ดัน “ยอดขาย” ให้พุ่งกระฉูด ด้วย Line@ - Amarin Academy

ดัน “ยอดขาย” ให้พุ่งกระฉูด ด้วย Line@

ดัน “ยอดขาย” ด้วย Line@

หลังจากที่เฟซบุ๊กประกาศปรับอัลกิริทึ่มใหม่ ทำให้ผู้ประกอบการที่ทำการตลาดผ่านเฟซบุ๊กต้องปวดหัว เพราะยอดการมองเห็นของลูกค้าน้อยลงจนน่าตกใจ หลายคนจึงเลือกมองหาช่องทางการทำการตลาดรูปแบบใหม่ที่มีประสิทธิภาพเท่าเทียมกัน โดยช่องทางอันดับต้นๆ ที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่นึกถึงคือ Line@ เพราะถือเป็นแอปพลิเคชันยอดนิยมที่แทบทุกคนที่ใช้ Smart phone ต้องมีติดเครื่อง แถมยังมีฟีเจอร์ต่างๆ มากมาย ที่สนับสนุนการทำธุรกิจ ช่วยเพิ่มยอดขายให้พุ่งกระฉูดอีกด้วย ได้แก่

  1. Greeting Message ข้อความต้อนรับ: รู้หรือไม่? เราสามารถกระตุ้นความอยากและปิดการขายได้ตั้งแต่ข้อความต้อนรับ เพราะLine@เปิดให้เราเขียนข้อความต้อนรับเมื่อลูกค้าแอดไลน์ได้เอง เช่น ระบุโปรโมชันพิเศษสำหรับการสั่งซื้อครั้งแรก เป็นต้น
  2. Coupon คูปอง: เราสามารถสร้างคูปองส่วนลดได้ง่ายๆ ในLine@ซึ่งถือเป็นฟีเจอร์เด็ดที่ทำให้ลูกค้าสนใจและอยากซื้อสินค้าของเรามากขึ้น
  3. Prize Drawing Page คูปองชิงรางวัล: นอกจากมอบคูปองแบบตรงๆ แล้ว ยังสามารถเพิ่มความตื่นเต้นให้ลูกค้าด้วยการเปิดโอกาสให้เขาได้ลองลุ้นรางวัลว่าจะได้ส่วนลดหรือไม่ หรือได้ส่วนลดเท่าไรด้วย
  4. Promotion โปรโมชัน: ฟีเจอร์นี้ถือว่ามีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะเป็นช่องทางที่เราสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้โดยตรงและตลอดเวลาในหลากหลายรูปแบบ ทั้งข้อความ รูปแบบ วิดีโอ หรือ Link ที่คลิกเข้าสู่เว็บไซต์ หรือช่องทางการติดต่ออื่นๆ
  5. Reword Cards บัตรสะสมแต้ม: ยิ่งลูกค้าซื้อมาก ก็มีโอกาสได้รับรางวัลพิเศษ หรือของสมมนาคุณมากตามไปด้วย โดยข้อดีของการใช้บัตรสะสมแต้มทางไลน์คือ ไม่ต้องกลัวหาย ไม่ต้องกังวลว่าจะลืมนำบัตรไปที่ร้าน เพราะมันอยู่ในมือถือของลูกค้าตลอดเวลา (ตราบใดที่มือถือไม่หายก็สบายใจได้แน่นอน)

นอกจากฟีเจอร์เด็ดๆ ที่กล่าวมานี้Line@ยังช่วยสนับสนุนการดำเนินงานของผู้ประกอบการให้ราบรื่นขึ้นอีกด้วย

1.ออร์เดอร์ของลูกค้าไม่มีสูญหายหรือตกหล่น โดยเราสามารถเข้าไปเช็คออร์เดอร์ของลูกค้าได้ตลอดเวลา ไม่ต้องคอยรับโทรศัพท์เพื่อจดออร์เดอร์เหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป

2.มีแอดมินได้มากถึง 100 คน สำหรับร้านไหนที่ลูกค้าเยอะมาก มีออร์เดอร์เข้ามาตลอดเวลา ผู้ประกอบการคงตอบเองไม่ไหว ก็สามารถเพิ่มลูกน้องให้เป็นคนช่วยตอบคำถามหรือรับออร์เดอร์ลูกค้าได้มากถึง 100 คนเลย

3.พิมพ์ครั้งเดียว กระจายข่าวได้ครบทุกคน เวลาออกโปรโมชันใหม่ๆ ก็สามารถสร้างข้อความและกดส่งตรงเข้ามือถือของลูกค้าได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาโทรศัพท์แจ้ง ติดป้ายประกาศหน้าร้าน หรือนั่งจ่ายเงินให้ Boost post ในเฟซบุ๊กอีกต่อไป

4.ค่าใช้จ่ายต่ำ เมื่อเทียบกับการจ่ายเงินเพื่อโฆษณาในช่องทางอื่นๆ การใช้Line@ถือว่ามีค่าใช้จ่ายที่น้อยมาก โดยเป็นการจ่ายเงินรายเดือนที่สามารถเลือกแพกเจได้ตามความต้องการ

5 มีฟีเจอร์ให้เลือกใช้มากมาย จากที่กล่าวไปข้างต้นแล้วว่าLine@มีฟีเจอร์ที่รองรับการใช้งานของผู้ประกอบการหลากหลายรูปแบบ สามารถเลือกใช้ได้ตามความต้องการ

แม้ว่า Facebook จะเป็นสื่อที่มียอดผู้ใช้งานสูงที่สุด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าช่องทางการตลาดอื่นๆ จะไม่มีประสิทธิภาพ ลองหันมาใช้สื่อรองดูบ้าง ก็ไม่เสียหายนะครับ บางทีอาจจะได้รับผลตอบรับที่ดีกว่าด้วย

เรื่องแนะนำ

เจาะลึก พฤติกรรมผู้บริโภค “รุ่นใหม่” เป็นอย่างไรไปดูกัน

สำหรับใครที่วางกลุ่มเป้าหมายของร้านอาหารเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ ควรอ่านบทความนี้ด่วน เพราะเราได้สรุป พฤติกรรมผู้บริโภค ของคนกลุ่มนี้เอาไว้แล้ว

Food Trend

อัปเดตเทรนด์คอนเทนต์อาหาร ช่วงนี้ผู้บริโภคชอบอะไร ? แนวการทางโปรโมทร้านให้ลูกค้าอยากซื้อ!

อัปเดตเทรนด์คอนเทนต์อาหาร ช่วงนี้ผู้บริโภคชอบอะไร ? แนวการทาง ” โปรโมทร้าน ” ให้ลูกค้าอยากซื้อ! เชื่อว่าทุกวันนี้ก่อนที่ทุกคนจะซื้อหรือใช้อะไรจะต้องหารีวิวมาดู เพื่อประกอบการตัดสินใจก่อน ยิ่งตอนนี้หลายคนหลีกเลี่ยงการออกจากบ้าน เพราะกังวลเรื่องโรคระบาดด้วยแล้วนั้น การจะออกมาเลือกซื้อ เลือกดู จับจ่ายใช้สอยก็เป็นอะไรที่หลายคนไม่อยากเสี่ยง ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนี้คนจึงหันไปเสพคอนเทนต์ของเหล่า Reviewer หรือ Blogger เพื่อใช้ในการตัดสินใจสั่งผ่านเดลิเวอรี่แทน  “อาหาร” สิ่งหนึ่งที่ผู้คนให้ความสนใจดูเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นรีวิวอาหารหรือวิดีโอสอนทำอาหาร ซึ่งคอนเทนต์เหล่านี้สามารถช่วยเพิ่มยอดขายให้ผู้ประกอบการได้อีกทางหนึ่ง ดังนั้นลองมาดูแนวทางการทำคอนเทนต์จาก คุณณีรนุช อิทธิปัญญาวรกุล Food Blogger เจ้าของเพจ Thintomorrow ที่ได้มาเล่าใน Club House ถอดบทเรียนสู้วิกฤติ ธุรกิจร้านอาหารดัง ถึงเทรนด์คอนเทนต์อาหาร ช่วงนี้ผู้บริโภคชอบอะไร ? และแนวการทางโปรโมทร้านให้ลูกค้าอยากซื้อ! จะมีอะไรบ้างมาดูกัน!      พฤติกรรมของคนในตอนนี้👤: ช่วงนี้พฤติกรรมของผู้บริโภคค่อนข้างจะเปลี่ยนไป อย่างช่วงก่อนหน้านี้เราจะรู้สึกว่าคนทั่วไปที่อยู่คนเดียวหรืออยู่กันไม่กี่คนจะ จะใช้บริการแอปเดลิเวอรี่เยอะกว่าคนที่อยู่เป็นครอบครัว แต่หลัง ๆ มานี้คนที่อยู่เป็นครอบครัวขนาดกลางไปจนถึงครอบครัวใหญ่มีการสั่งเดลิเวอรี่มากขึ้น ซึ่งจากที่เราเคยสอบถามเหตุผลของคนที่อยู่รอบตัว ได้คำตอบว่าช่วงนี้คนออกไปข้างนอกน้อยลง เขาไม่ค่อยอยากเดินตลาดหรือไม่อยากเดินซุปเปอร์บ่อย ๆ เพราะไม่อยากเสี่ยงกับโรคหรือว่าอยู่บ้านล็อกดาวน์นาน ๆ […]

กลยุทธ์การเพิ่มยอดขาย

กลยุทธ์การเพิ่มยอดขาย โดยไม่เพิ่มราคา

เมื่อเศรษฐกิจโดยภาพรวมก็ไม่ค่อยดี จะเพิ่มราคาก็ไม่ได้ ลดคุณภาพผลิตภัณฑ์ก็ไม่ดี วันนี้เราจึงมี กลยุทธ์การเพิ่มยอดขาย ที่ช่วยให้ยอดขายของคุณพุ่งกระฉูดมาฝาก

Hyper-Personalization

อ่านใจลูกค้าออก บริการได้ตรงใจ ด้วยการตลาดแบบ Hyper-Personalization

อ่านใจลูกค้าออก บริการได้ตรงใจ ด้วยการตลาดแบบ Hyper-Personalization อยากมัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด ก็ต้องอ่านใจลูกค้าให้ออก.. ทุกวันนี้เราอยู่ในยุคที่ผู้บริโภคอยากรู้ทุกอย่าง และสามารถเข้าถึงข้อมูลทุกเรื่องได้ด้วยปลายนิ้ว ฉะนั้นการทำการตลาดแบบเดิมๆ อาจไม่ได้ผลอีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการจำชื่อลูกค้า, ส่งข้อความ หรืออีเมล์ไปอวยพรวันเกิด พร้อมส่วนลดต่างๆ ซึ่งวิธีเหล่านี้กำลังจะกลายมาเป็นเพียงข้อมูลพื้นฐานสำหรับการทำการตลาดเท่านั้น ดังนั้นธุรกิจร้านอาหารหรือแบรนด์ที่จะสะกิดใจคนได้ ต้องเป็นแบรนด์ที่รู้จักและรู้ใจลูกค้า ด้วยการทำการตลาดแบบ Hyper-Personalization ซึ่งเป็นการตลาดที่เข้าถึงตัวบุคคลมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่ตรงใจลูกค้ามากกว่าที่เคย อย่าปล่อยให้เสียเวลาเปล่า เจ้าของธุรกิจทั้งหลายต้องรีบทำความเข้าใจ เรียนรู้ และปรับตัว รวมถึงเปลี่ยนรูปแบบวิธีการทำงานให้เข้ากับสถานการณ์ แล้วจะช่วยให้ลูกค้าเดินเข้าร้านได้อย่างยิ้มแย้มและเต็มใจ หัวใจของ Hyper Personalization อยู่ที่ “Big Data” ก่อนอื่นต้องอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ก่อนว่าการตลาดแบบ Hyper Personalization เป็นการนำ Big Data แบบเรียลไทม์มาใช้ในการคาดเดาความต้องการของผู้บริโภค ไม่ใช่แค่ข้อมูลจากประวัติการสั่งซื้อทั่วไป แต่เป็นการเอาข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์ออกมาเป็นพฤติกรรมการซื้อ เพื่อให้สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ว่าลูกค้าคนนี้อยากจะซื้อกับเราครั้งถัดไปเมื่อไหร่ หรือจะกระตุ้นเขาให้ซื้อได้ด้วยวิธีไหน ซึ่ง Big Data คือการนำข้อมูลรอบๆ ตัว จากหลายๆ ส่วนมาประมวล วิเคราะห์ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อ  จึงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับเจ้าของร้านอาหาร ที่จะนำมาวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมลูกค้า […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2024 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.