ทำอาหารไม่เป็น เปิดร้านอาหารได้ไหม ? - Amarin Academy

ทำอาหารไม่เป็น เปิดร้านอาหารได้ไหม ?

ทำอาหารไม่เป็น เปิดร้านอาหารได้ไหม ?

ทำอาหารไม่เป็น เปิดร้านอาหารได้ไหม ? คำตอบคือ…เปิดได้ เพราะจากการที่เราไปสัมภาษณ์ผู้ประกอบการร้านอาหารหลายๆ ร้าน พวกเขาก็ตัดสินใจเปิดร้านอาหาร ทั้งๆ ที่ทำอาหารไม่เป็น ซึ่งก็ประสบความสำเร็จ บางรายทำรายได้หลักล้านเสียด้วย! และจากการที่เราสังเกตและวิเคราะห์พบว่า ผู้ประกอบการเหล่านี้มีคุณสมบัติเหมือนกันบางอย่าง ที่ทำให้เขาเปิดร้านอาหารได้ ทั้งๆ ที่ ทำอาหารไม่เป็น เราจะมาสรุปให้ฟัง

1.ต้องชิมอาหารเป็น

คุณสมบัติพื้นฐานของเจ้าของร้านอาหารที่ดีคือ ต้องชิมอาหารเป็น ซึ่งการชิมอาหารในที่นี้ เราไม่ได้หมายถึงการบอกว่า “อาหารจานนี้อร่อยหรือไม่อร่อย” (เพราะความอร่อยเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล ไม่สามารถนำมาตัดสินได้อย่างชัดเจน) แต่เป็นการบอกว่าอาหารมีรสชาติที่ “ได้มาตรฐาน” หรือเปล่า หมายถึงรสชาติคงที่ กินกี่ทีรสชาติก็เหมือนเดิม

เช่น เมื่อชิมเมนูสเต๊กเนื้อ เจ้าของร้านต้องรู้ว่า ระดับความสุกของเนื้อนั้นตรงกับที่สั่งหรือเปล่า ซอสที่เสิร์ฟมาเค็มไป หวานไป จืดไป ข้นไป หรือรสชาติผิดเพี้ยนไปจากมาตรฐานไหม ฯลฯ เพราะมาตรฐานของรสชาติเป็นสิ่งที่เรากำหนดขึ้น และลูกค้าส่วนใหญ่ก็ยอมรับและชื่นชอบในรสชาตินี้ ฉะนั้นจึงต้องปรุงให้คงที่ เขาจะได้ไม่รู้สึกผิดหวัง

เราสามารถฝึกฝนการชิมอาหารได้ง่ายๆ ด้วยการหมั่นชิมอาหารบ่อยๆ และคอยสังเกตว่ารสชาติเป็นอย่างไร จะทำให้เราสามารถแยกแยะรสชาติและรสสัมผัสได้ดีขึ้น

2.ต้องมีสูตรอาหารเป็นของตัวเอง

หลายคนเริ่มทำร้านอาหารเพราะรู้จักกับเชฟฝีมือดี เลยคิดว่า อย่างนั้นจ้างเชฟมาเปิดร้านอาหารดีกว่า เรื่องในครัวให้เชฟคุม เรื่องอื่นๆ เราดูแล ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิด แต่บอกได้เลยว่าหากตัดสินใจเช่นนี้ ธุรกิจของคุณจะมีความเสี่ยงค่อนข้างสูง เพราะหัวใจสำคัญของธุรกิจอาหารคือ “อาหาร” แล้วเราจะฝากความหวังทั้งหมดของร้านไว้ที่เชฟเพียงคนเดียวหรือ ?

ถ้าวันดีคืนดี เชฟลาออก ไม่อยากเป็นลูกจ้างคุณอีกต่อไปจะทำอย่างไร (บางร้านกลัวเกิดปัญหานี้ จึงตัดสินใจมอบหุ้นให้เชฟเป็นเครื่องดึงดูดใจ)

ทางที่ดีที่สุดคุณควรมีสูตรอาหารเป็นของตัวเอง หรือหากไม่มีก็ต้องเจรจากับเชฟตั้งแต่ต้น ให้ถอดสูตรอาหารออกมาเพื่อสร้างมาตรฐานให้ร้าน เวลาที่เชฟลาออก ร้านเราจะได้ดำเนินธุรกิจต่อไปได้

3.ต้องมีความรู้ด้านวัตถุดิบ

ต่อเนื่องจากข้อที่แล้วที่ว่า เราไม่ควรฝากความหวังไว้ที่เชฟเพียงคนเดียว เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่าเขาจะลาออกเมื่อไร ฉะนั้นนอกจากสูตรอาหารแล้ว เราก็ควรศึกษาเรื่องวัตถุดิบเอาไว้ด้วย เช่น วัตถุดิบที่ใช้ในร้านเราเป็นเกรดไหน คัดเลือกอย่างไร รับมาจาก Supplier เจ้าใด ราคาเท่าไร ช่วงเวลาใดที่วัตถุดิบราคาสูง – ราคาถูก

ข้อมูลเหล่านี้เราสามารถหาได้ง่ายๆ จากการสังเกต การสอบถามจาก Supplier รวมทั้งการเก็บสถิติการสั่งของภายในร้าน ยิ่งเรารู้ข้อมูลเกี่ยวกับร้านมากเท่าไร ก็ยิ่งทำให้เราสามารถบริหารจัดการร้านได้ดียิ่งขึ้น เช่น หากเรารู้ว่าช่วงเวลานี้แซลมอนราคาถูกมาก ก็ควรนำมาจัดโปรฯ แซลมอน ดึงลูกค้าเข้ามาใช้บริการที่ร้าน เป็นต้น

4.ต้องมีระบบการทำงานที่เป๊ะ

แทบทุกบทความเราจะพูดเรื่องการวางระบบเสมอ เพราะมันเป็นสิ่งสำคัญจริงๆ ที่จะช่วยให้เจ้าของร้านไม่ต้องเหนื่อยกับการแก้ปัญหาเดิมซ้ำๆ ทุกวัน บางคนอาจไม่เข้าใจว่าจะเริ่มต้นวางระบบร้านอาหารอย่างไร เพราะไม่เคยมีความรู้ด้านการทำร้านอาหารมาก่อน จริงๆ เรากล้าบอกได้เลยว่าแทบทุกร้านมีระบบอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าจะมีระบบมาก หรือมีระบบน้อย

การกำหนดเวลาการเปิดร้าน ก็ถือเป็นระบบ การที่เจ้าของร้านกำหนดให้พนักงานเดินไปรับลูกค้า เดินไปส่งลูกค้าที่โต๊ะ ยื่นเมนู ยืนรอรับออร์เดอร์ ส่งออร์เดอร์เข้าครัว นำอาหารมาเสิร์ฟ คิดเงิน หรือหากย้ายไปที่ฝั่งครัว การที่เจ้าของร้านกำหนดว่าจะต้องเช็คสต๊อกวัตถุดิบทุกสิ้นวัน สั่งวัตถุดิบมาเติมใหม่ทุก 3 วัน ทุกเช้าต้องมีพนักงานเข้ามาเปิดร้าน จัดเตรียมวัตถุดิบ 3 คน ฯลฯ สิ่งเหล่านี้เป็นระบบทั้งสิ้น แต่ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าของร้านจะกำหนดให้ชัดเจน และละเอียดมากน้อยแค่ไหน

ยิ่งเราระบุรายละเอียด ขั้นตอนการทำงานให้พนักงานชัดเจนเท่าไร ปัญหาต่างๆ ก็จะลดน้อยลงเท่านั้น เพราะคุณไม่ต้องมานั่งปวดหัว คอยบอกขั้นตอนการทำงานให้พนักงานแทบทุกวัน

5.ต้องพร้อมเปิดใจเรียนรู้อยู่เสมอ

การเปิดใจพร้อมเรียนรู้และพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ คือคุณสมบัติข้อสุดท้ายที่เจ้าของธุรกิจต้องมี โดยเฉพาะธุรกิจอาหาร ที่ต้องทำงานกับผู้บริโภคโดยตรง ซึ่งพฤติกรรมผู้บริโภคก็เปลี่ยนแปลงไปแทบทุกวัน

สังเกตไหมว่ากระแสต่างๆ เดี๋ยวนี้มาเร็วไปเร็วมาก เมื่อก่อนโดนัทมาแรง ต่อมาเป็นชาบู ปิ้งย่าง บิงซู ฮันนี่โทสต์ ส่วนตอนนี้คงเป็นชานมไข่มุก (ซึ่งเมื่อ 5-6 ปีก่อนเคยบูมอยู่พักใหญ่แล้วก็ดับไปแบบเงียบๆ) ถ้าคุณไม่ปรับตัว ไม่พร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ธุรกิจที่เคยมีคนต่อคิวซื้อยาวเหยียด อาจต้องปิดตัวลงภายในเวลาไม่ถึงปีก็ได้

สำหรับใครที่ฝันอยากเปิดร้านอาหาร แต่กังวลว่าทำอาหารไม่เป็น กลัวจะเปิดไม่ได้ ก็ไม่ต้องกังวลแล้ว ขอแค่มีคุณสมบัติที่กล่าวมาครบ และเพิ่มเติมเรื่องความมุ่งมั่น ตั้งใจ รวมทั้งความคิดสร้างสรรค์ กล้าที่จะต่าง คุณก็มีคุณสมบัติพร้อมที่จะเป็นเจ้าของร้านอาหารได้แล้ว

เรื่องแนะนำ

สร้างเสน่ห์ร้านอาหาร ให้ลูกค้าไหลมาเทมา

ร้านอาหารบางร้าน ตั้งอยู่ในทำเลที่ไม่สะดวกต่อการเดินทางไปที่ร้าน แต่ก็ยังมีลูกค้าพยายามไปตามหาเพื่อไปกินให้ได้ หรือมีลูกค้าไปนั่งรอกินเป็นวันๆได้ นั่นเป็นเพราะร้านอาหารเหล่านี้มีเสน่ห์ดึงดูด ที่สามารถเรียกความสนใจลูกค้าได้มากพอ ซึ่งร้านของคุณก็สามารถทำได้เช่นกัน มาดูกันว่าจะมีวิธีใดบ้างที่จะช่วย สร้างเสน่ห์ร้านอาหาร ของคุณให้มีลูกค้าหลั่งไหลเข้ามา   สร้างเสน่ห์ร้านอาหาร ให้ลูกค้าไหลมาเทมา ‘จุดเด่น’ ที่มีแค่คุณเท่านั้นที่ให้ลูกค้าได้             เมนูซิกเนเจอร์ ไม่ใช่เมนูอะไรก็ได้ที่ร้านของคุณทำอร่อย แต่ต้องเป็นเมนูที่โดดเด่นพอที่ลูกค้าจะต้องสั่งทุกโต๊ะ หรือดั้นด้นมากิน เพราะฉะนั้นถ้าคุณขายแซลมอน แล้วเมนูซิกเนเจอร์เป็นแซลมอนคุณภาพดี อาจจะทำให้ร้านของคุณไม่ได้แตกต่างเมื่อเทียบกับร้านอาหารญี่ปุ่นเหมือนกัน วิธีสร้างจุดเด่นก็คือ สร้างเสน่ห์ให้กับเมนูนั้น ไม่ว่าจะเป็นการคิดค้นเมนูที่แปลกใหม่ รูปแบบการจัดจาน รูปแบบการเสิร์ฟ ชื่อของเมนู รวมถึงเรื่องราวที่คุณเล่าเกี่ยวกับเมนูนั้น ๆ เช่น กรณีแซลมอนที่เคยเสิร์ฟวางเป็นชิ้น ๆ อาจจัดวางเป็นทรงสูง ตกแต่งด้วยอุปกรณ์เพิ่มเติมเป็นภูเขาไฟ เสิร์ฟมาพร้อมกับควันของภูเขาไฟ แล้วตั้งชื่อว่า ฟูจิซังแซลมอน เป็นต้น ข้อคำนึงอีกประการก็คือ โดยปกติลูกค้าโดยทั่วไปจะมีค่ามาตรฐานในใจอยู่แล้ว เช่น ถ้าพูดถึงเป็ด คนจะนึกถึงเป็ดย่าง MK เพราะฉะนั้นถ้าร้านอาหารของคุณมีซิกเนเจอร์เป็นเป็ด ก็ควรจะต้องมีมาตรฐานไม่ต่ำกว่า หรือดีกว่าไปเลย หากไม่สามารถทำได้ก็ใช้เทคนิคในการสร้างความโดดเด่นอย่างที่กล่าวมาแล้ว อีกตัวอย่างที่น่าสนใจ  คือ ร้าน After You […]

ลดต้นทุน เพิ่่มกำไร

ลด ต้นทุน อย่างมืออาชีพ เพิ่มกำไรให้ร้านอาหารสูงสุด

หัวใจของการลด ต้นทุน ในร้านอาหาร อยู่ที่การจัดการกับวัตถุดิบ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกซื้อวัตถุดิบ ขั้นตอนการเตรียมและปรุงอาหาร แม้จะเป็นงานที่ต้องอาศัยความละเอียดรอบคอบ แต่เจ้าของร้านไม่ควรละเลย เพราะช่วยลดต้นทุน และเพิ่มกำไรให้กับร้านได้จริง โดยไม่ต้องขึ้นราคาอาหารให้ลูกค้าหนีไปไหน  ลด ต้นทุน อย่างมืออาชีพ เพิ่มกำไรให้ร้านอาหารสูงสุด หากร้านของคุณยังมีปัญหาต้นทุนอาหารสูง วัตถุดิบขาดสต๊อกจนไม่พอขาย หรือมากเกินไปจนใช้ไม่ทัน จัดเก็บวัตถุดิบไม่ดีจนบางส่วนเน่าเสีย หรือลืมใช้วัตถุดิบจนหมดอายุ ทั้งหมดนี้เป็นเงินทุนของเราที่เสียไปโดยเปล่าประโยชน์ทั้งนั้น ลองเอาวิธีการลดต้นทุนร้านอาหารเหล่านี้ไปปรับใช้ดูนะครับ ใส่ใจการจัดการวัตถุดิบอาหาร เรียงลำดับการใช้วัตถุดิบ ทำ Tracking number หรือจัดเรียงวัตถุดิบแบบ FIFO (First In First Out) ให้วัตถุดิบที่หมดอายุเร็วกว่าให้ถูกหยิบไปใช้ก่อน ป้องกันไม่ให้วัตถุดิบเสื่อมคุณภาพหรือหมดอายุ สร้างมาตรฐานการปฏิบัติงาน (SOP) เช่น สเต็กหนึ่งจาน จะใช้เนื้อปริมาณกี่กรัม เพื่อเตรียมแบ่งวัตถุดิบเนื้อเป็นไซส์เท่าที่ต้องการเท่า ๆ กันไว้ให้พร้อมใช้งาน ช่วยควบคุมต้นทุนอาหาร และมาตรฐานของอาหารแต่ละจานให้คงที่ ทำให้เจ้าของร้านวางแผนได้คร่าวๆ ว่าควรสต๊อกวัตถุดิบไว้เท่าไหร่ และคำนวณต้นทุนได้ง่ายขึ้น   ปรับปริมาณอาหารให้เหมาะสม อาหารในแต่ละเมนูควรจะเสิร์ฟในปริมาณที่เหมาะสม ซึ่งสังเกตจากปริมาณอาหารที่เหลือกลับมาในแต่ละเมนู ถ้าจานไหนมีอาหารเหลือบ่อยๆ อาจจะปรับปริมาณให้เหมาะกับการทานมากขึ้น หลักการปรุงแบบ […]

muji

ถอดบทเรียนความสำเร็จ ทำไม Muji ถึงครองใจคนทั่วโลก

Muji แบรนด์ค้าปลีกชื่อดังจากญี่ปุ่น เข้ามาเปิดตลาดในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2006 เพราะอะไร Muji จึงประสบความสำเร็จ ครองใจคนทั่วโลกถึงเพียงนี้ ไปติดตามกันเลย  

เปิดร้านอาหาร ทำอย่างไรให้ดี

เปิดร้านอาหาร ทำอย่างไรให้ดี และมีกำไร

หลายคนที่ลงทุนเปิดร้านอาหาร มีทำเลมี ทีมงานแน่น อาหารอร่อย แต่ตกม้าตายตรงการจัดการซะนี่ อย่างนั้นมาดูวิธี เปิดร้านอาหาร ทำอย่างไรให้ดี และมีกำไร กันดีกว่า

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.