Food Stylist อาชีพสุดครีเอทของวงการร้านอาหาร - Amarin Academy

Food Stylist อาชีพสุดครีเอทของวงการร้านอาหาร

หน้าที่ของฟู้ดสไตลิสต์ ( Food Stylist ) คือ ตกแต่งอาหารให้สวยงาม ชวนรับประทาน ส่วนใหญ่มักทำงานร่วมกับเชฟ ในการแต่งจานเพื่อถ่ายภาพประชาสัมพันธ์ แน่นอนว่าหน้าตาอาหารที่สวยงามขึ้นจะทำให้สามารถเพิ่มราคาอาหารให้สูงขึ้นตามไปด้วย

 

ฟู้ดสไตลิสต์ ( Food Stylist )

อาชีพFood Stylist เป็นอาชีพที่ต้องอาศัยเรื่องของรสนิยม เพราะฉะนั้นการหยิบจับ ผสมผสานของใกล้ตัวมาจัดวางให้เกิดเป็นเอกลักษณ์ สร้างความแตกต่าง กระตุ้นให้คนเห็นอาหารแล้วอยากทานจึงเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยการเรียนรู้ ประสบการณ์ และจินตนาการ

ฟู้ดสไตลิสต์ที่ดี ควรจะรักในการทำอาหาร เข้าใจธรรมชาติของวัตถุดิบ และวิธีการปรุงที่แตกต่างกัน มีความคิดสร้างสรรค์ พิถีพิถันใส่ใจในรายละเอียด และรักการเรียนรู้สิ่งใหม่อยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ต้องเป็นผู้ที่สามารถดึงจุดเด่น จิตวิญญาณ ดึงความเป็นตัวตนของอาหารออกมาให้เด่นชัด นำเสนอแก่คนที่ต้องการเสพสื่อจากเราให้ได้มากที่สุด ทำอย่างไรให้คนรู้สึกว่าเห็นอาหารแล้วอยากหยิบเข้าปาก ไม่ใช่ทำอาหารให้แค่ดูสวยเพียงอย่างเดียว สิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องน่าทานด้วย

“Food Stylist อาจไม่ใช่คนที่ทำอาหารเป็นหรือเก่ง

แต่ต้องมีความเข้าใจในเรื่องของอาหาร”

 

ทำร้านอาหารให้ปัง

หลักจิตวิทยากับหน้าตาของอาหาร

การจัดวางอาหารมีผลต่อความอยากรับประทานไม่น้อย

ในยุคที่โซเชียลมีเดียเข้ามามีบทบาท ปฏิเสธไม่ได้ว่าหลายคนหันมาสนใจการถ่ายภาพมากขึ้น แม้แต่ตัวนักเขียนเองยังชื่นชอบการถ่ายภาพรีวิวอาหาร เพราะอาหารคือปัจจัย 4 เป็นเรื่องที่ทุกคนทุกระดับเข้าถึงได้ง่าย อีกทั้งภาพอาหารยังเป็นวิธีที่ผู้คนใช้บอกเล่าคนอื่นๆ ว่ากำลังทำอะไรอยู่ โดยการโพสต์ภาพเมนูจานเด็ดผ่านโซเชียล ถือได้ว่าเป็นการเผยแพร่เรื่องราวในชีวิตประจำวันของตนเองสู่สาธารณะ เพราะภาพของอาหารที่ดูน่ารับประทาน การจัดตกแต่งที่สวยงามเหล่านั้นสามารถสร้างภาพลักษณ์ให้คนอื่น ๆ มองเราในเชิงบวกได้ และอีกแง่ก็คือหน้าตาของอาหารค่อนข้างมีผลต่อการสั่งอาหารมาก ๆ เช่นกัน เพราะถ้าหากอาหารดูน่ารับประทาน มีสีสันที่สดใสสวยงาม ก็จะทำให้คนเลือกที่จะสั่งอาหารจานนั้น เลือกไปทานที่ร้านอาหารนั้น และที่สำคัญคือเวลาที่เราสั่งอาหารมาทาน เราไม่ได้หวังแค่ว่าจะทานให้เสร็จๆ ไป เราจะคำนึงถึงสัมผัสทั้ง 5 ด้วยนั่นก็คือ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส

 

หลักการจัดอาหารให้ดูน่ารับประทาน

การจัดวางที่ดีทำให้ภาพที่ออกมา และหน้าตาอาหารดูน่าทานมากขึ้น

  1. สร้างโครงร่าง โดยเริ่มต้นจากการวาดรูป วาดโครงคร่าวๆให้เห็นภาพจานอาหาร เลือกหยิบส่วนผสมที่ต้องการวางลงไปบนจาน และใช้พื้นที่ว่างให้เป็นประโยชน์ เพื่อทำให้การตกแต่งอาหารดูเรียบง่าย
  2. สร้างสมดุลบนจาน เล่นสี รูปทรงและเนื้อพื้นผิว เพื่อให้มั่นใจว่าคนที่รับประทาน จะไม่รู้สึกว่าเยอะเกินไป และการจัดตกแต่งอาหาร ไม่ควรกลบรสชาติและประโยชน์ของอาหารนั้นด้วย
  3. สัดส่วน ปริมาณส่วนผสมที่ถูกต้อง และใช้ตัวจานช่วยเติมเต็มให้อาหารดูสมบูรณ์ โดยมีขนาดไม่ใหญ่หรือเล็กเกินไป ใช้สัดส่วนโปรตีน คาร์โบไฮเดรต และผักที่ถูกต้อง เพื่อสร้างสรรค์อาหารที่ได้คุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน
  4. เน้นส่วนผสมหลัก จัดจานโดยเน้นส่วนผสมหลักให้มีความโดดเด่นออกมา และให้ความสำคัญกับวัตถุดิบรองอื่น ๆ อย่างเท่าเทียมกัน เช่น ของตกแต่งจาน ซอส และแม้กระทั่งตัวจานเองด้วย
  5. จัดวางแบบคลาสสิก เทคนิคการจัดวางแบบคลาสสิกจะใช้อาหารพื้นฐาน 3 อย่าง คือแป้ง ผัก และอาหารหลัก ในการจัดวางที่เฉพาะเจาะจง แนวทางง่าย ๆ ในการจัดจานแบบคลาสสิกคือคิดว่าจานอาหารเป็นหน้าปัดนาฬิกา

 

เทรนด์การสร้างสรรค์อาหารตาที่จะเข้าไปเป็นหนึ่งในใจ

ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบันคนเสพเรื่องของคอนเทนต์มากขึ้น เสพเรื่องของความแปลกใหม่ ความแตกต่าง เรื่องของประวัติศาสตร์ ความเป็นมา ความสนุกสนาน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องราวและหน้าที่ของFood Stylist ที่ต้องนำเสนอเรื่องราวเหล่านั้นออกมาให้อาหารน่าสนใจมากขึ้นกว่าที่เคยเป็น หากคุณเป็นผู้ประกอบร้านอาหารหรือเพียงแค่มีใจรักในเรื่องอาหาร การเริ่มต้นฝึกฝนอาจทำให้คุณกลายเป็นFood Stylist ที่สร้างสรรค์อาหารตาเข้าไปเป็นหนึ่งในใจของลูกค้าได้

 

เรื่องแนะนำ

เปิดร้านของตัวเอง

เปิดร้านของตัวเอง VS ซื้อแฟรนไชส์ แบบไหนดีกว่ากัน?

เชื่อว่าหลายคน มีความคิดว่าอยากจะมีธุรกิจเป็นของตัวเองสักครั้ง แต่การจะเริ่มต้นทำธุรกิจนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยค่ะ โดยเฉพาะมือใหม่ที่อยากเริ่มมีธุรกิจของตัวเอง ที่ต้องคิดทั้งเรื่องสินค้า การตลาด บัญชี การเงิน เยอะแยะไปหมด และมักจะมีคำถามว่าจะลงทุน เปิดร้านของตัวเอง หรือซื้อแฟรนไชส์ จะเลือกแบบไหนดี? มาดูกันว่าข้อดี ข้อเสียของทั้งสองแบบว่าเป็นอย่างไร แล้วค่อยมาตัดสินใจให้เหมาะกับธุรกิจของคุณเองกันค่ะ   เปิดร้านของตัวเอง VS ซื้อแฟรนไชส์ เลือกแบบไหนดี? ข้อดีของการเปิดร้านของตัวเอง มีอิสระในการบริหารจัดการ การตัดสินใจและกำหนดทิศทางธุรกิจของเราเองได้อย่างเต็มที่ สามารถทำตามไอเดียของตัวเอง สร้างแบรนด์ที่เป็นตัวตนของเราเองได้ ถ้าเป็นธุรกิจอาหารก็สามารถที่จะเพิ่ม หรือดัดแปลงสูตรเมนูของร้านได้ อีกทั้งยังมีความยืดหยุ่นสูง ในการปรับเปลี่ยนพัฒนาธุรกิจ การสร้างแบรนด์เองอาจจะเหมาะกับคนรุ่นใหม่ หรือคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ อยากทำอะไรใหม่ๆ แบบที่ไม่ต้องตามแบบใครค่ะ การเปิดร้านเอง อาจไม่ต้องลงทุนสูงมาก เพราะบางคนก็มีทุนน้อย หรือมีจำกัด แต่อยากที่จะทำธุรกิจ ก็สามารถทำได้ไม่จำเป็นต้องเปิดร้านใหญ่จนเกินตัว ค่อยๆเริ่มต้นจากธุรกิจเล็กๆ แล้วต่อยอดไปเรื่อยๆ จนสามารถขยายกิจการ สร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักได้ในอนาคต เรื่องส่วนแบ่งกำไร หากคุณเปิดร้านเอง แน่นอนว่า คุณไม่จำเป็นต้องแบ่งกำไร คุณสามารถบริหารกำไรของคุณทั้งหมดได้เอง อย่างที่บอกว่าใครก็อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง แล้วหากคุณทำได้ ข้อดีนี้ก็คือ ความภาคภูมิใจที่คุณทำ และมีความสุขที่ได้เริ่มต้นทำสิ่งใหม่ๆ และถ้ายิ่งพัฒนาไปจนแบรนด์ประสบความสำเร็จ […]

กรณีศึกษา บ้านพระครูติ คาเฟ่ + พระเครื่อง เทรนด์จับคู่ธุรกิจความเชื่อกำลังมาแรง? เซียนพระเปิดบ้านเป็นคาเฟ่ เจาะตลาดลูกค้า Niche Market

กรณีศึกษา บ้านพระครูติ คาเฟ่ + พระเครื่อง เทรนด์จับคู่ธุรกิจความเชื่อกำลังมาแรง? เซียนพระเปิดบ้านเป็นคาเฟ่ เจาะตลาดลูกค้า Niche Market จะเป็นอย่างไรเมื่อธุรกิจอาหารมารวมกับความเชื่อ?  TikTok ของช่อง Marefood บล็อกเกอร์สายอาหาร ได้ทำการรีวิวคาเฟ่ร้านหนึ่ง ซึ่งมีคอนเซปต์ที่น่าสนใจมาก อย่าง “คาเฟ่พระเครื่อง” ด้วยความน่าสนใจนี้จึงทำให้คลิปดังกล่าวมียอดผู้เข้าชมสูงถึง 55,000+ ครั้ง ภายใน 3 วัน!!! อีกทั้งยังทำให้ลูกค้าแห่มาใช้บริการร้านคาเฟ่พระเครื่องนี้เยอะมาก ขนาดที่ว่าเปิดขาย 10 โมง บ่าย 2 อาหารก็หมดเกือบทุกเมนูแล้ว จนเจ้าของร้านถึงกับบอกว่า “ขายดีเหมือนแจกฟรีเลย” . ว่าแต่ทำไมร้านนี้ถึงเป็นที่สนใจขนาดนี้ หรือว่าตอนนี้เทรนด์การจับคู่ธุรกิจกับความเชื่อกำลังมาแรงกันนะ ? เราลองมาวิเคราะห์จุดแข็ง จุดขายของร้านนี้กัน . คาเฟ่พระเครื่องที่ว่านี้ จริง ๆ แล้ว มีชื่อร้านว่า “บ้านพระครูติ” เป็นของคุณอรรถภูมิ บุณยเกียรติ ผู้อำนวยการสถาบันโบราณศิลป์ หรือ CEO พระเครื่อง ที่คนในวงการพระรู้จักกันดี ซึ่งร้านนี้ตั้งอยู่แถวแม่กลอง […]

airbnb

Airbnb ธุรกิจห้องพัก ที่ไม่มีห้องพักของตัวเองสักห้อง!

Airbnb สามารถสร้างเครือข่ายห้องพักได้มากกว่า 3 ล้านแห่ง และทำรายได้ปีละ 2,800 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ! ทั้งๆ ที่ไม่ได้ลงทุนก่อสร้างห้องพักเองสักห้อง!

ภาพยนตร์อาหาร

6 ภาพยนตร์อาหาร ที่คนทำร้านอาหารควรดู

สำหรับคนทำร้านอาหาร แรงบันดาลใจถือเป็นสิ่งสำคัญ และการดูภาพยนตร์ ก็ถือเป็นการสร้างแรงบันดาลใจที่ดีทางหนึ่ง วันนี้เราจึงขอรวบรวม ภาพยนตร์อาหาร มาฝาก

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.