กำไร เพิ่ม ปีละเกือบแสน แค่ปรับระบบพนักงาน - Amarin Academy

กำไร เพิ่ม ปีละเกือบแสน แค่ปรับระบบพนักงาน

กำไร เพิ่ม ปีละเกือบแสน แค่ปรับระบบพนักงาน

ร้านอาหาร ส่วนใหญ่ มักโฟกัสที่การควบคุมต้นทุนวัตถุดิบ ทำยังไงก็ได้ให้ถูกที่สุด ซึ่งเป็นเรื่องที่ควรทำ แต่กว่าจะลดได้ก็หืดขึ้นคอ เพราะต้องวางระบบสารพัด ขณะที่การลดการจ้างพนักงานประจำ เปลี่ยนมาใช้พาร์ทไทม์แทนง่ายกว่ามาก ไม่ต้องเหนื่อยเพิ่ม เห็นผลจริงตั้งแต่เดือนแรก แถมได้ กำไร เพิ่ม ปีละเกือบแสน เราจะเปรียบเทียบให้ฟัง

1.จ้างพนักงานประจำเต็มเวลาทุกคน

สมมติคิดจากเรทค่าแรงพนักงานร้านอาหารกลางๆ คือเดือนละ 13,000 บาท คูณ 12 เดือน เท่ากับ 156,000 บาท นี่ยังไม่รวมค่าเดินทาง ค่าอาหารกลางวัน ค่าสวัสดิการ ค่าโอที ประกันสังคม ประกันสุขภาพ ฯลฯ

2.ลดพนักงานประจำ 1 คน และจ้างพนักงานพาร์ทไทม์เฉพาะช่วงเวลาเร่งด่วน

สมมติว่าร้านคุณเปิด 10.00 – 20.00 ช่วงเวลาเร่งด่วนคือ 11.00 – 13.00 และ 17.00 – 19.00 น.

เท่ากับว่า วันหนึ่งคุณมีช่วงเวลาที่ต้องการคนเยอะจริงๆ แค่ 4 ชั่วโมง

ค่าจ้างพนักงานพาร์ทไทม์เรทพื้นฐานคือ 50 บาท / ชั่วโมง ตกวันละ 200 บาท คูณ 30 วัน เป็นเงิน 6,000 บาท 1 ปี เป็นเงิน 72,000 บาท

เทียบกับการจ้างพนักงานประจำแล้วคุณจะมีเงินเหลือปีละ 84,000 บาทเลยนะ!

ไม่อยากลดจำนวนพนักงาน ก็เพิ่มกำไรได้

อีกทางเลือกหนึ่งสำหรับร้านอาหารที่จำเป็นต้องจ้างพนักงานประจำ เพราะเป็นงานที่ต้องใช้ทักษะและการเทรนด์มากกว่าปกติ ก็สามารถลดค่าใช้จ่ายได้เช่นกัน

1.เข้างานพร้อมกัน เลิกงานพร้อมกัน

ตามปกติ หากพนักงานทำงานเกิน 8 ชั่วโมงต่อวัน ต้องจ่ายโอทีเป็นรายชั่วโมง สมมติร้านของเราเปิด 10.00 – 20.00 เท่ากับว่าต้องจ่ายค่าล่วงเวลาให้พนักงาน 2 ชั่วโมง สมมติจ่ายให้ชั่วโมงละ 50 บาทเท่ากับ 100 บาทต่อวัน

สมมติร้านคุณมีพนักงานทั้งหมด 4 คน ให้เข้างานพร้อมกัน เลิกงานพร้อมกัน เท่ากับว่าต้องจ่ายค่าล่วงเวลาให้พนักงานทั้งหมด 400 บาท คูณ 30 วัน เท่ากับเดือนละ 12,000 บาท 1 ปี 144,000 บาท

2.จัดการเข้างานใหม่เป็นระบบเหลื่อมกะ

ตอนเปิดร้าน 10.00 ให้พนักงานมาเปิดร้าน 2 คนและพนักงานอีก 2 คน ให้เข้างานช่วง 11.00 (เพราะเป็นช่วงเวลาที่ลูกค้าเริ่มเข้าร้านและต้องการพนักงานมาก) ช่วงเย็นก็ให้พนักงาน 2 คนที่เข้างานก่อน เลิกงานเวลา 19.00 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ลูกค้าเริ่มซาลง เท่ากับว่า พนักงานจะทำงานล่วงเวลาแค่คนละ 1 ชั่วโมงเท่านั้น

วันหนึ่งต้องจ่ายเงินค่าล่วงเวลา 200 บาท คูณ 30 เท่ากับเดือนละ 6,000 บาท 1 ปี 72,000 บาท

ลดลงครึ่งหนึ่ง

เพียงแค่ปรับเวลาเข้างาน ไม่ต้องทำอะไรใหม่ๆ เลย

………………………………………………………..

เงินที่เหลือ

ใช้ทำโปรโมชั่นเรียกลูกค้า ได้ยอดขายเพิ่มขึ้นเท่าไร

ซื้อโฆษณา หาลูกค้าใหม่ๆ ได้กี่คน

ใช้พัฒนาปรับปรุงร้าน เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้แค่ไหน

เงินที่เหลือ เอาทำประโยชน์ให้ร้านได้อีกเยอะ

แล้วคุณจะลองปรับไหม?

เรื่องแนะนำ

หลุด!! โพสต์ขายโปรแกรมปลอมสลิป เนียนจนน่ากลัว เตือนผู้ประกอบการเช็กยอดเงินเข้าก่อนให้ออกจากร้าน

ระวังโปรแกรม ปลอมสลิป ตั้งได้ทุกย่าง เลือกธนาคาร เวลาโอน ชื่อคนรับ!! หลุด! โพสต์ขายโปรแกรม ปลอมสลิป เนียนจนน่ากลัว เช็กยอดเงินเข้าก่อนให้ออกจากร้าน เตือนภัยร้านอาหาร และคนทำมาค้าขายทุกคน! เดี๋ยวนี้มิจฉาชีพมีมาในทุกรูปแบบจริง ๆ อย่างเช่นกรณีนี้ที่แอดได้ไปเจอมาว่าตอนนี้มันมีโปรแกรมที่สร้างขึ้นมาเพื่อทำ “ สลิปปลอม ” ที่สามารถกรอกข้อมูลอะไรได้ทุกอย่างเสร็จสรรพ แบบเนียนมาก ใครไม่เช็คดี ๆ อาจถูกหลอกได้อย่างง่าย ๆ     แล้วที่สำคัญกลุ่มคนพวกนี้ดูจะไม่ได้เกรงกลัวกฎหมายอะไรเลย เพราะเขาโพสต์ขายสลิปปลอมกันโต้ง ๆ บนกลุ่มเฟซบุ๊ก! ซึ่งจากที่แอดได้ลองแฝงตัวเข้าไปในกลุ่ม จะมาเตือนภัย และชี้ให้เห็นว่าภัยจากสลิปปลอมอยู่ใกล้ตัวเรามาก ๆ     อย่างที่บอกว่าเจ้าตัวเว็บทำ “ปลอมสลิป” เนี่ย มันเนียนมาก เพราะมันสามารถกรอกทั้งชื่อบัญชีที่โอน, เลขบัญชี, ชื่อบัญชีรับเงินที่เป็นใครก็ได้, ยอดเงินเท่าไหร่, โอนวัน/เวลาไหน แถมยังมีรหัสอ้างอิง คิวอาร์โค้ดครบ พร้อมโลโก้ธนาคารที่เราใช้กันได้อย่างเหมือนเด๊ะ น่ากลัวมาก     แสดงให้เห็นเลยว่าเทคโนโลยีเป็นเหมือนดาบสองคม ถ้าคนเอาไปใช้ในทางที่ดี ก็ส่งเสริมให้ดีไป […]

รู้เทคนิค คิดราคาขาย …ร้านไม่เสี่ยงขาดทุน

สำหรับเจ้าของร้านมือใหม่ มีหลายคนถามเข้ามาหลายเรื่องในการเริ่มต้นเปิดร้านอาหาร หรือเครื่องดื่ม ซึ่งหนึ่งในคำถามนั้นก็คือ การคิดราคาขาย ต้องคิดอย่างไร คำนวณจากอะไร ต้องเริ่มอย่างไรดี วันนี้เรามีเทคนิคการ คิดราคาขาย ให้กับร้าน ว่าต้องคำนวณจากอะไร และมีสูตรอย่างไรบ้าง สิ่งที่ต้องคำนึงถึงก่อนจะ คิดราคาขาย 1 เมนู 1. ต้นทุนอาหาร การตั้งราคาอาหารต่อ 1 เมนู ให้อยู่ประมาณ 3 เท่า ของต้นทุนทั้งหมด ทั้งวัตถุดิบ ค่าจัดส่ง ค่าน้ำ ค่าไฟ  เป็นวิธีที่ร้านส่วนมากนิยมใช้ แต่วิธีนี้อาจไม่ละเอียดและไม่แม่นยำมากพอ โดยเฉพาะต้นทุนวัตถุดิบที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ ค่าความสูญเสีย รวมถึงค่าวัตถุดิบที่ใช้งานจริง และในส่วนของ Yield (การหาค่าเฉลี่ยของวัตถุดิบ 1 หน่วยที่ผ่านการตัดตกแต่ง หรือหักส่วนที่สูญเสียออกเรียบร้อยแล้ว) ที่ร้านส่วนใหญ่มักไม่ได้นำมาคำนวณด้วย   2. คู่แข่ง กลยุทธ์การตั้งราคา โดยดูจากคู่แข่งของร้านอาหารประเภทเดียวกันกับคุณ จะช่วยคาดเดาได้ว่า ลูกค้ามีกำลังพร้อมจ่ายอยู่ที่เท่าไหร่ แต่โดยส่วนมากจะนำมาใช้กับร้านอาหารที่สามารถแข่งขันด้านราคาได้โดยไม่กระทบต่อต้นทุนวัตถุดิบ และคุณภาพที่ลูกค้าจะได้รับ เช่น ร้านอาหารบุฟเฟต์ ร้านอาหารตามสั่งที่มีเมนูไม่มาก การตั้งราคาโดยคำนึงถึงคู่แข่งจึงต้องทำร่วมกับการคำนวณต้นทุนด้านอื่น ๆ […]

แชร์สูตร คำนวณทั้งโครงสร้างต้นทุน ก่อนตั้งราคาอาหาร ร้านอาหารมีต้นทุนแฝง ป้องกันอาการ ขายดี…จนเจ๊ง!

แชร์สูตร คำนวณทั้งโครงสร้างต้นทุน ก่อนตั้งราคาอาหาร ร้านอาหารมีต้นทุนแฝง ป้องกันอาการ ขายดี…จนเจ๊ง! ขายดีจนเจ๊ง! เชื่อว่าสิ่งที่เจ้าของร้านอาหารมือใหม่อยากจะเห็นก็คือภาพของลูกค้ามาใช้บริการเต็มร้าน ขายดี ขายหมดทุกวัน แต่ทว่าการที่ลูกค้าเยอะ ก็ไม่ได้การันตีว่าจะได้กำไรเสมอไป ซึ่งกรณีแบบนี้เคยเกิดขึ้นกับหลายร้านที่ขายดีแต่ไม่มีกำไร กว่าจะรู้ตัวว่าขาดทุนสะสมมานานก็เกือบเจ๊งแล้ว ซึ่งต้นเหตุของปัญหาเหล่านี้ เกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น การตั้งราคาอาหารผิด คำนวณต้นทุนผิดหรือตั้งราคาอาหารจากต้นทุนวัตถุดิบอย่างเดียว แล้วถ้าอยากขายดีและมีกำไรต้องทำยังไงลองมาดูวิธีการตั้งราคาที่ถูกต้องกัน! . ทุกคนต้องเข้าใจก่อนว่าต้นทุนของราคาอาหารทุกจานล้วนมีต้นทุนแฝง ไม่ได้มีแค่ค่าวัตถุดิบอย่างเดียว ฉะนั้นจะเอาแค่ค่าวัตถุดิบมาใช้ในการตั้งราคาอาหารไม่ได้ ต้องเอามาทั้งโครงสร้าง โดยโครงสร้างต้นทุนแบ่งออกเป็น 4 ส่วน ดังนี้ ต้นทุนวัตถุดิบ COG (cost of grocery) ควรอยู่ที่ 35-40% ต้นทุนค่าเช่าที่ COR (cost of rental) ควรอยู่ที่ 10-15% ต้นทุน พนักงาน COL (cost of labor) ควรอยู่ที่ 20% ต้นทุนอื่นๆ ETC (เช่น ค่าน้ำ […]

เช็กลิสต์ QSC ระบบ ประเมินมาตรฐาน ที่ร้านอาหารคุณต้องมี!

หนึ่งในระบบเซตอัพร้านอาหารที่สำคัญ ก็คือการออกแบบเครื่องมือในการ ประเมินมาตรฐาน หรือผลการปฏิบัติงานของร้าน ที่เรียกว่า QSC  ถือเป็นคู่มือที่ใช้ควบคุมการทำงานให้มีประสิทธิภาพ และเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ โดยจะครอบคลุม 3 เรื่องสำคัญ ได้แก่   เช็กลิสต์ QSC ระบบ ประเมินมาตรฐาน ที่ร้านอาหารคุณต้องมี! Q = Quality การประเมินด้านคุณภาพ เริ่มตั้งแต่วัตถุดิบ วิธีการเก็บรักษาวัตถุดิบ วิธีการปรุงอาหารและการเสิร์ฟ ทั้งรสชาติ ปริมาณ หน้าตาอาหาร   S =Service การประเมินด้านการบริการ เริ่มตั้งแต่การต้อนรับลูกค้า การแนะนำรายการสินค้า ความเต็มใจบริการ ความสุภาพของพนักงาน ความถูกต้องในการรับรายการอาหาร   C = Cleanliness การประเมินด้านความสะอาด เริ่มประเมินตั้งแต่ การแต่งกายของพนักงาน ความสะอาดของหน้าร้านและหลังร้าน รวมไปถึงการดูแลรักษาและซ่อมบำรุงอุปกรณ์ครัว   ตัวอย่างการทำ QSC : ร้านกาแฟ มาดูกันว่าการทำ QSC ร้านกาแฟ จะกำหนดให้ควบคุมในเรื่องใดบ้าง ยกตัวอย่างเช็กลิสต์ […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.