4 เหตุผล ทำไม เนื้อจากพืช (plant-based meat) ถึงเป็นที่นิยมมากขึ้น - Amarin Academy

4 เหตุผล ทำไม เนื้อจากพืช (plant-based meat) ถึงกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น

Plant-based Meat หรือเนื้อจากพืช คือเนื้อสัตว์ที่ทำจากพืช 95% โดยใช้กระบวนการแปรรูปพืช ให้มีความใกล้เคียงกับเนื้อสัตว์ทั้งผิวสัมผัสและรสชาติ ใช้ส่วนผสมของพืชและโปรตีนจากถั่วชนิดต่างๆ ผสมกับน้ำมันมะพร้าว น้ำมันทานตะวัน  มาผ่านขั้นตอนต่างๆเพื่อให้มีสีสัน ความชุ่มฉ่ำ และรสชาติเสมือนเนื้อมากที่สุด นับเป็นเทรนด์การรับประทานอาหารแนวใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมมากโดยเฉพาะในต่างประเทศ

 

ความนิยม Plant-based Meat หรือ เนื้อจากพืช

ในช่วง 2-3 ปีมานี้ อุตสาหกรรมเนื้อปรุงแต่งจากพืชกลายเป็นธุรกิจที่เกิดขึ้นใหม่ และขยายตัวอย่างรวดเร็ว ส่วนใหญ่อยู่ในสหรัฐอเมริกา, ยุโรป และอิสราเอล หรือมีผู้เข้ามาลงทุนในธุรกิจประเภทนี้มากขึ้น ทำให้การแข่งขันเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตมีแต่ลดลง จนใกล้เคียงกับราคาเนื้อสัตว์แท้

จากข้อมูลของ Euromonitor พบว่าในสหรัฐอเมริกา ยอดขายอาหารสำเร็จรูปของ เนื้อจากพืช ขยายตัวต่อเนื่อง ระหว่างปี 2013 – 2018 มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยถึงปีละ 15.4% เทียบกับเนื้อแปรรูป (Processed Meat) ที่เติบโตปีละ 1.2%  ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลของ NPD Group ผู้ประกอบการในสหรัฐอเมริกาที่ขายเบอร์เกอร์และแซนด์วิชเนื้อที่ทำจากพืช ก็พบว่ายอดขายระหว่างเมษายน 2018 – มีนาคม 2019 เพิ่มขึ้นถึง 7.8% ซึ่งมากสุดเป็นประวัติการณ์

ผู้เล่นใหญ่ในตลาดนี้ ก็คือ Beyond Meat ซึ่งมีการจำหน่ายสินค้าครอบคลุมในซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านค้าต่างๆ  มีการขายปลีกด้วย และมีการเป็นพาร์ทเนอร์กับเชนร้านอาหารรายใหญ่ๆ ในการออกเมนูด้วยสินค้าของ Beyond Meat ด้วย

และอีกหนึ่งคู่แข่งสำคัญ ก็คือ Impossible Foods ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์กับ Burger King ในการจำหน่ายเมนู Impossible Whopper หรือเบอร์เกอร์ที่ทำมาจากเนื้อไร้เนื้อ ซึ่งผลตอบรับค่อนข้างดีมาก

รวมถึงยังมีผู้เล่นรายอื่นๆ เข้ามาร่วมอีก อย่างเนสท์เล่ ก็ได้เปิดตัว “Incredible Burger” ขึ้นในยุโรปเมื่อเดือนเมษายน โดยผสมผสานถั่วเหลือง ข้าวสาลี สารสกัดจากบีทรูทและพืชอาหารอื่นๆ เนสท์เล่วางแผนจะเสนอเมนู “Sweet Earth” เบอร์เกอร์ผักที่ทำจากถั่วตามภัตตาคารจานด่วนในสหรัฐอเมริกา และบริษัทยูนิลีเวอร์ ปีที่ผ่านมาก็ได้นำเสนอร้านขายเนื้อเทียมที่ทำจากผัก โดยประกาศว่าจะเป็นเนื้อเทียมรายใหญ่สุดของโลกด้วยเช่นกัน

สำหรับในไทยนั้น ตอนนี้ร้านอาหารเชนใหญ่อย่าง Sizzler ก็ได้นำวัตถุดิบที่เนื้อจากพืช มาพัฒนาเป็นเมนูใหม่ถึง 4 เมนู และเริ่มวางจำหน่ายเรียบร้อยแล้ว 

 

เนื้อจากพืช
Plant-based Meat

สังเกตได้ว่า กระแสความนิยมของการผลิตเนื้อจากพืช มีมากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มมีหลายองค์กรใหญ่ให้ความสนใจในเรื่องนี้ และดูเหมือนว่ากำลังจะกลายเป็นอาหารแห่งอนาคตไปแล้ว อะไรคือเหตุผลที่ทำให้เนื้อจากพืช มีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมจากทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภคมากขึ้นเรื่อยๆ

 

4 เหตุผล ที่ทำให้ Plant-based Meat หรือ เนื้อจากพืช ได้รับความนิยมมากขึ้น

เหตุผลที่ 1  ผู้บริโภคใส่ใจสุขภาพมากขึ้น

ผู้บริโภคในยุคใหม่ เริ่มให้ความสำคัญกับเรื่องการทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และเชื่อว่าการรับประทานพืชผักมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากกว่าการรับประทานเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะเนื้อที่ผ่านการแปรรูปหรือปรุงแต่ง เช่น ไส้กรอก แฮมต่างๆ อย่างที่องค์การอนามัยโลก (WHO) เคยออกมาระบุว่า เนื้อแปรรูปเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดมะเร็งได้ ทำให้คนรักสุขภาพหลีกเลี่ยงการรับประทานเนื้อสัตว์ หรือเนื้อแปรรูปโดยเฉพาะอาหารประเภทฟาสท์ฟู้ด ทำให้เนื้อจากพืช จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะเนื้อจากพืชยังให้สารอาหาร เช่น โปรตีนแก่ร่างกายครบถ้วนด้วย

 

เหตุผลที่ 2 ผลิตภัณฑ์เนื้อจากพืช พัฒนาให้มีความหลากหลายมากขึ้น

ผู้ผลิตมีการแข่งกันพัฒนาผลิตภัณฑ์และนำเสนอเมนูใหม่ๆ ทำให้ผลิตภัณฑ์เนื้อจากพืช มีความหลากหลาย น่าทดลองทาน  การที่ผู้เล่นในตลาดอาหารหลายรายบรรจุเมนูอาหารที่ทำจากพืชเป็นทางเลือกให้ผู้บริโภค สะท้อนความนิยมในอาหารประเภทนี้ว่ามีอยู่จริง ผู้เล่นบางรายถึงกับเทียบคุณค่าทางโภชนาการระหว่างผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์จริง กับผลิตภัณฑ์เนื้อที่ทำจากพืชที่ออกใหม่ ว่าเนื้อที่ทำจากพืชดีหรือไม่ด้อยกว่าอย่างไร

 

เหตุผลที่ 3 ผู้บริโภคเปิดใจมากขึ้น

ในช่วงแรกนั้น เนื้อจากพืช ยังดูเป็นสิ่งใหม่และแปลกในสายตาของผู้บริโภค จึงเป็นเรื่องยากที่จะกล้าลอง แต่ผู้บริโภคในปัจจุบันหรือคนรุ่นใหม่กล้าที่จะลองมากขึ้น และยอมจ่ายเงินเพื่อซื้อประสบการณ์ให้ตัวเอง

จากผลสำรวจของ เว็บไซต์ Forbes เผยแพร่รายงานวิเคราะห์อุตสาหกรรมบางชิ้นพบว่า ภายในปี 2050 เนื้อที่ทำจากพืชอาจกินส่วนแบ่งถึง 50% ของตลาดเนื้อสัตว์จริง

 

เหตุผลที่ 4  ผู้บริโภคในปัจจุบันจำนวนมากสนใจเรื่องสิ่งแวดล้อม

เนื้อจากพืช เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมอย่างไร รู้หรือไม่ ว่าโลกเราใช้พื้นที่เลี้ยงสัตว์เพื่อเป็นอาหารถึง 77% ของพื้นที่ทำการเกษตรทั้งหมด แต่ได้ผลผลิตคิดเป็นเพียง 17% ของอาหารที่มนุษย์บริโภคเท่านั้น การผลิตเนื้อที่ทำจากพืชใช้ที่ดินน้อยกว่าเนื้อสัตว์จริง 47% – 99% ใช้น้ำน้อยกว่าเนื้อสัตว์จริง 72% – 99% เรียกว่าโดยรวมการผลิตเนื้อที่ทำจากพืชสิ้นเปลืองทรัพยากรการผลิตน้อยกว่าเนื้อสัตว์จริงมาก

การผลิตและบริโภคเนื้อจากพืชยังช่วยลดโลกร้อนได้ด้วย ซึ่งปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ถูกผลิตขึ้นในโลกนี้ ราวหนึ่งในสี่มาจากอาหาร และปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่มาจากอาหารเกิดจากผลิตภัณฑ์อาหารที่มาจากเนื้อสัตว์มากถึง 58% (โดยเฉพาะวัวและแกะ) กระบวนการผลิตเนื้อจากพืชปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยกว่ากระบวนการผลิตเนื้อสัตว์จริง 30%-90% นักวิทยาศาสตร์จึงเชื่อว่า การบริโภคเนื้อจากพืช จะช่วยลดโลกร้อนได้ด้วย

 

การบริโภคเนื้อจากพืช อาจไม่ใช่กระแสแค่ชั่วคราว หากแต่มีแนวโน้มเติบโตขึ้นเรื่อยๆ เนื้อจากพืชมีจุดเด่นหลายเรื่อง ทั้งเป็นมิตรต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ให้คุณค่าทางโภชนาการไม่ด้อยกว่าเนื้อสัตว์จริง ดังนั้น ผู้ผลิตควรใช้โอกาสนี้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อเป็นทางเลือกแก่ผู้บริโภคและเพิ่มความสามารถทางการแข่งขันในระยะยาว

 

 

ขอบคุณภาพ Beyond Meat / A Cuisine

 

อ่านต่อบทความที่น่าสนใจ

ส่องแบรนด์ใหญ่ เดินหน้าลด ขยะพลาสติก แบบใช้แล้วทิ้ง Single-use plastics

ร้านอาหาร กับ บริการเดลิเวอรี่ วางสมดุลไม่ดี ร้านขาดทุนได้

หมัดเด็ด Hai di lao หม้อไฟสัญชาติจีน สู่การเป็นร้านอาหารระดับโลก

เปิดตัว Grab Kitchen ครั้งแรกในไทย รวม 12 ร้านเด็ดไว้ที่เดียว ประเดิมที่แรกสามย่าน

ถอดบทเรียน “ หม้อเบ้อเร่อ “ พลิกวิกฤติร้านเกือบเจ๊ง ให้กลับมาอยู่รอดอีกครั้ง

กรณีศึกษา Copper Buffet รับมือกับปัญหาที่ไม่คาดคิดอย่างไร ให้ชนะใจลูกค้า

ประกาศผลร้านอาหาร มิชลินสตาร์ พร้อมเปิดตัว มิชลิน ไกด์ ฉบับกรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ภูเก็ต และพังงา ปี 2020

 

เรื่องแนะนำ

In Home Delivery

Walmart เปิดตัวบริการ In Home Delivery ให้พนักงานนำสินค้าเติมให้ถึงตู้เย็น

วงการเดลิเวอรี่ เริ่มจะมีสีสันขึ้นเรื่อยๆ แล้วค่ะ เมื่อ Walmart ซูเปอร์มาร์เก็ตชื่อดังในสหรัฐอเมริกามีการปรับตัวให้เข้ากับพฤติกรรมลูกค้าในยุคนี้มากขึ้นด้วยการเปิดตัวบริการ In Home Delivery  บริการจัดส่งสินค้าที่ลูกค้าสามารถสั่งให้พนักงานนำสินค้ามาเติมให้ที่ตู้เย็นโดยตรงแม้คุณจะไม่ได้อยู่บ้าน เรียกว่าเอาใจลูกค้าที่รักความสะดวกสบายอย่างเต็มที่ แล้วมีขั้นตอนการจัดส่งอย่างไรบ้าง?   ขั้นตอนการให้บริการ In Home Delivery บริการ In Home Delivery เริ่มแรกผู้ที่จะใช้บริการจะต้องสมัครสมาชิกบริการจัดส่ง In Home เริ่มต้นที่ 19.95 เหรียญสหรัฐต่อเดือน (ราว 600 บาท) และผู้ซื้อจะต้องซื้อสินค้ามูลค่าอย่างน้อย 30 เหรียญต่อครั้ง สามารถสั่งซื้อการจัดส่งได้บ่อยเท่าที่ต้องการแบบไม่จำกัดความถี่ ขณะที่ระบบล็อกบ้านอัจฉริยะหรือ smart-lock ราคา 49.95 เหรียญสหรัฐ (ราว 1,500 บาท) ติดตั้งให้ฟรี เมื่อเป็นสมาชิกแล้ว มีการสั่งซื้อสินค้า จากนั้นพนักงานจะส่งสินค้าไปให้ถึงในห้องครัวหรือส่วนอื่นๆ ของบ้านลูกค้า   ความปลอดภัยในการให้บริการ หลายคนอาจจะเกิดคำถามว่า แล้วเรื่องของความปลอดภัย จะปลอดภัยหรือไม่ หากต้องให้คนแปลกหน้าเข้ามาส่งของถึงภายในบ้าน หรือความปลอดภัยของสินค้าในขั้นตอนการจัดส่งจะเป็นอย่างไร ซึ่งผู้ใช้บริการนี้ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยค่ะ […]

อมรินทร์กรุ๊ป จับมือ ไทยเบฟเวอเรจ แถลงข่าวโครงการ “ส่งความรู้ สร้างความสุข ปี 3”

อมรินทร์กรุ๊ป จับมือ ไทยเบฟเวอเรจ แถลงข่าวโครงการ “ ส่งความรู้ สร้างความสุข ปี 3 ” เดินหน้าจุดพลังรักการอ่าน 77 จังหวัดทั่วประเทศ   จากความมุ่งมั่นในการสร้างนิสัยรักการอ่านให้กับเด็กไทย ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการศึกษา ผ่านโครงการ “ส่งความรู้ สร้างความสุข” โดยได้ดำเนินการตั้งแต่ปี 2561 ตั้งเป้าจะนำโครงการเข้าโรงเรียนให้ครบ  77  จังหวัด  ภายใน  3  ปี  โดยตลอดระยะเวลา  2 ปีที่ผ่านมา  ได้มีการลงพื้นที่มอบหนังสือพร้อมชั้นวางและจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน  ให้กับโรงเรียนทั้งระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา  รวม  109  โรงเรียน ในพื้นที่  60 จังหวัด  ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย   มอบหนังสือรวมแล้วกว่า  113,000  เล่ม เพื่อปลูกฝังนิสัยรักการอ่านและติดตามผลลัพธ์ของโครงการอย่างจริงจัง ซึ่งมีผลการศึกษาของนักเรียนที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่องจนเข้าสู่ปีที่ 3 บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) และ บริษัท อมรินทร์ […]

พาณิชย์ฯ ประกาศรางวัลการประกวด Thailand Franchise Award 2023 จัดพิธีมอบสุดยิ่งใหญ่เป็นปีที่ 4

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ประกาศรางวัลสุดยอดแฟรนไชส์ การประกวด Thailand Franchise Award 2023 : TFA 2023 จัดพิธีมอบโล่เชิดชูเกียรติสุดยิ่งใหญ่กับความสำเร็จอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 กับรางวัลแห่งเกียรติยศ 5 ประเภท 13 รางวัล เพื่อเชิดชูธุรกิจ แฟรนไชส์ที่มีศักยภาพและมีระบบการบริหารจัดการที่ได้มาตรฐาน พัฒนาและส่งเสริมธุรกิจแฟรนไชส์ให้มีภาพลักษณ์ที่ดี น่าเชื่อถือ ก้าวสู่ความเป็นผู้นำในธุรกิจแฟรนไชส์ และเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ และนักลงทุน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ การจัดประกวดรางวัลธุรกิจแฟรนไชส์ไทย (Thailand Franchise Award) มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและส่งเสริมการตลาดธุรกิจแฟรนไชส์ไทย สร้างการรับรู้ ภาพลักษณ์ที่ดี และเผยแพร่ธุรกิจแฟรนไชส์ผ่านการจัดงานประกวดธุรกิจแฟรนไชส์ โดยปีนี้มีธุรกิจแฟรนไชส์สนใจสมัครเข้าร่วมจำนวน 54 แบรนด์ ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกอย่างเข้มข้น เพื่อที่จะได้รับโล่รางวัลพร้อมประกาศเกียรติคุณในฐานะต้นแบบธุรกิจแฟรนไชส์ไทยในวันนี้ (10 กรกฎาคม 2566) ซึ่งรางวัลในการประกวดแบ่งออกเป็น 5 ประเภท 13 รางวัล โดยแฟรนไชส์ที่ได้รับรางวัลในปีนี้ ได้แก่ ประเภทที่ 1 รางวัลแฟรนไชส์ไทยยอดเยี่ยมตามขนาด รวม 3 รางวัล […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.