5 เคล็ด (ไม่) ลับ รักษามาตรฐานอาหาร ให้คงที่ - Amarin Academy

5 เคล็ด (ไม่) ลับ รักษามาตรฐานอาหาร ให้คงที่

5 เคล็ด (ไม่) ลับ รักษามาตรฐานอาหาร ให้คงที่

เคยสงสัยไหม ครัวใหญ่ๆ ที่วันหนึ่งต้องเสิร์ฟอาหารหลายร้อยหลายพันจาน จะมีวิธี รักษามาตรฐานอาหาร ทุกจานให้คงที่ได้อย่างไร วันนี้เราจะมาเผยเทคนิคการรักษามาตรฐานอาหาร เพื่อมัดใจลูกค้าให้อยู่หมัดให้ทราบกัน

1. ความสะอาดต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง

ความสะอาด ถือเป็นหัวใจสำคัญที่เจ้าของร้านอาหารควรใส่ใจในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบ ควรเลือกซื้อจากแหล่งที่ได้มาตรฐาน มั่นใจว่าสด สะอาด ปราศจากสารปนเปื้อน การจัดเก็บวัตถุดิบต้องเหมาะสม ไม่ควรวางบนพื้นหรือที่ชื้นแฉะ ถังขยะต้องแยกจากส่วนปรุงอาหารให้ชัดเจน เป็นต้น ขณะเดียวกันพนักงานก็ควรแต่งกายให้เหมาะสม สวมเสื้อแขนยาว หมวก ผ้ากันเปื้อน เพื่อป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อโรคที่มากับเส้นผม มือ หรือเหงื่อ เพราะไม่ว่าอาหารจะอร่อยสักแค่ไหน หากลูกค้ารับประทานแล้วท้องเสีย หรือเจอสิ่งแปลกปลอมใดๆ ย่อมไม่ประทับใจอย่างแน่นอน

2.คงคุณภาพวัตถุดิบให้สดใหม่เสมอ

วัตถุดิบที่นำมาใช้ นอกจากจะต้องสะอาดและปลอดภัยแล้ว ต้องสดใหม่อยู่เสมอด้วย  เจ้าของร้านอาหารควรจัดเก็บวัตถุดิบแต่ละประเภทให้เหมาะสม เพื่อรักษารสชาติของวัตถุดิบให้คงที่และยืดอายุการใช้งานให้นานขึ้น เช่น วัตถุดิบประเภทเนื้อสด ควรจัดเก็บไว้ในอุณหภูมิ -1 ถึง 2 องศาเซลเซียส ผักสด อุณหภูมิ 0 ถึง 8 องศาเซลเซียส ประเภทแป้ง อุณหภูมิ 15 ถึง 25 องศาเซลเซียส เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อรา เป็นต้น นอกจากนี้ผู้ประกอบการควรเช็คสต็อกวัตถุดิบอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีวัตถุดิบเหลือค้าง เพราะหากวัตถุดิบส่วนใดส่วนหนึ่งเน่าเสีย เช่น มีเชื้อรา วัตถุดิบอื่นก็อาจได้รับเชื้อราและเน่าเสียตามไปด้วย

3. รสชาติต้องคงที่ ไม่ผิดเพี้ยน

วิธีการที่ง่ายที่สุดสำหรับการควบคุมมาตรฐานรสชาติอาหารคือ จัดทำคู่มือประกอบอาหารประจำร้าน ซึ่งรวบรวมกรรมวิธีการปรุง วัตถุดิบ และอัตราส่วนผสมของแต่ละเมนูอย่างละเอียด เช่น เมนูผัดกะเพราต้องระบุส่วนผสมทุกชนิด ตั้งแต่สันในหมูสับ 150 กรัม น้ำปลา 2 ช้อนชา พริกขี้หนูสวน 7 กรัม ใบกะเพรา 10 กรัม ฯลฯ รวมทั้งระบุรายละเอียดการปรุงให้ชัดเจน เช่น ความแรงของไฟ ระยะเวลาการปรุง ความยาวของผักที่หั่น ลำดับการใส่วัตถุดิบ เป็นต้น

4. จัดตั้ง “ครัวกลาง” กระจายวัตถุดิบ

ร้านอาหารที่มีมากกว่าหนึ่งสาขามักมี “ครัวกลาง” ทำหน้าที่คัดสรร ผลิต ควบคุมคุณภาพและกระจายวัตถุดิบสู่สาขาต่างๆ เช่น น้ำจิ้ม น้ำซุป ซอส หรืออาหารจานสำคัญของร้านไปยังแต่ละสาขา  ซึ่งอาหารที่ส่งจากครัวกลางส่วนใหญ่จะเป็นปรุงจนเกือบเสร็จสมบูรณ์ เพียงแค่พนักงานที่สาขานำมาอุ่น หรือปรุงเพิ่มเติมเล็กน้อยก็สามารถเสิร์ฟได้ทันที วิธีนี้ถือว่าเป็นที่นิยมมากสำหรับร้านอาหารที่ต้องการรักษามาตรฐานรวมถึงสูตรลับประจำร้าน แต่ข้อเสียสำคัญคือ ผู้ประกอบการต้องเสียค่าใช้จ่ายในการจัดตั้งครัวกลางเพิ่ม ทั้งด้านสถานที่ วัสดุอุปกรณ์ ค่าแรงพนักงานและค่าบริหารจัดการต่างๆ ดังนั้นผู้ประกอบการที่กำลังวางแผนจะทำครัวกลาง ก็ต้องคำนึงถึงความคุ้มค่านการลงทุนด้วย

5ตรวจสอบคุณภาพอย่างสม่ำเสมอ

การตรวจสอบคุณภาพอาหาร จะช่วยให้มั่นใจว่าอาหารได้มาตรฐาน หากมีข้อบกพร่อง จะได้รีบปรับปรุงทันที เพราะปัญหาเพียงนิดเดียวก็สามารถทำลายความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อร้านได้ ร้านดังๆ หลายร้าน เช่น โกอ่าง ข้าวมันไก่ประตูน้ำ ก็มีการตรวจสอบคุณภาพอาหารเช่นกัน โดยการสุ่มหยิบข้าวมันไก่จากออร์เดอร์ที่ลูกค้าสั่ง แล้วนำมาตรวจสอบคุณภาพด้วยการชิม ชั่งน้ำหนักวัตถุดิบที่เสิร์ฟต่อจาน ทำให้มั่นใจได้ว่าทุกๆ จานที่เสิร์ฟลูกค้าได้มาตรฐาน เป็นต้น นอกจากนี้ร้านอาหารควรรับฟังคำติชมของผู้บริโภค เพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาอาหารให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น

5 ข้อที่เรานำเสนอมานี้ เป็นวิธีที่จะช่วยรักษารสชาติอาหารให้คงที่ ใครกำลังวางแผนจะเปิดร้าน หรือกำลังเปิดร้านอาหารอยู่ อย่าลืมนำไปปรับใช้กันนะครับ

เรื่องแนะนำ

4 ขั้นตอนที่มือใหม่ควรรู้ เริ่มต้น เปิดร้านอาหาร ให้รุ่ง!

เปิดร้านอาหาร เป็นหนึ่งในอาชีพแรกๆ ที่คนจะนึกถึงในช่วงเศรษฐกิจไม่ดี เพราะสามารถเริ่มลงทุนได้ด้วยเงินจำนวนไม่มาก จึงไม่แปลกที่ในช่วงโควิด จะมีการขายของกินออนไลน์กันอย่างคึกคัก บางคนที่เริ่มทำเป็นรายได้เสริม อาจจะทำรายได้ดีกว่ารายได้หลักเสียอีก  ถ้าในอนาคตจะเปิดเป็นหน้าร้าน หรืออยากขยายกิจการต่อไป จะต้องทำอย่างไรต่อไป ลองมาดู 4 ขั้นตอนสำหรับการเริ่มต้น เปิดร้านอาหาร ที่สรุปมาเพื่อให้ร้านของคุณโตได้โดยไม่ต้องเจ็บตัว และเป็นก้าวแรกที่มั่นคงของธุรกิจครับ  4 ขั้นตอนที่มือใหม่ควรรู้ เริ่มต้น เปิดร้านอาหาร ให้รุ่ง!   1.วางรูปแบบร้านให้ชัดเจน การวางรูปแบบของร้านอาหารให้ชัดเจน จะช่วยให้ลูกค้าจดจำได้ง่าย เกิดความน่าสนใจมากกว่าร้านทั่วไป และเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างแบรนด์  เริ่มตั้งแต่การตั้งชื่อร้าน ควรเป็นชื่อที่มีเอกลักษณ์และจำง่าย เข้ากับประเภทของร้านอาหาร เมนูอาหารในร้าน รวมถึงสไตล์การตกแต่งภายใน ควรจะเป็นไปในแนวทางเดียวกัน และตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย  ขอยกตัวอย่างร้านกาแฟ ที่มีความหลากหลายมากในปัจจุบัน นอกจากรสชาติที่ดีของกาแฟแล้ว แต่ละร้านก็จะมีจุดขายที่แตกต่างกัน บางร้านก็ใช้การตกแต่งร้านและสวนให้สวยงาม เพื่อให้ลูกค้าได้มาถ่ายรูปเช็คอินลงในโซเซียลมีเดีย บางร้านก็เปิดเป็นคาเฟ่แมว เพื่อให้ลูกค้าได้ผ่อนคลายกับน้องๆ ในร้าน หรือแม้แต่การคิดเมนูที่สร้างสรรค์ต่างๆ ก็เป็นแนวทางในการสร้างจุดเด่น ที่ทำให้ลูกค้าจะเลือกมาที่ร้านของเรา และได้รับประสบการณ์ที่น่าประทับใจกลับไป 2.เลือกทำเลที่เหมาะสม เพราะทำเลเป็นปัจจัยสำคัญต่อผลประกอบการของร้าน การเลือกทำเลตั้งร้านอาหารจะต้องคำนึงถึงกลุ่มฐานลูกค้าเป้าหมาย คู่แข่งในละแวกเดียวกัน ที่จอดรถของร้าน ความสะดวกต่อการเข้าถึง และความสะดุดตาของร้าน […]

ตั้งราคาขาย

ตั้งราคาขาย อย่างไร ให้ขายได้และร้านอยู่รอด

        ในช่วงวิกฤตแบบนี้ สิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ร้านอาหารอยู่รอดได้ คือการบริหารจัดการต้นทุนที่ดี และการ ตั้งราคาขาย (Price Strategy) ของอาหารที่เหมาะสม โดยเฉพาะในวงการอาหารเดลิเวอรีที่มีการแข่งขันสูง มีร้านอาหารแบบเดียวกันเป็นจำนวนมาก ผู้ประกอบการจะต้องใช้กลยุทธ์ทุกอย่างที่ทำได้ เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อจากร้านของเรา ลองมาดูการตั้งราคาขายอาหารและกลยุทธ์ต่างๆ ที่อาจจะช่วยร้านของคุณได้ครับ ตั้งราคาขาย อย่างไร  ให้ขายได้และร้านอยู่รอด         พื้นฐานของการ ตั้งราคาขาย อาหาร ต้องคำนวณมาจากต้นทุนของร้าน เช่น ต้นทุนวัตถุดิบ ควรอยู่ที่ 30-35% ของยอดขาย ตัวอย่างเช่น ต้นทุนวัตถุดิบเท่ากับ 30 บาท ราคาขายก็ควรจะตั้งไว้ประมาณ 100 บาท เป็นต้น          แต่ไม่ใช่ว่าการคำนวณแบบนี้จะเหมาะสมกับทุกร้านอาหาร เพราะยังมีต้นทุนอื่นๆ ได้แก่ ค่าจ้างพนักงาน ค่าเช่าที่ และค่าการตลาดอื่นๆ ส่วนใครที่นำร้านอาหารเข้าร่วมกับผู้ให้บริการเดลิเวอรีต่างๆ ก็อย่าลืมต้นทุนค่า GP […]

  หาพนักงานไม่ได้ พนักงานลาออกกะทันหันทำอย่างไรดี เชื่อว่าปัญหานี้เจ้าของร้านอาหารทุกคนไม่อยากเจอ เพราะนอกจากเสียเวลา เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในการหาคนทำงานแทนแล้ว ความไม่พร้อมด้านกำลังคนอาจส่งผลต่อการบริหารจัดการและเสียลูกค้าไปในที่สุด มาเรียนรู้ขั้นตอนแก้สถานการณ์ เพื่อให้คุณสามารถรับมือกับเรื่องหัวหมุนนี้ไว้ก่อนจะดีกว่า   ประเมินสถานการณ์ วางแผนการทำงานโดยคาดการณ์จำนวนลูกค้าที่เข้ามารับบริการต่อวัน  โดยร้านส่วนใหญ่จะมีระบบ POS สามารถดูสถิติจำนวนลูกค้าได้  ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการจัดจ้างพนักงานร้านอาหารแบบ Part time  การจ้างเฉพาะช่วงเวลาขายดีเพื่อทดแทนกำลังที่ขาด จะทำให้คุณไม่ต้องแบกค่าใช้จ่ายจาการจ้างงานเต็มวัน นอกจากนี้ควรวางแผนกำลังคนที่มีอยู่ให้เหมาะสมกับลักษณะร้าน เช่น ร้านอาหารแบบบุฟเฟต์เน้นการเตรียมของ เติมของ เคลียร์ภาชนะที่รวดเร็ว อาจเพิ่มพนักงานในส่วนนั้น และดึงพนักงานประจำที่เชี่ยวชาญแล้ว มาคอยบริหารจัดการลูกค้าหน้าร้านแทน   มอบหมายหน้าที่ บริหารจัดการคนที่มีอยู่ให้ดีที่สุด การมอบหมายหน้าที่ที่ชัดเจน จะช่วยลดปัญหาที่เกิดจากการสื่อสารผิดพลาด โดยเฉพาะพนักงานบริการที่ต้องรับมือกับลูกค้าโดยตรง  วิธีที่ง่ายวิธีหนึ่ง คือ การกำหนดจำนวนโต๊ะ  และโซนที่รับผิดชอบให้เหมาะสมกับจำนวนพนักงานบริการที่มีอยู่ จากนั้นกำหนดเวลาในการบริการแต่ละขั้นตอน เช่น หลังจากลูกค้านั่งที่โต๊ะ ตั้งไว้เลยว่าอีกกี่นาทีรับออเดอร์ รวมถึงการเสิร์ฟอาหาร การเคลียร์จานเข้าออก พนักงานที่มีอยู่ต้องหมั่นคอยสังเกตความต้องการของลูกค้า เพื่อให้เกิดการบริการที่ลื่นไหล และทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าได้รับการบริการและความใส่ใจอย่างเต็มที่ ในขณะที่ฝ่ายเตรียมอาหาร ต้องมีการวางแผนอาหารในแต่ละออเดอร์ให้แม่นยำ เพื่อการบริการอย่างดีที่สุด   ครอบคลุมโซนพื้นที่ในการให้บริการ ในกรณีที่ลูกค้าไม่เยอะ การปิดพื้นที่บางส่วน  หรือเชื้อเชิญลูกค้าให้นั่งในพื้นที่ที่กำหนด […]

อาหารบูด

เมื่อลูกค้าเจอ ” อาหารบูด ” ควรทำอย่างไร

ร้านอาหารหลายๆ ร้าน คงเคยเจอปัญหาลูกค้าเจอ อาหารบูด ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของร้านอาหารเลยก็ว่าได้ แล้วอย่างนี้ เจ้าของร้านจะแก้ไขสถานการณ์นั้นอย่างไรดีล่ะ

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2024 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.