ภาพลูกค้านั่งรอบนเก้าอี้ตัวเล็กสีส้มบริเวณหน้าร้าน เป็นภาพชินตาที่เรามักจะเห็นจากร้านปิ้งย่างเกาหลี nice two Meat u แทบทุกสาขา เชื่อว่าหลายคนต้องเกิดความสงสัยว่า อะไรที่ทำให้ร้านเป็นที่นิยมจนลูกค้าต้องรอ เป็นแค่กระแสหรือเปล่า แล้วเจ้าของร้านมีวิธีบริหารจัดการอย่างไร เรามีโอกาสได้ไปลองทานและสัมภาษณ์เจ้าของร้าน ซึ่งเป็น 2 สาว อารมณ์ดี คุณแนท นันทนัช และ คุณเกศ ชุติมา จะมาแชร์เคล็ดลับให้ฟังกัน
ถอดเคล็ดลับ ร้านปิ้งย่างเกาหลี nice two Meat u
ชูจุดเด่นของแบรนด์ด้วยงานบริการ
nice two Meat u เราเปิดให้บริการมาแล้ว 3 ปี กับสาขาทั้งหมดในปัจจุบัน คือ 6 สาขา เราเลือกที่จะเน้นเรื่องบริการที่ดีที่สุด ซึ่งเป็นความตั้งใจของเรา ถ้าเข้ามาร้านจะสังเกตได้ว่า พนักงานเราจะมีบริการประกบตามโต๊ะเลย 1 ต่อ 1 บริการปิ้งให้ลูกค้า
เราเล็งเห็นความสำคัญในเรื่องของงานบริการ ที่จะดึงจุดนี้มาเป็นจุดขายตั้งแต่แรกเลย จะเห็นว่าร้านเราพนักงานจะเยอะมาก เริ่มแรกเรายังไม่ได้คิดไปในเชิงการตลาด เราคิดแค่ว่าเราต้องการให้ลูกค้าได้รับบริการที่ดี และได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดก่อน นั่นคือความตั้งใจของเรา
เราไม่ต้องการลูกค้าขาจรที่มาแล้วจากไป เราต้องการให้ลูกค้ากลับมาอีก ซึ่งส่วนใหญ่ลูกค้าเราเป็นลูกค้าประจำ แต่ที่สำคัญเลยงานบริการดีแล้ว คุณภาพวัตถุดิบก็ต้องดี รสชาติต้องดีด้วย ซึ่งสำคัญไม่แพ้กัน
ลบคำสบประมาท ว่าเป็นแค่กระแส
(ไม่ว่าจะกี่สาขา จะต้องเห็นภาพคนไปนั่งรอหน้าร้าน เป็นภาพที่เห็นชินตา) นั่งรอที่เก้าอี้สีส้มหน้าร้าน เป็น Signature ของเราเหมือนกัน เราเปิดมา 3 ปีแล้ว ทุกสาขาก็ยังเป็นคิวอยู่ ช่วงแรกเลยจะมีคำสบประมาทว่า มันเป็นแค่เทรนด์หรือเปล่า เป็นกระแสอาหารแบบเกาหลีหรือเปล่า เรากั๊กที่เพื่อให้มีคิว พยายามสร้างคิว เพื่อให้เป็นภาพ ซึ่งอยากบอกว่าไม่จริงเลย ไม่ได้เป็นความตั้งใจเลย เราพยายามที่จะลบคำสบประมาทตรงนั้น ด้วยการทำร้านให้มีคุณภาพจริงๆ ประทับใจลูกค้าจริงๆ ซึ่ง ณ วันนี้ยอดยังก็ยังมากขึ้นเรื่อยๆ
มีการบริหารจัดการคิวที่รวดเร็ว
เราเน้นงานบริการที่ดี เพื่อให้ลูกค้าประทับใจ ดังนั้น ร้านเราเลยมีพนักงานเยอะมาก ยิ่งพนักงานเยอะ ก็ยิ่งจัดการได้เร็ว เราเลือกที่จะใช้พนักงานจำนวนมาก เพื่อให้บริการลูกค้าได้เต็มที่ เข้าถึงได้รวดเร็ว บริการทั่วถึง เราเทิร์นโต๊ะเร็วมาก เพราะกลัวลูกค้าไม่รอ พอลูกค้าลุกจากโต๊ะ จะมีพนักงาน 5-7 คน รีบมาเคลียร์ทันที เพื่อให้ลูกค้าได้เข้ามาเร็วที่สุด ลูกค้าที่รอเพราะเป็นลูกค้าที่เคยมาทานที่ร้าน แล้วประทับใจกับคุณภาพและบริการของเรา ทำให้เขาเลือกที่จะรอได้
ไม่เคยมองคู่แข่ง เป็นอุปสรรค
เราไม่ได้อยากแข่งกับคนอื่น สิ่งที่เราคิดคือ เราแข่งกับตัวเองทุกวัน เราพัฒนาตัวเองทุกวัน เราไม่ได้มองว่าตอนนี้เศรษฐกิจไม่ดี ปัญหาอื่นๆ ทำให้ยอดขายของเราลดลง เรากลับมามองที่ตัวเองก่อนว่า เราทำอะไรผิดไปไหม มีอะไรที่ไม่โอเคหรือเปล่า มีอะไรที่เราควรปรับปรุงเพื่อให้ลูกค้าเข้าร้านมากขึ้น เราจะบอกกันเสมอว่า เราไม่ต้องไปดูใคร เราไม่ต้องไปแข่งกับใคร เพราะทุกๆร้านอร่อย และมีจุดแข็งของตัวเองทั้งนั้น ซึ่งอยู่ที่ความชอบของลูกค้าว่าจะชอบแบบไหนมากกว่า อย่างร้านเราลูกค้าจะชอบรสจัด แซ่บ เข้มข้น ดูว่ารสชาติอาหารแบบไหนที่จะจับกลุ่มลูกค้าได้มากที่สุดแล้วก็พยายามพัฒนาให้ดีที่สุด แข่งกับตัวเองให้มากที่สุด
พัฒนาบุคลากรในร้าน
อย่างที่บอกว่า เราเน้นงานบริการที่ดี ดังนั้น พนักงานของเราก็ต้องได้รับการเทรนด์มาอย่างดีด้วย พนักงานเราเยอะมาก ก็ต้องเทรนด์เยอะ เพื่อให้พนักงานมีคุณภาพในการบริการเป็นมาตรฐานเดียวกันในทุกสาขา ตอนนี้เราก็กำลังสร้าง Training Center อยู่ เทรนด์ประมาณ 1-2 เดือน ก่อนส่งไปประจำตามสาขา
Key success
3 สิ่งหลักๆเลย คือ รสชาติ คุณภาพ และบริการ สำหรับ nice two Meat u 3 สิ่งนี้ต้องแข็งแรงมาก
ตัวเราเอง ยังไม่คิดว่าตัวเองประสบความสำเร็จ มันแค่จุดเริ่มต้น แต่สิ่งที่เรากำลังพยายามทำในวันนี้ก็เพื่ออยากจะประสบความสำเร็จในวันหน้า ขอให้ตั้งใจ รักในสิ่งที่ทำ ทุ่มเทแบบล้านเปอร์เซ็นต์ในจุดที่เราทำได้ และไม่ปล่อยแม้แต่จุดเดียว
อ่านต่อบทความที่น่าสนใจ
ถอดบทเรียน “ หม้อเบ้อเร่อ “ พลิกวิกฤติร้านเกือบเจ๊ง ให้กลับมาอยู่รอดอีกครั้ง
เพราะกล้าที่จะเปลี่ยน สูตรความสำเร็จของเชฟกิ๊ก ทายาทรุ่นที่ 3 ร้าน เลิศทิพย์
กรณีศึกษา Copper Buffet รับมือกับปัญหาที่ไม่คาดคิดอย่างไร ให้ชนะใจลูกค้า
MAJI Curry ข้าวแกงกะหรีี่จากญี่ปุ่น ดึงจุดแข็งดีกรีแชมป์เรียกลูกค้าคนไทย