5 เทคนิค รับช่วงต่อกิจการ ยังไง ไม่ให้เจ๊ง! - Amarin Academy

5 เทคนิค รับช่วงต่อกิจการ ยังไง ไม่ให้เจ๊ง!

ยุคนี้หลายคนเริ่มผันตัวมาเป็นนักธุรกิจมากขึ้น ซึ่งมีทั้งที่เริ่มทำธุรกิจด้วยตัวเอง และเลือก รับช่วงต่อกิจการ จากที่บ้าน ซึ่งทั้งสองรูปแบบก็มีความท้าทายแตกต่างกัน สำหรับคนที่เริ่มต้นทำธุรกิจใหม่ ต้องเริ่มจากการวางระบบร้าน สร้างฐานลูกค้า ทำการตลาดให้โดนใจผู้บริโภค ขณะที่คนที่เข้ามารับช่วงต่อธุรกิจ อาจไม่ต้องเร่งสร้างฐานลูกค้า หรือทำให้ธุรกิจเป็นที่รู้จักมากนัก เพราะมีฐานลูกค้าที่มั่นคงอยู่แล้ว แต่อาจจะต้องปรับปรุงระบบการทำงาน พัฒนาทีมงานให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์เศรษฐกิจที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว รวมทั้งอาจต้องปรับความคิดของครอบครัวให้รับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นด้วย

รับช่วงต่อกิจการ ยังไง ไม่ให้เจ๊ง!

ปัญหาคือ บางครั้งการแก้ของเก่า มักยากกว่าการสร้างของใหม่ เพราะทีมงานก็มีความคิดเดิมๆ เคยชินกับระบบเดิมๆ และที่สำคัญครอบครัวมักไม่ไว้ใจให้เปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก ดังนั้นผู้ประกอบการรุ่นใหม่หลายคนจึงถอดใจ และหันไปสร้างธุรกิจของตัวเอง หรือรับช่วงต่อมาแล้วไม่สามารถจัดการปัญหาได้จนต้องปิดกิจการลง ถ้าไม่อยากเจอปัญหานี้ เรามีเทคนิคการรับช่วงต่อกิจการมาฝาก!

1.ศึกษาธุรกิจเดิมให้ถ่องแท้และละเอียดที่สุด

ก่อนจะรับช่วงต่อกิจการจากครอบครัวนั้น สิ่งที่คุณควรทำมากที่สุดคือ ทำความรู้จักกับธุรกิจของคุณให้ถ่องแท้เสียก่อน เพื่อจะได้วางแผนพัฒนาหรือปรับปรุงได้ถูกจุด เจ้าของกิจการบางคนเลือกที่จะลงมือทำทุกหน้าที่ ลองทำงานทุกตำแหน่ง เพื่อจะได้เข้าใจในกระบวนการทำงานและรับรู้ถึงปัญหาต่างๆ โดยละเอียด (แถมยังเป็นการ “ซื้อใจทีมงาน” ทำให้พวกเขารู้สึกว่าเรามุ่งมั่นและจริงจังในการทำธุรกิจจริงๆ) และเมื่อถึงเวลาที่ต้องเข้ามาบริหารงานต่อ หากแผนกใดเกิดปัญหาจะได้วางแผนแก้ไขได้เหมาะสม

2.วางแผนปรับปรุง / พัฒนาธุรกิจให้ชัดเจน

หลังจากที่เราทำความเข้าใจและศึกษาธุรกิจโดยละเอียดแล้ว ถัดมาก็ต้องเริ่มวางแผน กำหนดทิศทางว่าอยากให้ธุรกิจ เติบโตไปในทิศทางใด โดยต้องมีการกำหนดเป้าหมาย และวิธีการไปถึงเป้าหมายนั้นให้ชัดเจน เช่น เป้าหมายหลักคือ ต้องการเพิ่มยอดขายให้โตขึ้น 20% ภายใน 1 ปี ก็ต้องกำหนดวิธีการว่า จะทำอย่างไรเพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายนั้น ซึ่งเป้าหมายรวมทั้งวิธีการเหล่านี้ คือเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้เราสามารถขับเคลื่อนธุรกิจต่อไปได้

สำหรับบางธุรกิจที่มีปัญหากับครอบครัวเมื่อต้องการเปลี่ยนแปลงระบบการทำงาน ส่วนใหญ่มักใช้แผนธุรกิจเป็นตัวช่วยในการทำให้ครอบครัวเห็นภาพการเติบโตของธุรกิจได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

3.สื่อสารกับทีมงานให้เข้าใจ

เมื่อวางแผนธุรกิจ กำหนดทิศทางการทำงานแล้ว ลำดับถัดมาที่คุณห้ามมองข้ามโดยเด็ดขาด คือการสื่อสารกับทีมงานเดิมให้เข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้น ทั้งนี้เจ้าของธุรกิจหลายรายมักตกม้าตายในขั้นตอนนี้ ด้วยการลงมือปรับระบบทุกๆ อย่างตามแผนที่วางไว้ โดยไม่บอกให้พนักงานรับรู้ ซึ่งอาจทำให้พนักงานรู้สึกว่าไม่ไว้เนื้อเชื่อใจ ไม่รู้ว่าสิ่งที่กำลังจะทำนั้นจะส่งผลดีจริงๆ หรือไม่ คิดว่าสิ่งที่ทำมาก็ดีอยู่แล้ว จะมาเพิ่มความยุ่งยาก หรือเสียเวลาในการเรียนรู้งานใหม่ทำไม ฯลฯ ดังนั้น คุณต้องให้ความสำคัญกับการสื่อสาร ต้องพยายามทำให้พนักงานเข้าใจให้ได้ว่า สิ่งที่คุณกำลังจะทำ มันจะส่งผลดีต่อธุรกิจและตัวเขาอย่างไร

เช่น ร้านอาหารเก่าแก่ที่เปิดมานานกว่า 50 ปี การจะให้พนักงานปรับระบบการทำงาน มาใช้เครื่อง POS แทนการจดออร์เดอร์ลงบนกระดาษก็ถือว่ายากมาก เพราะเขาคุ้นชินกับการทำงานแบบเดิมมานับสิบปี ฉะนั้นต้องอธิบายให้เขาเห็นว่าถ้าใช้เครื่อง POS จะส่งผลดีต่อเขาอย่างไร เช่น พนักงานเสิร์ฟไม่ต้องเสียเวลาจดออร์เดอร์ ไม่ต้องเดินไปส่งบิลที่ครัว เชฟก็ไม่ต้องเสียเวลาแกะลายมือเพื่อนร่วมงาน อาหารก็ออกเร็วและแม่นยำ ไม่ต้องคอยรับหน้าลูกค้าเวลาเสิร์ฟอาหารผิดพลาด เป็นต้น

4.ลงมือทำจริงให้เห็นผลงาน

การจะเข้ามาเป็นผู้นำในการทำธุรกิจ “คนใหม่” ไม่ใช่เรื่องง่าย สิ่งสำคัญคือคุณต้องสร้างความเชื่อมั่นให้ครอบครัว รวมทั้งทีมงานให้ได้ก่อน แต่คำพูดอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ คุณต้องลงมือทำงานอย่างจริงจังเพื่อพิสูจน์ให้พวกเขาเห็นว่า คุณสามารถนำธุรกิจให้เติบโตกว่าเดิมได้ และผลงานที่คุณตั้งใจทำนี้เองจะเป็นเครื่องมือชิ้นสำคัญที่ทำให้คนรอบข้างยอมรับในตัวคุณมากขึ้น

5.ประเมินผลอย่างสม่ำเสมอ

การเข้ามาปรับปรุงระบบการทำงาน วางทิศทางของธุรกิจใหม่ ใช่ว่าจะทำให้ธุรกิจเติบโตได้เสมอไป บางครั้งหากคุณเดินเกมผิด ก็อาจทำให้ธุรกิจเก่าแก่ที่อยู่มานานล้มลงตรงหน้าได้ ฉะนั้นอย่าชะล่าใจ คุณต้องประเมินผลการดำเนินการอย่างใกล้ชิด เพื่อจะได้รู้ว่าสิ่งที่คุณวางแผนไว้นั้นถูกต้องและเหมาะสมหรือเปล่า

แน่นอนว่าการรับรู้ปัญหาแต่เนิ่นๆ ก็ยังพอแก้ไขได้ แต่หากปล่อยทิ้งนานไป อาจทำให้ปัญหาบานปลายจนยากจะแก้ไข ฉะนั้นเมื่อลงมือปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงใดๆ ต้องติดตามผลการดำเนินงานอย่างสม่ำเสมอด้วย

ใครที่กำลังวางแผน รับช่วงต่อกิจการ จากครอบครัวอยู่ ความมุ่งมั่น ตั้งใจเป็นสิ่งสำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือความอดทน ที่จะก้าวข้ามผ่านสารพัดปัญหาไปให้ได้ และหากคุณก้าวผ่านปัญหาเหล่านั้นไปได้ ความสำเร็จอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน!

 


 

                 กลับมาอีกครั้งกับหลักสูตร HR for Food Business บริหารคน สำหรับธุรกิจอาหาร รุ่นที่ 3 หลักสูตรที่จะทำให้ผู้ประกอบการเรียนรู้การบริหารบุคลากรอย่างมีประสิทธิภาพ ไขข้อข้องใจปัญหาเรื่องพนักงานลาออกบ่อย ขาด ลา มาสาย ทะเลาะกัน การหาพนักงานที่ดี โครงสร้างเงินเดือน สัญญาจ้างงาน กฎหมายเกี่ยวกับแรงงานต่างๆ ที่ต้องรู้ และอีกมากมาย  โดยวิทยากร อาจารย์ พีรพัฒน์ กองทอง ผู้มีประสบการณ์จากธุรกิจอาหารเชนใหญ่อย่าง แมคโดนัลด์ ประเทศไทย ที่จะมาพร้อมแขกสุดพิเศษ ที่จะมาแชร์ประสบการณ์ตรงในการบริหารจัดการคน งานนี้จะจัดขั้นในวันอังคารที่ 31 มีนาคม – วันพุธที่ 1 เมษายน 2563  เวลา 9.00-17.00 น. 

 

คลิกสมัครด่วน! หลักสูตร HR for Food Business บริหารคน สำหรับธุรกิจอาหาร รุ่นที่ 3

HR for Food Business บริหารคน สำหรับธุรกิจอาหาร รุ่นที่ 3

เรื่องแนะนำ

ของถูกหรือของแพง

ไม่มีหรอก ของถูกหรือของแพง มีแต่ “คุ้ม” หรือ “ไม่คุ้ม”

สงสัยไหม ทำไมร้านอาหารราคาแพงบางร้าน ลูกค้าเยอะ ขณะที่ร้านราคาถูก กลับไม่มีลูกค้าเลย สิ่งนีทำให้เห็นว่า ลูกค้าไม่ได้ดูที่ ของถูกหรือของแพง เพียงอย่างเดียว

ถ้าตัดสินใจลุยต่อ! สิ่งที่ต้องทำคืออะไรบ้าง? ในวันที่ขายได้แค่ “ซื้อกลับบ้าน”

ถ้าตัดสินใจลุยต่อ! สิ่งที่ต้องทำคืออะไรบ้าง? ในวันที่ขายได้แค่ “ ซื้อกลับบ้าน ” วิกฤตโรคระบาดครั้งนี้ดูจะไม่หายไปง่าย ๆ ถ้านับจากตอนระบาดใหม่ ๆ ก็กินเวลามาเป็นปี ๆ ทั่วโลกได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างหนัก ทำให้ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นผู้บริโภคหรือผู้ประกอบการก็ต่างอยู่ในจุดที่ต้องกอดเงินที่มีอยู่ไว้ให้แน่น  ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนี้ผู้ประกอบการควรมีการวางแผนการเงินในระยะยาวให้ธุรกิจของคุณยังคงไปต่อได้ เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจในช่วงวิกฤต ลองมาดูสิ่งที่ต้องทำในวันที่ขายได้แค่ “สั่งกลับบ้าน” 1.ประเมินความพร้อม: จากบทเรียนการระบาดครั้งก่อน ร้านที่ได้ลองทำเดลิเวอรีแล้วก็พอจะเห็นสถิติและพอประเมินได้ว่า ถ้าต้องเปลี่ยนมาขายแบบซื้อกลับเป็นหลัก ร้านจะมีรายได้เท่าไหร่ พอสำหรับจ่ายค่าใช้จ่ายทั้งหมดหรือไม่ ถ้าประเมินแล้วคิดว่ารายได้โอเค สู้ไหว เปิดแล้วทำให้ร้านพอมีรายได้เข้าบ้างก็ไปข้อต่อไป 2.ต่อรองประนอมหนี้: “รายได้ลดลง รายจ่ายเท่าเดิม” สิ่งต่อมาที่ผู้ประกอบการต้องทำ คือ ลดภาระค่าใช้จ่ายต่อเดือนให้ได้มากที่สุด ให้ตัวเบาที่สุด โดยทำการพูดคุยตกลงกับเจ้าของที่เพื่อขอลดค่าเช่า หรือขอแบ่งเบาภาระหนี้สินกับธนาคาร อย่างน้อย 1 – 2 เดือน เพื่อลดรายจ่ายเท่าที่เป็นไปได้ 3.เอายังไงกับพนักงาน: แม้ร้านจะไม่เปิดให้บริการนั่งทานในร้าน แต่การจ่ายค่าจ้างพนักงานยังคงอยู่ ดังนั้นสิ่งที่ผู้ประกอบการทำได้ คือ พยายามลดค่าใช้จ่ายด้านพนักงานให้ลดลง โดยการประเมินงานที่ต้องทำในแต่ละวันก่อนว่าร้านเราน่าจะใช้คนเท่าไหร่ ถ้าใช้คนน้อยให้ลองใช้วิธีแบ่งกะเวลาการทำงาน สลับเวลากันมาทำ แต่ต้องคุยกับพนักงานให้ชัดว่า ช่วงนี้อาจจะให้ค่าตอบแทนได้น้อยลง แต่อย่างน้อยก็มีงานทำอยู่ พร้อมทั้งวางแผนการทำงานให้ […]

ขายอาหารคลีน

รู้ก่อนขาย! 4 จุดบอด ขายอาหารคลีน แบบนี้มีแต่เจ๊ง!

ในปัจจุบันนี้จะสังเกตได้ว่า เป็นยุคที่คนหันมาใส่ใจในสุขภาพของตัวเองมากขึ้น มีกิจกรรมรณรงค์เรื่องสุขภาพออกมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย หรือแม้แต่การบริโภคอาหารที่มีประโยชน์ เพราะเรื่องอาหารการกินก็เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้สุขภาพร่างกายดีขึ้น จึงเป็นผลทำให้ทุกวันนี้เราจะเห็นร้านอาหารคลีนใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมายอย่างต่อเนื่อง เราจะเห็นโฆษณาบ่อย ตามช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instargram และช่องทางออนไลน์อื่นๆ เมื่อมีกระแสคนรักสุขภาพมากขึ้น ก็เป็นการเพิ่มช่องทางทำเงินจากธุรกิจอาหารคลีนได้มากขึ้นเช่นกัน แต่การจะ ขายอาหารคลีน ให้รุ่งนั้น ต้องรู้ว่าอะไรควรทำ และอะไรที่เป็นจุดบอดควรหลีกเลี่ยง   ขายอาหารคลีน ควรเลี่ยง 4 จุดบอดนี้!! อาหารคลีน  (Clean Food) คือ อาหารที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่ในการปรุงอาหาร ขั้นตอนในการปรุงจะไม่ใช้สารเคมีปรุงแต่งอาหาร หรือผ่านการแปรรูปให้น้อยที่สุด และไม่ผ่านกระบวนการปรุงแต่งรสชาติที่มากเกินไป แต่ยังคงไว้ซึ่งสารอาหารและคุณค่าครบถ้วน รวมถึงมีการคำนวณพลังงานที่ร่างกายจะได้รับในแต่ละมื้ออาหารนั้นไว้ด้วย ดังนั้น อาหารคลีนจึงเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพนั่นเองค่ะ และถึงแม้ว่ากระแสอาหารคลีนยังคงอยู่ และมีผู้ประกอบการที่อยาก ขายอาหารคลีน เกิดขึ้นมากมาย แต่ก็ใช่ว่าทุกร้านจะอยู่รอดนะคะ ขายอาหารคลีน ยังต้องมีองค์ประกอบอีกหลายอย่างที่ต้องรู้ รวมถึง จุดบอดที่ควรเลี่ยงอย่างที่เราได้กล่าวไป ซึ่ง4 จุดบอดนั้นคือ จุดบอดที่ 1 รสชาติไม่อร่อย แน่นอนว่าใครๆ ก็อยากจะบริโภคอาหารที่อร่อยจริงไหมคะ แม้ว่าจะเป็นอาหารคลีนก็ตาม […]

จัดการธุรกิจร้านอาหาร

5 เหตุผลที่ควรนำเทคโนโลยีมาใช้ในการ จัดการธุรกิจร้านอาหาร

เทคโนโลยีเหล่านี้สามารถทำให้การจัดการสินค้าคงคลังเป็นไปอย่างสมบูรณ์ โดยใช้ข้อมูลการขายเพื่อคาดการณ์ความต้องการและลำดับการผลิต เพื่อลดการสูญเสียให้น้อยที่สุด จึงสามารถรับประกันการสูญเสียให้เหลือน้อยที่สุด หรืออีกนัยหนึ่งคือจำกัดการสูญเสียและเพิ่มรายได้ให้กับร้านอาหารนั่นเอง

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2024 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.