การตลาดแบบปากต่อปาก : ทำอย่างไรให้คนพูดถึง “แบรนด์” คุณ - Amarin Academy

การตลาดแบบปากต่อปาก : ทำอย่างไรให้คนพูดถึง “แบรนด์” คุณ

การตลาดแบบปากต่อปาก : ทำอย่างไรให้คนพูดถึง “แบรนด์” ของคุณ

ผู้คนสื่อสารกันกว่า 16,000 คำต่อวันและทุกๆ ชั่วโมง มีมากกว่า 100 ล้านประโยคสนทนาที่เกี่ยวกับ “แบรนด์” พวกเราชอบที่จะแบ่งปันเรื่องราวและข่าวสารต่างๆ ให้กับคนรอบตัวได้รับรู้ แต่ทำไมเราเลือกที่จะพูดถึงสิ่งหนึ่ง ในขณะเดียวกันก็เลือกที่จะไม่พูดถึงอีกหลายสิ่งที่ได้ประสบมา นั่นเป็นที่มาของ การตลาดแบบปากต่อปาก ที่เราจะมาพูดถึงกันในวันนี้

การตลาดแบบปากต่อปาก (Word of Mouth Marketing)

มีบริษัทจำนวนมากมายหลายแห่งทุ่มงบกว่าล้านบาทไปกับการโฆษณา เพื่อพยายามที่จะดึงดูดความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย แต่บางครั้งแบรนด์เหล่านั้นกลับถูกเพิกเฉย เพราะมีลูกค้าจำนวนไม่ถึง 10% ที่ยังคงจงรักภักดีกับแบรนด์เดิมอยู่

ในทางกลับกันก็มีบางบริษัทที่แทบจะไม่ได้จ่ายเงินเพื่อทำการตลาดเลย แต่กระนั้นพวกเขาก็ยังได้ใจจากลูกค้าไปเต็มๆ ยิ่งไปกว่านั้นลูกค้ากลุ่มนี้ยังเต็มใจบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสินค้า และแนะนำต่อให้กับคนรู้จัก ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสในการรับรู้ของแบรนด์ให้เพิ่มมากขึ้น โดยที่เจ้าของแบรนด์ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการทำการตลาดเลยสักบาท

การส่งต่อข้อมูลจากบุคคลหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งหรือสิ่งที่เรียกว่า ปากต่อปาก เป็นหนทางหนึ่งที่ทรงพลังมากที่สุดในโลกธุรกิจทุกวันนี้ จากผลการสำรวจของนีลเส็นบริษัทที่ให้ข้อมูลและการประเมินผลชั้นนำของโลก บ่งชี้ว่าผู้บริโภคกว่า 92% เชื่อคำแนะนำจากเพื่อนและครอบครัวมากกว่าคำโฆษณา

ข้อดีอีกข้อหนึ่งของการตลาดแบบปากต่อปากคือ เป็นการคัดสรรผู้ฟังไปในตัว เพราะคนส่วนใหญ่มักจะแชร์ข้อมูลให้กับคนที่พวกเขาคิดว่ากำลังสนใจเรื่องนั้นๆ อยู่ อีกทั้งลูกค้าที่มาจากการบอกต่อ มีอัตราการใช้จ่ายเฉลี่ยมากขึ้นกว่า 20 – 50 %  ซึ่งเป็นผลมาจากคำแนะนำแบบปากต่อปาก นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไม การตลาดแบบปากต่อปากจึงมีพลังมากนัก โดยกุญแจสำคัญที่จะทำให้คนอยากบอกต่อนั้นคือ ต้องเข้าใจว่าอะไรเป็นแรงจูงใจให้ผู้คนอยากพูดถึงและแบ่งปันแบรนด์ของคุณให้คนอื่นได้รับรู้

5 หลักการที่ผลักดันให้ผู้คนอยากพูดคุยและแบ่งปัน

Jonah Berger ศาสตราจารย์คณะบริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย เขียนหนังสือที่ชื่อว่า Contagious: Why things catch on เขาพูดถึงหลักการที่จะช่วยผลักดันให้ผู้คนอยากแชร์เรื่องราวที่ได้พบและประสบมาให้กับคนอื่นๆ ได้รับรู้ ลองเอาข้อมูลเหล่านี้ไปปรับใช้ เพื่อสร้างเนื้อหาที่น่าดึงดูดใจและทำให้ผู้คนอยากพูดถึงสินค้า บริการ หรือแม้กระทั่งชื่อแบรนด์ของคุณกันครับ

 

1.สถานะทางสังคม

ผู้คนให้ความสนใจเกี่ยวกับภาพลักษณ์ของตนเองที่ปรากฏในสายตาของคนอื่น นี่คือเหตุผลที่ทำให้พวกเราอยากแชร์สิ่งที่ทำให้ตัวเองดูดี ดูฉลาด และเป็นคนสนุกสนาน ทำไมเราต้องพูดถึงดีลดีๆ ที่ได้รับจากร้านค้าหรือช่วงเวลาพิเศษ ที่เราได้รับการอัพเกรดตั๋วโดยสารเครื่องบินไปเป็นตั๋วประเภท First Class แต่ถ้าไม่พอใจเราก็จะมองข้ามเรื่องราวเหล่านั้นไป

ผู้คนใช้เงินเพื่อซื้อสินค้าและบริการเพื่อแลกกับความพึงพอใจและการยอมรับทางสังคม สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้คนที่รู้จัก ทั้งเพื่อนร่วมงาน ครอบครัว เพื่อนเก่า ต่างรับรู้ได้ถึงรสนิยมของคนๆ นั้น วิธีหนึ่งที่ทำให้คนพูดถึงสินค้าของคุณได้คือ การทำให้พวกเขารู้สึกว่าตัวเองเป็นคนพิเศษหรือสร้างบางสิ่งที่จะทำให้พวกเขาดูโดดเด่น อย่างการสร้าง Content ที่ทำให้คนแชร์รู้สึกว่าตัวเองดูฉลาดและน่าสนใจ เป็นต้น

2.อารมณ์ความรู้สึก

Berger บอกว่า เราแชร์เมื่อเราแคร์ เหมือนกับที่ลูกค้าหลายคนจงรักภักดีกับบริษัทที่พวกเขารู้สึกผูกพัน ผู้คนแบ่งปันเมื่อพวกเขารู้สึกถึงบางสิ่ง โดยประเภทของอารมณ์มีความสำคัญเช่นกัน เรามีแนวโน้มที่จะแบ่งปันเรื่องราวที่ก่อให้เกิดการเร้าอารมณ์สูง เช่น ความโกรธ ความตื่นเต้น ความสนุกสนาน อารมณ์เหล่านี้ช่วยจุดไฟในตัวคน กระตุ้นให้พวกเขามีแรงขับที่จะทำบางสิ่ง ในอีกทางหนึ่งเรามักหลีกเลี่ยงการพูดถึงเรื่องที่ทำให้ตัวเองรู้สึกเศร้า ดังนั้นอารมณ์ความรู้สึกของเรื่องราวก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่กำหนดได้ว่า เราอยากจะแบ่งปันเรื่องราวเหล่านั้นมากน้อยเพียงใด

3.การเลียนแบบ

เรามักชอบเลียนแบบคนอื่นๆ โดยไม่รู้ตัว วิธีหนึ่งที่ทำได้ง่ายคือการดูว่าพวกเขาทำอะไรบ้าง แล้วจึงเลียนแบบตาม การที่เราได้รับอิทธิพลจากคนอื่น โลกออนไลน์ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าคำกล่าวนี้เป็นจริง เมื่อคุณเลื่อน IG แล้วเห็นใครบางคนสวมเสื้อยืดสุดเท่และคุณก็ชอบสไตล์ของคนๆ นั้น คุณอาจตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแบบเดียวกันมาใส่โดยไม่รู้ตัว ดังนั้นการสังเกตการณ์ของผู้คนจึงเป็นส่วนสำคัญ ในการทำให้สินค้าและแนวคิดต่างๆ เป็นที่น่าจับตา

4.คุณค่า

ผู้คนทั่วไปชอบช่วยเหลือคนอื่น เรามักแบ่งปันแนวคิดและแนวทางในการแก้ปัญหาที่เคยใช้ได้ผลกับตัวเองมาแล้ว ให้คนอื่นที่ต้องการความช่วยเหลือได้รับรู้ เราอาจแนะนำแอปพลิเคชั่นที่ช่วยในการวางแผนทางการเงินหรือดีลส่วนลดดีๆ ให้กับคนรู้จัก เพื่อช่วยพวกเขาประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น

สำหรับเจ้าของแบรนด์ คุณจำเป็นต้องไฮไลต์เอาคุณค่าของสินค้าคุณขึ้นมาให้ได้ว่า สินค้านั้นมีดีตรงไหน และมีประโยชน์ในชีวิตด้านใด เช่น ผลิตภัณฑ์นั้นช่วยให้ประหยัดเงิน เวลา หรือช่วยพัฒนาลูกค้าในด้านต่างๆ เป็นต้น

5.เรื่องราว

“เราต้องการสร้างเรื่องเล่าเป็นของตัวเอง ไม่ใช่เพียงแต่เรื่องราวธรรมดาๆ แต่ต้องเป็นเรื่องที่มีแนวคิดและคอนเซ็ปต์โดดเด่นน่าสนใจ” Jonah Berger

แบรนด์อาจถ่ายทอดเรื่องราวจากความรู้สึกหรือประสบการณ์ของเจ้าของ ซึ่งทำให้แบรนด์นั้นๆ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวยากที่จะหาใครมาเลียนแบบได้ เรื่องราวนั้นมีได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นตัวตน แนวความคิด รวมไปถึงการสร้างเรื่องเล่า เพื่อให้คนอื่นๆ มองเห็นและรับรู้ตัวตนของคุณ

เมื่อคุณสามารถทำให้เกิดการบอกต่อกันแบบปากต่อปากแล้ว คุณก็ไม่จำเป็นต้องทุ่มงบไปที่การโฆษณาหรือจ่ายเงินเพื่อให้กระทู้คุณขึ้นหน้าแรกของเว็บไซต์ Google เพราะลูกค้าเต็มใจจะบอกต่อเรื่องราวเกี่ยวกับสินค้าและบริการของคุณให้กับคนรู้จักแบบฟรีๆ ความรู้สึกที่เจ้าของกิจการได้ยินคนพูดถึงบริษัทของตัวเองในแง่ดี คงจะดีกว่าค่าความพึงพอใจที่ปรากฏออกมาในแง่ของสถิติ ลองทำตามหลักการข้างต้นนี้ แล้วคุณจะพบผลลัพธ์ที่แตกต่าง

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

5 ปัญหาร้านอาหาร ยอดฮิต ที่เจ้าของมักเจอ

5 ข้อควรรู้ สื่อสาร บนโลกออนไลน์ไม่ให้เกิดดราม่า

เรื่องแนะนำ

#ถอดบทเรียน BEARHOUSE ลงทุนเป็นแสน ทำเพลงให้ร้านชานม “Music Marketing” กลยุทธ์ที่ให้มากกว่าความเพลิดเพลิน

#ถอดบทเรียน BEARHOUSE ลงทุนเป็นแสน ทำเพลงให้ร้านชานม การสร้าง Brand Loyalty และอยากเป็น “เพื่อน” “Music Marketing” กลยุทธ์ที่ให้มากกว่าความเพลิดเพลิน เพราะเพลงมีอิทธิพลต่ออารมณ์และความรู้สึกของมนุษย์… สอง youtuber ดัง คุณกานต์ และคุณซารต์ เจ้าของแบรนด์ Bear House ได้ออกมาเล่าถึงแรงบันดาลใจในการทำเพลงหรือ BEARHOUSE Playlist เพื่อนำมาเปิดในร้าน โดยทั้งคู่ได้มาแชร์เรื่องราวของการทำเพลงนี้ ดังนี้ 🔸แรงบันดาลใจ💖 โดยคุณกานต์ และคุณซารต์ได้เล่าว่า จุดเริ่มต้นของการทำเพลงนี้ มาจากช่วงที่พวกเขาต้องทำงานอยู่บ้านหรือ Work frome Home นั้น ได้มีการเปิดเพลย์ลิสต์เพลงของแบรนด์สินค้าสุดมินิมอลอย่าง Muji ฟังอยู่ตลอด ซึ่งการฟังเพลงนี้ได้ทำให้เขารู้สึกราวกับว่าเขากำลังเลือกซื้อของอยู่ในร้าน Muji อะไรอย่างนั้นเลย อีกทั้งยังทำให้เขาเกิดความรู้สึกจงรักภักดีต่อแบรนด์ จนรู้สึกว่าถ้าไปห้างจะต้องแวะไปซื้อของที่ Muji ด้วย ทั้งนี้จึงทำให้พวกเขาเกิดแรงบันดาลใจว่าเมื่อเพลงของ Muji ทำให้เกิดความรู้สึกแบบนี้ได้ ก็อยากให้ Bear House มีเพลงที่ฟังแล้วสามารถคิดถึง Bear House […]

แผนการตลาด

สำรวจก่อนเริ่มทำ แผนการตลาด ธุรกิจ E-Commerce

ธุรกิจ E-Commerce แต่ละประเภทอาจมีเป้าหมายและจุดขายที่แตกต่างกัน แต่โดยพื้นฐานส่วนใหญ่แล้วมักมีวัตถุประสงค์ 3 ข้อนี้รวมอยู่ด้วย คือ เพิ่มจำนวนผู้เข้าชมและสร้างการรับรู้ เปลี่ยนจากผู้เข้าชมเป็นลูกค้า และสื่อสารกับลูกค้าที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพ

แอปพลิเคชัน Food Delivery

รวม แอปพลิเคชัน Food Delivery ช่องทางช่วยร้านส่งอาหารช่วงวิกฤต COVID-19

ณ ตอนนี้ ที่หลายคนกำลังอยู่ในช่วง Work From Home และมีการออกจากบ้านกันน้อยลง ทำให้บริการ Food Delivery เป็นที่ต้องการและได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงนี้ จนเรียกได้ว่า แอปพลิเคชัน Food Delivery เป็นเหมือนพนักงานร้านอาหารประจำตัวของผู้บริโภคหลายๆ คนไปแล้ว ด้วยการอำนวยความสะดวก การนำเสนอเมนูอาหารจากร้านที่หลากหลาย โปรโมชั่นต่างๆ เหล่านี้ทำให้เป็นตัวช่วยที่ดี ที่ช่วยให้ผู้บริโภคหลีกเลี่ยงการออกจากบ้านได้  ในปัจจุบันมีแอปพลิเคชัน Food Delivery มากมายเป็นตัวเลือกให้กับผู้บริโภค โดยแต่ละแอปพลิเคชัน จะมีการใช้งานที่คล้ายกัน แต่ความแตกต่างจะอยู่ที่ค่าบริการ ร้านอาหารที่เข้าร่วม และพื้นที่ให้บริการ วันนี้เราจึงนำเสนอแอปพลิเคชันFood Delivery ยอดนิยม ที่ผู้ประกอบการควรรู้จัก และนำมาปรับใช้กับธุรกิจของคุณในช่วงวิกฤตแบบนี้มาให้ดูกันค่ะ   รวม แอปพลิเคชัน Food Delivery ช่วยร้านส่งอาหารช่วงวิกฤต COVID-19 Line Man Line Man เป็นแอปพลิเคชันที่ให้บริการหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการสั่งอาหาร เรียกแท็กซี่ ส่งพัสดุ เมสเซนเจอร์ และซื้อสินค้า ในส่วนของบริการส่งอาหารนั้น LINE […]

เพิ่มยอดขายร้านอาหาร

วิธี เพิ่มยอดขายร้านอาหาร จากลูกค้าที่มาคนเดียว

การที่ลูกค้ามาคนเดียว สั่งอาหารแค่จานเดียว หมายถึงยอดขายของคุณย่อมน้อยลง เราจึงขอแชร์วิธี เพิ่มยอดขายร้านอาหาร จากลูกค้าที่มาคนเดียว ให้รู้กัน

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2023 AMARIN PRINTING AND PUBLISHING PUBLIC COMPANY LIMITED.