ปิ๊งไอเดียธุรกิจ ใน 4 สเต็ป - Amarin Academy

ปิ๊งไอเดียธุรกิจ ใน 4 สเต็ป

ปิ๊งไอเดียธุรกิจ ใน 4 สเต็ป

แนวคิดดีๆ มักพัฒนามาจากปัญหาที่พบเจอในชีวิตประจำวัน ระหว่างที่คิดหาทางแก้ปัญหานั้นก็อาจเกิด ปิ๊งไอเดียธุรกิจ ที่น่าสนใจขึ้นมาได้ คงไม่มีบริการ Delivery หากคนมีเวลามากพอหรือขยันไปต่อคิวรอกินร้านอาหารดังๆ บริการขนส่งโลจิสติกคงไม่เฟื่องฟู หากคนยังออกเดินทางไปไกลๆ เพียงเพราะต้องการซื้อของเพียงชิ้นเดียว ฯลฯ สินค้าและบริการเหล่านี้ช่วยตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนสมัยใหม่ ที่ต้องการความสะดวกสบายและประหยัดเวลามากขึ้น

การคิดหาวิธีการแก้ปัญหาที่ไม่เหมือนใคร อาจกลายเป็นที่มาของธุรกิจทำเงิน แต่หากใครยังคิดไม่ออกว่าจะเริ่มต้นธุรกิจอะไรดี ลองทำตาม 4 ขั้นตอนนี้ คุณก็อาจได้ไอเดียในการเริ่มต้นธุรกิจอย่างยั่งยืน

 

1.นักสืบ (เสาะหา) ไอเดีย

เมื่ออยากจะเริ่มต้นมองหาไอเดีย คุณต้องไม่มองโลกเพียงแค่ “เห็น” ด้วยตา แต่ต้องหัดตั้งคำถามกับทุกสิ่ง อาจลองเริ่มสังเกตจากสิ่งที่เรารู้สึกว่ายังไม่ถูกต้อง ก่อให้เกิดความยุ่งยากหรือไม่มีประสิทธิภาพ เป็นความไม่สมบูรณ์แบบที่เราไม่ควรละเลยอีกต่อไป แต่สิ่งนี้แหละเป็นโอกาสสำหรับแนวคิดทางธุรกิจใหม่ๆ เป้าหมายของคุณคือการระบุให้ได้ว่าสิ่งไหนที่ยังขาดประสิทธิภาพและ Pain points (จุดอ่อนของสินค้าและบริการ) คืออะไร เพื่อที่คุณจะได้เป็นคนจัดการแก้ปัญหา ถือเป็นการตอบสนองต่อความต้องการของตลาดได้อย่างตรงจุด

นักสังเกต Pain Points

คุณต้องสวมวิญญาณนักสังเกตการณ์พฤติกรรมของผู้บริโภค สังเกตปัญหาต่างๆ อาจเริ่มจากคนในครอบครัว คนในที่ทำงาน หรือคนรอบๆ ตัวดูก็ได้ว่า พวกเขามีปัญหาในการใช้ชีวิตเรื่องอะไรบ้าง เรื่องไหนที่พวกเขาอยากให้มีตัวช่วย เพื่อความสะดวกสบายมากกว่าเดิม

เริ่มลิสต์ประเด็นที่เป็น Pain Points

ไม่ใช่ว่าทุกปัญหาจะกลายเป็นไอเดียในการทำธุรกิจได้ในทันที ดังนั้นคุณต้องลิสต์รายการปัญหาทั้งหมดลงในกระดาษ และจัดลำดับความสำคัญของปัญหาแต่ละข้อ เพื่อตัดสินใจว่าปัญหาข้อไหนที่เป็นประเด็นสำคัญมากพอต่อการค้นคว้าและทดสอบต่อไป

2.ตัวช่วย 4 ประเด็น ช่วยสร้างความคิดใหม่ๆ

เมื่ออยากเรียนรู้วิธีคิดสร้างสรรค์ธุรกิจ มี 4 ประเด็นหลักที่คุณควรเน้น คือ 1.ปัญหาที่คุณมี 2.ปัญหาของคนอื่น ๆ ที่คุณรู้จัก 3.สังเคราะห์ความคิดในบริบทที่แตกต่าง 4.ทำงานอดิเรกหรืองานหลักของคุณให้เป็นธุรกิจ

ปัญหาที่คุณมีคืออะไร

เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการคิดหาไอเดียใหม่ๆ เพราะคุณจะอินกับประเด็นปัญหาและมีมุมมองที่หลากหลายในการแก้ไขสิ่งเหล่านั้น โดยดูว่ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้นบ้างในชีวิตประจำวัน ในที่ทำงาน หรืออุปสรรคในการไปสู่จุดมุ่งหมาย แล้วค่อยๆ คิดหาทางทำให้ง่ายขึ้น (ด้วยขั้นตอนและวิธีการต่างๆ) ประโยชน์จากการคิดหาไอเดียจากปัญหาที่ตัวเองมีคือ คุณสามารถทดลองกับตัวเองได้ว่า ไอเดียในการแก้ปัญหาแต่ละแบบนั้นได้ผลดีมากน้อยเพียงใด

ปัญหาของคนอื่นๆ ที่คุณรู้จัก

ลองนึกถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับคนอื่นๆ ที่อยู่รอบตัวคุณ อาจเป็นครอบครัว เพื่อนร่วมงาน ร้านค้าที่คุณเข้าประจำ นายจ้าง ฯลฯ เมื่อคุณเห็นปัญหาให้ลองเจาะลึกถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ความพยายามในการแก้ปัญหาของพวกเขา หรือพวกเขายินดีจ่ายเท่าไหร่สำหรับการแก้ปัญหานั้น รวมถึงรายละเอียดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

เปลี่ยนจากอาชีพหรืองานอดิเรกอื่นๆ ให้กลายเป็นธุรกิจ

อีกวิธีหนึ่งคือการเปลี่ยนงานประจำวันหรือโครงการที่จับอยู่ให้กลายเป็นธุรกิจเต็มตัว คุณเป็นนักออกแบบเว็บไซต์ นักวิเคราะห์ ติวเตอร์ หรือผู้จัดการด้านการขนส่งโลจิสติก ฯลฯ ให้กับบริษัทหนึ่งๆ อยู่รึเปล่า คุณอาจนำเสนอทักษะของตัวเองให้บริษัทอื่นๆ ได้รับรู้ ผ่านการโปรโมทธุรกิจภายใต้ชื่อบริษัทของคุณเอง

ในยุคนี้คุณสามารถเปลี่ยนความเชี่ยวชาญของตัวเองเป็นธุรกิจใดก็ได้ โดยมีช่องทางการสื่อสารออนไลน์ให้เลือกใช้โปรโมทตัวเองอย่างหลากหลาย

การสังเคราะห์ความคิดอื่น ๆ

แหล่งข้อมูลทั่วไปสำหรับแนวคิดทางธุรกิจคือ การนำไอเดียที่มีอยู่แล้วไปใช้ในบริบทที่แตกต่างกัน เช่น บริการ Uber สำหรับคนเจน X หรือ Netflix สำหรับคนเจน Y นอกจากนี้คุณยังสามารถเอาไอเดียจากที่อื่นๆ มาปรับใช้ให้เข้ากับพื้นที่และบริบทสังคมของตัวคุณเอง เช่น การสร้างสรรค์ไอศกรีมให้มีรสชาติแปลกใหม่ ด้วยการนำเอารสชาติของผลไม้ยอดนิยมมาต่อยอด เช่น ทุเรียน กระท้อน สละ ฯลฯ

3.ระดมความคิดเพื่อแก้ปัญหา

แม้ว่าคุณจะค้นพบปัญหาแล้ว แต่คุณก็ไม่สามารถแก้ปัญหาเหล่านั้นได้ในทันที ลองใช้เวลาในการระดมความคิดเกี่ยวกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้น พร้อมแผนการรับมือแต่ละปัญหาว่าจะมีขั้นตอนใดบ้าง เช่น ต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่ จะขยายกำลังการผลิตเพิ่มได้ด้วยวิธีไหน แหล่งที่ซื้อวัตถุดิบมีกี่เจ้าที่น่าสนใจ หรือการตัดสินใจของลูกค้าต่อการเลือกแบรนด์มีปัจจัยใดเกี่ยวข้องได้บ้าง

การระดมความคิดจะช่วยให้คุณเห็นช่องทางการขาย ราคาที่เหมาะสม ฯลฯ เพราะถึงคุณจะคิดหาวิธีแก้ Pain point ได้สำเร็จ แต่ก็คงไม่มีประโยชน์หากลูกค้าเห็นว่าสิ่งที่ได้รับนั้นไม่คุ้มค่าหรือไม่ได้ช่วยให้ชีวิตของพวกเขาดีขึ้นอย่างที่คิด

4.ยืนยันความคิดของตัวเอง ด้วยการซักถาม

คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าความคิดและไอเดียใหม่นั้นเจ๋งพอ คุณจำเป็นต้องพิสูจน์ความคิดของตัวเองก่อนว่าเวิร์คหรือไม่เวิร์ค ผ่านมุมมองของคนอื่นด้วยเช่นกัน ข้อเสนอแนะที่ดีที่สุดมักได้รับผ่านการพูดคุยซักถามกันตามตรงว่า พวกเขาจะยินดีจ่ายแค่ไหนเพื่อแก้ปัญหานั้นๆ

Tips: ทำอย่างไรถึงจะหาไอเดียในการทำธุรกิจได้ดั่งใจ

เมื่อคิดอยากจะทำอะไรสักอย่าง อย่ามัวแต่นั่งรอโอกาสให้ผ่านเข้ามา แต่คุณต้องสวมวิญญาณนักสืบ คอยเสาะหาไอเดีย แรงบันดาลใจ ระดมความคิด คิดและหาข้อมูลอย่างหนัก เตรียมความพร้อมก่อนจะกระโดดเข้าสู่สังเวียนธุรกิจจริง เมื่อได้ลองทำตามทั้ง 4 ขั้นตอนนี้แล้ว เชื่อแน่ว่าคุณจะได้รับไอเดียใหม่ๆ และเห็นโอกาสในการทำธุรกิจก่อนใคร

 

 

บทความที่น่าสนใจ

โออิชิ กรุ๊ป เปิดกลยุทธ์ ปี 2020 บุกตลาดเครื่องดื่ม ร้านอาหาร และอาหารพร้อมทาน

ส่อง 5 เทรนด์ร้านกาแฟ มาแรงในเกาหลีใต้

เจ้าของร้านรู้หรือยัง? กฎกระทรวงสาธารณสุข ที่ร้านอาหารต้องทำตาม

เปิดร้านอาหาร แล้วไม่เจ๊ง ต้องทำอย่างไร?

กลยุทธ์ในการรับมือปัญหาใหญ่ของ ธุรกิจขนาดเล็ก

 

เรื่องแนะนำ

สร้าง content

สร้างเนื้อหา อย่างไร ให้โดนใจบน Facebook

เมื่อคุณเริ่มลงมือทำเพจ Facebook ร้านอาหารเป็นของตัวเอง นอกจากการใส่ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับร้านอาหารให้ละเอียดชัดเจน เพื่อให้ง่ายต่อการติดต่อแล้ว สิ่งสำคัญลำดับต่อมาก็คือการสร้างสรรค์เนื้อหาในหน้าเพจร้านอาหารให้คนสนใจด้วย

เจาะพฤติกรรมคนเลือกร้านอาหารยุคใหม่

ในยุคปัจจุบันนี้ ต้องยอมรับเลยว่าเทรนด์ต่าง ๆ บนโลกใบนี้ เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วมาก ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี แฟชั่น หรือแม้แต่เรื่องอาหารการกิน

เมนูเด็ด

5 เมนูเด็ด ไม่อยากตกเทรนด์ ต้องเพิ่มในเมนู!

รนด์อาหารสุขภาพกำลังมาแรงมาก หากร้านอาหารออกมารองรับความต้องการผู้บริโภคได้ ก็มีโอกาสเพิ่มยอดขายได้ง่ายๆ มาดูกันกว่าว่า 5 เมนูเด็ด ที่ว่านั้น มีอะไรบ้าง

Food Trend

อัปเดตเทรนด์คอนเทนต์อาหาร ช่วงนี้ผู้บริโภคชอบอะไร ? แนวการทางโปรโมทร้านให้ลูกค้าอยากซื้อ!

อัปเดตเทรนด์คอนเทนต์อาหาร ช่วงนี้ผู้บริโภคชอบอะไร ? แนวการทาง ” โปรโมทร้าน ” ให้ลูกค้าอยากซื้อ! เชื่อว่าทุกวันนี้ก่อนที่ทุกคนจะซื้อหรือใช้อะไรจะต้องหารีวิวมาดู เพื่อประกอบการตัดสินใจก่อน ยิ่งตอนนี้หลายคนหลีกเลี่ยงการออกจากบ้าน เพราะกังวลเรื่องโรคระบาดด้วยแล้วนั้น การจะออกมาเลือกซื้อ เลือกดู จับจ่ายใช้สอยก็เป็นอะไรที่หลายคนไม่อยากเสี่ยง ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนี้คนจึงหันไปเสพคอนเทนต์ของเหล่า Reviewer หรือ Blogger เพื่อใช้ในการตัดสินใจสั่งผ่านเดลิเวอรี่แทน  “อาหาร” สิ่งหนึ่งที่ผู้คนให้ความสนใจดูเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นรีวิวอาหารหรือวิดีโอสอนทำอาหาร ซึ่งคอนเทนต์เหล่านี้สามารถช่วยเพิ่มยอดขายให้ผู้ประกอบการได้อีกทางหนึ่ง ดังนั้นลองมาดูแนวทางการทำคอนเทนต์จาก คุณณีรนุช อิทธิปัญญาวรกุล Food Blogger เจ้าของเพจ Thintomorrow ที่ได้มาเล่าใน Club House ถอดบทเรียนสู้วิกฤติ ธุรกิจร้านอาหารดัง ถึงเทรนด์คอนเทนต์อาหาร ช่วงนี้ผู้บริโภคชอบอะไร ? และแนวการทางโปรโมทร้านให้ลูกค้าอยากซื้อ! จะมีอะไรบ้างมาดูกัน!      พฤติกรรมของคนในตอนนี้👤: ช่วงนี้พฤติกรรมของผู้บริโภคค่อนข้างจะเปลี่ยนไป อย่างช่วงก่อนหน้านี้เราจะรู้สึกว่าคนทั่วไปที่อยู่คนเดียวหรืออยู่กันไม่กี่คนจะ จะใช้บริการแอปเดลิเวอรี่เยอะกว่าคนที่อยู่เป็นครอบครัว แต่หลัง ๆ มานี้คนที่อยู่เป็นครอบครัวขนาดกลางไปจนถึงครอบครัวใหญ่มีการสั่งเดลิเวอรี่มากขึ้น ซึ่งจากที่เราเคยสอบถามเหตุผลของคนที่อยู่รอบตัว ได้คำตอบว่าช่วงนี้คนออกไปข้างนอกน้อยลง เขาไม่ค่อยอยากเดินตลาดหรือไม่อยากเดินซุปเปอร์บ่อย ๆ เพราะไม่อยากเสี่ยงกับโรคหรือว่าอยู่บ้านล็อกดาวน์นาน ๆ […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.