ตั้งราคาขาย อย่างไร ให้ขายได้และร้านอยู่รอด - Amarin Academy

ตั้งราคาขาย อย่างไร ให้ขายได้และร้านอยู่รอด

        ในช่วงวิกฤตแบบนี้ สิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ร้านอาหารอยู่รอดได้ คือการบริหารจัดการต้นทุนที่ดี และการ ตั้งราคาขาย (Price Strategy) ของอาหารที่เหมาะสม โดยเฉพาะในวงการอาหารเดลิเวอรีที่มีการแข่งขันสูง มีร้านอาหารแบบเดียวกันเป็นจำนวนมาก ผู้ประกอบการจะต้องใช้กลยุทธ์ทุกอย่างที่ทำได้ เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อจากร้านของเรา ลองมาดูการตั้งราคาขายอาหารและกลยุทธ์ต่างๆ ที่อาจจะช่วยร้านของคุณได้ครับ

ตั้งราคาขาย อย่างไร 

ให้ขายได้และร้านอยู่รอด

        พื้นฐานของการ ตั้งราคาขาย อาหาร ต้องคำนวณมาจากต้นทุนของร้าน เช่น ต้นทุนวัตถุดิบ ควรอยู่ที่ 30-35% ของยอดขาย ตัวอย่างเช่น ต้นทุนวัตถุดิบเท่ากับ 30 บาท ราคาขายก็ควรจะตั้งไว้ประมาณ 100 บาท เป็นต้น 

        แต่ไม่ใช่ว่าการคำนวณแบบนี้จะเหมาะสมกับทุกร้านอาหาร เพราะยังมีต้นทุนอื่นๆ ได้แก่ ค่าจ้างพนักงาน ค่าเช่าที่ และค่าการตลาดอื่นๆ ส่วนใครที่นำร้านอาหารเข้าร่วมกับผู้ให้บริการเดลิเวอรีต่างๆ ก็อย่าลืมต้นทุนค่า GP ที่เพิ่มขึ้นมาด้วย ดังนั้น สิ่งแรกๆ ที่ต้องทำคือการลดต้นทุนที่ไม่จำเป็นให้ได้มากที่สุด เพื่อจะเหลือกำไรมากพอที่จะบริหารร้านให้อยู่รอดต่อไป รวมถึงนำกลยุทธ์ในการตั้งราคาขายอาหารมาใช้ ได้แก่

ตั้งราคาขาย

        ตั้งราคาล่อตาล่อใจ (Leader Pricing) 

        เป็นการตั้งราคาอาหารให้ต่ำกว่าราคาตลาด เพื่อดึงดูดลูกค้าให้สนใจ และใช้ประโยชน์จากความสนใจนี้กระตุ้นการขายเมนูอาหารอื่นๆ ในร้าน และได้กำไรจากเมนูอื่นๆ มาชดเชย ซึ่งการเลือกเมนูมาตั้งราคาแบบนี้ ควรเป็นอาหารที่มีต้นทุนไม่สูงจนเกินไป และอย่าลืมว่าควรจำกัดจำนวนที่ซื้อได้ของลูกค้าแต่ละราย โดยกลยุทธ์แบบนี้สามารถจัดเป็นช่วงโปรโมชันสั้นๆ หรือจะทำแบบประจำก็ได้ เช่น จัดเป็นเมนูอาหารราคาพิเศษประจำสัปดาห์ของร้าน หรือเป็นอาหารทานเล่นราคาเบาๆ เพื่อจะส่งเสริมการขายเมนูอาหารหลัก  

        ตั้งราคาสูงพิเศษ (Premium Pricing) 

        คือการตั้งราคาที่สูงขึ้น สำหรับอาหารที่มีคุณภาพสูงขึ้นมากกว่า แทนที่จะลดราคาแข่งกับร้านคู่แข่ง ทางร้านต้องเน้นการสร้างภาพลักษณ์ว่า เป็นอาหารที่มีคุณภาพสูงใช้วัตถุดิบที่ดีกว่า เสนอบริการที่ดีกว่า มีความพิเศษที่หาไม่ได้จากร้านอื่น รวมถึงต้องมีการตลาดส่งเสริมภาพลักษณ์ของร้านและอาหารร่วมด้วย และควรตอบสนองความคาดหวังที่มากขึ้นของลูกค้าให้ได้ด้วย

ตั้งราคาขาย


        ตั้งราคาเพื่อเจาะตลาด
(Penetration Pricing)

        เป็นวิธีที่ตั้งราคาอาหารเมนูใหม่ในราคาที่ต่ำกว่าความเป็นจริง เฉพาะในช่วงแรกที่เปิดตัวเมนูนั้นๆ แก่ลูกค้า เพื่อให้อาหารราคาถูกกว่าปกติเป็นสิ่งดึงดูดให้ลูกค้าสนใจ และหันมาซื้ออาหารของร้าน เมื่อเวลาผ่านไปก็กลับมาตั้งในราคาปกติ เรียกได้ว่าเป็นราคาโปรโมชันในช่วงสั้นๆก็ได้  

        กลยุทธ์ราคาเลขคี่ (Odd Pricing) 

        คือการตั้งราคาให้ลงท้ายด้วยเลขคี่ ส่วนมากที่นิยมทั่วไปคือการลงท้ายด้วยเลข 9 ก่อนที่จะขึ้นหลักต่อไป เช่น 99 บาท 199 บาท โดยในเชิงจิตวิทยาลูกค้าจะรู้สึกว่าราคาดูต่ำลง และคุ้มค่าที่จะซื้อมากขึ้น แม้ว่าจริงๆแล้วจะต่างกันแค่ 1 บาทก็ตาม 

        การตั้งราคาตามช่วงเวลา (Seasonal Pricing) 

        การตั้งราคาตามช่วงเวลานี้ คือวิธีที่กำหนดราคาสินค้าให้ต่ำลง ในช่วงที่มีลูกค้ามาซื้ออาหารน้อย ขึ้นอยู่กับทำเลและลักษณะของร้าน เช่น ในร้านอาหารที่ไม่ได้อยู่ในทำเลที่มีคนมากนัก อาจจะตั้งราคาขายให้ถูกลงในช่วงบ่ายหรือช่วงดึกที่มีลูกค้าเข้ามาน้อย เพื่อกระตุ้นให้มีลูกค้ามาซื้ออาหารมากขึ้น 

ตั้งราคาขาย

        กลยุทธ์ราคาชุด (Product Set Pricing)

        การขายอาหารเป็นเซตเมนู คือรวมเมนูอาหารมากกว่า 1 เมนูมารวมกันเพื่อขายเป็นชุด จะมีความน่าสนใจของรูปภาพที่นำมาโฆษณา และลูกค้ารู้สึกคุ้มค่ามากกว่าเดิม แม้ว่าเราอาจจะตั้งราคารวมของชุดอาจจะต่ำกว่าราคาปกติเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เป็นการกระตุ้นให้ลูกค้าซื้อสินค้าในปริมาณที่มากขึ้นต่อครั้ง 

        แนวระดับราคา (Price Lining)

        การที่ร้านอาหารมีตัวเลือกของเมนูประเภทเดียวกัน แต่หลายราคาขึ้นอยู่กับขนาดของอาหาร หรือคุณภาพของวัตถุดิบที่นำมาใช้ จะเป็นการเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้เลือกซื้อเมนูอาหารที่อยู่ในระดับราคาที่พอใจตามความต้องการของแต่ละคน การตั้งราคาแบบแนวระดับราคานี้จะช่วยเพิ่มความหลากหลาย และเพิ่มโอกาสในการขายได้ดีกว่าทำเมนูที่คล้ายๆกันในราคาที่ใกล้เคียงกัน

        กลยุทธ์ราคาเป็นเครื่องมือที่จะช่วยเพิ่มยอดขาย และดึงดูดลูกค้า แต่ไม่ว่าร้านอาหารของคุณจะมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายแบบไหน อย่าลืมนำเสนอให้ลูกค้ารู้สึกถึงความคุ้มค่าจากการซื้อสินค้าและบริการ ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบที่ผ่านการคัดสรรมาอย่างดี อาหารรสชาติอร่อย สะอาด ปลอดภัย และมีราคาที่สมเหตุสมผลครับ

 

เรื่องแนะนำ

ตั้งราคาอาหาร

ปัจจัยที่ต้องคำนึงก่อน ตั้งราคาอาหาร

ตั้งราคาอาหาร เท่าไรดี? คงเป็นคำถามที่หลายคนสงสัย แต่ก่อนที่จะตัดสินใจ ตั้งราคาอาหาร อย่าลืมคำนึงถึงปัจจัยต่อไปนี้ ไม่อย่างนั้นอาจจะขาดทุนโดยไม่ทันตั้งตัว!

5 บริการสุดห่วย ที่ทำให้ลูกค้าไม่อยากมาร้านของคุณ

1.การบริการที่ทำให้รู้สึกเหมือน ‘ไม่มีตัวตน’ หนึ่งในประสบการณ์ที่ลูกค้าร้านอาหารยอมรับว่าทำให้รู้สึกแย่ ก็คือ การที่พนักงานของร้านไม่ให้ความสนใจในการบริการโดยเฉพาะอย่างยิ่งการกล่าวต้อนรับ ลองจินตนาการระหว่างร้าน A : ซึ่งมีพนักงานต้อนรับกล่าวคำทักทาย และจัดการที่นั่งอย่างรวดเร็ว กับร้าน B: ที่ปล่อยให้ลูกค้ายืนรอ ไม่กล่าวคำทักทาย จนคุณต้องเดินเข้าไปหาที่นั่งเอง ร้านไหนที่คุณอยากเดินเข้าไปกินมากกว่ากัน การทักทายนั้นมีความสำคัญมากและเป็นด่านแรกในการสร้างความประทับใจ ซึ่งถ้าหากลูกค้ารู้สึกไม่ดีตั้งแต่เริ่มต้นก็มีแนวโน้มที่จะไม่พอใจในเรื่องอื่น ๆ ด้วย   2.พนักงานดูแลเหมือนเพื่อนสนิท…… จนเกินไป           บริการดุจญาติมิตรนั้นอาจดีสำหรับธุรกิจบางประเภท แต่การบริการสำหรับธุรกิจร้านอาหารนั้นลูกค้าส่วนใหญ่มักต้องการเวลาส่วนตัว การที่พนักงานคุยเล่นกันข้ามหัวลูกค้า หรือใช้คำพูดในการบริการที่แสดงความเป็นกันเองกับลูกค้ามากจนเกินไป นอกจากจะทำให้ลูกค้ารู้สึกตะขิดตะขวงใจ ยังแสดงถึงความไม่เป็นมืออาชีพในการให้บริการอีกด้วย     3.พนักงานไม่แม่นข้อมูลอาหาร และการบริการ           ร้านอาหารอร่อยขายได้ แต่ร้านอาหารอร่อยที่ขายดีอยู่ที่พนักงานให้บริการและให้คำแนะนำเมนูต่าง ๆ ได้อย่างมืออาชีพ ลองจินตนการว่า การที่ลูกค้ามีคำถามแล้วพนักงานเสิร์ฟต้องวิ่งไปถามพ่อครัว ถามผู้จัดการ นอกจากจะทำให้การบริการสะดุดแล้ว ลูกค้าย่อมรู้สึกถึงความไม่พร้อมในการให้บริการ หากพนักงานบริการได้อย่างเป็นลำดับขั้นตอน รู้จังหวะในการเข้าถึงลูกค้า การแนะนำเมนูที่เหมาะสมได้อย่างลื่นไหล สิ่งเหล่านี้จะสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้อย่างแน่นอน   4.การบริการที่สร้างความลำบากให้แก่ลูกค้า           ในยุคนี้การอำนวยความสะดวกสำคัญไม่แพ้รสชาติอาหาร เพราะเมื่อไหร่ที่ลูกค้ารู้สึกถึงความยุ่งยากในการบริการจากร้านของคุณ เขาจะตัดสินใจไปร้านอื่นทันที ยกตัวอย่างเช่น […]

อยากเปิดร้านอาหาร ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง

เปิดร้านอาหารสักร้านไม่ว่าจะเปิดในห้าง หรือ นอกห้าง ต้องมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ที่เป็นค่าใช้จ่ายสำคัญ ๆ เพื่อให้ทุกท่านที่กำลังจะเปิดร้านได้เตรียมความพร้อม

5 ปัญหาวัตถุดิบ สุดคลาสสิค แก้ได้ กำไรมา!

การบริหารจัดการวัตถุดิบให้มีประสิทธิภาพ ถือเป็นกฎเหล็กของคนทำร้านอาหารที่ช่วยให้คุณสามารถควบคุมต้นทุนอาหารได้ไม่ว่าจะสถานการณ์ไหน มาดูกันว่าปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยๆกับคนทำร้านอาหารในด้าน ปัญหาวัตถุดิบ มีอะไรบ้าง แล้วสามารถหลีกเลี่ยงได้ด้วยวิธีใด   5 ปัญหาวัตถุดิบ สุดคลาสสิค แก้ได้ กำไรมา!   1. วัตถุดิบเน่าเสีย วัตถุดิบเน่าเสีย เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยอันดับต้น ๆ ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการจัดเก็บผิดวิธี ขาดขั้นตอนในการนำไปใช้งาน เจ้าของร้านอาหารจึงต้องให้ความสำคัญกับวิธีการจัดเก็บวัตถุดิบที่ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นอุณหภูมิที่เหมาะสมของวัตถุดิบแต่ละชนิด การตัดแต่งก่อนการจัดเก็บที่ถูกต้อง  รวมถึงวางระบบสต็อกวัตถุดิบ การจัดเรียงวัตถุดิบเพื่อให้สอดคล้องกับอายุการใช้งาน การทำบันทึกเพื่อให้เกิดการนำมาใช้ในลักษณะ first in first out  ให้ความสำคัญกับการกำหนดขั้นตอนการทำงานของทีมงานที่เกี่ยวข้องจะช่วยให้การนำวัตถุดิบมาใช้เป็นระบบ รวมถึงอย่าลืมตรวจสอบอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องว่าทำงานได้อย่างสมบูรณ์ทุกครั้ง ก็จะช่วยลดปัญหาเน่าเสียได้   2.คุณภาพของวัตถุดิบลดลง             การจัดเก็บวัตถุดิบ ส่งผลต่อคุณภาพของอาหารโดยตรง แต่ในบางครั้งจัดเก็บวัตถุดิบไว้อย่างดีแล้ว แต่คุณภาพของวัตถุดิบกลับลดลง เพราะการทำงานที่ซ้ำซ้อนของทีมงานครัว เช่น การทำความสะอาดวัตถุดิบก่อนจัดเก็บ และก่อนปรุง ทำให้สูญเสียคุณภาพของวัตถุดิบ เช่น เนื้อสัตว์ ผักบางชนิด นอกจากนี้ปัญหาอาจเกิดจากการขาดการตรวจสอบคุณภาพของวัตถุดิบที่รับจากซัพพลายเออร์ ไม่ว่าจะเป็นระยะเวลาในการจัดส่ง สินค้าตรงตามที่ต้องการ หรือการทดแทนวัตถุดิบที่ขาดตลาดทำให้เกิดปัญหาได้เช่นกัน เพราะฉะนั้น การกำหนด SOP ในแต่ละขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.