5 รูปแบบโต๊ะอาหาร เลือกอย่างไร ให้เหมาะกับร้านของคุณ - Amarin Academy

5 รูปแบบโต๊ะอาหาร เลือกอย่างไร ให้เหมาะกับร้านของคุณ

รู้หรือไม่ รูปแบบโต๊ะอาหาร สามารถกำหนดความรู้สึกและสร้างประสบการณ์ดีๆ ให้ลูกค้าได้ไม่แพ้รสชาติของอาหาร ดังนั้นต้องรู้ก่อนว่า ร้านของคุณเน้นอะไร เน้นความสะดวกสบายก็ต้องเลือกโต๊ะแบบนึง เน้นความสนุกสนานควรเลือกโต๊ะอีกอีกแบบ ซึ่งให้ความรู้สึกไม่เหมือนกัน วันนี้เราจึงนำ 5 รูปแบบโต๊ะ ที่เป็นที่นิยมและน่าสนใจมาฝากกันครับ

 

5 รูปแบบโต๊ะอาหาร ที่เจ้าของร้านควรรู้

  1. Classic Booth

เป็นโต๊ะยอดนิยมของร้านอาหารหลายๆ ร้าน เนื่องจากเป็นโต๊ะที่นั่งสะดวกสบาย และทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าเป็นส่วนตัวมากกว่าโต๊ะรูปแบบอื่นๆ ทั้งยังบริหารจัดการง่าย เป็นระเบียบ เพราะโต๊ะติดอยู่กับที่ สะดวกทั้งต่อลูกค้าที่ไม่ต้องคอยเดินหลบไปมา และพนักงานเสิร์ฟที่เดินเข้าไปเสิร์ฟในจุดๆ เดียว ไม่ต้องคอยวนไปวนมารอบโต๊ะ แม้ว่าโต๊ะรูปแบบนี้จะมีข้อดีมาก แต่ก็มีข้อเสียที่ไม่ควรมองข้าม เพราะราคาค่อนข้างสูง หากร้านคุณมีเงินลงทุนจำกัด ก็ควรใช้รูปแบบอื่นๆจะเหมาะสมกว่า

  1. Picnic-Style Banquet Table

โต๊ะรูปแบบนี้ คือโต๊ะยาวคล้ายโต๊ะโรงอาหารของโรงเรียน มักพบได้บ่อยในร้านอาหารที่บรรยากาศค่อนข้างสบายๆ เป็นกันเอง เนื่องจากโต๊ะรูปแบบนี้จะเปิดโอกาสให้คนได้พูดคุยกันมากขึ้น ทั้งคนที่มาด้วยกัน หรือคนที่ไม่รู้จักกันมาก่อน จุดเด่นของโต๊ะรูปแบบนี้คือ รองรับคนได้จำนวนมาก เหมาะกับงานเลี้ยงสังสรรค์ต่างๆ ฉะนั้นหากใครอยากเปิดร้านอาหารแนวสบายๆ เป็นพื้นที่ให้ลูกค้าได้พูดคุยกันมากขึ้น ก็ควรเลือกโต๊ะรูปแบบนี้ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับพื้นที่ร้านอาหารด้วย หากมีพื้นที่จำกัด ก็ไม่ควรใช้โต๊ะรูปแบบนี้

  1. High Top Tables & Stools

โต๊ะสูง เก้าอี้สูง ข้อดีของโต๊ะรูปแบบนี้คือเคลื่อนย้ายสะดวก ปรับเปลี่ยนได้ตามจำนวนของลูกค้าได้ หากลูกค้ามามากก็สามารถเลื่อนโต๊ะมาติดกันได้ และยกเก้าอี้มาเสริม หรือถ้าลูกค้ามาน้อยก็โยกเก้าอี้ไปวางที่โต๊ะอื่น

โต๊ะรูปแบบนี้เหมาะสำหรับการจัดงานปาร์ตี้ งานเลี้ยงสังสรรค์ที่ไม่เป็นทางการนัก เนื่องจากคุณสมบัติคือเพิ่มจำนวนคนได้ไม่จำกัด จะเดินไปนั่งโต๊ะนั้น หรือยืนโต๊ะนี้ก็ทำได้สะดวก

แต่ไม่เหมาะกับร้านอาหารประเภท full-service เพราะนั่งไม่สบาย รับประทานอาหารไม่สะดวก แต่ขณะเดียวกันโต๊ะรูปแบบนี้ก็เหมาะสำหรับร้านที่จำหน่ายอาหารจานด่วนที่เน้นการ turn over อย่างรวดเร็วๆ เพราะคงไม่มีใครอยากนั่งนานๆ กับโต๊ะลักษณะนี้

 

  1. Sofas & Coffee Table-Styled Seating

เป็นโต๊ะ และเก้าอี้ยอดฮิตของร้านคาเฟ่หลายแห่ง ที่อยากสร้างบรรยากาศสบายๆ ให้ลูกค้า ทำให้ลูกค้ารู้สึกผ่อนคลายเหมือนไม่ได้นั่งอยู่ในร้านอาหาร แต่เหมือนนั่งกินอาหารอยู่ในบ้าน แต่ข้อเสียของโต๊ะประเภทนี้คือ ไม่เหมาะกับการกินอาหารมื้อหลัก เพราะโต๊ะค่อนข้างเตี้ย ราคาค่อนข้างสูง กินพื้นที่มาก แถมลูกค้ายังนั่งนานกว่าโต๊ะและเก้าอี้รูปแบบอื่นๆ แต่ถ้าคุณตั้งใจเสิร์ฟอาหารง่ายๆ พร้อมขนมหรือเครื่องดื่ม และอยากทำให้ลูกค้าสบายที่สุด ก็ควรเลือกโต๊ะและเก้าอี้รูปแบบนี้

  1. Bar Seating

ถ้าเป็นชอบกินซูชิหรืออาหารญี่ปุ่นคงคุ้นเคยกับโต๊ะรูปแบบนี้ เพราะเป็นรูปแบบที่ร้านอาหารญี่ปุ่นนิยมใช้มาก เนื่องจากต้องการให้ลูกค้ามีปฏิสัมพันธ์กับเชฟขณะปรุงอาหาร นอกจากได้พูดคุยแบบเป็นกันเองแล้ว ยังได้เห็นฝีไม้ลายมือของเชฟขณะทำอาหารด้วย ถือเป็นการสร้างประสบการณ์ที่ดีรูปแบบหนึ่ง ส่วนข้อดีด้านการบริการคือ ไม่ต้องเสียค่าพนักงานเสิร์ฟ ลูกค้าไม่ต้องรออาหารนาน เพราะเชฟจะส่งตรงถึงมือลูกค้าได้โดยตรง

 

ทราบข้อดีของโต๊ะแต่ละรูปแบบกันแล้ว อย่าลืมนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับร้านอาหารของคุณกันนะครับ

 

อ่านต่อบทความที่น่าสนใจ

แชร์ 10 เทคนิค ใช้ Instagram ให้ปัง เพื่อคนทำธุรกิจอาหาร

5 เคล็ดลับ ครีเอทเมนูอาหาร เรียกลูกค้าเข้าร้าน

แชร์กลยุทธ์ ทำอย่างไรให้ร้านขายดีในทุกๆ ทำเล

 

เรื่องแนะนำ

ซื้อเก้าอี้ร้านอาหาร

5 ปัจจัยที่ควรคำนึงก่อนเลือก ซื้อเก้าอี้ร้านอาหาร

หลายคนอาจคิดว่าการ ซื้อเก้าอี้ร้านอาหาร แค่ซื้อให้เหมาะสมกับสไตล์การตกแต่งร้านก็คงเพียงพอแล้ว แต่รู้หรือไม่ว่า การซื้อเก้าอี้ส่งผลต่อยอดขายของเราเหมือนกัน

แต่งร้านรับลมหนาว

6 เทคนิค แต่งร้านรับลมหนาว ดึงดูดลูกค้าเข้าร้าน

เข้าสู่ช่วงปลายปีแบบนี้ ถึงแม้อากาศบ้านเราอาจจะไม่ได้หนาวมาก แต่หลายคนคงเริ่มสัมผัสได้ถึงอากาศเย็นสบายเบาๆกันแล้ว บรรดาร้านอาหารต่างๆ ก็คงเริ่มที่จะวางแผนตกแต่งร้านรับลมหนาวกันบ้าง วันนี้เราได้รวบรวมเอาไอเดียการ แต่งร้านรับลมหนาว มาเป็นแนวทางให้ผู้ประกอบการและผู้ที่สนใจ ได้ลองเอาไปปรับใช้กับธุรกิจที่ทำอยู่ เพื่อเพิ่มสีสันและดึงดูดลูกค้าให้ได้มากขึ้นในช่วงเวลาแห่งความสุขแบบนี้     6 เทคนิค แต่งร้านรับลมหนาว 1.ตกแต่งร้านด้วยโทนสีธรรมชาติ คิดจะแต่งร้านให้เข้ากับบรรยากาศฤดูหนาวต้องเน้นความเป็นธรรมชาติด้วยสีเอิร์ธโทน ซึ่งเป็นสีโทนกลางๆ ที่เข้าได้กับทุกสี เป็นสีโทนอบอุ่น อาจให้เพิ่มน้ำหนักไปทาง เข้มๆ ขึ้นมา เช่น สีเทา สีน้ำตาลอมเทา สีฟ้าอมม่วง หรือสามารถเลือกใช้โทนสีที่นุ่มนวล มี การเลือกใช้วัสดุตกแต่งหรือเฟอร์นิเจอร์ ที่เป็นธรรมชาติพวกสีและลวดลายไม้ชนิดต่างๆ หินทรายทั้งแบบหินจริงและหินเทียมก็ได้เช่นกัน เข่น ชั้นวางของเดิมที่เป็นชั้นกระจก เราก็เปลี่ยนเป็นชั้นไม้ย้อมสีเข้มขึ้น เฟอร์นิเจอร์ไม้นั้นจะช่วยทำให้บรรยากาศภายในร้านนั้นมีความเบา สบาย อบอุ่นขึ้น สีโทนธรรมชาติแบบนี้ จะช่วยนำพาความรู้สึกผ่อนคลายและอบอุ่นมาสู่ลูกค้า ทำให้คนที่เดินเข้าร้านรู้สึกสบายใจและเป็นมิตรกับร้านของเรามากขึ้น   2.แต่งร้านด้วยแสงไฟอบอุ่น       มุมอบอุ่นที่ถูกเพิ่มเติมด้วยหลอดไฟชนิดให้แสงแบบ Warm White (สีเหลืองนวล) จะยิ่งสร้างบรรยากาศให้หน้าหนาวไม่หนาวอีกต่อไป แต่กลับจะช่วยสร้างบรรยากาศในตอนกลางคืนในบรรยากาศลมเย็นๆ ให้รู้สึกผ่อนคลาย การเลือกใช้ไฟสีเหลืองนวล หรือลองเลือกใช้โคมไฟดีไซน์เก๋ๆแทนการใช้หลอดไฟทั่วไป พร้อมกับเลือกเปิดใช้แบบเน้นเปิดให้แสงสว่างเป็นจุดๆ เฉพาะมุมบางมุม จะยิ่งช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับร้านอาหารของคุณได้อย่างน่าสนใจ […]

ภาพยนตร์อาหาร

6 ภาพยนตร์อาหาร ที่คนทำร้านอาหารควรดู

สำหรับคนทำร้านอาหาร แรงบันดาลใจถือเป็นสิ่งสำคัญ และการดูภาพยนตร์ ก็ถือเป็นการสร้างแรงบันดาลใจที่ดีทางหนึ่ง วันนี้เราจึงขอรวบรวม ภาพยนตร์อาหาร มาฝาก

logo ร้านอาหาร

ออกแบบ Logo ร้านอาหาร ให้โดนใจจนลูกค้าจำได้!!

Logo ร้านอาหาร ถือเป็นส่วนสำคัญที่เปรียบเสมือนหน้าตาของร้าน มีผลต่อการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักได้ โดยเฉพาะในบริการเดลิเวอรี ที่ลูกค้าอาจจะไม่ได้เห็นหน้าร้านของเรา แต่จะจำร้านได้จากโลโก้ที่ติดอยู่บนบรรจุภัณฑ์อาหารเท่านั้น  ร้านอาหารจึงควรมีหลักการในการออกแบบโลโก้ที่ดี เพื่อให้ตรงกับตัวตนของร้าน และเป็นที่น่าจดจำของลูกค้ามากที่สุด บทความนี้ เราจึงขอนำหลักการออกแบบโลโก้ร้านอาหารที่ดีมาแนะนำกันครับ ออกแบบ Logo ร้านอาหาร ให้โดนใจจนลูกค้าจำได้!! มีความเป็นเอกลักษณ์ของร้าน  โลโก้ของร้านควรจะสื่อสารถึงตัวตนของร้าน สไตล์อาหารที่ขาย มองแล้วรับรู้ทันทีว่านี่คือร้านอาหารอะไร และสัมพันธ์กับการตั้งชื่อร้าน รวมถึงควรมีความเป็นเอกลักษณ์ ไม่ไปซ้ำซ้อนกับร้านอื่นๆ เพื่อป้องกันความสับสนของลูกค้า  ตัวอย่างของโลโก้ร้านอาหารญี่ปุ่น Sushi Time ที่อาจจะขายซูซิเป็นหลัก จึงแสดงออกมาในรูปของนาฬิกาที่ทำจากมากิซูชิ เพื่อให้สื่อถึงชื่อของร้าน และช่วงเวลาที่ได้ทานอาหารญี่ปุ่น ไส้ซูซิด้านในออกแบบให้เป็นปลาแซลมอนด้วยสีส้มและลายปลาที่เป็นเอกลักษณ์ ดูแล้วใช้ลายเส้นที่เรียบง่าย แต่แสดงถึงความเป็นอาหารญี่ปุ่นได้อย่างชัดเจนและน่าสนใจทีเดียวครับ   ใช้โลโก้สื่อความหมาย โลโก้ที่ดีจะต้องสามารถสื่อความหมายได้มากกว่าแค่บอกชื่อร้าน รูปที่อยู่ในโลโก้ควรจะผ่านการคิดว่ามีความหมายอย่างไร เพื่อสื่อสารไปให้ถึงลูกค้า  ยกตัวอย่างการออกแบบโลโก้ร้านกาแฟ ก็ควรจะเลือกใช้รูปเชิงสัญลักษณ์ที่สื่อถึงถ้วย และสีน้ำตาลที่ทำให้นึกถึงกาแฟ ดังเช่นโลโก้ร้านกาแฟในภาพ ที่ใช้ภาพของถ้วยกาแฟ ผสมกับสัญลักษณ์ power ที่พบได้บ่อยบนอุปกรณ์ทางคอมพิวเตอร์ และยังมีการเคลื่อนไหวของกาแฟที่กระฉอกขึ้นมา ดูกระฉับกระเฉงไม่หยุดนิ่ง สื่อความหมายถึงการเริ่มต้นวันใหม่ด้วยกาแฟ เป็นเหมือนปุ่ม Start ของชีวิต และการเพิ่มพลังให้กับตัวเอง ซึ่งเป็นโลโก้ที่คนที่เห็นสามารถรู้สึก […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2024 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.