ใครก็ทำได้! รายได้เสริมลงทุนหลักร้อย ขาย ‘เครื่องดื่ม’ ทำง่าย ได้กำไรเน้นๆ

ใครก็ทำได้! รายได้เสริมลงทุนหลักร้อย ขาย ‘เครื่องดื่ม’ ทำง่าย ได้กำไรเน้นๆ

      
       สมัยนี้ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการหรือมนุษย์เงินเดือน ก็คงอยากมีช่องทางเพิ่มรายได้ ซึ่งหนึ่งในธุรกิจยอดนิยมก็คือการขายอาหาร เนื่องจากเริ่มต้นง่าย ไม่จำเป็นต้องลงทุนเยอะ สามารถทำควบคู่ไปพร้อมกับงานประจำได้ สำหรับใครที่ไม่ถนัดการทำอาหาร การขาย เครื่องดื่ม แบบบรรจุขวดก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะใช้อุปกรณ์น้อย ต้นทุนไม่สูง คุมมาตรฐานความสะอาดได้ และที่สำคัญคือสะดวกต่อการขนส่งผ่านช่องทางการขายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการขายออนไลน์ การวางขายเพิ่มยอดในร้านอาหาร หรือการส่งขายตามหมู่บ้านหรือสำนักงาน

       การจับเทรนด์เดลิเวอรีนั้นเป็นกลยุทธ์การสร้างยอดขายที่สำคัญในยุคสังคม New normal ที่เหมาะสำหรับทั้งผู้เริ่มต้นธุรกิจใหม่ และเจ้าของกิจการร้านอาหารที่เปิดให้บริการหน้าร้านอยู่แล้ว เพราะธุรกิจต้องมีการปรับตัวตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป การมีช่องทางการขายที่หลากหลายตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภค จะช่วยเพิ่มช่องทางสร้างรายได้ให้กับร้าน ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการเดลิเวอรี่ด้วยตัวเอง การเข้าร่วมกับแพลตฟอร์มเดลิเวอรี หรือเพิ่มเมนูเครื่องดื่มบรรจุขวดพร้อมส่ง ก็เป็นวิธีง่ายๆที่จะช่วยการเพิ่มยอดขายร้านอาหาร  และยังเป็นตัวช่วยในการขยายฐานลูกค้าได้อีกด้วย

ใครก็ทำได้! รายได้เสริมลงทุนหลักร้อย
ขาย ‘เครื่องดื่ม’ ทำง่าย ได้กำไรเน้นๆ

 มือใหม่ก็ขายได้ หรือมีร้านแล้วก็ขายดี

       สำหรับมือใหม่ที่อยากมีธุรกิจส่วนตัว ควรเริ่มต้นจากการประเมินงบที่พร้อมใช้ในการลงทุน มองหาธุรกิจที่ง่ายต่อการบริหารจัดการ เพื่อลดความเสี่ยงของการทำธุรกิจ อาจลองเริ่มก้าวแรกด้วยการขายเครื่องดื่ม แนะนำให้เริ่มจากเครื่องดื่มประเภทพร้อมชง ที่หาวัตถุดิบได้ง่ายในต้นทุนหลักร้อย แต่สามารถบวกกำไรได้เยอะ และง่ายต่อการควบคุมมาตรฐานรสชาติให้อร่อยสม่ำเสมอ

       ในมุมของผู้ประกอบการเอง การเพิ่ม “เมนูเครื่องดื่มเย็น” ก็สามารถเป็นตัวช่วยตัวดึงกำไรให้กับร้านได้ เพราะมีต้นทุนต่ำกว่าเมนูอาหาร และอาจจะใช้กลยุทธ์การทำ Set menu จับคู่อาหารกับเครื่องดื่ม ทำให้ลูกค้ารู้สึกถึงความคุ้มค่าและเต็มใจซื้อมากขึ้น ช่วยเพิ่มยอดขายต่อออเดอร์ และเพิ่มกำไรให้กับร้านได้ แม้จะมีจำนวนลูกค้าเท่าเดิม

 

เมนูยอดนิยม มีไว้ยังไงก็ขายได้

       พนักงานร้านอาหารทั่วไปมักจะถามลูกค้าว่า “รับเครื่องดื่มอะไรดีคะ/ครับ” ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะเลือกสั่งน้ำเปล่า หรือน้ำอัดลมที่ร้านได้กำไรไม่มากนัก กลยุทธ์หนึ่งที่จะช่วยกระตุ้นยอดขายเครื่องดื่มในร้านได้ คือให้พนักงานแนะนำเมนูเครื่องดื่มในร้านก่อน โดยเฉพาะเมนูเครื่องดื่มที่ได้กำไรสูง

       มาลองดูตัวอย่างการคิดต้นทุนจากเครื่องดื่มชงยอดนิยมอย่าง “ชามะนาว” และเมนูสีสันสดใสอย่าง “บลูเลมอนเนด” ชงง่าย ได้กำไรเน้นๆ ถือเป็นเครื่องดื่มที่ควรมีติดไว้ในเมนูของร้าน หรือบรรจุขวดขายเป็นทางเลือกให้ลูกค้า เพิ่มกำไรให้กับร้านอาหารอย่างมีประสิทธิภาพ

เนสที ชามะนาว

เนสที ชามะนาว

       เมนูเครื่องดื่มขวัญใจมหาชน ไม่ว่าจะเป็นร้านไหนๆ ก็ต้องมีเมนูนี้ และลูกค้าเองก็ชอบสั่งเช่นกัน เนสที ชามะนาว นั้นเหมาะกับการดื่มช่วงอากาศร้อน ช่วยให้รู้สึกสดชื่นได้เร็ว ยิ่งถ้าเป็นร้านที่ไม่ได้ติดแอร์ หรือลูกค้าเดินทางมาจากบรรยากาศร้อนๆ การให้พนักงานเสนอขายเครื่องดื่มก่อน ก็จะช่วยกระตุ้นความอยากให้กับลูกค้าด้วย หรือจะนำไปทำเป็นโปรโมชั่นรวมกับอาหารที่มีรสชาติเผ็ดก็เป็นไอเดียที่ดี โดยวิธีการทำของ “เนสที ชามะนาว” มีดังนี้

เนสทีชามะนาว 1 ถุง ชงได้ปริมาณ 7,700 มิลลิลิตร | ต้นทุนที่ 2 บาท ต่อแก้ว

ส่วนผสมเนสที ชามะนาว : สำหรับ 33 แก้ว (แก้วละ 200 มิลลิลิตร)

เนสที ชามะนาว                     1,000 กรัม

น้ำร้อน                                   1,000 มิลลิลิตร

น้ำเปล่าอุณหภูมิห้องปกติ     6,000 มิลลิลิตร

 วิธีทำเนสที ชามะนาว :

– เตรียม น้ำร้อน 1,000 มิลลิลิตร ใส่ถังชง

– เทผงเนสที ชามะนาวลงไป 1 ถุง และคนให้เข้ากัน

– เติมน้ำเปล่าอุณหภูมิปกติลงไป 6,000 ลิตร และคนให้เข้ากันอีกรอบ

 คำนวณรายได้ :

ถ้าตั้งราคาขายแก้วละ 15 บาท คุณจะได้กำไรแก้วละ 13 บาท หากขายได้ทั้งหมด 33 แก้ว คุณจะใช้ต้นทุนแค่ 66 บาท แต่ได้กำไรถึง 429 บาท!

 

บลูเลมอนเนด

เมนูเครื่องดื่ม

       เมนูเครื่องดื่มสุดสร้างสรรค์ ที่สามารถต่อยอดให้กลายเป็นเครื่องดื่มระดับพรีเมียมได้ไม่ยาก ด้วยรสชาติและสีสันที่เป็นเอกลักษณ์ เสิร์ฟในแก้วค็อกเทลสวยๆ ตกแต่งด้วยใบมินต์หรือมะนาวผ่าซีก ก็สามารถอัพราคาต่อแก้วได้ถึงหลักร้อยเลยทีเดียว เพียงแค่มีภาพโปรโมทสวยๆ ทำเป็นป้ายตั้งบนโต๊ะอาหาร หรือจะเป็นแผ่นโฆษณาแนบไปกับเล่มเมนู ก็ช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าอยากสั่งได้ โดยวิธีการทำของ “บลูเลมอนเนด” มีดังนี้

เนสท์เล่ ฟรุตไทม์ เลมอนเนด 1 ถุง ชงได้ปริมาณ 5,200 มิลลิลิตร | ต้นทุนไม่เกิน 7 บาท ต่อแก้ว

ส่วนผสมบลูเลมอนเนด : สำหรับ 26 แก้ว (แก้วละ 200 มิลลิลิตร)

เนสท์เล่ ฟรุตไทม์ เลมอนเนด    340 กรัม

น้ำร้อน                                         1,000 มิลลิลิตร

น้ำเปล่าอุณหภูมิห้องปกติ          4,000 มิลลิลิตร

ไซรัปบลูเลมอนเนด                    50 มิลลิลิตร

 วิธีทำบลูเลมอนเนด :

– เตรียม น้ำร้อน 1,000 มิลลิลิตร ใส่ถังชง

– เทผงเนสท์เล่ ฟรุตไทม์ เลมอนเนด ลงไป 1 ถุง และคนให้เข้ากัน

– เติมน้ำเปล่าอุณหภูมิปกติลงไป 4,000 มิลลิลิตร

– เติมไซรัปบลูเลมอนเนด 50 มิลลิลิตร และคนให้เข้ากันอีกรอบ

 คำนวณรายได้ :

ถ้าตั้งราคาขายแก้วละ 30 บาท คุณจะได้กำไรแก้วละ 23 บาท หากขายได้ครบทั้ง 26 แก้ว คุณจะใช้ต้นทุนแค่ 182 บาท แต่ได้กำไรถึง 598 บาท! (*ราคาขายขึ้นอยู่กับทำเลและชนิดของร้าน)

 

       จากตัวอย่างเมนูที่เราได้นำเสนอมา จะเห็นได้ว่าเมนูเครื่องดื่มนั้นสามารถทำกำไรได้สูง และมีวิธีการทำที่ง่ายมาก ใช้เวลาสั้นๆ ใครก็สามารถชงออกมาอร่อยได้อย่างเป็นมาตรฐาน

       ไม่ว่าธุรกิจจะพบความท้าทายขนาดไหน แต่ในวิกฤตมีโอกาสเสมอ หากต้องการความสำเร็จก็ต้องพร้อมจะเปิดรับโอกาสและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ด้วยผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเย็นจาก เนสท์เล่ โพรเฟชชันนัล ที่มีให้เลือกหลากหลาย ประหยัดคุ้มค่าอย่างมืออาชีพ ให้ธุรกิจพร้อมเดินหน้าต่อ!

สามารถติดตามสูตรและวิธีชงเพิ่มเติมได้ ที่นี่

สนใจสินค้า ติดต่อตัวแทนจำหน่ายเนสท์เล่ โพรเฟชชันนัลทั่วประเทศ
ติดต่อ Call center 02-657-8625 กด 1 หรือ หรือกรอกแบบฟอร์มให้ติดต่อกลับที่นี่ หรือแอด LINE @NestleProfessional

 

เรื่องแนะนำ

ธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพ

4 ความลับ ที่เจ้าของ ธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพ ต้องรู้

ใครคิดจะทำ ธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพ ต้องคิดให้ลึกมากกว่าเดิม เพราะตอนนี้ผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มคนรักสุขภาพอาจไม่ได้ต้องการเพียงแค่อาหารคลีนๆ เหมือนเดิมแล้ว

ถอดบทเรียนสุกี้ตี๋น้อย เหตุผลของปรากฎการณ์ 5 ทุ่มก็ยังคิวล้นร้าน

ถอดบทเรียน สุกี้ตี๋น้อย เหตุผลของปรากฎการณ์ 5 ทุ่มก็ยังคิวล้นร้าน ผู้บริโภคตั้งคำถาม หลังอยากกิน ตี๋น้อย แต่คิวยาวทุกร้าน พร้อมรวมเหตุผลจากผู้บริโภคหลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกัน เป็นเหมือนกันไหม ? อยากกิน ตี๋น้อย แต่คิวยาวเกิ้น… ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้มาโพสต์ตั้งคำถามใน “กลุ่มคนรักบุฟเฟต์ (Buffet Lovers)” ถึงเรื่องการไปใช้บริการร้านสุกี้ตี๋น้อย ที่มักจะพบว่าทุกสาขามีลูกค้ารอคิวอยู่ยาวเหยียดตลอด พร้อมตั้งคำถามถึงการใช้กลยุทธ์การตลาดของร้านดังกล่าว ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้โพสต์ว่า “การตลาดตี๋น้อยเขาดีหรืออะไรยังไง เมื่อคืน5ทุ่มกว่าๆ ไปกินคิดว่าไม่มีคิว พอไปถึงคิวยาวเหยียด วนรถไปอีกสาขาก็คิวยาวเหมือนกัน ยอดขายจะปังไปไหน” ซึ่งเมื่อเรื่องนี้ออกไปก็ได้มีสมาชิกกลุ่ม ผู้บริโภคต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นถึงเหตุผลที่ใครต่อใครมักจะไปใช้บริการร้านสุกี้ตี๋น้อย จนทำให้ทุกสาขามีคิวยาวอย่างที่เห็น โดยสามารถสรุปเป็นเหตุผลหลัก ๆ ดังนี้ ความคุ้มค่า เรื่องราคาเป็นเหตุผลอันดับแรก ๆ ที่หลายคนบอกว่าเป็นปัจจัยที่ทำให้พวกเขามาใช้บริการร้านสุกี้ตี๋น้อย เนื่องจากสุกี้ตี๋น้อย ถือว่าอยู่ในเรทราคาที่จับต้องได้ และสามารถทานได้หลายอย่าง โดยบางคนได้ยกตัวอย่างว่าถ้าเทียบกับร้านอื่นที่เรทราคาเท่ากัน บางร้านอาจจะไม่มีอาหารประเภทซีฟู้ดรวมอยู่ด้วย แต่สุกี้ตี๋น้อยมี และที่สำคัญคุณภาพของวัตถุดิบที่ใช้ ก็อยู่ในระดับที่เขาพึงพอใจ ประกอบกับบรรยากาศของร้านสุกี้ตี๋น้อยที่อยู่ในห้องแอร์ มีที่นั่งกว้างขวาง จึงทำให้เขารู้สึกคุ้มค่าในการมาใช้บริการ ช่วงเวลาในการเปิด ต่อมาคือช่วงเวลาในการเปิดปิดร้านที่เปิดตั้งแต่ 12.00-05.00 ด้วยช่วงเวลาเปิดที่ยาวนานถึงดึก ตรงนี้จึงเป็นจุดหนึ่งที่ตอบโจทย์ลูกค้าที่ไม่มีเวลามาใช้บริการในช่วงกลางวัน […]

โฆษณาร้านอาหาร

การใช้ QR Code เพื่อ โฆษณาร้านอาหาร

        การ โฆษณาร้านอาหาร ให้เข้าถึงผู้บริโภคเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะช่วงนี้ที่ทุกคนหันมาเน้นบริการเดลิเวอรี การใช้ QR-code เป็นช่องทางหนึ่งที่จะช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงข้อมูลของร้านได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ส่วนเจ้าของร้านอาหารก็สามารถทำการตลาดผ่าน QR code โดยใช้ต้นทุนต่ำ รวมถึงดูสถิติการเข้าถึงจากจำนวนครั้งที่มีการสแกน QR code ได้อย่างง่ายดาย บทความนี้ขอนำเสนอการใช้ QR Code ให้เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจร้านอาหารในรูปแบบต่างๆ และช่องทางการสร้าง QR CODE ออนไลน์ได้ง่ายๆ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย การใช้ QR Code เพื่อ โฆษณาร้านอาหาร         “QR Code” ย่อมาจากคำว่า Quick Response Code เป็นรหัสบาร์โค้ดในรูปแบบ 2 มิติ สามารถใช้งานได้ง่ายๆ ด้วยโดยสแกนจากกล้องในโทรศัพท์มือถือ ซึ่งผู้ประกอบการสามารถเลือกสร้าง QR Code ที่แสดงผลได้หลากหลายรูปแบบตามต้องการ ได้แก่ เว็บไซต์ของร้านอาหาร  ข้อมูลช่องทางการติดต่อ  […]

โปรโมทร้าน

7 เคล็ดลับ ทำอย่างไรให้ลูกค้าเต็มใจ โปรโมทร้าน 

สมัยนี้รีวิวร้านอาหารในโซเชียลมีเดียมีผลต่อการตัดสินใจของลูกค้าอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นรีวิวร้านอาหารในเฟซบุ๊ก หรือรูปร้านสวยๆ ในอินสตาแกรม ก็สามารถทำให้คนที่เห็นสนใจ อยากจะตามไปลองด้วยตัวเอง แม้แต่ความเห็นในเว็บรีวิวร้านอาหารต่างๆ ร้านไหนได้รับการรีวิวดี โอกาสที่ลูกค้าจะเลือกเข้ามาที่ร้านก็จะสูงตามไปด้วย บางร้านอาจจะ โปรโมทร้าน โดยลงทุนจ้าง Influencers แต่อีกตัวเลือกหนึ่งก็คือการรีวิวจากลูกค้าจริงที่มาใช้บริการ ถ้าร้านของเรามีความน่าประทับใจ ลูกค้าก็พร้อมที่จะถ่ายรูปเพื่อแชร์ลงในโซเชียลมีเดียอยู่แล้ว ซึ่งเป็นการบอกต่อโดยที่ร้านไม่ต้องเสียค่าโฆษณาเลย และยังดูมีความน่าเชื่อถือมากกว่าการจ้างคนมารีวิวอีกด้วย  วันนี้เราจึงมีเทคนิคดีๆ ที่คุณสามารถทำให้ร้านได้รับการโปรโมทจากลูกค้าโดยไม่ต้องซื้อโฆษณามาฝากกันนะคะ   7 เคล็ดลับ ทำให้ลูกค้าเต็มใจ โปรโมทร้าน    จัดจานเสิร์ฟให้ปัง ลองเพิ่มจุดเด่นให้แก่ร้านด้วยการตกแต่งจานให้สร้างสรรค์ คิดเมนูฟิวชั่นใหม่ๆ หรือเลือกเสิร์ฟอาหารให้น่าสนใจ เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่แตกต่างจากร้านอื่น กระตุ้นให้ลูกค้าเก่ากลับมาใช้บริการ และลูกค้าใหม่อยากมาลองสักครั้งในชีวิต ตัวอย่างเช่น อาหารจานยักษ์ที่เพิ่มปริมาณให้มากขึ้น สร้างความท้าทายแก่ลูกค้าและต้องชวนกันมากินหลายๆคน หรือกะเพราถาด ที่นำข้าวกะเพราแบบเดิมๆ มาเสิร์ฟในถาดก็สร้างความประทับใจแก่ลูกค้าขึ้นมาได้แล้วค่ะ ร้านสวยจนต้องแชร์ เพราะร้านอาหารไม่ใช่แค่ที่ทานข้าว แต่ยังเป็นที่ถ่ายรูปเช็คอินเพื่อโชว์ไลฟ์สไตล์ของตัวเองให้โลกรู้อีกด้วย ร้านที่มีธีมน่าสนใจหรือตกแต่งร้านสวยงาม มักจะมีคนแวะมาถ่ายรูปแชร์ลงในโซเชียลมีเดีย รวมถึงมีลูกค้าใหม่ๆ มาลองใช้บริการมากขึ้นตามไปด้วย แนะนำให้ใส่ใจตั้งแต่ป้ายของร้าน ชื่อร้านควรอ่านได้ง่าย ประตูร้านสวยงามดูแล้วประทับใจอยากแวะเข้ามาในร้าน มีมุมเก๋ๆ ให้ลูกค้าได้ถ่ายรูป ถ้าร้านขนาดเล็กลองใช้สีโทนสว่าง และติดหน้าต่างขนาดใหญ่เพื่อให้ร้านดูกว้างขึ้น และยังทำให้ถ่ายรูปได้แสงธรรมชาติสวยๆ อีกด้วย ลองเลือกปรับตามธีมของร้านและกลุ่มลูกค้าของคุณ เพื่อเพิ่มโอกาสที่ลูกค้าจะมาเช็กอินโปรโมทร้านดูนะคะ […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2024 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.