ความเห็นจากกลุ่มคนรักบุฟเฟต์ พกน้ำจิ้มไปร้านอาหาร เท่ากับไม่ให้เกียรติร้านไหม?

พกน้ำจิ้มไปร้านอาหาร เป็นการไม่ให้เกียรติร้านไหม? ความคิดเห็นจากสมาชิก กลุ่มคนรักบุฟเฟต์ (Buffet Lovers)

พกน้ำจิ้มไปร้านอาหาร เป็นการไม่ให้เกียรติร้านไหม?
ความคิดเห็นจากสมาชิก กลุ่มคนรักบุฟเฟต์ (Buffet Lovers)

แอดได้ไปเห็นโพสต์หนึ่งที่สมาชิก “กลุ่มคนรักบุฟเฟต์ (Buffet Lovers)” ได้มาตั้งคำถามเกี่ยวกับประเด็นเรื่องน้ำจิ้มได้อย่างน่าสนใจ ซึ่งประเด็นนี้ได้มีการตั้งคำถามถึง “การพกน้ำจิ้มไปร้านบุฟเฟต์ ว่าเป็นการกระทำที่ไม่ให้เกียรติร้านหรือไม่?” โดยสมาชิกเจ้าของโพสต์ ได้ยกตัวอย่างว่าเธอก็เป็นคนหนึ่งที่พกน้ำจิ้มซีฟู้ดไปร้านบุฟเฟต์ ด้วยเหตุผลว่าบางร้านน้ำจิ้มไม่ถูกปาก เลยพกไปเองดีกว่าจะได้กินได้เยอะ ๆ และเปรียบเทียบว่าถ้าตนเป็นเจ้าของร้านก็น่าจะชอบ ที่ไม่ต้องเปลืองน้ำจิ้มที่ร้าน
.
ซึ่งเมื่อเรื่องนี้ออกไปก็ได้มีสมาชิกกลุ่มดังกล่าวต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันด้วยเหตุผลที่หลากหลาย แบ่งออกเป็น 2 ฝ่ายหลัก ๆ คือฝ่ายที่คิดว่าสามารถพกน้ำจิ้มไปได้ ไม่เห็นเป็นอะไร แต่ต้องมีการสอบถามหรือขออนุญาตร้านก่อนพกน้ำจิ้มเข้าไปด้วย กับฝ่ายที่คิดว่าไม่ควรนำอาหารอื่น ๆ เข้าร้านอาหาร

โดยสรุปเป็นเหตุผลหลัก ๆ ได้ ดังนี้

👤💬 มองว่า พกน้ำจิ้มไปได้

🔸กินคีโต🍴

“คนกินคีโตต้องพกไปค่ะ ต้องปรุงน้ำจิ้มเอง แล้วไปทานเนื้อสัตว์ (ที่ไม่หมัก) ที่ร้าน แต่คิดว่ายังไงก็ควรพูดคุยตกลงกันก่อนว่าโอเคทั้งสองฝ่ายไหม เพราะบางร้าน Signature เขาคือน้ำจิ้ม”

“คนกินคีโตบางที่ก็เรื่องปกติเลย พกไปเองเพราะไม่อยากหลุดหรือปนเปื้อนเยอะกว่าจะเข้าใหม่ลำบาก”

“เราทานคีโต พกน้ำจิ้มไปเอง ร้านน่าจะชอบนะคะ เพราะเราทานน้ำจิ้มทั่วไปไม่ได้”

🔸ข้อจำกัดส่วนตัว🤢

“ตอบในมุมของมนุษย์กินเผ็ดไม่ได้นะคะ คือเราเป็นคนกินเผ็ดไม่ได้เลย นิดนึงก็แสบริมฝีปากไหม้เป็นสะเก็ดเลยค่ะ เราพกไปเองแต่เอาไปในร้านที่เป็นร้านประจำ ที่เขาอนุญาต ส่วนร้านใหม่ ๆ จะพกไปแต่จะไปขอก่อน ซึ่งบางร้านถ้าเลิ่กลั่กหรือหัวเราะว่าเราเวอร์ เราก็แค่ขอบคุณค่ะ ยิ้ม ๆ แล้วเดินออก เพราะกินไม่ได้จริง ๆ ถ้าสมมติไปกินกับเพื่อน ๆ กระทันหัน เราไม่เคยกินน้ำจิ้มได้เลยค่ะ จะขอเกลือมาจิ้มอาหารทะเลแทน เพื่อน ๆ รู้ แต่อันนี้ย้ำอีกครั้งว่าเป็นมุมคนกินเผ็ดไม่ได้นะคะ หลายร้านเข้าใจค่ะ พกไปกินแฮปปี้ดี”

“เราแพ้สาลีค่ะ เลยต้องพกน้ำจิ้มไปเอง ก่อนหน้านี้เคยไปกินร้านนึง เราก็ถามเขาก่อนแล้วว่าในน้ำจิ้มมีสาลีไหมเราแพ้ ทางร้านบอกว่าไม่มี เรากินไปได้นิดเดียว ผื่นแพ้ขึ้นแดงทั้งตัวเลยค่ะ”

🔸น้ำจิ้มไม่ถูกปาก👅

“บางร้าน มันก็ไม่ไหวกับน้ำจิ้มจริงๆ เช่นส่วนตัวเพื่อนและคนอื่นๆ เชียร์ร้านชาบูร้านนึงมาก เลยลองตัดใจไปชิมดู ไม่ไหวเลยจริงๆ กับน้ำทุกรสชาติ ที่มีให้ในวันนั้น เนื้อดีวัตถุดิบดี แต่น้ำจิ้มไม่ใช่ทางของผม เลยไม่ได้ไปอีก ถ้าไปอีกก็คงพกน้ำจิ้มไปเอง”

“ส่วนตัวว่าถ้ากับร้านซีฟู้ดก็คงเสียความรู้สึก เพราะแบบหัวใจของร้านบุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดคือน้ำจิ้มซีฟู้ด แต่ขอยกตัวอย่างร้านนึงที่มีเมนูกุ้งแม่น้ำด้วย แต่เคยขอน้ำจิ้มซีฟู้ดมาทานคู่ กล้าพูดเลยว่ารสชาติเหมือนน้ำจิ้มขวดในร้านสะดวกซื้อ แย่มากๆ ต้องพกไปเอง”

“หมูกระทะแถวบ้าน คือดีมาก ติดอย่างเดียวใช้น้ำจิ้มสำเร็จรูปรสจัดแต่ออกหวาน คือถ้าเติมมะนาวไปลงคืออร่อยเลย แต่ติดที่ว่าร้านใช้มะนาวขวด จบเห่!!”

👤💬 มองว่า ไม่ควรนำอาหารอื่น ๆ เข้าร้านอาหาร

🔸ไม่ให้เกียรติ🙅🏻‍♀️

“ถือว่าหยามเจ้าของร้านครับ หาว่าน้ำจิ้มเขาไม่อร่อย เคยทำไปครับ เขาไล่ผมออกจากร้านเลย ”

ส่วนตัวถ้าแง่คนทำอาหารคงใช่ เหมือนไปบอกว่าเขาทำไม่อร่อย ในแง่เจ้าของร้านเจอก็คงหนักใจแต่จะบ่นก็กลัวดราม่า บางคนถึงขั้นไม่อยากทำบุฟเฟ่ต์ราคาประหยัด เพราะเลี่ยงกลุ่มลูกค้าเลยนะ ถ้าเลี่ยงได้เลี่ยงไม่เอาของนอกร้านไปกินในร้านตามข้อตกลงคือดีสุด”

🔸สุขอนามัย🧼

“ถือว่าผิดมารยาทค่ะ ในต่างประเทศนี่เรื่องคอขาดบาดตายมาก ไม่ใช่แต่ไม่ให้เกียรติเชฟ แต่เป็นเรื่องสุขอนามัย เพราถ้าเราป่วยอาหารเป็นพิษท้องเสียแล้วไปอ้างว่าเป็นเพราะอาหารในร้านเขา เขาต้องรับผิดชอบ แต่ถ้าเขาพบว่าคุณพกน้ำจิ้มไปเอง จากที่จะเรียกร้องค่าเสียหายจากร้านได้ ร้านก็หลุดพ้นความรับผิเชอบไป”

“เราเคยทำงานที่ร้านอาหารในห้าง เคยถามผู้จัดการแบบนี้แหละว่าลูกค้าขอเอาอาหารมาเองแล้วทานกับของในร้านได้ไหม ผู้จัดการบอกว่าไม่อนุญาตให้เอาอย่างอื่นเข้ามาเพราะถ้าลูกค้าทานมื้อนั้นแล้วอาหารเป็นพิษหรือเป็นอะไรขึ้นมา ร้านจะไม่สามารถสืบทราบได้เลยว่ามันเกิดจากอาหารของร้านหรือของที่ลูกค้านำเข้ามา ดังนั้นร้านอาจปฏิเสธความรับผิดชอบได้”

👤💬 มุมผู้ประกอบการ

“ถ้าลูกค้าจะเอาอะไรที่ “ร้านให้ฟรี” หรือ​ “รวมอยู่ในค่าใช้จ่าย” อยู่แล้วมา​ ผมอนุญาต​ครับ​ เพราะร้านไม่เสียอะไร แต่ถ้าเป็นของที่ร้าน​ขาย​หรือต้องซื้อเพิ่ม อันนั้นไม่ได้ครับ”

“สำหรับเราเอาที่ลูกค้าถนัดเลยค่ะ แค่เขามาอุดหนุนทานอาหารร้านเราก็ดีใจมากแล้ว ส่วนน้ำจิ้มก็เอาที่ชอบในรสชาติที่ตัวเองโปรดฝีมือตัวเองมาได้เลย”

“ในมุมเจ้าของร้าน ผมจะถามว่า…น้ำจิ้มที่ร้านไม่อร่อยหรือครับ ไม่อร่อยตรงไหน ควรปรับปรุงอย่างไร ? เมื่อรู้คำตอบก็นำไปพิจารณาว่ารสชาติเป็นไปอย่างที่ลูกค้าว่าหรือเปล่า? หรือเป็นความชอบเฉพาะตัว เช่น ชอบเปรี้ยวจัด เค็มจัด หรือหวานจัด แต่ในเบื้องต้นต้องพิจารณาให้ได้ว่า น้ำจิ้มของทางร้านได้มาตรฐานตามรสชาติที่ควรจะเป็นหรือเปล่า? เพราะแต่ละคนอาจจะชอบไม่เหมือนกัน ส่วนเรื่องการนำน้ำจิ้มมาเอง ผมไม่ซีเรียสว่าจะเป็นการไม่ให้เกียรติทางร้านหรือเปล่า หรือแม้กระทั่ง จะได้ประหยัดน้ำจิ้ม ร้านอาหารที่ดี ควรยอมรับคำติชมเพื่อนำไปปรับปรุงคุณภาพและรสชาติของอาหาร และบริการ ไม่ย่ำอยู่กับที่”

นอกจากนี้หลายคนก็แชร์เชิงเสนอแนะในกรณีที่ร้านนั้น ๆ มีน้ำจิ้มที่ไม่ถูกใจ ไม่ตอบโจทย์ว่าให้เลือกที่จะเปลี่ยนร้านไปหาร้านที่รสชาติถูกปากดีกว่า เพราะเดี๋ยวนี้มีตัวเลือกให้กินเยอะมาก

รวมถึงบางคนก็ได้แนะนำทางร้านด้วยเช่นกันว่า ถ้าหากร้านไม่ต้องการให้ลูกค้านำอาหารเข้ามาในร้าน อาจทำการติดป้ายแจ้งไว้เลย เพื่อเป็นการตัดปัญหาตั้งแต่ต้น

🔸ร้านที่อนุญาตให้นำอาหารอื่นเข้ามาได้?😱

สำหรับกรณีการนำอาหารอื่นเข้าไปในร้านอาหาร ก็มีร้านหนึ่งที่ได้ใช้วิธีการที่น่าสนใจ อย่างร้าน CQK Hot Pot ที่อนุญาตให้ลูกค้านำอาหารอื่นเข้าไปในร้านได้ โดยใช้วิธีการแจ้งลูกค้าว่า “ถ้าท่านไม่มีอาหารจานโปรดที่สั่งได้ในร้าน ท่านสามารถนำอาหารเข้ามาเองได้ และท่านสามารถนำเครื่องดื่มโปรดมาได้โดยไม่คิดค่าเปิด” ซึ่งถือว่าเป็นวิธีการที่แปลกใหม่มาก ๆ ที่ร้านอาหารร้านหนึ่งจะยอมให้ลูกค้านำอาหารอื่นเข้ามามารับประทานในร้านได้
.
แล้วคุณล่ะคิดเห็นกับประเด็น “พกน้ำจิ้มไปร้านบุฟเฟต์” อย่างไร? มาแชร์กัน
.
Reference: https://bit.ly/3oqrbGahttps://bit.ly/3B0JUgS
#AmarinAcademy #ร้านอาหาร

เรื่องแนะนำ

Company

ใช้บริการรับจดทะเบียนบริษัทรูปแบบต่าง ๆ มีกี่ขั้นตอน ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง? 

อาจจะถึงเวลาแล้วที่ผู้อ่านจะต้องเริ่มคิดถึงการ จดทะเบียนบริษัท เนื่องจากมีข้อดีหลายอย่างและไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด หากเริ่มลองทำธุรกิจมาสักพักแล้วถึงจุดหนึ่งที่รายได้สูงพอสมควร การจ่ายภาษีในฐานะบุคคลธรรมดาอาจจะทำให้คุณเสียเปรียบได้ เพราะเป็นการจ่ายภาษีแบบขั้นบันได แต่เมื่อจดทะเบียนบริษัทแล้ว อัตราภาษีจะคงที่อยู่ที 20% ในบทความนี้เราเลยรวบรวมเกี่ยวกับการใช้บริการรับจดทะเบียนบริษัทรูปแบบต่าง ๆ ว่ามีทั้งหมดกี่ขั้นตอน และต้องจัดเตรียมเอกสารอะไรไว้บ้าง? 1.ตั้งชื่อบริษัทสำหรับใช้ยื่นจดทะเบียนบริษัท ก่อนอื่นก็ต้องเข้าไปตรวจสอบในฐานข้อมูลของบริษัทที่จดทะเบียนในไทยของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าก่อนว่าชื่อบริษัทที่คุณต้องการนั้นไม่ได้ซ้ำกับบริษัทอื่น แต่ก่อนที่จะใช้งานได้ต้องลงทะเบียนบนเว็บไซต์ก่อนและหากพบว่าชื่อที่ตั้งใจจะใช้ไม่ได้ซ้ำกับใครแล้ว ก็ทำเรื่องจองชื่อบริษัทที่ต้องการและมองหาบริการรับจดทะเบียนบริษัทได้เลย 2.จดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิก่อนที่จะจ้างบริการรับจดทะเบียนบริษัท หลังจากได้รับการรับรองชื่อบริษัทแล้ว ภายใน 30 วันต้องยื่นจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิเพื่อแสดงเจตจำนงในการจัดตั้งบริษัท ซึ่งในขั้นตอนนี้ต้องเตรียมข้อมูลต่อไปนี้ไว้ให้พร้อม ชื่อบริษัท ตำแหน่งที่ตั้งบริษัท วัตถุประสงค์ในการจัดตั้งบริษัท จำนวนของทุนจดทะเบียน ชื่อ อายุ ที่อยู่ พร้อมจำนวนของกรรมการและพยาน 2 คน จำนวนหุ้นที่ชำระแล้วอย่างน้อยร้อยละ 25 ของทุนจดทะเบียน ชื่อผู้ตรวจสอบบัญชี พร้อมเลขทะเบียนผู้สอบบัญชีรับอนุญาต และค่าตอบแทน ชื่อ อายุ ที่อยู่ของผู้ถือหุ้นและรายละเอียดจํานวนหุ้นของแต่ละคน 3.เตรียมเอกสารสำหรับใช้บริการรับจดทะเบียนบริษัท แบบจองชื่อนิติบุคคลในข้อแรก สําเนาบัตรประจําตัวประชาชนของที่ต้องการจดทะเบียนบริษัท รวมทั้งของกรรมการทุกคน หลักฐานการรับชําระค่าหุ้น แผนที่แสดงตำแหน่งที่ตั้งของบริษัท 4.เซ็นรับรองสำเนาถูกต้องของเอกสาร หลังจากที่ได้รับอนุมัติข้อมูลจากฝ่ายทะเบียน ให้เซ็นรับรองเอกสารให้เรียบร้อยเพื่อเตรียมยื่นสำหรับใช้บริการรับจดทะเบียนบริษัท ในขั้นตอนนี้อาจจะมีการขอเอกสารเพิ่มเติมจากนายทะเบียนตามแต่การพิจารณา 5.ยื่นคำขอให้ได้รับจดทะเบียนบริษัทที่สำนักงานของกรมธุรกิจการค้าใกล้บ้าน เมื่อเตรียมเอกสารครบเรียบร้อยแล้ว นายทะเบียนก็จะรับจดทะเบียนบริษัทและออกใบรับรองให้ไว้เป็นหลักฐาน […]

วิธีรับมือลูกค้า ที่มีปัญหา รับมืออย่างไรให้เจ๋ง พลิกวิกฤตเป็นโอกาสได้

เชื่อไหมว่า….เจ้าของร้านอาหารหลายร้านไม่รู้ว่าจะมี วิธีรับมือลูกค้า ที่มีปัญหาอย่างไร ? หรือบางรายก็คิดว่าการรับมือลูกค้าเป็นเรื่องของศิลปะและประสบการณ์ ถ้าเกิดก็ปรับไปตามหน้างานก็พอ ซึ่งร้านอาหารจำนวนไม่น้อย ไม่มีการกำหนดขั้นตอนการรับมือลูกค้า และไม่เคยฝึกพนักงานให้รับมือ สุดท้าย…มีร้านอาหารที่ต้องเจ๊ง เพราะรับมือกับลูกค้าไม่เป็น Customer Complain Handling เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องถูกกำหนดไว้ในมาตรฐานการบริการ SOP  เพื่อให้ทีมงานสามารถนำไปปฏิบัติได้ สามารถพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสได้ หรืออย่างน้อยก็ต้องส่งผลเสียกับร้านน้อยที่สุด  มาดูกันว่ามีแนวทางอะไรบ้าง ที่ควรรู้ก่อนนำไปกำหนดรูปแบบของร้านคุณเอง Customer Complain Handling วิธีรับมือลูกค้า ที่ควรรู้! กำหนดความร้ายแรงให้กับกรณี วิธีรับมือลูกค้า เมื่อเกิดปัญหาโดยทั่วไปนั้น มีลำดับขั้นตอนที่ไม่แตกต่างกันนัก ไม่ว่าจะเป็นการขอโทษก่อนเป็นลำดับแรก จากนั้นสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้น  และการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าโดยทันที แต่สิ่งที่ทำให้การรับมือกับปัญหาต่าง ๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้กว่านั้น คือ การกำหนดระดับความรุนแรงของปัญหาต่างๆ ที่อาจจะเกิดหน้าร้านเข้าไปด้วย เพราะจะช่วยให้ทีมงานร้านอาหารสามารถจัดการกับปัญหาตรงหน้าได้อย่างเหมาะสม เพราะในแต่ละช่วงเวลาร้านอาจจะยุ่ง มีลูกค้ารายอื่น ๆ ที่ต้องบริการ รวมถึงระดับความไม่พอใจของลูกค้านั้นกระทบกับบรรยากาศของร้าน หรือการบริการกับลูกค้าอื่น ๆ ต่างกัน การกำหนดระดับความรุนแรงจากมากไปน้อย เป็นเหมือนเครื่องมือในการสื่อสารกับทีมงานในส่วนต่าง ๆ ของร้านว่ากำลังใช้แผนการใดในการรับมือ เช่น ต้องเร่งรีบแค่ไหน ต้องการตัวช่วยระดับผู้จัดการหรือไม่ […]

โครงสร้างต้นทุนร้านอาหาร

โครงสร้างต้นทุนร้านอาหาร จะเปิดร้านต้องรู้!

สถิติจาก Wongnai รายงานว่า ในบรรดาร้านอาหารที่เปิดหลังปี 2660 มีเพียง 10% เท่านั้นที่อยู่รอด  ซึ่งปัญหาที่ทำให้ร้านอาหารส่วนใหญ่ไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ เป็นเพราะไม่ได้มีการวางแผนธุรกิจมาก่อน หรือศึกษากลุ่มลูกค้าในตลาดไม่ดีพอ และปัญหาสำคัญที่พบมากที่สุดจนทำให้ร้านต้องปิดกิจการลงนั้น คือการบริหารต้นทุนที่ผิดพลาด คุมต้นทุนไม่อยู่ บางร้านแม้จะขายดีแต่ก็ไม่มีกำไร ดังนั้น เจ้าของร้านควรจะต้องรู้จัก โครงสร้างต้นทุนร้านอาหาร ถ้าไม่อยากเจ๊ง   โครงสร้างต้นทุนร้านอาหาร จะเปิดร้านต้องรู้! สิ่งจำเป็นที่คนจะเปิดร้านอาหารต้องรู้ ก็คือเรื่องของ โครงสร้างต้นทุนร้านอาหาร สิ่งนี้จะเป็นตัวแนะแนวทางว่า ในการจะเปิดร้านอาหาร คุณควรลงทุนกับอะไรบ้าง มีต้นทุนในส่วนไหนที่ต้องรู้ และจะต้องวางแผนอย่างไรก่อนที่จะเปิดร้านอาหาร  เบื้องต้นเราสามารถกำหนดโครงสร้างต้นทุนร้านอาหารได้เป็น 4 ส่วนหลักๆ ดังนี้ ต้นทุนวัตถุดิบ (Food Cost) ค่าวัตถุดิบอาหาร รวมไปถึงค่าบรรจุภัณฑ์ ถือเป็นค่าใช้จ่ายหลักของร้านอาหาร เจ้าของร้านควรจะใส่ใจและควบคุมต้นทุนส่วนนี้ให้ดี โดยต้นทุนวัตถุดิบจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับประเภทของร้าน ถ้าเป็นร้านทั่วไปจะอยู่ที่ 25-30% แต่ร้านอาหารประเภทบุฟเฟ่ต์ อาจมีต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้นเป็น 45-50% ซึ่งทางร้านอาจจะต้องชดเชยด้วยการลดต้นทุนด้านอื่น เช่น ต้นทุนแรงงาน โดยให้ลูกค้าบริการตัวเองเป็นส่วนใหญ่ เพื่อให้ได้กำไรในอัตราที่เหมาะสม หรือใช้วิธีการควบคุมต้นทุนในส่วนอื่นๆ ตามความเหมาะสมของแต่ละร้าน   […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.