แชร์กลยุทธ์ ทำอย่างไรให้ร้านขายดีในทุกๆ ทำเล - Amarin Academy

แชร์กลยุทธ์ ทำอย่างไรให้ร้านขายดีในทุกๆ ทำเล

เชื่อว่าผู้ประกอบการหลายๆคน ก่อนจะเปิดร้านอาหาร แน่นอนว่า คุณต้องมองหาทำเลเป็นอันดับแรกๆ ซึ่งใครๆ ก็อยากได้ทำเลที่ดีทั้งนั้น แต่ใช่ว่าทุกร้าน จะได้ทำเลดีที่ตั้งใจไว้เสมอไป อีกทั้งบางร้าน ทำเลดี แต่ขายไม่ดี ก็มี หรือ ทำเลไม่ดี แต่ก็ขายดีได้ ดังนั้นเราจะมาแชร์เคล็ดลับทำอย่างไรให้ร้านของคุณขายดีได้ ในทุกๆ ทำเล

 

แชร์กลยุทธ์ ทำอย่างไรให้ร้านขายดีในทุกๆ ทำเล

 

“เลือกทำเลดี มีชัยไปกว่าครึ่ง” ใครๆก็พูดแบบนั้น เพราะแน่นอนว่า ถ้าร้านคุณอยู่ในทำเลที่ดี ตั้งอยู่หัวมุมถนน อยู่ในย่านที่ผู้คนผ่านไปมา แถมลูกค้าที่แวะเวียนมาก็มีทั้งขาประจำและขาจร ย่อมโกยรายได้มากกว่าร้านที่ตั้งอยู่ในซอยลึก ที่แม้จะอยู่ในย่านเดียวกันก็ตาม แต่คุณรู้อะไรไหมว่า หนึ่งในกลยุทธ์ที่จะทำให้ร้านคุณขายดี แม้ตั้งอยู่บน ทำเล ไม่ดี มีเคล็ดลับอยู่ที่ คุณต้องขยันทำ “การประชาสัมพันธ์ร้านตัวเอง”  สักหน่อย หรือที่เรียกง่ายๆ ว่า “โฆษณาร้าน” หัวใจสำคัญก็คือ “อย่ามัวรอให้ลูกค้าเข้าไปหาคุณเพียงฝ่ายเดียว คุณต้องเดินเข้าไปหาเขาด้วย” 

การประชาสัมพันธ์ตัวเองในที่นี้ ผู้ประกอบการก็ควรจัดสรรวิธีให้เหมาะสมทั้งด้านออนไลน์ (Online)  และ ด้านออฟไลน์ (Offline) แน่นอนว่ายุคที่การแข่งขันสูงแบบนี้ หากคุณละทิ้งทางใดทางหนึ่งไป เท่ากับคุณกำลังตัดช่องทางโกยรายได้ไปแล้วหนึ่งช่องทาง

 

ตัวอย่างไอเดียการทำประชาสัมพันธ์สำหรับร้านที่ตั้งอยู่ ทำเล ไม่ดี แต่ขายดี ได้แก่

  • ช่องทาง Online คือ สร้างฐานแฟนคลับ เพิ่มการติดตามอย่างต่อเนื่อง โดยทำเนื้อหา (Content) บนเพจร้านของคุณเอง เช่น อัพรูปเมนูน่ากินๆ โปรโมชั่นน่าลอง หรือแม้แต่แชร์สูตรเคล็ดลับความอร่อยเล็กๆ น้อยๆ เพื่อสร้างฐานแฟนคลับให้เขารู้จักร้านคุณ ในหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นสไตล์อาหาร  ความสวยงามของร้าน 

Tips สำหรับกลยุทธ์นี้ คือ  จับคู่เนื้อหา (Content) ให้เข้ากับช่องทาง (Channel) เช่น ทำวิดีโอโปรโมทการเดินทางมาร้าน เพื่อให้คนจดจำเส้นทางได้ง่ายขึ้น หรือรู้ว่าสามารถเดินทางไปร้านคุณด้วยวิธีไหนได้บ้าง เป็นต้น

 

  • ช่องทาง Offline คือ พาร้านตัวเองออกไปให้คนรู้จัก โดยการออกบูธกับห้างสรรพสินค้า หรือ งานเทศกาลอาหารตามโอกาส ที่เหมาะสมกับสไตล์ของร้านคุณ และอย่าลืมทำนามบัตรร้านแนบไปกับโปรโมชั่นดีๆ เพื่อให้ลูกค้าได้รู้จัก และรับรู้ว่าร้านคุณอยู่แถวไหน

Tips สำหรับกลยุทธ์นี้ คือ  มองหาสไตล์อีเว้นท์ หรือตลาดที่เข้ากับสไตล์ร้านของคุณ และอย่าลืมคำนวณต้นทุนให้รอบด้านด้วย เพราะการออกร้านนอกสถานที่ต้องมีค่าใช้จ่าย

 

สำหรับร้านที่ตั้งอยู่บน ทำเล ที่ดี แต่ขายไม่ดี และอยากเพิ่มฐานลูกค้าให้แวะเวียนเข้ามาบ่อยๆ กลยุทธ์ที่แนะนำคือ “ทำตัวเองให้ตอบโจทย์และมีความหลากหลาย” โดยจำเป็นจะต้องกลับมาทบทวนปัจจัยสำคัญทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ 

  • ลักษณะลูกค้าในย่านนั้น ลองหมั่นสังเกตว่าพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนย่านนั้นส่วนใหญ่เป็นแบบไหน เช่น เน้นซื้ออะไรง่ายๆ ตามรถเข็น เป็นต้น
  • ลักษณะของย่านบนทำเลที่ร้านคุณตั้งอยู่ จากเดิมที่เคยสำรวจมาอย่างดีแล้ว ก็ลองกลับมาทบทวนดูอีกว่า มีสิ่งก่อสร้างอะไรที่เปลี่ยนแปลงจากเดิมไปไหม เช่น กลายเป็นย่านธุรกิจมากขึ้น หรือกลายเป็นย่านที่มีแต่คอนโดมากขึ้น เป็นต้น
  • ลักษณะของคู่แข่ง ในละแวกนั้นว่ามีร้านอื่นที่คล้ายกับร้านคุณหรือไม่ เพื่อจะได้รู้แนวทางการปรับตัวของร้าน
  • ลักษณะเฉพาะของร้านคุณเอง โดยต้องตอบคำถาม (Why) ให้ได้ว่าทำไมลูกค้าถึงต้องมาอุดหนุนคุณทุกวัน

 

ปัจจัยสำคัญทั้ง 4 อย่างเหล่านี้จะช่วยให้ร้านคุณเข้าถึง “ความต้องการ” ของลูกค้าได้ดีขึ้นอีก โดยในระยะแรกอาจจะต้องเก็บข้อมูลจากลูกค้าของคุณที่แวะเวียนเข้ามา เช่น การสังเกตพฤติกรรมการบริโภคเมนู การสั่งอาหาร หรือแม้แต่การทำระบบสมาชิกร้าน ก็จะช่วยให้ร้านของคุณตอบโจทย์และมีความหลากหลายได้ และนำไปสู่การเพิ่มฐานลูกค้าได้มากขึ้นด้วย 

 

แม้ว่ากลยุทธ์และเคล็ดลับเหล่านี้จะมีความซับซ้อน และจำเป็นที่จะต้องใช้เวลานานกว่าจะสร้างผลลัพธ์รายได้ที่น่าพอใจให้กับคุณ แต่อย่าลืมว่าธุรกิจร้านอาหารมากมายที่เกิดขึ้นนั้นก็มาจากพฤติกรรมการกินของคน ดังนั้นการที่คุณรู้ถึงความต้องการของผู้บริโภคมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งดีต่อการสร้างโอกาสผลกำไรให้ธุรกิจของคุณ แม้ว่าธุรกิจของคุณจะตั้งอยู่บนทำเลที่ไม่ดีก็ตาม 

 

อ่านต่อบทความที่น่าสนใจ

เริ่มแล้ว! กิจกรรม AA Sharing ครั้งที่1 โดย Amarin Academy

7 Social Media Marketing การทำการตลาดออนไลน์สำหรับธุรกิจร้านอาหาร

เจ้าของร้านรู้หรือยัง? กฎกระทรวงสาธารณสุข ที่ร้านอาหารต้องทำตาม

เจ้าของร้านอ่านเลย! แชร์ 7 วิธี ทำเลไม่ดี ทำอย่างไรให้ขายดี

7 Social Media Marketing การทำการตลาดออนไลน์สำหรับธุรกิจร้านอาหาร

แชร์ 10 เทคนิค ใช้ Instagram ให้ปัง เพื่อคนทำธุรกิจอาหาร

20 เทรนด์ ธุรกิจอาหาร ปี 2020 ที่ผู้ประกอบการควรรู้!

เจาะ 5 พฤติกรรมผู้บริโภค ในยุคดิจิทัล

วิธีรับมือลูกค้า ที่มีปัญหา รับมืออย่างไรให้เจ๋ง พลิกวิกฤตเป็นโอกาสได้

เรื่องแนะนำ

Hyper-Personalization

อ่านใจลูกค้าออก บริการได้ตรงใจ ด้วยการตลาดแบบ Hyper-Personalization

อ่านใจลูกค้าออก บริการได้ตรงใจ ด้วยการตลาดแบบ Hyper-Personalization อยากมัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด ก็ต้องอ่านใจลูกค้าให้ออก.. ทุกวันนี้เราอยู่ในยุคที่ผู้บริโภคอยากรู้ทุกอย่าง และสามารถเข้าถึงข้อมูลทุกเรื่องได้ด้วยปลายนิ้ว ฉะนั้นการทำการตลาดแบบเดิมๆ อาจไม่ได้ผลอีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการจำชื่อลูกค้า, ส่งข้อความ หรืออีเมล์ไปอวยพรวันเกิด พร้อมส่วนลดต่างๆ ซึ่งวิธีเหล่านี้กำลังจะกลายมาเป็นเพียงข้อมูลพื้นฐานสำหรับการทำการตลาดเท่านั้น ดังนั้นธุรกิจร้านอาหารหรือแบรนด์ที่จะสะกิดใจคนได้ ต้องเป็นแบรนด์ที่รู้จักและรู้ใจลูกค้า ด้วยการทำการตลาดแบบ Hyper-Personalization ซึ่งเป็นการตลาดที่เข้าถึงตัวบุคคลมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่ตรงใจลูกค้ามากกว่าที่เคย อย่าปล่อยให้เสียเวลาเปล่า เจ้าของธุรกิจทั้งหลายต้องรีบทำความเข้าใจ เรียนรู้ และปรับตัว รวมถึงเปลี่ยนรูปแบบวิธีการทำงานให้เข้ากับสถานการณ์ แล้วจะช่วยให้ลูกค้าเดินเข้าร้านได้อย่างยิ้มแย้มและเต็มใจ หัวใจของ Hyper Personalization อยู่ที่ “Big Data” ก่อนอื่นต้องอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ก่อนว่าการตลาดแบบ Hyper Personalization เป็นการนำ Big Data แบบเรียลไทม์มาใช้ในการคาดเดาความต้องการของผู้บริโภค ไม่ใช่แค่ข้อมูลจากประวัติการสั่งซื้อทั่วไป แต่เป็นการเอาข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์ออกมาเป็นพฤติกรรมการซื้อ เพื่อให้สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ว่าลูกค้าคนนี้อยากจะซื้อกับเราครั้งถัดไปเมื่อไหร่ หรือจะกระตุ้นเขาให้ซื้อได้ด้วยวิธีไหน ซึ่ง Big Data คือการนำข้อมูลรอบๆ ตัว จากหลายๆ ส่วนมาประมวล วิเคราะห์ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อ  จึงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับเจ้าของร้านอาหาร ที่จะนำมาวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมลูกค้า […]

4 สิ่งที่คุณควรรู้ก่อน ทำโปรโมชั่นร้านอาหาร

การ ทำโปรโมชั่นร้านอาหาร คือทางเลือกที่ดีในการกระตุ้นยอดขาย แต่ผู้ประกอบการต้องทราบรายละเอียดและคำนึงถึงปัจจัยใดบ้างเพื่อให้ประสบความสำเร็จ ลองศึกษากันเลย

“อาหารเพื่อสุขภาพ” เทรนด์มาแรงสายคลีน โอกาสทองของคนอยากมีธุรกิจ

หนึ่งในปัจจัยภายในที่จะทำให้มีสุขภาพที่ดีได้นั้น คงหนีไม่พ้น “อาหาร” นาทีนี้เรื่องของ “อาหารเพื่อสุขภาพ” หรือ อาหารคลีนฟู้ด กำลังได้รับความนิยม อาจเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเทรนด์มาแรงของคนยุคใหม่ ที่หันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพมากยิ่งขึ้น ส่งเสริมให้ตลาดธุรกิจร้านอาหารเพื่อสุขภาพขยายตามไปด้วยเช่นกัน สำหรับคนที่สนใจอยากเปิดร้านอาหาร การลงทุนกับอาหารเพื่อสุขภาพเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจและเริ่มต้นได้ไม่ยาก วันนี้เราจึงขอนำเสนอแนวทางที่จะช่วยให้ทุกคนตีโจทย์ลักษณะของธุรกิจร้านอาหารเพื่อสุขภาพมาเป็นแนวทางในการนำไปเริ่มธุรกิจกัน 1.จุดยืนของอาหารเพื่อสุขภาพ ธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพเป็นธุรกิจที่ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคว่า อาหารของเราทำมาจากวัตถุดิบที่สดใหม่และได้คุณภาพ ปรุงรสและผ่านกรรมวิธีที่ไม่ได้ลดคุณค่าทางอาหารจนเกินไป หากสนใจลงทุนกับธุรกิจด้านนี้แล้ว เจ้าของธุรกิจอย่างเราก็ควรศึกษาหาความรู้เรื่องโภชนาการและคุณค่าทางอาหารต่างๆ ด้วยเช่นกัน เพราะเมื่อเอ่ยถึงอาหารเพื่อสุขภาพแล้ว ผู้บริโภคล้วนมองหาสิ่งดีๆ ที่จะช่วยให้พวกเขามีสุขภาพที่ดีมาจากภายใน  เรื่องของคุณภาพวัตถุดิบที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี กรรมวิธีการปรุงอาหารที่ไม่มากเกินไปจนทำให้เสียคุณค่าทางอาหาร สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งสำคัญที่กลุ่มคนรักสุขภาพมองเป็นหลัก ส่วนใหญ่มักจะมองหาอาหารที่ช่วยควบคุมแคลอรี่และน้ำหนัก แต่ขณะเดียวกันก็ต้องมีรสชาติที่ดี  มีเมนูให้เลือกอย่างหลากหลาย ไม่จำเจหรือน่าเบื่อจนเกินไป จะเป็นเมนูอาหารเช้า ขนมทานเล่น ของหวาน หรือเมนูหลักก็สามารถสร้างสรรค์ให้หลากหลายได้ หลักในการปรุงส่วนใหญ่นั้น  ร้านควรเน้นวัตถุดิบเพื่อสุขภาพ ไม่มีวัตถุดิบพวกหมักดอง หรือ ขัดขาว เช่นน้ำตาลทรายขาว ข้าวขาว อาหารควรไร้ไขมัน มีน้ำมันประกอบอาหารได้ในจำนวนน้อยและใช้น้ำมันพืชที่ดี เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันดอกทานตะวัน และปรุงรสให้กลมกล่อมแบบกลางๆมากกว่าการเน้นรสจัด ที่สำคัญควรต้องครบห้าหมู่ 2.กลุ่มผู้บริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ แม้จะดูเหมือนว่าอาหารเพื่อสุขภาพเป็นธุรกิจที่เจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม แต่แท้จริงแล้วกลุ่มผู้บริโภคอาหารเพื่อสุขภาพกระจายอยู่ในหลายอาชีพและช่วงอายุ ทั้งกลุ่มนักศึกษาที่อยู่หอพักหรือคอนโด ซึ่งไม่ได้มีพื้นที่ในการทำอาหารมากนัก, กลุ่มพนักงานออฟฟิศที่ไม่ได้มีเวลาดูแลตัวเองเท่าที่ควร หรือกลุ่มผู้สูงอายุซึ่งต้องเริ่มใส่ใจกับอาหารการกินมากขึ้น จะเห็นได้ว่ากลุ่มผู้บริโภคไม่ได้เฉพาะเจาะจงแค่กลุ่มคนรักสุขภาพที่เข้าฟิตเนส […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2024 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.