“คุณรู้หรือไม่ว่า ตอนนี้คุณหมอที่โรงพยาบาล จะผลัดกันทำงาน คือ ทำงาน 14 วัน แล้วไปกักตัวอีก 14 วัน โดยต้องกักตัวอยู่ในหอพักโรงพยาบาล ไม่สามารถออกมาซื้ออาหารได้แบบคนทั่วไป และมีบางครั้งที่ถูกปฏิเสธ เมื่อต้องการให้มาส่งอาหารที่โรงพยาบาล” คำบอกเล่าจาก เชฟเจมส์ แห่งร้าน Jamie’s Burgers ที่บอกต่อเรื่องราวนี้กับทีมงาน Amarin Academy ฟังแล้วบอกตรงๆว่า รู้สึกเห็นใจเหล่าคุณหมอและบุคลากรทางแพทย์ทุกท่าน ที่ต้องเสียสละอย่างมาก ในช่วงที่ต้องต่อสู้กับไวรัส COVID-19 ด้วยเหตุนี้ ทำให้เชฟเจมส์อยากที่จะช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์เหล่านี้ให้มากขึ้น จึงอยากบอกสิ่งดีๆที่เชฟเจมส์กำลังจะทำ นั่นคือ การทำอาหารแจกฟรีให้กับบุคลากรทางการแพทย์
เชฟเจมส์ Jamie’s Burgers ร่วมอาสา
ทำอาหารแจกฟรีให้บุคลากรทางการแพทย์
บุคลากรทางการแพทย์ เป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่ต้องต่อสู้กับไวรัสร้าย เพื่อให้ผู้ป่วยรอดชีวิต ก็ไม่ต่างอะไรกับธุรกิจร้านอาหารที่ก็ต้องต่อสู้เพื่อต่อลมหายใจให้กับธุรกิจและอีกหลายชีวิตที่อาจต้องตกงาน
ก่อนที่จะมาทำอาหารแจกให้กับคุณหมอ เชฟเจมส์ เจ้าของร้าน Jamie’s Burgers บอกกับเราว่า ที่มานั้น เริ่มมาจากการขายข้าวกล่อง 30 บาท เพื่อให้ร้านอยู่ได้ในวิกฤต COVID-19
ข้าวกล่อง 30 บาท จุดเริ่มต้นของเรื่องราวดีๆ
“เริ่มแรก ที่เราคิดจะมาขายข้าวกล่องราคาถูก อย่างแรกเลย เมื่อหน้าร้านเราขายไม่ได้ ตามสถานการณ์ตอนนี้ จาก 3 สาขา ลดเหลือสาขาเดียว แต่เราจะทำอย่างไรให้น้องๆ ที่ร้านเรายังอยู่ได้ และตัวเราเองก็อยู่ได้ด้วย ก็เริ่มลองขายข้าวกล่องในราคา 30 บาท ซึ่งราคานี้เป็นราคาที่เราลองสอบถามน้องๆในร้าน ที่อาจจะไม่ได้มีกำลังซื้อมาก ว่าถ้าเราขายราคาเท่าไหร่พวกเขาถึงไหวที่จะซื้อ ซึ่งก็เป็นราคานี้ เราเลยคิดว่างั้นเริ่มจากนี้ดีกว่า คนที่รายได้น้อยหรือได้รับผลกระทบก็ยังพอซื้อทานได้
ซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ น้องๆทุกคนเข้าใจเงื่อนไขในเรื่องเงินเดือน แต่ทุกคนพร้อมใจที่จะมาทำ เราก็รับประกันว่าน้องๆจะต้องมีข้าวกิน ไม่ต้องอยู่บ้านเฉยๆ
จากนั้นพอเราเริ่มทำโครงการนี้ เมื่อข่าวกระจายออกไป ก็มีพี่ๆใจดีติดต่อมาขอซื้อวันละ 100 กล่อง 3 วัน สำหรับให้แจกฟรี
ต่อมาก็เริ่มมีคุณหมอที่ทำงานใกล้ๆร้านเราติดต่อเข้ามา เช่น โรงพยาบาลพระมงกุฎ เขาบอกว่าสั่งอาหารไม่ค่อยได้ ขอผูกปิ่นโตเลยได้ไหม พอมีคุณหมอสั่ง ผมก็เลยปรึกษาพี่ที่ช่วยซื้อเรา 100 กล่องว่าขอแบ่งส่วนนี้ให้คุณหมอด้วยได้ไหม ซึ่งเขาโอเค
หลังจากนั้น ก็เริ่มมีพี่ๆใจดี เข้ามาสนับสนุนเรื่อยๆ และติดต่อเข้ามาว่า ขอให้ส่งให้กับโรงพยาบาลอื่นๆด้วยได้ไหม ซึ่งเราก็ยินดี
ผมมีแรง แต่ไม่มีเงิน
แต่จุดเปลี่ยนที่ทำให้ผมอยากที่จะช่วยเหลือคุณหมอมากขึ้นก็คือ รุ่นน้องผมที่เป็นหมอ อยู่ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เล่าให้ฟังว่าคุณหมอที่โรงพยาบาลช่วงนี้เมื่อจะโทรสั่งอาหาร พอรู้ว่าเป็นโรงพยาบาลก็ถูกปฏิเสธที่จะมาส่ง น้องๆที่เป็นหมอบอกว่าพวกเขาลำบากจริงๆ
ตอนนี้คุณหมอที่โรงพยาบาล จะผลัดกันทำงาน 14 วัน คือ ทำงาน 14 วัน แล้วไปกักตัวอีก 14 วัน โดยที่ทุกคนไม่ได้ออกจากโรงพยาบาล ถูกกักตัวก็ต้องกักตัวอยู่ในหอพักโรงพยาบาล เขาไม่สามารถออกมาซื้ออาหารได้แบบคนปกติ ต้องสั่งให้ไปส่งอย่างเดียว
พอเราได้รู้เรื่องราวแบบนี้ ก็เลยหาทางคุยกับพี่ๆ น้องๆ ว่ามีใครสามารถที่จะช่วยสนับสนุนได้ไหม ผมมีแรง แต่ไม่มีเงิน เราขาดแค่เงินสนับสนุนเท่านั้นเอง หรือถ้าใครต้องการสนับสนุนในส่วนของวัตถุดิบเนื้อสัตว์ หมู, ไก่, ไข่ เราก็ยินดี ส่วนเรื่องคนส่งอาหาร พี่ๆที่ขับรถส่งทุกคนก็เต็มใจช่วยมากๆ ตรงนี้เรามีพร้อมแล้ว เหลือแค่กำลังทรัพย์อย่างที่บอกไป
แต่เรื่องเงินสนับสนุนผมบอกตามตรงว่า ผมอยากให้สารนี้ไปถึง พี่ๆ ที่พอจะมีกำลังจ่ายจริงๆ ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก และพร้อมที่จะช่วยผมอยากให้ไปถึงพี่ๆกลุ่มนั้นมากกว่า
ผมไม่อยากทำแบบประกาศออกไปว่า เราเปิดรับบริจาคนะ เราอยากขอความช่วยเหลือจากคนที่เขามีกำลังจ่ายจริงๆ ถ้าผมประกาศออกไป ผมมั่นใจว่ามีหลายคนที่อยากช่วย อยากทำสิ่งดีๆนี้ ร่วมกับเราแน่นอน แต่คนเหล่านั้น เขาอาจจะยังต้องทำงาน หรือกำลังได้รับผลกระทบเหมือนกัน แล้วก็ไม่รู้ว่าจะโดน Lay off หรือเปล่า ผมไม่อยากให้เรื่องนี้ไปกระทบหรือเบียดเบียนคนกลุ่มนี้จริงๆ
อีกสิ่งหนึ่งที่เราอยากช่วยก็คือ เรื่องของวัตถุดิบ สำหรับร้านไหนที่ทุนจม เพราะเปิดร้านไม่ได้แล้วอยากระบายของ มาขายให้ร้านเราในราคาที่ถูกลงได้ไหม เพื่อที่ร้านจะเอาไปขายอาหารในราคา 30 บาทได้ เราก็ยินดีรับซื้อ ฝั่งร้านผมก็จะอยู่รอดได้มากขึ้นด้วย เพราะลดต้นทุนไปอีก หรือฟาร์มผักสลัดบางที่ ที่ไม่สามารถส่งออกไปยังร้านหรือโรงแรมได้เลย ผักมันอยู่ได้ไม่นาน ก็ถูกปล่อยเน่าทิ้งเปล่าๆ นำตรงนี้มาขายให้เราดีกว่า
เราคิดว่าเหมือนหลักเศรษฐกิจพอเพียง เราจะไม่สู้แบบฝืน เราจะสู้ในแบบที่เราอยู่ได้ ถ้าร้านขายผักให้เราในราคาที่ถูกอย่างน้อยเขาก็ได้ทุนคืน ฝั่งผมก็ได้วัตถุดิบที่ถูกลงมาทำอาหารให้คนทาน ก็เป็นการช่วยเหลือกัน
เป้าหมายเพื่อคุณหมอ
“ปริมาณที่เราต้องการแจกให้กับทางโรงพยาบาล ตั้งใจไว้วันละ 200-500 กล่องต่อวัน ทำจนถึงวันที่ 30 เมษายน ซึ่งจะมีโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์,โรงพยาบาลพระมงกุฎ, โรงพยาบาลราชวิถี และวชิรพยาบาล ทั้งหมด 4 โรงพยาบาลในขั้นต้น
ซึ่งเมนูก็จะเป็นเมนูอาหารตามสั่งง่ายๆ ทั่วไป เช่น ผัดกะเพราะ, ผัดพริกเผา, ผัดพริกหยวก, หมูกระเทียม, ไก่กระเทียม, ข้าวผัด, ไข่เจียวหมูสับ หรือบางวันก็มีพิเศษเพิ่มเติมที่มีผู้สนับสนุนมาในแต่ละวัน
ต้องขอบคุณพี่ๆ บางส่วนที่ก่อนหน้านี้ก็สนับสนุนเรามา อย่างเชฟแวน ร้านแดก (DAG) ก็นำเมนูแกงไตปลา หม้อใหญ่มาก มาช่วยให้เราทำ 30 บาทขายและแจกฟรี ก็ได้เป็นกำลังอาหารมาช่วยตรงนี้ หรือ พี่นพ ร้านรสดีเด็ด ก็นำวัตถุเนื้อ 100 กิโลกรัม มาช่วยให้เราทำเมนูด้วย
ใครที่สนใจอยากจะร่วมสนับสนุนผมในการทำอาหารกล่องแจกฟรี สามารถติดต่อกับผมโดยตรงได้เลย เราจะได้มีโอกาสคุยกันโดยตรง ผมว่าน่าจะรู้สึกดีมากกว่า ที่จะมาขอรับบริจาคแล้วให้ทุกคนโอนเงินมา เราอยากให้ทุกคนที่ช่วยเราได้รับรู้ว่าเงินเขาเรานำมาใช้ประโยชน์จริงๆนะ ออกมาเป็นอาหารช่วยคุณหมอ หรือพี่ๆขับรถส่งอาหารได้รับจริงๆ
สู้ไปด้วยกัน…แล้วเราจะรอดกันหมด
อยากจะบอกผู้ประกอบการทุกคนว่า แค่อย่าหมดกำลังใจนะ ต้องขอบคุณไอเดียทั้งหมดนี้ที่ทำให้ผมเริ่มทำโครงการนี้ขึ้นมาเกิดจาก พี่ยอด Wongnai ที่เขาบอกว่า สู้ไปด้วยกัน เราจะรอดกันหมด การสู้คนเดียวมันเหงานะ แต่ถ้าสู้ไปด้วยกันเราจะรอดกันหมด ถ้าเรารอดคนเดียว แต่คนอื่นอยู่ไม่ได้ วันนั้นเราจะทำอย่างไร แต่เราต้องรอดด้วยกันทั้งระบบ พอผ่านวิกฤตไป เราก็จะโตด้วยกันทั้งระบบ ทุกอย่างเดินหน้าไปด้วยกัน เราต้องคิดแบบนี้
♦ ช่องทางการติดต่อเพื่อสนับสนุนข้าวกล่องเพื่อบุคลากรทางการแพทย์ ♦
เพจ ⇒ Jamie’s Burgers : The โค eating space
เบอร์ติดต่อ ⇒ 097-0011108