8 วิธี ประหยัดค่าใช้จ่าย ภายในร้าน - Amarin Academy

8 วิธี ประหยัดค่าใช้จ่าย ภายในร้าน

8 วิธี ประหยัดค่าใช้จ่าย ภายในร้าน

เป็นที่ทราบดีว่า ค่าใช้จ่ายของธุรกิจร้านอาหารค่อนข้างสูง ไหนจะค่าพนักงาน ค่าวัตถุดิบ ค่าน้ำ ค่าไฟ ฯลฯ หากสามารถลดรายจ่ายช่องทางไหนได้ก็ควรทำ ฉะนั้นเราจึงมี  10 วิธี ประหยัดค่าใช้จ่าย ภายในร้าน ที่หลายคนอาจมองข้าม แต่ช่วยลดรายจ่ายได้จริง คอนเฟิร์ม!

1.ใช้หลอดประหยัดไฟ

หากคุณเปิดร้านอาหารจะทราบดีว่า ค่าไฟของร้านอาหารค่อนข้างสูง เนื่องจากร้านอาหารต้องเปิดไฟทั้งวัน ไม่ว่าจะมีลูกค้าหรือไม่ก็ตาม ดังนั้นการเลือกใช้หลอดประหยัดไฟ จึงเป็นทางเลือกที่ดีมาก สามารถช่วยลดค่าไฟได้สูงสุดถึง 20 เปอร์เซ็นต์ต่อปี หรือสำหรับร้านอาหารเปิดใหม่ อาจตั้งโจทย์ให้สถาปนิกออกแบบร้านให้แสงสว่างเข้าถึงได้มาก เพื่อจะได้ช่วยประหยัดไฟ ได้อีกทางหนึ่ง

2.ใช้เครื่องล้างจานก็ต่อเมื่อจานเต็มเครื่อง

เครื่องล้างจานเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่ช่วยประหยัดเวลา และค่าจ้างพนักงาน แถมจานยังสะอาดหมดจด ไม่ต้องเสียเวลามานั่งล้างนั่งเช็ดจานอีกด้วย ขณะเดียวกัน การใช้เครื่องล้างจาน ก็มีข้อเสียที่ต้องใช้น้ำเยอะกว่าการล้างจานด้วยมือ ฉะนั้นควรใส่จานให้เต็มเครื่องก่อนล้างจาน จะช่วยประหยัดน้ำได้มากขึ้น

3.ใช้สุขภัณฑ์ชนิดประหยัดน้ำ

ข้อนี้ก็ไม่ควรมองข้าม เพราะเมื่อลูกค้ามาใช้บริการร้านอาหาร ร้อยทั้งร้อยต้องเข้าห้องน้ำ ฉะนั้นการเปลี่ยนมาใช้สุขภัณฑ์ชนิดประหยัดน้ำ จะช่วยลดการใช้ได้น้ำสูงถึง 20-40 % รายจ่ายของคุณก็จะลดลงตามไปด้วย

4.เปลี่ยนจากพลาสติกเป็นแก้ว

ร้านอาหารหลายร้านนิยมใช้แก้วพลาสติกในการเสิร์ฟน้ำ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภค หากดื่มไม่หมดก็สามารถนำกลับบ้านได้ และทางร้านก็ไม่ต้องมานั่งล้างทำความสะอาดแก้วอีกด้วย แต่หากร้านของคุณอยากลดรายจ่ายจริงๆ ลองเปลี่ยนมาใช้แก้วแบบถาวรจะดีกว่า นอกจากจะช่วยลดรายจ่ายแล้ว ยังช่วยลดปริมาณขยะในโลกของเราอีกด้วย

5.ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงาน

การเปลี่ยนมาใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าประหยัดพลังงาน อาจจะไม่เห็นผลในระยะสั้น แต่จะส่งผลต่อดีค่าใช้จ่ายในระยะยาวแน่นอน เนื่องจากทุกวันเราต้องใช้ตู้เย็น เตาอบ เครื่องล้างจาน ฯลฯ ติดต่อกันหลายชั่วโมง ต้องเสียค่าไฟแทบจะตลอดเวลา ฉะนั้นเปลี่ยนมาใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงานดีกว่า คุ้มค่ากว่าเยอะ

6.ตัดบางเมนูทิ้งไป

บางเมนูที่ไม่เป็นที่นิยมนัก นานๆ จะมีลูกค้าสั่งสักครั้งหนึ่ง เจ้าของร้านก็ควรตัดเมนูนั้นทิ้งไป เพื่อลดรายจ่ายด้านวัตถุดิบลง แถมยังช่วยลดปริมาณของเสียภายในร้านได้อีกด้วย (อ่านต่อ: เหตุที่ควรพัฒนาเมนู)

  1. ทำการตลาดทางออนไลน์

การตลาดช่องทางนี้เสียค่าใช้จ่ายไม่มาก แถมมีประสิทธิภาพสูงอีกด้วย เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคยุคปัจจุบันนั้นเปลี่ยนไปมาก สนใจรับข่าวสารจากอินเทอร์เน็ตมากกว่าสื่ออื่นๆ ฉะนั้น เจ้าของธุรกิจควรทำการตลาดช่องทางนี้

8.เทรนด์พนักงาน

เจ้าของกิจการ ควรการฝึกให้พนักงานทำงานอย่างเป็นระบบ และพัฒนาศักยภาพของตัวเองอย่างสม่ำเสมอ เพราะการที่เขาทำงานได้ดีขึ้น ข้อผิดพลาดน้อยลง เช่น รับออร์เดอร์ไม่ผิด ไม่ทำข้าวของในร้านเสียหาย ก็มีส่วนช่วยในการประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกทางหนึ่ง

8 ข้อนี้เป็นวิธีง่ายๆ ที่ทุกร้านสามารถทำตามได้ อย่ามองข้ามจุดเล็กๆ น้อยๆ เพราะเงินที่คุณคิดว่าเล็กน้อยนั้น เมื่อนำมารวมกัน อาจนำมาใช้เป็นค่าใช้จ่ายได้อีกเดือนหนึ่งเลยก็ได้

เรื่องแนะนำ

ข้อผิดพลาดทางการตลาด

5 ข้อผิดพลาดทางการตลาด ที่เจ้าของร้านอาหารต้องรู้!

หากก้าวแรกที่เริ่มเดินก็ผิดเสียแล้ว ก้าวต่อๆ ไปก็ไม่แคล้วผิดตามไปด้วย อย่างนั้นมาดู 5 ข้อผิดพลาดทางการตลาด ที่เจ้าของร้านอาหารควรรู้กันดีกว่า

ลดต้นทุน เพิ่่มกำไร

ลด ต้นทุน อย่างมืออาชีพ เพิ่มกำไรให้ร้านอาหารสูงสุด

หัวใจของการลด ต้นทุน ในร้านอาหาร อยู่ที่การจัดการกับวัตถุดิบ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกซื้อวัตถุดิบ ขั้นตอนการเตรียมและปรุงอาหาร แม้จะเป็นงานที่ต้องอาศัยความละเอียดรอบคอบ แต่เจ้าของร้านไม่ควรละเลย เพราะช่วยลดต้นทุน และเพิ่มกำไรให้กับร้านได้จริง โดยไม่ต้องขึ้นราคาอาหารให้ลูกค้าหนีไปไหน  ลด ต้นทุน อย่างมืออาชีพ เพิ่มกำไรให้ร้านอาหารสูงสุด หากร้านของคุณยังมีปัญหาต้นทุนอาหารสูง วัตถุดิบขาดสต๊อกจนไม่พอขาย หรือมากเกินไปจนใช้ไม่ทัน จัดเก็บวัตถุดิบไม่ดีจนบางส่วนเน่าเสีย หรือลืมใช้วัตถุดิบจนหมดอายุ ทั้งหมดนี้เป็นเงินทุนของเราที่เสียไปโดยเปล่าประโยชน์ทั้งนั้น ลองเอาวิธีการลดต้นทุนร้านอาหารเหล่านี้ไปปรับใช้ดูนะครับ ใส่ใจการจัดการวัตถุดิบอาหาร เรียงลำดับการใช้วัตถุดิบ ทำ Tracking number หรือจัดเรียงวัตถุดิบแบบ FIFO (First In First Out) ให้วัตถุดิบที่หมดอายุเร็วกว่าให้ถูกหยิบไปใช้ก่อน ป้องกันไม่ให้วัตถุดิบเสื่อมคุณภาพหรือหมดอายุ สร้างมาตรฐานการปฏิบัติงาน (SOP) เช่น สเต็กหนึ่งจาน จะใช้เนื้อปริมาณกี่กรัม เพื่อเตรียมแบ่งวัตถุดิบเนื้อเป็นไซส์เท่าที่ต้องการเท่า ๆ กันไว้ให้พร้อมใช้งาน ช่วยควบคุมต้นทุนอาหาร และมาตรฐานของอาหารแต่ละจานให้คงที่ ทำให้เจ้าของร้านวางแผนได้คร่าวๆ ว่าควรสต๊อกวัตถุดิบไว้เท่าไหร่ และคำนวณต้นทุนได้ง่ายขึ้น   ปรับปริมาณอาหารให้เหมาะสม อาหารในแต่ละเมนูควรจะเสิร์ฟในปริมาณที่เหมาะสม ซึ่งสังเกตจากปริมาณอาหารที่เหลือกลับมาในแต่ละเมนู ถ้าจานไหนมีอาหารเหลือบ่อยๆ อาจจะปรับปริมาณให้เหมาะกับการทานมากขึ้น หลักการปรุงแบบ […]

เจาะกลุ่มลูกค้า

เจาะกลุ่มลูกค้า ร้านอาหาร บริการให้ตรงใจ ❤︎

ในยุคที่ธุรกิจร้านอาหารมีการแข่งขันสูง ทางร้านย่อมจะต้องหาวิธีดึงดูดและจูงใจลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการ แต่ผู้บริโภคแต่ละกลุ่มมีความต้องการที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้น การทำความเข้าใจลูกค้าแต่ละกลุ่มจึงเป็นเรื่องสำคัญ ที่จะช่วยให้พนักงานบริการลูกค้าที่ต่างกันอย่างเหมาะสม ทำให้ได้รับประสบการณ์ที่ดีจากร้าน ในบทความนี้เราจึง เจาะกลุ่มลูกค้า แต่ละแบบในร้านอาหาร เพื่อแนะนำแนวทางในการบริการให้เหมาะสม และเพิ่มโอกาสในการขายของร้านอาหารครับ เจาะกลุ่มลูกค้า ในร้านอาหาร บริการให้ตรงใจ 1. ลูกค้าที่มาเป็นคู่ ลูกค้าที่มากันสองคนหรือเป็นคู่รัก มักจะต้องการใช้เวลาด้วยกันมากกว่าต้องการให้พนักงานบริการเพิ่มเติม ดังนั้น พนักงานควรจะเลือกที่นั่งที่ให้ความรู้สึกค่อนข้างส่วนตัว เช่น โต๊ะที่อยู่ด้านในของร้าน หรือโต๊ะที่ห่างออกไปจากกลุ่มลูกค้าที่มาด้วยกัน เพื่อลดเสียงรบกวน หลังจากลูกค้าสั่งอาหารแล้วก็คอยสังเกตห่างๆ ว่าลูกค้าต้องการบริการใดเพิ่มเติมแล้วค่อยเข้าไปบริการ โดยเมื่อลูกค้ารับประทานอาหารหลักใกล้เสร็จ อาจจะขออนุญาตเข้าไปเก็บจานที่ไม่ใช้แล้ว พร้อมกับแนะนำเมนูของหวานเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มยอดขายให้กับร้านอาหารได้ 2. กลุ่มคนทำงาน พนักงานออฟฟิศ สำหรับร้านที่อยู่บริเวณที่ทำงานในเมือง พนักงานออฟฟิศคงเป็นกลุ่มลูกค้าหลักในร้าน  ส่วนใหญ่จะมาในเวลาพักกลางวัน หรือหลังเลิกงานในตอนเย็น จากเวลาพักที่ใกล้เคียงกันของพนักงานออฟฟิศ ทำให้ร้านอาหารต้องบริหารจัดการโต๊ะให้ดีเพื่อเพิ่มจำนวนลูกค้าต่อวันให้มากขึ้น และหาวิธีทำงานที่รวดเร็วขึ้น เช่น อาจจะปรุงวัตถุดิบบางส่วนล่วงหน้าไว้ เพื่อลดระยะเวลาการทำอาหาร หรือมีกระดาษให้เลือกเมนูอยู่ที่โต๊ะเพื่อลดภาระของพนักงาน ลูกค้ากลุ่มนี้มักจะมาเป็นกลุ่มย่อยๆ ประมาณ 3-4 คน โดยสั่งอาหารจานหลักคนละจาน และอาจจะสั่งเมนูอื่นๆ มาแชร์กัน พนักงานอาจจะแนะนำเมนูทานเล่นอื่นๆ ที่มีขายภายในร้านนอกเหนือจากอาหารจานหลัก เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าอยากสั่ง […]

Ghost Kitchen ร้านอาหารยุคใหม่ ไม่ต้องมีหน้าร้าน!

Ghost Kitchen ร้านอาหารยุคใหม่ ไม่ต้องมีหน้าร้าน!!

สมัยนี้คนที่อยากเป็นเจ้าของร้านอาหาร ไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้านเป็นของตัวเอง หรือลงทุนอะไรเพิ่มเลยด้วยซ้ำ ด้วย “Ghost.Kitchen” หรือร้านอาหารที่มองไม่เห็น ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์ที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ไปพร้อมกับการสั่งอาหารแบบเดลิเวอรี ลองมาดูความเป็นมาและข้อดีข้อเสียของโมเดลร้านอาหารนี้กันครับ “Ghost Kitchen” ร้านอาหารยุคใหม่ ไม่ต้องมีหน้าร้าน ที่มาของครัวที่มองไม่เห็น “Ghost.Kitchen”  “Ghost.Kitchen” ก็คือการเปิด “ร้านอาหารที่มีแต่ครัว” โดยไม่ต้องเปิดขายหน้าร้าน แต่เน้นรับออเดอร์อาหารผ่านแอปพลิเคชันต่าง ๆ เพื่อจัดส่งเดลิเวอรี่เท่านั้น โดยเจ้าของร้านเหล่านี้อาจจะขายอาหารได้แม้จะอยู่ภายในบ้าน หรือคอนโดมิเนียมที่ใช้พื้นที่ขนาดเล็กภายในตัวเมือง แค่เชื่อมต่อร้านกับแอปลิเคชันเดลิเวอรีต่างๆ หรือรับออเดอร์ผ่านโซเชียลมีเดีย ถ้าใครสะดวกก็จัดส่งเองได้เลย หรือบางคนก็ใช้วิธีจัดส่งเป็นรอบๆ ในพื้นที่บริเวณที่กำหนด เทรนด์อาหารเดลิเวอรี่กับการเติบโตของ Ghost.Kitchen สถิติจากศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า ธุรกิจอาหารเดลิเวอรี่มีเติบโตขึ้นราวปีละ 10% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งสูงกว่าการขยายตัวของร้านอาหารทั่วไปที่โตแค่ 3-4% ต่อปี สอดคล้องกับการโตของธุรกิจ Ghost.Kitchen โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงโควิดที่กระตุ้นให้การเกิดเปลี่ยนแปลงเร็วขึ้นไปอีก จะเห็นได้ว่าแม้แต่คนรอบตัวของเรา ก็หันมาขายอาหารผ่าน application หรือออนไลน์มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ปัจจุบันร้านอาหารแบรนด์ใหญ่ก็มีการแชร์ครัวประเภทนี้ร่วมกัน เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายที่จะต้องลงทุนทำครัวของแต่ละร้านเอง ตัวอย่างเช่น Grab Kitchen ที่รวมเอาร้านอาหารยอดนิยม 12 ร้าน […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2023 Amarin Corporations Public Company Limited.