6 ค่าใช้จ่ายร้านอาหาร ที่คนมักมองข้าม - Amarin Academy

6 ค่าใช้จ่ายร้านอาหาร ที่คนมักมองข้าม

6 ค่าใช้จ่ายร้านอาหาร ที่คนมักมองข้าม

หลายคนที่ฝันอยากเปิดร้านอาหาร แน่นอนว่าสิ่งที่ทำอย่างแรก ก็คือหยิบกระดาษและเครื่องคิดเลขขึ้นมา ทั้งจดทั้งกดคำนวณดูว่า “เงินที่คิดว่าจะขายได้” จะมากกว่า “เงินลงทุนที่ต้องใช้” หรือไม่? ถ้าเลขสุดท้ายออกมาเป็นบวก แสดงว่าไอเดียการเปิดร้านอาหารของเรา น่าสนใจไม่น้อย แต่หลายครั้ง การคำนวณเพื่อประเมินความเป็นไปได้ ต้นทุนหลายอย่าง มักจะไม่ได้ถูกรวมเข้าไปหรือถูกรวมไม่ครบ ผลก็คือ ทุกเช้าคุณตื่นขึ้นมาพลิกป้ายหน้าประตูเป็นร้านเป็น “เปิด” ด้วยรอยยิ้ม แต่พอถึงสิ้นเดือนที่ทำบัญชี รอยยิ้มกลับหายไปเพราะขาดทุน วันนี้ผมมี 6 ค่าใช้จ่ายร้านอาหาร ที่คนมักมองข้าม มาแชร์ให้ฟังกัน

  1. ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับเทคโนโลยี

ในยุคที่เทคโนโลยีเกือบจะเป็นเหมือนอีกหนึ่งอวัยวะที่ขาดไม่ได้ แม้ว่าร้านอาหารที่เรากำลังจะเปิดไม่ได้ใหญ่โตเหมือนร้านอาหารตามห้างใหญ่ๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่ต้องคำนึงถึง

ค่าใช้จ่ายที่ผมพูดถึง เช่น ราคาเครื่องเก็บเงินสด ถาดใส่เงิน เครื่องพิมพ์สลิป ค่าระบบ POS หรือกล้องวงจรปิด ค่าใช้จ่ายอุปกรณ์เหล่านี้มีตั้งแต่ราคาหลักพันบาท จนถึงหลายๆ หมื่น เพราะฉะนั้น ดูให้ละเอียดสักนิด ว่าร้านเราต้องการสิ่งไหนบ้าง และราคาเท่าไรที่เหมาะสมกับการใช้งาน รวมๆ ขึ้นมาก็เป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่น้อยอยู่นะครับ

  1. การทำโฆษณา

ลองเริ่มจากการตอบคำถามว่า “คุณจะทำยังไงให้คนรู้ว่ามีร้านอาหารเปิดใหม่และอยากมาลองชิม?” วิธีเริ่มต้นก็มีมากมาย ตั้งแต่ แจกใบปลิว ลงโฆษณาในสื่อต่างๆ ทำโปสเตอร์หน้าร้าน ทำโปรโมชั่นฉลองเปิดร้านใหม่ หรือใช้การตลาดออนไลน์ เจ้าของร้านอาหารต้องประมาณค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องให้ครบ ไม่ว่าจะเป็นค่าทำใบปลิว แค่แรงคนแจกใบปลิว ค่าลงโฆษณาตามสื่อ รวมถึงต้นทุนทั้งหมดที่เกี่ยวข้องในการทำเพจของร้านด้วย

  1. ค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภค

ร้านอาหารบางประเภทใช้ไฟค่อนข้างมาก เช่น ร้านประเภทชาบู ปิ้งย่าง ในขณะที่บางประเภทก็จะหนักไปที่ค่าน้ำ ลองประเมินดูว่าพื้นที่ของร้าน จำนวนจานชาม (ถ้าร้านบุฟฟเฟ่ต์ก็ล้างกันมันเลยนะครับ) และรูปแบบการตกแต่งที่คิดไว้ จะมีผลอย่างไรต่อค่าใช้จ่ายส่วนนี้บ้าง ที่สำคัญ หากกำลังจะเช่าพื้นที่ร้านต่อจากคนอื่น อย่าลืมเด็ดขาดนะครับ !!! เช็คให้มั่นใจว่าไม่มีค่าสาธารณูปโภคอะไรที่ยังค้างจ่ายอยู่ ไม่อย่างนั้นละก็ ยังไม่ทันเปิดร้านเลย ก็มีภาะต้องจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ซะแล้ว

  1. ค่าเพลงต่างๆ ที่จะใช้เปิดในร้าน

ข้อนี้แล้วแต่รูปแบบร้าน บางร้านที่ไม่ได้ต้องการสร้างบรรยากาศเพิ่มเติมก็ไม่จำเป็นต้องมี แต่สำหรับใครที่คิดอยู่ว่า อยากจะมีวงดนตรีสด ก็อย่าลืมดูค่าใช้จ่ายด้วยว่า วงดนตรีที่ชอบคิดค่าใช้จ่ายวันละเท่าไร เล่นกี่ชั่วโมง กี่เบรค รวมเครื่องดนตรีครบเซ็ทหรือไม่ ทางร้านต้องเตรียมจัดเตรียมบางส่วนหรือเปล่า

แต่บางคนคิดว่า ไม่ต้องขนาดนั้น เดี๋ยวใช้วิธีเปิดเพลงแทน ก็อย่าลืมดูเรื่องค่าลิขสิทธิ์เพลงด้วยนะครับ ตอนนี้เจ้าของค่ายเพลงเริ่มเอาจริง เดี๋ยวจะเป็นเรื่องบานปลาย

  1. ค่าธรรมเนียมกรณีรับชำระลูกค้าเป็นบัตรเครดิต

สมัยนี้ลูกค้าพกเงินสดน้อยลงเรื่อยๆ และบัตรเครดิตก็เป็นตัวเลือกสำคัญที่เขานิยมใช้ เพราะฉะนั้นการรับบัตรเครดิตอาจจะไม่ใช่จุดเด่นของธุรกิจอีกต่อไป แต่แทบจะเป็นสิ่งพื้นฐานที่ร้านอาหารต้องมีเพื่อบริการลูกค้า

อย่าลืมว่าการรับบัตรเครดิต เราจะถูกคิดค่าธรรมเนียม 2-3% จากทางบัตรเครดิต ดังนั้น เผื่อค่าใช้จ่ายส่วนนี้ด้วย และที่สำคัญ เตรียมเงินหมุนเวียนให้เพียงพอนะครับ เพราะการรับชำระเงินทางบัตรเครดิต ร้านอาหารไม่ได้รับเงินสดในทันที แต่ใช้เวลาอีกอย่างน้อยเกือบ 1 สัปดาห์ที่จะได้รับเงิน

ความคิดเห็น ถามอีก กับอิก เรื่องลงทุน

การวางแผนให้ดี มีชัยไปกว่าครึ่งครับ แต่อีกครึ่งหนึ่งก็อยู่ที่การแก้ปัญหาของเรา ไม่มีใครรู้หรอกว่าระหว่างทางเราจะเจออะไรบ้าง หรือจะมีปัจจัยอะไรที่ทำให้แผนที่วางไว้อย่างดี ไม่เป็นไปตามนั้น แต่ที่แน่ๆ คือความมุ่งมั่น และพยายาม จะทำให้เราผ่านมันไปได้

บทความที่เกี่ยวข้อง

5 ต้นทุนในการทำร้านอาหาร ที่เจ้าของกิจการควรรู้!

5 เทคนิค ลดต้นทุน เพิ่มกำไร แต่มาตรฐานเท่าเดิม!

เรื่องแนะนำ

Crisis Management เมื่อโซเชียลทำพิษ ร้านต้องจัดการอย่างไร

เชื่อว่าเจ้าของร้านอาหารก็อยากให้ร้านของตัวเองเป็นที่พอใจของลูกค้าอยู่เสมอ แต่ความผิดพลาดเป็นเรื่องที่อาจเกิดขึ้นได้กับทุกร้าน หลายร้านเองต้องประสบปัญหากับน้ำผึ้งหยดเดียวเนื่องจากรับมือไม่เป็น Crisis Management จึงเป็นสิ่งที่เจ้าของร้านอาหารในยุคนี้ต้องรู้จักและเตรียมตัวรับมือให้ดี ซึ่งสามารถทำได้ตามวิธีที่แนะนำดังนี้   Crisis Management เมื่อโซเชียลทำพิษ ร้านต้องจัดการอย่างไร ตอบทันทีอย่าให้มีดราม่า ความไม่พอใจต่อเหตุการณ์จะยิ่งรุนแรงมากขึ้นจนกลายเป็นดราม่าได้หากได้รับการเพิกเฉย การตอบลูกค้ารวดเร็วจะทำให้ลูกค้าใจเย็นลง ดังนั้น ร้านอาหารควรจะวางแนวทางในการตอบคำถามไว้ โดยต้องใช้คำง่าย ๆ ตรงไปตรงมาในการตอบ และสุภาพ การพยายามเอาชนะลูกค้าย่อมไม่เป็นผลดี เช่น กรณีร้านที่เจ้าของร้านตอบโต้อย่างรุนแรงเมื่อลูกค้าติถึงคุณภาพอาหาร จากเรื่องเล็ก ๆ ที่สามารถจัดการได้ กับเป็นเรื่องใหญ่ที่ลุกลามไปยังช่องทางอื่น ๆ เพราะฉะนั้น ผู้ที่ทำหน้าที่ตอบคำถามไม่ว่าจะเป็นเจ้าของหรือจ้างคนมาทำหน้าที่แอดมินโดยตรง จะต้องเป็นคนที่ใจเย็นและสื่อสารได้ดี   ขอโทษอย่างจริงใจ ถ้าคุณคิดว่าการขอโทษแสดงถึงการยอมรับ คุณกำลังคิดผิด เพราะการขอโทษไม่ได้สื่อสารถึงลูกค้าคู่กรณีเพียงอย่างเดียว แต่ร้านกำลังสื่อสารไปถึงลูกค้าคนอื่น ๆ ด้วย ว่าคุณเป็นร้านอาหารที่ให้ความใส่ใจและเห็นว่าลูกค้าเป็นคนสำคัญเพียงใด  นอกจากนี้การขอโทษเป็นการทำให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีเพียงแค่ประเด็นเดียว ซึ่งดีกว่าการแก้ตัวที่จะทำให้เกิดประเด็นใหม่ ๆ หากคุณรับมือได้ไม่ดีพอก็จะบานปลายเกิดผลเสียมากกว่าได้ในที่สุด   รวบรวมข้อมูล…เปิดอกไกล่เกลี่ย ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพ รสชาติ การบริการของร้านอาหาร คุณจะต้องสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ควรแบ่งระดับความร้ายแรงของสถานการณ์ไว้ เช่น ขั้นต้น คือลูกค้าไม่พอใจรสชาติ […]

ทำร้านบุฟเฟต์ให้มีกำไร

เคล็ด (ไม่) ลับ ทำร้านบุฟเฟต์ให้มีกำไร

ทุกวันนี้ร้านบุฟเฟต์โตสวนกระแสร้านอาหารประเภทอื่น แต่ขณะเดียวกันกลับมีไม่กี่ร้านที่อยู่รอด วันนี้เลยอยากสรุปเทคนิคการ ทำร้านบุฟเฟต์ให้มีกำไร มาฝากกัน

Go Mass หรือ Go Niche โตแบบไหนเหมาะกับร้านของคุณ

                “เมื่อสินค้าไม่ได้แตกต่าง ลูกค้าจะเปรียบเทียบที่ราคาเสมอ” นั่นเป็นเหตุผลว่าคุณจะต้องทำร้านอาหารให้แตกต่างจากคู่แข่ง สิ่งสำคัญที่จะทำให้เกิดความแตกต่าง นอกจากการออกแบบสินค้าและบริการ ก็คือ การทำการตลาดและการสร้างแบรนด์ แล้วจะสร้างแบบไหน Go Mass หรือ Go Niche ที่เหมาะสมกับร้านของคุณ บทความนี้มีคำตอบ   >>MASS คืออะไร Niche เป็นแบบไหน ?             การมุ่งตลาด Mass คือ การทำร้านอาหารเพื่อตอบโจทย์คนหลายกลุ่ม มีความต้องการชัดเจน มีขนาดตลาดที่ใหญ่ ในขณะที่ Niche คือ การเจาะกลุ่มตลาดเฉพาะ มีขนาดตลาดที่แคบลงมา มีผู้เล่นน้อยราย มุ่งการสร้างมูลค่าให้กับสินค้า และสามารถขายสินค้าในระดับราคาที่สูงมากกว่า Mass ยกตัวอย่าง สมัยก่อนร้านอาหารญี่ปุ่นมีความนิยมที่จำกัด เนื่องจากมีราคาสูง นิยมแค่คนไทยที่เคยไปท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่น ร้านอาหารญี่ปุ่นจึงไปแฝงตัวตามย่านธุรกิจที่มีคนญี่ปุ่นทำงานและใช้ชีวิตอยู่ เช่น สุขุมวิท สีลม จึงเป็นตลาดที่ค่อนข้าง Niche […]

รีวิวร้านอาหารแบบไหนให้เข้าถึงใจสายกิน !

รีวิวสายจิ้น…สร้างจินตนาการให้มากที่สุด เมื่อพูดถึงการรีวิวร้านอาหาร หลายคนคงนึกถึงการรีวิวด้วยภาพเป็นอันดับแรก แต่เชื่อไหมว่าคุณสามารถเรียกลูกค้าให้ต่อคิวหน้าร้านได้โดยที่ไม่ได้มีการโพสต์รูปอาหารใด ๆ ด้วยซ้ำ เพียงแค่ทำให้เขาจินตนาการถึงอาหารของคุณ  ยกตัวอย่าง เช่น ร้านของคุณกำลังจะทำเมนูใหม่ซึ่งเป็นเมนูที่ขายรสชาติที่เผ็ดร้อน อาจเลือกใช้ภาพสีหน้าของคนที่เกิดจากการกินอาหารจานนั้น และเลือกใช้ภาพสีหน้าที่บอกระดับความเผ็ดในระดับต่าง ๆ  คนที่ได้เห็นภาพจะเกิดความรู้สึกสนใจ คิดว่าเมนูนี้จะเผ็ดขนาดไหน และต้องการเปรียบเทียบระดับความเผ็ดเมื่อได้กินเมนูนี้ด้วยตัวเอง ยิ่งคุณสามารถสร้างจินตนาการขึ้นในหัวของคนได้มากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งสร้างความรู้สึกคาดหวังที่จะสัมผัสของจริงได้มากขึ้นเท่านั้น อีกหนึ่งรูปแบบในการสร้างจินตนการที่นิยมในปัจจุบันก็คือ  Content ประเภทร้านลับ เมนูลับที่ไม่บอกว่าเป็นเมนูอะไร หรือการรีวิวการกินหน้ากล้องของยูทูเบอร์เกาหลี   รีวิวสายยั่ว…ยั่วเก่งด้วยภาพ กูรูด้านการทำตลาดร้านอาหารให้ทรรศนะว่า การทำร้านอาหารให้น่าสนใจไม่ต่างอะไรกับการยั่วให้คนมาจีบ ขั้นตอนแรกก็คือ การสร้างเสน่ห์ให้ร้านอาหารของตัวเองออกไปยั่วลูกค้าให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพอาหารที่น่ากินที่สุด เสียงของอาหารที่แสดงให้เห็นถึงความกรอบ ซึ่งสามารถทำได้ทั้งรูปแบบภาพนิ่งและวิดีโอ  ที่จะสามารถทำให้ลูกค้าเกิดความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นอยากกิน หรือถ้าร้านสวยมาก ๆ มีมุมถ่ายภาพเยอะ ก็ต้องนำเสนอภาพที่ทำให้ลูกค้าต้องการมาถ่ายรูปในจุดที่สวยที่สุดของร้านของคุณ   รีวิวสายเล่า…จีบให้ติดด้วยเรื่องเล่า             ถ้าภาพสวย ๆ คือยั่วให้อยากรู้จัก เรื่องที่เล่าคือการจีบลูกค้าให้ติด  เพราะคนไม่ได้มาร้านอาหารเพียงเพื่อ ‘กิน’ เพียงเท่านั้น แต่หมายถึงประสบการณ์รอบด้านที่จะทำให้ลูกค้าได้รับกลับไป ร้านอาหารที่เก่งในการเล่าเรื่อง นอกจากจะสร้างมูลค่าให้เกิดกับสินค้าที่ขายได้แล้ว ยังทำให้เกิดการติดตามในด้านเนื้อหาอีกด้วย นอกจากจะนำจุดขายของร้านมาสร้างเรื่องเล่าในการรีวิวแล้ว คุณต้องคำนึงถึงกลุ่มเป้าหมายหลักของร้าน เพื่อเลือกรูปแบบของการเล่าที่สอดคล้องกับความสนใจ […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2024 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.