรม, เชฟแต-จันทร์ชนก สุนทรญาณกิจ ศิลปินเชฟขนมอบชื่อดัง และเค-อานนท์ ฮุนตระกูล […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.