สำรวจก่อนเริ่มทำ แผนการตลาด ธุรกิจ E-Commerce - Amarin Academy

สำรวจก่อนเริ่มทำ แผนการตลาด ธุรกิจ E-Commerce

สำรวจก่อนเริ่มทำ แผนการตลาด ธุรกิจ E-Commerce

การที่ธุรกิจหนึ่งประสบความความสำเร็จมีลูกค้าอุดหนุนไม่ขาดสาย คงไม่ได้เป็นเพราะโชคช่วย แต่เกิดจากการวาง แผนการตลาด ที่ดี สำหรับธุรกิจ E-Commerce ที่ต้องใช้ช่องทางในการโฆษณาซื้อขายสินค้าและบริการต่าง ๆ ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ การวางแผนการตลาดจะทำให้การดำเนินงานสอดคล้องกับกลยุทธ์ ก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุด โดยใช้เวลาและทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด อีกทั้งยังสามารถสร้างลูกค้าใหม่ รักษาลูกค้าเดิม และโปรโมทแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักได้ในวงกว้าง

ก่อนเริ่มต้นวางแผนการตลาด ลองมาดูวัตถุประสงค์หลักในการทำธุรกิจของคุณ ธุรกิจ E-Commerce แต่ละประเภทอาจมีเป้าหมายและจุดขายที่แตกต่างกัน แต่โดยพื้นฐานส่วนใหญ่แล้วมักมีวัตถุประสงค์ 3 ข้อนี้รวมอยู่ด้วย คือ เพิ่มจำนวนผู้เข้าชมและสร้างการรับรู้ เปลี่ยนจากผู้เข้าชมเป็นลูกค้า และสื่อสารกับลูกค้าที่มีอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ทั้งหมดข้างต้น คุณจำเป็นต้องตอบคำถาม 3 ข้อนี้ให้ได้

1.ลูกค้าเป้าหมายของคุณคือใคร

ตั้งต้นจากการสำรวจร้านอาหารของคุณก่อนว่าคุณขายอะไร ตัวตนของร้านเป็นแบบไหน ต้องการให้ใครเป็นกลุ่มลูกค้าหลัก กลุ่มลูกค้ารอง เพื่อจะได้สร้างเนื้อหาให้ตอบโจทย์กับคนกลุ่มนั้นๆ เช่น ร้านของคุณขายสลัดผัก ก็ต้องเน้นไปที่กลุ่มคนรักสุขภาพ ทำให้คุณรู้ได้ในทันทีว่าเนื้อหาที่ต้องการจะสร้างสรรค์นั้นต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ การกิน การออกกำลังกาย ฯลฯ

 

2.จุดขายเฉพาะตัวของคุณคืออะไร

ธุรกิจใหม่ๆ จำเป็นต้องหาจุดเด่นที่ทำให้ธุรกิจของตัวเองนั้นแตกต่างจากเจ้าอื่นในตลาด และสื่อสารความเป็น “ตัวเอง” ให้ลูกค้าได้รับรู้ โดยการสร้างความประทับใจแรกที่ดี พร้อมแสดงจุดเด่นของตัวเองให้เห็น จะเป็นสิ่งที่ช่วยดึงดูดให้ลูกค้าติดตามแบรนด์ของคุณ

วิธีการสร้างข้อเสนอการขายที่ไม่ซ้ำกัน (Unique Selling Propositions: USP) ถือเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดอย่างหนึ่งที่ทำให้ธุรกิจของคุณโดดเด่นและมีคุณค่าต่อกลุ่มเป้าหมายของคุณ โดยแบรนด์คุณสามารถสร้างความแตกต่างได้จากปัจจัย 3 ประเภท คือ

สินค้า สำรวจดูว่าสินค้าของคุณเหนือกว่าคู่แข่งในด้านไหน

ราคา หากร้านของคุณมีสินค้าที่เหมือนๆ กับร้านอื่น เรื่องราคาจะมีผลอย่างมากต่อการตัดสินใจซื้อ

การบริการ คุณต้องขายความมั่นใจให้ได้ว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นลูกค้าจะได้รับการดูแล บริการที่ดีจะเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและต่อเนื่องกับกลุ่มลูกค้าของแบรนด์คุณ

3.การเดินทางของกลุ่มเป้าหมายมีลักษณะอย่างไร

ก่อนที่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายจะตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการจากแบรนด์คุณ พวกเขามีวิธีคิดและคัดสรรสิ่งต่างๆ ให้กับชีวิตอย่างไร สิ่งนี้เราเรียกกันว่า Customer Journey หรือการเดินทางของกลุ่มเป้าหมาย ตั้งแต่จุดเริ่มต้นเมื่อพบสินค้าหรือบริการ ระหว่างทาง ไปจนถึงการตัดสินใจซื้อ และบอกต่อ

หากเจ้าของแบรนด์สามารถวิเคราะห์ Customer Journey  ได้ ก็จะทำให้เข้าใจเส้นทางการซื้อสินค้าหรือบริการของลูกค้าตั้งแต่ต้นจนจบ โดยสามารถนำข้อมูลที่ได้มาปรับใช้เพื่อเพิ่มโอกาสในการขายได้ เช่น สร้างการรับรู้ได้ตรงจุด รู้ว่าลูกค้ามาจากช่องทางไหน จะได้ไปเพิ่มงบประมาณในการทำโฆษณาหรือสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจให้กับลูกค้ากลุ่มนั้น รวมถึงรู้ว่าเรื่องใดเป็นอุปสรรคที่ทำให้กลุ่มเป้าหมายไม่ตัดสินใจซื้อ โดยวางตัวเองเป็นลูกค้าแล้วลองใช้เส้นทางแบบ Customer Journey ก็จะทำให้พบช่องโหว่หรือรอยรั่วของแบรนด์ได้ง่ายกว่ามองในมุมเจ้าของกิจการเพียงอย่างเดียว

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

การตลาดแบบปากต่อปาก : ทำอย่างไรให้คนพูดถึง “แบรนด์” ของคุณ

รู้ความต้องการลูกค้า หัวใจสำคัญทำให้ ธุรกิจสำเร็จ !

สร้างเนื้อหา  อย่างไร ให้โดนใจบน Facebook

เรื่องแนะนำ

ถอดบทเรียน ชื่อร้าน “พยางค์เดียว” ตั้งชื่อร้านสั้นๆ จำง่าย แต่ไม่ได้มีแค่ข้อดี

ถอดบทเรียน ชื่อร้าน “พยางค์เดียว” ตั้งชื่อร้านสั้นๆ จำง่าย แต่ไม่ได้มีแค่ข้อดี สังเกตไหมว่าทุกวันนี้ร้านอาหารในไทยมักจะมีการตั้งชื่อสั้น ๆ 1 พยางค์บ้าง 2 พยางค์บ้าง ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นชื่อไทยๆ ที่สามารถสื่อความหมายถึงร้านได้ในพยางค์เดียว เช่น เขียง ฉัน ฉุน ครก คั่ว จุ่มหรือเป็นการใช้คำซ้ำอย่าง เผ็ดเผ็ด เปี๊ยะเปี๊ยะ บ้านบ้าน เป็นต้น แล้วชื่อสั้นๆ แบบนี้ มันดียังไงนะ ทำไมเดี๋ยวนี้เขาฮิตตั้งชื่อร้านสั้นๆ กันจัง ลองมาดูข้อดีของชื่อสั้น ๆ แล้วลองไปตั้งชื่อร้านเก๋ของตัวเองดูกัน! . ข้อดี . จำง่าย . อย่างแรกเลยคือลูกค้ามีแนวโน้มที่จะจำชื่อสั้น ๆ ง่าย ๆ ได้มากกว่า ชื่อที่อ่านยาก เขียนยาก ยิ่งเป็นชื่อที่สั้นและสามารถสื่อถึงความเป็นร้านได้จบในพยางค์เดียว ก็เหมือนกับการปล่อยหมัดฮุคใส่คู่ต่อสู้ ที่อ่านแค่ครั้งเดียวก็จำขึ้นใจ และเห็นภาพร้านได้ชัด . รู้เลยว่าขายอะไร . แต่ละร้านก็จะมีชื่อที่บ่งบอกเอกลักษณ์ความเป็นร้านของตัวเองที่ต่างกันออกไป บ้างก็ตั้งชื่อเพื่อบ่งบอกว่าประเภทอาหารที่ขาย เช่น […]

ร้านอาหารต้องพัฒนาเมนู

3 ปัจจัยที่ทำให้ ร้านอาหารต้องพัฒนาเมนู อยู่เสมอ

บางร้านอาจคิดว่า เมื่อเมนูเดิมดีอยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องพัฒนา แต่รู้ไหม นี่เป็นจุดอ่อนสำคัญของธุรกิจ ฉะนั้นมาดูปัจจัยที่ทำให้ ร้านอาหารต้องพัฒนาเมนู ดีกว่า

ยอดขายร้านอาหาร

จิตวิทยาการตลาด เพิ่ม ยอดขายร้านอาหาร ด้วย “เทคนิค FOMO”

        ในยุคที่ร้านอาหารถูกบังคับให้ต้องพึ่งพาระบบเดลิเวอรี การตลาดออนไลน์จึงยิ่งมีการแข่งขันสูงขึ้น โดยมีเป้าหมายให้ลูกค้าซื้ออาหารจากร้านของตัวเอง ซึ่งหนึ่งในวิธีที่จะช่วยดึงดูดลูกค้าได้ คือการสร้างโฆษณาที่น่าสนใจ แต่จะทำอย่างไรให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น ลองมาศึกษาหลักจิตวิทยาการตลาด ที่จะช่วยเพิ่ม ยอดขายร้านอาหาร ของคุณด้วยเทคนิค FOMO ครับ หลักจิตวิทยาการตลาด: เทคนิค FOMO  ช่วยเพิ่ม ยอดขายร้านอาหาร         FOMO เป็นคำย่อมาจาก Fear Of Missing Out ซึ่งเป็นกลยุทธ์การตลาดจากทำให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกว่า “ไม่อยากพลาดโอกาส” เช่น กลัวจะไม่ได้รับสิทธิพิเศษที่มีจำกัด ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น เป็นการเลือกจากความรู้สึกในตอนนั้นมากกว่าการใช้เหตุผล และทำให้เกิดความพอใจที่ซื้อได้ทันเวลา รู้สึกคุ้มค่า เหมือนเวลาที่เผลอซื้อสินค้าช่วง Flash Sales แม้จะไม่จำเป็นนั่นแหละ หรือแม้แต่การกด Like เพจที่รวมโปรโมชันอาหารต่างๆ ในเฟสบุ๊ก เพราะไม่มีใครอยากพลาดโอกาสกันหรอกครับ          จะเห็นว่าหลักจิตวิทยาแบบนี้พบได้จริงในชีวิตประจำวัน และเกิดขึ้นได้ในทุกเพศทุกวัย  รวมถึงช่องทางออนไลน์ก็สามารถเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ได้ โดยที่มีค่าใช้จ่ายไม่สูงมากนัก ผู้ประกอบการร้านอาหารในยุคนี้ […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.