สร้างเสน่ห์ร้านอาหาร ให้ลูกค้าไหลมาเทมา - Amarin Academy

สร้างเสน่ห์ร้านอาหาร ให้ลูกค้าไหลมาเทมา

ร้านอาหารบางร้าน ตั้งอยู่ในทำเลที่ไม่สะดวกต่อการเดินทางไปที่ร้าน แต่ก็ยังมีลูกค้าพยายามไปตามหาเพื่อไปกินให้ได้ หรือมีลูกค้าไปนั่งรอกินเป็นวันๆได้ นั่นเป็นเพราะร้านอาหารเหล่านี้มีเสน่ห์ดึงดูด ที่สามารถเรียกความสนใจลูกค้าได้มากพอ ซึ่งร้านของคุณก็สามารถทำได้เช่นกัน มาดูกันว่าจะมีวิธีใดบ้างที่จะช่วย สร้างเสน่ห์ร้านอาหาร ของคุณให้มีลูกค้าหลั่งไหลเข้ามา

 

สร้างเสน่ห์ร้านอาหาร ให้ลูกค้าไหลมาเทมา

‘จุดเด่น’ ที่มีแค่คุณเท่านั้นที่ให้ลูกค้าได้

            เมนูซิกเนเจอร์ ไม่ใช่เมนูอะไรก็ได้ที่ร้านของคุณทำอร่อย แต่ต้องเป็นเมนูที่โดดเด่นพอที่ลูกค้าจะต้องสั่งทุกโต๊ะ หรือดั้นด้นมากิน เพราะฉะนั้นถ้าคุณขายแซลมอน แล้วเมนูซิกเนเจอร์เป็นแซลมอนคุณภาพดี อาจจะทำให้ร้านของคุณไม่ได้แตกต่างเมื่อเทียบกับร้านอาหารญี่ปุ่นเหมือนกัน

วิธีสร้างจุดเด่นก็คือ สร้างเสน่ห์ให้กับเมนูนั้น ไม่ว่าจะเป็นการคิดค้นเมนูที่แปลกใหม่ รูปแบบการจัดจาน รูปแบบการเสิร์ฟ ชื่อของเมนู รวมถึงเรื่องราวที่คุณเล่าเกี่ยวกับเมนูนั้น ๆ เช่น กรณีแซลมอนที่เคยเสิร์ฟวางเป็นชิ้น ๆ อาจจัดวางเป็นทรงสูง ตกแต่งด้วยอุปกรณ์เพิ่มเติมเป็นภูเขาไฟ เสิร์ฟมาพร้อมกับควันของภูเขาไฟ แล้วตั้งชื่อว่า ฟูจิซังแซลมอน เป็นต้น

ข้อคำนึงอีกประการก็คือ โดยปกติลูกค้าโดยทั่วไปจะมีค่ามาตรฐานในใจอยู่แล้ว เช่น ถ้าพูดถึงเป็ด คนจะนึกถึงเป็ดย่าง MK เพราะฉะนั้นถ้าร้านอาหารของคุณมีซิกเนเจอร์เป็นเป็ด ก็ควรจะต้องมีมาตรฐานไม่ต่ำกว่า หรือดีกว่าไปเลย หากไม่สามารถทำได้ก็ใช้เทคนิคในการสร้างความโดดเด่นอย่างที่กล่าวมาแล้ว

อีกตัวอย่างที่น่าสนใจ  คือ ร้าน After You ที่ตั้งใจให้ขนมเค้กเป็นเมนูซิกเนเจอร์ แต่เมนูติดตลาดของทางร้านกลับกลายเป็นเมนูโทสต์ ทางร้านจึงหันมาพัฒนาและต่อยอดให้เมนูโทสต์มีความอร่อย และหลากหลาย ทำให้เมื่อลูกค้าอยากกินโทสต์อร่อย ๆ ก็จะนึกถึงและมากินที่ After You เพราะฉะนั้นบางครั้งเมนูซิกเนเจอร์อาจเกิดจากการนำสิ่งที่ลูกค้าชื่นชอบจริง ๆ และนำมาพัฒนาต่อยอดก็ได้เช่นกัน 

 สร้างเสน่ห์ร้านอาหาร

ทำตัวให้ลูกค้า Needs ที่สุด

ความสะดวกเป็นสิ่งสำคัญที่ลูกค้าเลือกเป็นอันดับแรกก็จริง แต่บางครั้งการเล่นกับความไม่สะดวกก็ทำให้เกิดความต้องการได้เหมือนกัน เช่น การขายเมนูพิเศษมาก ๆ ในจำนวนหรือช่วงเวลาที่จำกัด  สิ่งสำคัญคือ ต้องคำนึงถึงกลุ่มเป้าหมายหลักของคุณด้วยว่าสอดคล้องหรือไม่

ตัวอย่างเช่น เมนูมาม่าเจ๊โอว นอกจากการทำเมนูธรรมดาให้พิเศษขึ้นมาแล้ว การจำกัดการขายแค่ช่วงเวลาดึก ยังสอดคล้องกับพฤติกรรมกลุ่มเป้าหมายที่มีแนวโน้มที่จะชอบลองสิ่งใหม่  ๆ และสามารถใช้เวลาแลกกับประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งแตกต่างจากกลุ่มเป้าหมายที่เป็นครอบครัว การสร้างความต้องการ เป็นสิ่งที่สามารถแก้ปัญหาให้แก่พวกเขา เช่น การเพิ่มเมนูและบริการสำหรับเด็ก เมนูเซตที่เหมาะสำหรับความต้องการที่หลากหลายของแต่ละคนในครอบครัว เป็นต้น

 

สร้างร้านให้กลายเป็นแลนด์มาร์ค ทำให้ลูกค้าอยากแชร์

จงทำร้านของคุณให้เหมือนเป็นแลนด์มาร์คที่ทุกคนต้องมาถ่ายรูปด้วยสักครั้ง นั่นก็คือการสร้างคุณค่าขึ้นในใจลูกค้าพอที่จะโชว์คนอื่น อยากถ่ายรูป อยากแชร์ อยากอวด อยากกิน ซึ่งคุณสามารถสร้างได้จากรูปร่างหน้าตาของอาหารที่สวย แปลกตา การบริการที่ดี วิธีในการเสิร์ฟที่แตกต่าง หรือการตกแต่งบรรยากาศร้านที่ทำให้ลูกค้าต้องหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาถ่ายภาพเพื่อแบ่งปันประสบการณ์นี้ออกไปในโลกโซเชียล

ตัวอย่างเช่น ร้านทองย้อย คาเฟ่ ร้านขนมไทยที่มีเอกลักษณ์ โดดเด่นมากๆ ทั้งในเรื่องของขนมไทยที่รสชาติอร่อย เสิร์ฟมาในภาชนะทองเหลืองสวยงาม ดูมีความเป็นไทยโบราณ ที่ใครเห็นก็ต้องถ่ายรูปแชร์ก่อนทานแน่นอน รวมถึงบรรยากาศในร้านยังตกแต่งเป็นสวนดอกไม้สีสันสดใส ใครไม่ถ่ายรูปเช็คอิน ถือว่ามาไม่ถึงเลยทีเดียวสร้างเสน่ห์ร้านอาหาร

 

คุ้มค่าพอที่จะจ่ายมากขึ้น

การคิด Sale Mix ให้น่าสนใจ เร้าความต้องการให้ลูกค้าไม่รู้สึกตัวว่า กำลังจ่ายมากขึ้น แต่เมื่อจ่ายแล้วก็รู้สึกว่าคุ้มค่าทางความรู้สึก เช่น การจัดเมนูเพิ่มจากเมนูปกติ เช่น ร้านราเมง  มีการเพิ่ม Topping  เป็นไข่ระเบิด หรือเปลี่ยนจากเนื้อปกติเป็นเนื้อพรีเมี่ยม ออกแบบเมนูเซตที่จะสร้างจินตนาการในหัวของลูกค้าได้ว่า เมื่อจ่ายเพิ่มขึ้นมาอีกนิดจะได้รับในสิ่งที่ดีขึ้นไปอีกเรื่อย ๆ  อย่างไรก็ตาม ธรรมชาติลูกค้ามักจะคาดหวังสูงเมื่อต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้น จึงควรคำนึงเรื่องการออกแบบเมนู รวมถึงรักษามาตรฐานสินค้าของตัวเองให้ลูกค้าพึงพอใจมากที่สุดด้วย

ตัวอย่างที่น่าสนใจ เช่น ร้านก๋วยเตี๋ยววัวนู้ด เปลี่ยนจากเมนูก๋วยเตี๋ยวเนื้อธรรมดา แต่สามารถขายความพิเศษให้มากขึ้น ด้วยการใช้เนื้อพรีเมี่ยมขึ้น รวมถึงสร้างความหลากหลายให้ลูกค้ามีตัวเลือกที่เพิ่มมากขึ้น

 

จีบติดแล้ว ทำให้มาหาบ่อย ๆ

การเพิ่มสีสันให้กับร้านของคุณ จะช่วยดึงโมเมนตั้มให้ลูกค้ารู้สึกต้องติดตามร้านของคุณไว้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการออกเมนูใหม่ ๆ อยู่เสมอ การจัดแคมเปญ การสร้างคอนเทนต์ การจัดกิจกรรมการตลาดทั้งช่องทางออฟไลน์ และออนไลน์อย่างต่อเนื่อง เหนือสิ่งอื่นใด สำคัญที่สุด คือต้องรักษามาตรฐานของสินค้าและบริการร้านของคุณไว้ให้ได้

สร้างเสน่ห์ร้านอาหาร

นอกจากนั้นหากมีงบประมาณเพียงพอ ควรใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยสร้างระบบ CRM เป็นเครื่องมือในการเปลี่ยนลูกค้าขาจร ให้เป็นลูกค้าประจำ และสามารถเข้าถึงพฤติกรรมของลูกค้าเพื่อออกแบบเมนูและโปรโมชั่นที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้มากที่สุด สามารถส่งข้อมูล เพื่อย้ำเตือนลูกค้าให้เกิดความต้องการมากินอย่างต่อเนื่อง

ตัวอย่างที่น่าสนใจ เช่น ร้านอาหารญี่ปุ่น Maguro  เป็นร้านอาหารที่ได้รับการยอมรับว่าจัดหน้าตาเมนูสวยที่สุดเจ้าหนึ่งในเมืองไทย ทางร้านให้ความสำคัญกับการรักษามาตรฐานและพัฒนาหน้าตาเมนูอยู่ตลอด และยังออกแบบให้การจัดการหน้าร้านมีการสื่อสารระหว่างทีมงานและเจ้าของได้โดยตรง  ถ้าหากมีลูกค้าตำหนิก็สามารถแจ้งทีมเพื่อแก้ไขได้ทันท่วงที รวมถึงยังเป็นแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับการสร้างคอนเทนต์มาร์เก็ตติ้งได้อย่างน่าสนใจอีกด้วย

 

รู้แบบนี้แล้ว แต่ละร้านก็อย่าลืมที่จะนำเทคนิคเหล่านี้ไปใช้ตามความเหมาะสมของร้าน เพื่อเป็นการ สร้างเสน่ห์ร้านอาหาร ของคุณ รับรองว่าลูกค้าไม่หนีไปไหนแน่นอน

 

อ่านต่อบทความที่น่าสนใจ

How to 10 เทคนิค ถ่ายภาพอาหารให้น่ากิน

ส่อง 5 เทรนด์ร้านกาแฟ มาแรงในเกาหลีใต้

กลุ่มลูกค้าองค์กร 5 ประเภท ที่ธุรกิจเดลิเวอรี่ ควรเจาะตลาด

20 เทรนด์ ธุรกิจอาหาร ปี 2020 ที่ผู้ประกอบการควรรู้!

5 รูปแบบโต๊ะอาหาร เลือกอย่างไร ให้เหมาะกับร้านของคุณ

เรื่องแนะนำ

บริการเดลิเวอรี่

ร้านอาหาร กับ บริการเดลิเวอรี่ วางสมดุลไม่ดี ร้านขาดทุนได้

บริการเดลิเวอรี่ ก็เป็นส่วนสำคัญที่คนทำร้านอาหารควรมี เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคนี้ แต่สงสัยหรือไม่ว่า บางร้านยอดเดลิเวอรี่ดี แต่ขาดทุน และบางรายเสียลูกค้าประจำไป เป็นเพราะสาเหตุอะไร     ร้านอาหาร กับ บริการเดลิเวอรี่ วางสมดุลไม่ดี ร้านขาดทุนได้   การทำธุรกิจร้านอาหารในปัจจุบันนี้ จะเห็นได้ว่ามีการแข่งขันกันสูงขึ้นเพื่อดึงดูดลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นโปรโมชั่นต่างๆ การทำการตลาดในหลายช่องทาง รวมถึง บริการเดลิเวอรี่ ที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างสูงในกลุ่มของลูกค้าที่ต้องการความสะดวกสบาย ซึ่งมีมากขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนว่าร้านอาหารก็ควรมีบริการนี้เพื่อให้ตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภคด้วย แต่ถ้าเจ้าของร้านวางสมดุลระหว่างหน้าร้าน และบริการเดลิเวอรี่ไม่ดี ก็อาจจะทำให้ร้านคุณขาดทุน และสูญเสียลูกค้าได้เช่นกัน แล้วเจ้าของร้านอาหารควรทำอย่างไร มาฟังมุมมองจาก คุณธามม์ ประวัติตรี Managing Director, Wow Thai Food B.V. Amsterdam Netherland ที่จะมาให้ความคิดเห็นกับเรื่องนี้กันค่ะ   ปัญหาการแข่งขันในตลาด เดลิเวอรี่ จากประสบการณ์การทำร้านอาหาร ทั้งในประเทศไทย และร้านอาหารในต่างประเทศ คุณธามม์ ได้ให้ความเห็นที่น่าสนใจอย่างหนึ่งว่า ที่ผ่านมาเกือบตลอดทั้งปี จะเห็นได้ว่าการให้บริการแบบเดลิเวอรี่ กำลังมาแรงมากในการทำธุรกิจอาหารในประเทศไทย ร้านอาหารให้ความสนใจในบริการนี้ เพราะตอบโจทย์พฤติกรรมของลูกค้าในปัจจุบัน […]

5 ขั้นตอน พัฒนาทีมงานแบบง่ายๆ ใช้ได้ทุกร้าน

เพราะปัญหาเรื่องทีมงาน เป็นปัญหาคลาสสิคของร้านอาหาร ที่เจ้าของร้านทุกคนพอเปิดไปสักพัก ก็ต้องเจอไม่ว่าจะเป็น พนักงานทำออเดอร์ผิด รสชาติหน้าตาอาหารผิดเพี้ยน เสริฟผิดโต๊ะ รับออเดอร์ตกหล่น ความสะอาดภายในร้านและในครัว จนถึงปัญหาการลาออกบ่อยของพนักงาน   ผมเชื่อว่าสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ปัญหาเหล่านี้ไม่ถูกแก้ และกลับมาหาเราซ้ำๆ ไม่ใช่เพราะเราไม่สอน……… แต่ปัญหาคือ เราไม่มี Flow Chart หรือ SOP ของการพัฒนาความสามารถให้พนักงาน   เมื่อเราไม่ได้วางลำดับขั้นตอนของการสอนเพื่อประเมินพนักงานว่าเขาอยู่จุดไหนแล้ว  และจากนี้เขาควรจะไปไหนต่อ มันก็เลยทำให้เขาอยู่จุดเดิม พอเกิดปัญหา ก็เลยเป็นภาระของ เจ้าของร้านที่ต้องเข้ามาแก้อยู่เสมอ   ยกตัวอย่างปัญหาในครัว เช่น พนักงาน A หั่นผัก มาหลายเดือน ก็หั่นผักอยู่แบบนั้น ไม่เคยได้จับกระทะทำอะไรเลย ยิ่งกว่านั้นพอพนักงานรุ่นพี่ลาหยุด กลายเป็นว่าคนที่อยู่ คือพนักงาน A ที่ทำหน้าที่หั่นผัก จำเป็นต้องมาจับกระทะทำอาหาร แต่ทำไม่ได้ เนื่องจากไม่ได้มีการพัฒนาให้พนักงาน A ได้จับกระทะทำอาหารมาก่อน ทำงานครัวในวันนั้นไม่สามารถดำเนินงานได้อย่างราบรื่นอย่างที่ควรจะเป็น   แสดงว่าเจ้าของร้านไม่เคยตรวจสอบความสามารถของเขาเลยว่าเขาสามารถทำงานได้ด้วยตัวเองไหม อยู่ขั้นไหนแล้ว ดังนั้นเราควรจะตั้งเป้าพัฒนาศักยภาพอย่างไร ต่อพนักงานหนึ่งคนเพื่อให้เขาเกิดผลสูงสุด   วันนี้ผมมี SOP […]

แก้ปัญหาลูกค้านั่งนาน

แก้ปัญหาลูกค้านั่งนาน ไม่สั่งอาหารเพิ่ม

ลูกค้านั่งนาน รับลูกค้าอื่นไม่ได้ ควรทำอย่างไรดี? ปัญหาน่าปวดหัวที่หากแก้ไขผิดอาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ เราจึงมีเทคนิคที่ช่วย แก้ปัญหาลูกค้านั่งนาน มาแนะนำ

คุมต้นทุนอาหาร

คุมต้นทุนอาหาร ด้วยเทคนิค 4 ข้อ

        หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ร้านอาหารต้องปิดตัวลง คือ “การคุมต้นทุนไม่อยู่” บางร้านอาจจะขายดีมากแต่ไม่ได้กำไรเพราะมีต้นทุนสูงเกินไป โดยเฉพาะต้นทุนด้านวัตถุดิบ ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายหลักของร้านอาหาร ร้านทั่วไปจะมีต้นทุนส่วนนี้ 30-40% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมด หรืออาจสูงกว่านี้ในร้านอาหารประเภทบุฟเฟ่ต์ ผู้ประกอบการจึงควรให้ความสำคัญกับการบริหารต้นทุนในส่วนนี้ให้มาก ลองมาดูสิ่งที่จะช่วย คุมต้นทุนอาหาร และเพิ่มกำไรให้ร้านอาหารของเรากันครับ คุมต้นทุนอาหาร ด้วยเทคนิค 4 ข้อ 1. ใส่ใจและติดตามราคาวัตถุดิบ         วิธีที่ดีในการคุมต้นทุน คือการติดตามราคาของวัตถุดิบที่ใช้ภายในร้าน บางท่านอาจจะรู้สึกยุ่งยากเพราะที่ร้านใช้วัตถุดิบหลายชนิด แต่วิธีง่ายๆ คือเลือกแค่วัตถุดิบที่เป็นต้นทุนหลักของร้านมาบันทึกราคา ปริมาณที่ใช้ และต้นทุนทั้งหมดของวัตถุดิบแต่ละชนิด เพื่อนำมาเปรียบเทียบราคาในแต่ละเดือน          สมมติว่าราคากุ้งเดิมกิโลกรัมละ 180 บาท เพิ่มขึ้นเป็น 220 บาทจากภาวะน้ำท่วมในบางพื้นที่ ส่วนต่างที่เพิ่มขึ้นมา 40 บาทนี้อาจจะดูไม่มาก แต่มันคือต้นทุนที่เพิ่มขึ้น 22% จากราคาเดิม ยิ่งร้านที่ขายดีเท่าไหร่ กำไรที่หายไปก็จะเพิ่มมากขึ้น ในช่วงภาวะต้นทุนวัตถุดิบปรับขึ้นราคา […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.