5 เคล็ดลับสร้างเซอร์วิสมาย ให้ลูกค้ารักร้านของคุณ - Amarin Academy

5 เคล็ดลับสร้างเซอร์วิสมาย ให้ลูกค้ารักร้านของคุณ

 

ร้านอาหารอร่อยอาจทำให้ลูกค้าหลายคนอยากลองมาชิม แต่ถ้าร้านอาหารนั้นบริการดีด้วย จะทำให้ลูกค้าอยากมาซ้ำ ๆ และบอกต่อคนรอบตัวเขา การบริการที่ดี จึงเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้น ๆ ที่เจ้าของร้านอาหารต้องสร้างให้พนักงานมีใจในการบริการ (Service Mind ) ให้ได้ เพราะมันสามารถชี้ชะตาได้เลยว่า ร้านอาหารของคุณจะรุ่งหรือจะร่วง แต่จะทำอย่างไรนั้นบทความนี้มีคำตอบให้กับคุณ

1.สร้างความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่ง และมีเป้าหมาย

ความรู้สึกทำตามหน้าที่ปกติ กับความรู้สึกทำอย่างมีเป้าหมายนั้น ให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ยกตัวอย่างร้าน Starbuck  ทราบดีว่า พนักงานนั้น คือ Touch point สำคัญของแบรนด์  พวกเขาถูกวางให้เป็นพาร์ทเนอร์ไม่ใช่ลูกจ้าง มีการอบรมให้มีความเข้าใจในสินค้า และบริการของร้านอย่างถ่องแท้ ที่สำคัญคือสื่อสารเป้าหมายให้เห็น และสร้างความรู้สึกว่าพวกเขาเป็นหนึ่งในเป้าหมายนั้นด้วย

เคล็ดลับ ก็คือ แทนที่คุณจะมุ่งให้พนักงานสร้างความพึงพอใจลูกค้าเพียงอย่างเดียว แต่การบริหารคนให้เกิดความพอใจตั้งแต่แรก จะถูกส่งต่อถึงลูกค้าของคุณเอง ทั้งยังเป็นการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง และมีมูลค่าผ่านพวกเขาอีกด้วย

 

2.สร้างระบบการบริการที่ดี

บางครั้งลูกค้าไม่ได้คอมเพลนที่ตัวพนักงาน แต่คอมเพลนระบบในการบริการที่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การทำงานบริการให้ดี  ข้อกำหนดบางอย่างอาจสร้างปัญหาหน้างานด้วยซ้ำ เจ้าของร้านอาหารควรให้ความสำคัญตั้งแต่การออกแบบการบริการของร้านที่เหมาะสม และกำหนดให้สามารถยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ และสถานะของร้านอาหารในขณะนั้น

เคล็ดลับ ก็คือ  พนักงานเป็นตัวแปรสำคัญในการรับมือกับสถานการณ์ เพราะจะต้องเป็นคนสื่อสารให้ลูกค้าเข้าใจ และจัดการกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าให้จบลงด้วยดีด้วย เทคนิค คือ ต้องฝึกให้รับฟังลูกค้าก่อน และเสนอทางแก้ไขปัญหาด้วยความกระตือรือร้น

 

3.สร้างความเข้าใจ โดยการฝึกให้เจอประสบการณ์จริง

ร้านอาหารหลายร้าน ลงทุนจ้างวิทยากรในการฝึกอบรม แต่กลับได้ผลลัพธ์ที่ไม่ดีเท่าที่ควร นั่นก็เพราะการเรียนรู้ในระยะเวลาจำกัด มักให้ผลในระยะสั้น รวมถึงหากไม่มีแนวทางประยุกต์ใช้ หลังจากนั้นก็แทบไม่มีประโยชน์ เพราะธุรกิจร้านอาหาร เป็นธุรกิจที่ใช้ใจและต้องการพลังในการสร้างความรู้สึกด้านบวกที่มากกว่านั้น ซึ่งการบอกว่าจะต้องทำอย่างไร ไม่สำคัญเท่ากับการที่ได้รับประสบการณ์เหล่านั้นด้วยตนเอง

เคล็ดลับก็คือ สร้างการพัฒนาจิตสำนึกในการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ  แทนที่จะลงทุนไปกับการอบรมที่พนักงานอาจจะฟังบ้างไม่ฟังบ้างเพียงอย่างเดียว คุณอาจกำหนดให้มีการจัดงานเพื่อเลี้ยงอาหารพนักงานสักมื้อหนึ่ง และให้บริการที่แย่กับพวกเขาดูบ้าง เช่น ออกอาหารช้า พนักงานไม่สนใจให้บริการ ไม่ยิ้มแย้ม ไม่ได้รับความสะดวก รวมถึงการลองให้ประสบกับการให้บริการที่ดีที่สุดและแย่ที่สุด เพื่อให้พนักงานของคุณสะท้อนวิธีการทำงานของตนเองกับบริการที่ได้รับ แล้วลองให้พวกเขาให้ความคิดเห็นที่เป็นแนวทางการแก้ไขที่เกิดจากพวกเขาเอง

 

4.เจ้าของร้านอาหารคนสำคัญ ต้องทำให้ดู

ไม่มีหางที่ดีได้ถ้าหัวไม่ดี เจ้าของร้านรวมถึงพนักงานในระดับหัวหน้างานมีบทบาทสำคัญอย่างมาก ในการส่งต่อทัศนคติการบริการที่ดีเยี่ยมไปถึงพนักงานคนอื่น ๆ  ซึ่งถ้าอยากให้พนักงานปฏิบัติกับลูกค้าอย่างไร เจ้าของร้าน หรือหัวหน้างานต้องปฏิบัติสิ่งนั้นกับลูกค้าก่อน นอกเหนือจากการประกาศเป้าหมาย และนโยบายที่ทำให้ทีมงานเห็นภาพเดียวกัน นอกจากนั้น การสื่อสารโดยตรงของผู้บริหารไปถึงทีมงานจะทำให้เกิดความรู้สึกไว้เนื้อเชื่อใจ และทำให้เกิดผลลัพธ์มากกว่าการใช้การสื่อสารผ่านเอกสาร ควรหาโอกาสในการลงพื้นที่ รับฟังแก้ไขปัญหา และบอกแนวทางในการปฏิบัติงานให้แก่พนักงานด้วย

เคล็ดลับ ก็คือ ไม่ใช่เพียงดูแลลูกค้า เจ้าของร้านต้องดูแลพนักงานให้ดีด้วยทั้งในแง่สวัสดิการและจิตใจ เพราะพนักงานจะเป็นคนที่ไปดูแลลูกค้าให้กับคุณ

5.ระบบการประเมิน พนักงานแบบมีส่วนร่วม

การประเมินการทำงานเป็นสิ่งสำคัญ  แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าคือ วิธีที่ใช้ในการประเมิน และทิศทางในการแก้ไขหลังจากนั้น นอกจากวิธีการประเมินโดยหัวหน้างาน หรือจ้างคนมาสังเกตการณ์โดยเฉพาะแล้ว เราสามารถประเมินด้วยวิธีให้พนักงานประเมินตัวเอง หรือเชิญลูกค้าประจำมาเป็นคนประเมิน เพราะเขาจะได้เจอกับผู้ประเมินที่เป็นคนใช้บริการจริง  ได้รับฟังความคิดเห็นจริง ๆ

เคล็ดลับ ก็คือ การทำร้านอาหารหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะโดนตำหนิการให้บริการ พนักงานส่วนใหญ่มี แนวโน้มที่จะต่อต้าน เกิดความคิดเชิงลบเมื่อโดนตำหนิ วิธีการแก้ไขคือเปิดโอกาสให้ชี้แจงข้อเท็จจริง แยกแยะว่าสิ่งที่ลูกค้าคอมเพลนนั้น เป็นการมุ่งตำหนิไปที่การบริการที่ไม่ได้รับความสะดวกที่เกิดจากระบบ ซึ่งไม่ได้เป็นการตำหนิพนักงานโดยตรง เพื่อให้พนักงานลดความรู้สึกเชิงลบ และรู้สึกว่ามีส่วนสำคัญในการแก้ไขสิ่งนั้นให้ดีขึ้นด้วย

 

ดังนั้นเซอร์วิสมายจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากต่อผู้ประกอบการร้านอาหารในยุคนี้ เพราะความคิดเห็นของลูกค้าสามารถแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว  ถ้าร้านของคุณมีบริการที่ดีลูกค้าจะประทับใจ กลับมาบ่อย ๆ  และบอกต่อคนรอบตัวเขาเป็นทอดไปอย่างไม่รู้จบ ในทางกลับกันถ้ามันเป็นประสบการณ์เชิงลบ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เมื่อเรื่องกระจายออกไปแล้ว  จะสร้างความรู้สึกที่ดีให้กลับมาอีกครั้ง

 

เรียนรู้เทคนิคการบริหารคน และสร้างเซอร์วิสมายเพื่อนำมาปรับใช้กับร้านอาหาร คาเฟ่ กับหลักสูตรที่ทำให้คุณเรียนรู้เรื่องคน ได้ทะลุปรุโปร่งมากกว่าที่เคย จากอาจารย์พีรพัฒน์ กองทอง ซึ่งมีประสบการณ์บริหารงานบุคคลร้านอาหารดังหลายแห่งในประเทศไทย รวมถึงร้านแมคโดนัลด์ ประเทศไทย คลิกดูรายละเอียดหลักสูตร HR For Food Business การบริหารคน สำหรับธุรกิจร้านอาหาร รุ่นที่ 2

 

>> หลักสูตรการ บริหารคน สำหรับธุรกิจอาหาร (HR for Food Business) รุ่นที่ 2 <<

 

หลักสูตรนี้ จะตอบและแก้ไขปัญหาทุกสิ่งที่คุณอยากรู้

หยุดทุกปัญหาน่าปวดหัวของการทำธุรกิจอาหาร!!

เพื่อให้ผู้ประกอบการ สามารถนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้

ในการบริหารคนภายในธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น


ระยะเวลาในการอบรม : 2 วัน ในวันที่ 24 – 25 กรกฎาคม 2562 เวลา 9.00-17.00 น.
📍สถานที่: ณ บริษัท อมรินทร์ พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด
.
ค่าใช้จ่ายการอบรม: 12,000 บาท
🔥โปรโมชั่น : สมัคร 2 ท่านขึ้นไป ท่านละ 11,000 บาท
วิทยากร : อาจารย์พีรพัฒน์ กองทอง (อดีตผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคล แมคโดนัลด์ ประเทศไทย)

👉🏻 รายละเอียดเพิ่มเติม : http://bit.ly/2ZQMeTA
👉🏻 สมัครเลย !! http://bit.ly/2RAeOFR
📍ด่วน!!ที่นั่งมีจำนวนจำกัด🔥

เรื่องแนะนำ

หุ้นกับเพื่อนเปิดร้านอาหารดี….แต่ต้องคุยเรื่องนี้กันก่อน

คนที่มีความฝันเหมือนกัน ตกลงจับมือร่วมกันทำธุรกิจร้านอาหาร แต่เมื่อลงขันร่วมกันแล้ว กลับขัดแย้งกันในทุกเรื่อง ก็ไม่สามารถทำร้านอาหารให้ประสบความสำเร็จได้   เมื่อต้องลงเรือลำเดียวกัน เป้าหมายในการทำร้านอาหาร และทัศนคติในการทำธุรกิจเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องทำความรู้จักหุ้นส่วนให้มากพอ นอกจากนี้การเลือกหุ้นส่วนที่มีความถนัดที่แตกต่างกันจะช่วยส่งเสริมในส่วนที่อีกฝ่ายหนึ่งขาด และควรมอบสิทธิ์ขาดในการตัดสินใจในเรื่องที่แต่ละคนถนัดดูแล ก็เป็นอีกแนวทางในการสรุปข้อขัดแย้งที่เกิดจากการคิดเห็นที่ไม่ตรงกันได้   ลงทุนกับลงแรง การลงทุนทำร้านอาหารกับเพื่อนมักเป็นลักษณะลงทั้งทุนและแรงด้วยกัน เมื่อมีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดต้องทำมากกว่า หรือได้รับค่าตอบแทนน้อยกว่า จะนำไปสู่ข้อขัดแย้งได้มากที่สุด เพราะฉะนั้นต้องแบ่งเรื่องงานและเรื่องเงินให้ลงตัว ถ้าลงแรงด้วยควรกำหนดค่าตอบแทนเงินเดือนให้อยู่ในค่าใช้จ่าย ในขณะเดียวกันควรมีระบบตรวจสอบที่โปร่งใส และสัดส่วนต้องเป็นไปตามเงินลงทุนตามหุ้นที่กำหนดไว้ตั้งแต่แรก   ไม่มีสัญญาใจ ในโลกของการทำธุรกิจ อย่าทำสัญญาปากเปล่าแม้ว่าจะเป็นเพื่อนสนิทหรือคนรัก ถึงจะเป็นแค่ร้านอาหาร หรือร้านกาแฟเล็ก ๆ ที่เริ่มต้นลงทุนไม่กี่บาทก็ตาม การเขียนข้อสัญญาร่วมกันมีผลทางด้านกฎหมาย ซึ่งจะต้องกำหนดบทบาทหน้าที่รับผิดชอบ เงินลงทุน จำนวนหุ้น  การคิดเงินปันผลและระยะเวลาในการคืนผลกำไร ยังเป็นหลักฐานการจ่ายเงิน ที่ยืนยันการร่วมลงทุนระหว่างคุณและหุ้นส่วน ซึ่งหากสุดท้ายเกิดปัญหาจนไปต่อไม่ได้ ข้อกำหนดที่ทำร่วมกันยังเป็นประโยชน์กับทุกฝ่ายในการหาข้อสรุปข้อขัดแย้งร่วมกันด้วย   อย่าอะไรก็ได้….แผนธุรกิจต้องชัดเจน ช่วงเริ่มต้นอะไรก็ดี เพราะไม่มีใครมองเห็นถึงปัญหา และมักจะตกม้าตายด้วยความคิดที่ว่าคนกันเองไม่โกงแน่นอน แผนธุรกิจจะช่วยให้การทำกิจการร้านอาหารเป็นไปอย่างมีทิศทาง ทั้งงบประมาณในการลงทุน การทำการตลาด การพัฒนาสินค้าและบริการ เป้าหมายธุรกิจ รวมถึงระยะเวลาในการลงทุนเพิ่ม ควรเลือกที่จะทะเลาะกันตั้งแต่มันอยู่ในกระดาษ ก่อนที่จะเริ่มปฏิบัติงานจริงที่เป็นการตกลงแล้วของทุกฝ่ายเท่านั้น    อย่ามองข้าม…เรื่องเล็กที่กลายเป็นเรื่องใหญ่ ไม่ใช่เพียงแค่ผลประโยชน์ที่ทำให้หุ้นส่วนร้านขัดแย้งกันเสมอไป […]

ซื้อแฟรนไชส์

เปิดร้านเอง VS ซื้อแฟรนไชส์…แบบไหนดีกว่ากัน

หลายคนอยากเริ่มต้นธุรกิจด้วยการ ซื้อแฟรนไชส์ สักร้าน เพราะได้ยินใครต่อใครพูดให้ฟังว่า การทำแฟรนไชส์มีเปอร์เซ็นต์ที่จะประสบความสำเร็จในธุรกิจรวดเร็ว

เซตอัพทีมงานหน้าร้าน ทัพสำคัญเพิ่มยอดขาย

เปิดร้านอาหาร ทำอย่างไรให้ร้านอาหารขายดี ? หนึ่งในคำตอบ ก็คือการบริการให้ดี เพราะเรื่องบริการ ไม่ใช่แค่เสิร์ฟอาหาร แต่เป็นการสร้างประสบการณ์ให้แก่ลูกค้าและผู้ที่เป็นด่านหน้าในการทำหน้าที่นี้ในร้านอาหาร ก็คือ ทีมงานหน้าร้าน จึงมีความสำคัญที่เจ้าของร้านอาหารจะต้องวางระบบเพื่อสร้างมาตรฐานในการทำงานให้เกิดขึ้นให้ได้ ทีมงานหน้าร้านประกอบไปด้วยใครบ้าง ผู้จัดการร้าน มีหน้าที่ในการบริหาร และจัดการร้านอาหาร ดูแลความเรียบร้อย ทั้งวางแผนและการแก้ปัญหา ผู้จัดการร้านต้องดูแลให้ทีมงานทำงานได้ตามเป้าหมายที่กำหนด ยังมีหน้าที่สำคัญในการบริหารและจัดการยอดขายให้เป็นไปได้ตามเป้าอีกด้วย ดูหน้าที่ผู้จัดการร้านต้องเก่งอะไรบ้าง Click link  พนักงานต้อนรับ ส่วนใหญ่ร้านอาหารประเภท Casual และ Fine Dinning จะมีการจ้างพนักงานต้อนรับ ทำหน้าที่เป็น Host ในการต้อนรับลูกค้า จัดคิวในช่วงเวลาลูกค้าเยอะ ถือเป็นคนแรกที่ได้พูดคุยให้คำแนะนำร้านอาหารแก่ลูกค้า และเป็นคนสุดท้ายที่จะกล่าวลาลูกค้าและเชื้อเชิญให้กลับมาอีกครั้ง พนักงานต้อนรับจึงต้องมีทักษะในการจัดการ และมี Service mind ยิ้มแย้มแจ่มใส และบุคลิกที่สะท้อนต่อรูปแบบร้านอาหารเป็นอย่างดี แคชเชียร์ พนักงานเก็บเงิน ต้องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและรอบคอบ เพราะเกี่ยวข้องกับการจัดการเงิน การจัดทำบิล คิดเงิน ทอนเงินที่ถูกต้องให้แก่ลูกค้า บางครั้งแคชเชียร์ต้องรับหน้าที่ในการจองโต๊ะด้วยถือเป็นด่านแรกที่ได้คุยกับลูกค้า ส่งผลให้ลูกค้าอยากมาใช้บริการหรือเกิดความประทับใจหรือไม่ด้วยเหมือนกัน พนักงานออกอาหาร / พนักงานเสิร์ฟ เป็นตำแหน่งที่ต้องเผชิญหน้ากับลูกค้ามากที่สุด จะต้องมีความรวดเร็ว แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี […]

ถอดบทเรียน ครัวกลางใหม่ Bear House ทำไมสร้างห้องบัญชีและ HR ใหญ่ที่สุด

ถอดบทเรียน ครัวกลาง ใหม่ Bear House ทำไมสร้างห้องบัญชีและ HR ใหญ่ที่สุด จากบทเรียนขาดทุน 17 ล้านบาท สู่การให้ความสำคัญด้านบัญชีอย่างจริงจัง ธุรกิจคุณให้ความสำคัญกับ ฝ่ายบัญชีและ HR มากแค่ไหน? เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงจะได้ดูคลิปพาทัวร์การก่อสร้างครัวกลางใหม่ ของสอง youtuber ชื่อดัง คุณกานต์ อรรถกร และคุณซารต์ ปัทมพร ยูทูปเบอร์ที่ได้ผันตัวมาทำธุรกิจอาหารแบรนด์ Bear House ควบคู่ไปด้วยแล้ว ที่มาของครัวกลางใหม่ ซึ่งคนที่ติดตามก็คงพอทราบเหตุผลของการสร้างครัวกลางใหม่ในครั้งนี้แล้วว่า เพราะ Bear House ต้องการครัวกลางที่อยู่ใกล้เมืองมากขึ้น และเพื่อลด Sizing ของครัวกลางให้เหมาะกับธุรกิจที่ทำ โดยระหว่างที่คุณกานต์และคุณซารต์กำลังพาทัวร์ครัวกลางใหม่ ก็ได้มีการบรรยายแผนผังของครัวกลางไปพร้อม ๆ กัน  ทำไมต้องสร้างห้องบัญชีและ HR ใหญ่ที่สุด ซึ่งตอนหนึ่งของคลิปคุณกานต์และคุณซารต์ได้บอกว่า ตามผังของการก่อสร้างครัวกลางใหม่ในครั้งนี้ เขาได้วางให้ห้องบัญชีเป็นห้องที่ใหญ่ที่สุด รองลงมาเป็นห้อง HR ที่อยู่ติดกัน โดยทั้งสองได้ให้เหตุผลว่าทีมบัญชีและ HR เป็นฝ่ายด่านหลัง […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.