8 Checklists อยาก เปิดร้านอาหารให้สำเร็จ ควรทำ! - Amarin Academy

8 Checklists อยาก เปิดร้านอาหารให้สำเร็จ ควรทำ!

8 Checklists อยาก เปิดร้านอาหารให้สำเร็จ ควรทำ!

ก่อนเปิดร้านอาหาร เราต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ? เชื่อว่าผู้ประกอบการร้านอาหารมือใหม่หลายๆ คน คงมีคำถามอยู่ในใจ เราจึงขอรวบรวม 8 Checklists ที่เจ้าของร้านที่อยาก เปิดร้านอาหารให้สำเร็จ ควรทำ มาแชร์ให้ทุกคนรู้กัน

1.ทำงบลงทุน และแพลนการใช้จ่าย

เคยได้ยินเพื่อนๆ ที่ทำร้านอาหารบ่นเรื่อง “งบบานปลาย” กันไหม เรากล้าบอกได้เลยว่า กว่า 80% ของผู้ประกอบการร้านอาหารต้องประสบปัญหานี้แน่นอน แม้บางคนจะคิดว่า เราทำแผนการลงทุนมารอบคอบแล้ว ก็เจอปัญหางบบานปลายอยู่บ่อยๆ เพราะว่าการทำร้านอาหารมีค่าใช้จ่ายจุกจิกเยอะมาก

เช่น ค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง ต่อเติม ตกแต่งร้าน ค่าวัสดุ อุปกรณ์ในครัว ค่าแรงพนักงาน (ที่จะต้องจ้างมาเทรนด์และสอนงานก่อนการเปิดร้าน) ค่าวัตถุดิบ ค่าลิขสิทธิ์เพลง (ถ้าร้านมีการเปิดเพลง) ค่าขอใบอนุญาตและภาษีต่างๆ  ค่าปรับ (กรณีเช่าพื้นที่ศูนย์การค้าแล้วการก่อสร้างล่าช้า) ฯลฯ

ใครที่คิดว่าใช้วิธีกะคร่าวๆ ว่าจะลงทุนแต่ละส่วนเท่าไร เราบอกได้เลยว่า คุณจะต้องปวดหัวกับสารพัดค่าใช้จ่ายแน่นอน ฉะนั้นทางที่ดี ระบุสัดส่วนงบการลงทุนให้ชัดเจนจะดีกว่า ที่สำคัญ อย่าลืมเผื่อเงินประมาณ 10 – 15% ของงบการลงทุนทั้งหมดไว้สำหรับค่าใช้จ่ายไม่คาดคิดเหล่านี้ด้วย ไม่อย่างนั้นคุณจะเจอปัญหางบบานปลายแน่นอน

2.เขียนแผนธุรกิจให้ชัดเจนที่สุด

หลายคนเริ่มทำร้านอาหารโดยไม่มีแผนธุรกิจที่ชัดเจน เพราะคิดว่าเป็นธุรกิจเล็กๆ ไม่น่าจะต้องทำแผนธุรกิจอย่างจริงจัง แต่จริงๆ แล้วแผนธุรกิจเปรียบเสมือนเข็มทิศนำทางให้ธุรกิจของคุณเดินไปสู่ความสำเร็จ เพราะจะช่วยให้คุณมีจุดยืนที่ชัดเจนขึ้น และมีทิศทางในการทำงานมากขึ้น โดยแผนธุรกิจสำหรับร้านอาหาร สามารถเขียนง่ายๆ ได้ดังนี้

>> การเขียนแผนธุรกิจสำหรับร้านอาหาร

3.อย่าลืมจดทะเบียนธุรกิจและขอใบอนุญาต

ข้อนี้เป็นสิ่งสำคัญที่เจ้าของธุรกิจหลายคนอาจมองข้าม เพราะส่วนใหญ่มักจะวุ่นวายกับการเตรียมงานภายในร้าน ทั้งตกแต่งร้าน หาพนักงาน เทรนด์งาน สอนงาน วางระบบครัว จนลืมจดทะเบียนธุรกิจหรือขอใบอนุญาต (สำหรับร้านที่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์) ให้ถูกต้องตามกฎหมายด้วย

อ่านเพิ่มเติม >> จดทะเบียนร้านอาหาร ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง

4.เลือกทำเลให้โดน

ทำเลถือเป็นหัวใจสำคัญสำหรับร้านอาหารอย่างมาก เพราะถ้าคุณเลือกทำเลผิด ร้านคุณอาจจะไม่ประสบความสำเร็จเลยก็ได้ ทั้งนี้ปัจจัยที่ต้องใช้ในการประกอบการตัดสินใจเลือกทำเลมีเยอะมาก ทั้งดูว่าตรงกลุ่มเป้าหมายรึเปล่า ราคาค่าเช่า Traffic ของกลุ่มลูกค้า (มีกลุ่มลูกค้าของเราอยู่บริเวณนั้นมากน้อยแค่ไหน) ฯลฯ ฉะนั้นก่อนจะเลือกทำเล ควรตัดสินใจดีๆ อย่าด่วนตัดสินใจด้วยความรู้สึก หรือไม่มีข้อมูลประกอบที่ชัดเจน

ทั้งนี้ทำเลสำหรับเปิดร้านอาหารก็มีหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น

พื้นที่เปล่า >> เราต้องก่อสร้างร้านเอง ถ้าตัดสินใจเช่าพื้นที่เปล่าต้องคิดให้หนักพอสมควร เพราะมันคือการลงทุนที่ต้องใช้เงินค่อนข้างมาก จึงต้องมีการคำนวณอย่างรอบคอบว่าจะคืนทุนภายในกี่ปี สัญญาเช่ายืนยาวพอหรือเปล่า เช่น หากคุณลงทุนไป 2 ล้านบาท คาดว่าจะคืนทุนภายใน 4 ปี แต่สัญญาเช่าของคุณคือ 5 ปี เท่ากับว่า คุณมีเวลาทำกำไรได้เพียง 1 ปีเท่านั้น และถ้าปีต่อไปเจ้าของที่ไม่ให้ต่อสัญญา สิ่งที่คุณลงทุนไปก็สูญเปล่า

อาคารเปล่า >> ข้อนี้คือมีอาคารอยู่แล้ว คุณต้องออกแบบตกแต่งสถานที่ใหม่ แน่นอนว่าต้องใช้งบประมาณพอสมควร (เช่นเดียวกับข้อแรกที่คุณต้องคำนวณงบการลงทุนดีๆ) ทั้งค่าออกแบบ ตกแต่งสถานที่ ค่าวางระบบต่างๆ แต่ข้อดีคือคุณสามารถออกแบบร้านได้ให้เป็นไปตามความต้องการได้

เซ๊งร้านต่อ >>  นี่เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คนส่วนใหญ่นิยมทำ เพราะว่าร้านเดิมจะมีการวางระบบสำหรับทำร้านอาหารมาพอสมควร ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาในการวางระบบใหม่ แต่ข้อเสียคือ หน้าตาร้านและระบบต่างๆ ที่ร้านเดิมวางไว้อาจไม่เป็นไปตามความต้องการของคุณ 100% ที่สำคัญ อาจประสบปัญหาคือแปลนร้านเดิมมีปัญหา เช่น ท่อน้ำทิ้งตัน ระบบระบายอากาศไม่ดี หรืออุปกรณ์ต่างๆ ชำรุด ทรุดโทรม ต้องซ่อมแซม เป็นต้น ฉะนั้นก่อนจะตัดสินใจเซ๊งร้าน ก็ต้องตรวจตราระบบเหล่านี้ให้ถี่ถ้วนด้วย

5.คิดคอนเซ็ปต์ร้านให้ชัด

คอนเซ็ปต์ร้านคือหัวใจสำคัญที่ทำให้ร้านอาหารของเราแตกต่าง และเป็นที่จดจำในกลุ่มผู้บริโภค แม้ว่าคุณจะขายอาหารประเภทเดียวกับคนอื่น แต่คุณต้องพยายามหาจุดเด่น จุดต่างให้ได้ ที่สำคัญต้องตอบคำถามให้ได้ว่า เพราะอะไรลูกค้าต้องเลือกมารับประทานอาหารร้านของคุณ

หลายคนอาจบอกว่าร้านอาหารของเราโดดเด่นที่รสชาติอาหาร คุณภาพวัตถุดิบ แต่ 2 สิ่งนี้ลูกค้าจะไม่มีทางรับรู้ได้เลยจนกว่าจะได้มาลองรับประทานร้านอาหารของคุณ ดังนั้น หากคุณต้องการดึงดูดให้เขาเดินเข้าร้าน ก็ต้องหาจุดขายอื่นแทน เช่น บางร้านอาจดึงดูดด้วยเมนูจานยักษ์ หรือดึงดูดด้วยการตกแต่งร้านที่สวยไม่เหมือนใคร หรือมีบริการที่แตกต่าง เป็นต้น

6.ออกแบบเมนูให้ต่างและได้กำไร

ก่อนเปิดร้านอาหารคุณต้องตอบให้ได้ว่า “จะขายเมนูอะไร” เมนูนั้นโดดเด่น ดึงดูดให้คนสั่งได้มากน้อยแค่ไหน ที่สำคัญเมนูนั้น ทำกำไรให้ร้านจริงหรือเปล่า

เจ้าของร้านอาหารหลายๆ ร้าน อาจประสบปัญหา ขายเหนื่อยแทบตายแต่กำไรไม่เหลือ (บางครั้งอาจถึงขั้นขาดทุน) เพราะไม่ได้คำนวณต้นทุนอาหารให้ดีก่อน แต่เลือกที่จะตั้งราคาอาหารตามคู่แข่ง เช่น เห็นว่าร้านข้างๆ ขายราคานี้ก็อยู่ได้ ก็เลือกขายตาม เพราะคิดว่าคงทำกำไรได้เช่นกัน แต่จริงๆ เขาอาจมีข้อได้เปรียบอื่นที่เราไม่รู้ เช่น ร้านคู่แข่งไม่ต้องเสียค่าเช่าที่ หรือรับวัตถุดิบมาได้ในราคาที่ถูกกว่า ทำให้ต้นทุนต่อจานต่ำ เป็นต้น ดังนั้นต้องคำนวณต้นทุนต่อจานให้ชัดเจนด้วย

7.มองหาพนักงานที่ดี

พนักงานเป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญที่ทำให้ร้านอาหารของเราประสบความสำเร็จ ร้านจะมีปัญหามากหรือน้อย…ก็ขึ้นอยู่กับพนักงาน อาหารจะอร่อยได้มาตรฐานหรือรสชาติไม่แน่นอน…ก็ขึ้นอยู่กับพนักงาน ลูกค้าจะประทับใจหรือส่ายหัว…ก็ขึ้นอยู่กับพนักงาน ดังนั้นคุณต้องให้ความสำคัญกับการคัดเลือกพนักงานอย่างมาก อาจดูที่ประวัติการทำงาน ทัศนคติ (ต้องเหมาะกับร้านของคุณ) ลักษณะนิสัย และเมื่อรับเข้ามาแล้วต้องมีการเทรนด์ก่อนการทำงานจริงด้วย เมื่อถึงเวลาเปิดร้านพนักงานจะได้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

8.วางแผนการตลาดให้เปรี้ยง

ข้อสุดท้ายที่คุณควรทำคือ วางแผนการตลาด โดยโจทย์สำคัญของการทำการตลาดในช่วงแรกอาจเป็น “ทำอย่างไรให้กลุ่มลูกค้ารู้จักร้านของคุณให้มากที่สุด” โดยอาจต้องวางแผนทั้งฝั่งออฟไลน์ เช่น ป้ายหน้าร้าน ทำโปรโมชั่น หรือจัดงานเปิดตัว ฯลฯ ฝั่งออนไลน์ เช่น เปิดเพจเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม หรือติดต่อไปตามเพจรีวิวอาหารต่างๆ ให้มาช่วยประชาสัมพันธ์ร้าน เป็นต้น

ทั้ง 8 ข้อนี้ถือเป็น Checklist ที่คนที่กำลังอยากเปิดร้านอาหารควรทำ เพื่อเป็นแนวทางในการเปิดร้านให้ประสบความสำเร็จ!

เรื่องแนะนำ

เปลี่ยนเรื่องยากของธุรกิจร้านอาหารให้เป็นเรื่องง่ายที่ OfficeMate

การทำธุรกิจร้านอาหารมักมีโจทย์มาให้แก้ทุกวัน หนึ่งในโจทย์ที่เจ้าของธุรกิจร้านอาหารต้องเจอก็คือเรื่องของ “เวลา” เพราะธุรกิจร้านอาหารประกอบด้วยฟังก์ชั่นงานต่างๆมากมาย เริ่มตั้งแต่ งานตกแต่งร้าน งานครัว งานทำความสะอาด งานบัญชี งานไอที รวมไปถึงงานบริหาร ยิ่งมีงานเหล่านี้มากขึ้น คำถามคือ จะจัดการงานทั้งหมดอย่างไรในเวลาที่มีอยู่เท่าเดิม? แถมยังต้องมาเสียเวลาไปกับการเดินทางไปที่ต่างๆ เพื่อเลือกซื้ออุปกรณ์และของใช้เข้าร้านอีก จะดีกว่าไหมหากเราสามารถลดต้นทุนแฝงส่วนนี้ลงได้? และมีเวลาเหลือไปทำงานอย่างอื่นให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากยิ่งขึ้น ใช้เวลาอย่างคุ้มค่า เลือกซื้อสินค้าสำหรับร้านอาหารที่ OfficeMate OfficeMate เป็นผู้ช่วยชั้นเยี่ยมสำหรับเจ้าของธุรกิจร้านอาหารที่มีสินค้าที่ตอบโจทย์ธุรกิจอย่างครบครัน เรียกได้ว่าครอบคลุมแทบทุกส่วนงาน ตั้งแต่อุปกรณ์สำหรับขั้นตอนการตกแต่งร้าน และอุปกรณ์ที่ใช้ระหว่างดำเนินกิจการ รวมถึงของใช้เบ็ดเตล็ดอื่นๆ ทำให้การเลือกซื้อสินค้าที่ออฟฟิศเมท ช่วยประหยัดเวลาของเหล่าผู้ประกอบการร้านอาหาร และเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จในธุรกิจในเวลาเดียวกัน ลดต้นทุนเวลา มาที่เดียวจบ เพราะทุกสิ่งมีครบที่ OfficeMate             อย่างที่บอกไปว่าการเลือกซื้ออุปกรณ์และของใช้สำหรับธุรกิจร้านอาหารที่ OfficeMate ครอบคลุมงานแทบทุกส่วน มาดูกลุ่มสินค้าหลักๆ ที่สามารถเลือกซื้อได้ที่ OfficeMate กันค่ะ   สร้างมุมสวยด้วยเฟอร์นิเจอร์หลากหลายสไตล์ มุมสวยๆ เฟอร์นิเจอร์เก๋ๆ คือ องค์ประกอบที่ขาดไม่ได้ของร้านอาหารยุค 4.0 เพราะลูกค้านิยมถ่ายรูปลง Social Media ดังนั้นร้านอาหารที่เลือกเฟอร์นิเจอร์ในการตกแต่งร้านได้สวยและมีเอกลักษณ์ ย่อมสามารถเข้าไปอยู่ในใจลูกค้าทั้งขาประจำและขาจรได้ง่ายขึ้น แถมเป็นการโฆษณาร้านอาหารของเราทางอ้อมอีกด้วย แต่การเดินหาเฟอร์นิเจอร์มาตกแต่งร้านก็ใช้เวลาไม่ใช่น้อยเลย […]

พนักงานดีๆ ลาออก

4 เหตุผลสำคัญที่ทำให้ “ พนักงานดีๆ ลาออก ”

ปัญหาที่ทำให้เจ้าของร้านปวดหัวคือ พนักงานดีๆ ลาออก ถ้าไม่อยากให้เกิดปัญหานี้ มาลองดู 4 เหตุผล ที่ทำให้ พนักงานดีๆ ลาออก เผื่อจะช่วยป้องกันปัญหานี้ได้บ้าง

ตำแหน่งพนักงานร้านอาหาร

ตำแหน่งพนักงานร้านอาหาร ที่เจ้าของร้านมืออาชีพต้องรู้!

ร้านอาหารที่ประสบความสำเร็จ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความอร่อยหรือการตกแต่งร้านเท่านั้น แต่ต้องอาศัย “ทีมงาน” ที่ดีมีคุณภาพ ช่วยกันสร้างสรรค์ขึ้นมา เจ้าของร้านบางท่านอาจจะคิดว่าให้ทีมแบ่งงานกันทำง่ายๆ ใครว่างก็ไปช่วยคนอื่นทำต่อ แต่ถ้าจะบริหารร้านให้เป็นระบบอย่างมืออาชีพแล้ว ควรจะแบ่งงานกันอย่างไร มาศึกษาการแบ่ง  ตำแหน่งพนักงานร้านอาหาร ที่เจ้าของร้านมืออาชีพต้องรู้! ตำแหน่งพนักงานร้านอาหาร ที่เจ้าของร้านมืออาชีพต้องรู้! ร้านอาหารแต่ละชนิดก็จะต้องการพนักงานที่มีคุณสมบัติแตกต่างกันไป โดยเราสามารถแบ่งประเภทพนักงานออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ พนักงานหลังร้าน และพนักงานหน้าร้าน  พนักงานหลังร้าน ความสามารถที่จำเป็นของพนักงานหลังร้านหรือในครัวนั้น ขึ้นอยู่กับประเภทของร้านอาหาร และความซับซ้อนของเมนูในร้าน เช่น ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด พนักงานไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ในครัวมากนัก ก็สามารถประกอบอาหารได้ตามมาตรฐาน แต่ถ้าเป็นร้านอาหารญี่ปุ่น คงต้องการเชฟที่มีประสบการณ์มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นความรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบ ความสามารถในการใช้มีด การแล่ปลา การปั้นซูซิและทำอาหารญี่ปุ่นอื่นๆ  ยิ่งเป็นร้านที่พัฒนามากขึ้น ตำแหน่งก็จะยิ่งละเอียด เพื่อความชัดเจนในหน้าที่ ลดความซ้ำซ้อนของงาน และมีโครงสร้างเหมือนกับบริษัทย่อยๆ ที่พนักงานต้องเรียนรู้ขึ้นไปเรื่อยๆ โดยตำแหน่งในครัวแบ่งย่อยได้เป็น  หัวหน้าเชฟ เป็นตำแหน่งสำคัญที่สุดเบื้องหลังร้าน แค่ต้องทำอาหารได้ดียังไม่พอ แต่ต้องสามารถบริการจัดการครัวได้ด้วย ทั้งเรื่องการกระจายงานให้พนักงานในครัว ดูแลการจัดการวัตถุดิบ คำนวนต้นทุนอาหาร วางแผนและพัฒนาเมนูในร้าน   ผู้ช่วยเชฟ  มีหน้าที่ช่วยจัดการงานต่างๆ ของหัวหน้าเชฟ และดูแลครัวในกรณีที่หัวหน้าเชฟไม่อยู่ […]

พนักงานเปลี่ยนงานบ่อย

เคล็ด (ไม่) ลับ ขจัดปัญหา พนักงานเปลี่ยนงานบ่อย

ปัญหาส่วนใหญ่ที่ร้านอาหารมักเจอคือ อัตราการลาออกของพนักงานสูงมาก ส่งผลให้การทำงานสะดุด วันนี้เราจึงรวบรวมเทคนิคดีๆ ขจัดปัญหา พนักงานเปลี่ยนงานบ่อย มาฝาก

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.