4 คำถามที่ควร ถามตัวเองก่อนเริ่มทำร้านอาหาร - Amarin Academy

4 คำถามที่ควร ถามตัวเองก่อนเริ่มทำร้านอาหาร

4 คำถามที่ควร ถามตัวเองก่อนเริ่มทำร้านอาหาร

ธุรกิจร้านอาหารถือเป็นหนึ่งในธุรกิจยอดฮิต ที่เป็นความฝันของคนรุ่นใหม่ ไม่น้อยกว่าการเปิดร้านกาแฟหรือขายของออนไลน์ แต่ก่อนที่คุณจะเริ่มทำร้านอาหาร อยากให้ถามตัวเองให้แน่ใจก่อนว่า คุณพร้อมที่จะเหนื่อยไปกับธุรกิจนี้จริงๆ หรือไม่ คำถามเหล่านี้น่าจะช่วยให้คุณตัดสินใจในการจะเริ่มร้านอาหารได้ง่ายขึ้น อย่างนั้นมาดู 4 คำถามที่ควร ถามตัวเองก่อนเริ่มทำร้านอาหาร กันเลยครับ

1.คุณพร้อมทำงานตลอด 24/7 หรือไม่

ถ้าคุณอยากทำร้านอาหารเพียงเพราะอยากมีธุรกิจของตัวเอง หรือเพราะอยากออกไปไหนมาไหนได้ตลอดเวลา ผมแนะนำให้คุณไปทำธุรกิจอื่นทันที ไม่ใช่เพราะธุรกิจร้านอาหารไม่ดี แต่เพราะธุรกิจร้านอาหารไม่ใช่แค่ธุรกิจซื้อขายของ ที่คุณสามารถจ้างพนักงานมาจัดการ ขายของแล้วก็จบ

ธุรกิจร้านอาหารเป็นธุรกิจต้องเจอกับปัญหาทั้งก่อนและขณะทำร้านตลอดเวลา ยิ่งในช่วงปีแรกของการเปิดร้าน แทบไม่ต่างอะไรกับเด็กเล็กที่ต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา โดยเฉพาะวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ซึ่งถือเป็นเวลาทองของธุรกิจนี้ อาจทำให้คุณไม่มีเวลาไปไหนมาไหนกับเพื่อนหรือครอบครัวจนกว่าคุณจะวางระบบร้านจนนิ่งจริงๆ

2.คุณพร้อมรับความเสี่ยง (มาก) ได้หรือไม่

คนภายนอกมักคิดว่าธุรกิจร้านอาหารเป็นธุรกิจที่กำไรดี มาร์จินเยอะ ซึ่งไม่ผิด โดยปกติกำไรจากธุรกิจร้านอาหารหลังจากหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 10-20% ขึ้นอยู่กับประเภทของร้านและการจัดการ

ถึงแม้ตัวเลขจะดูไม่น้อยเทียบกับหลายๆ ธุรกิจแต่เวลาที่คุณจะต้องเสียไปในการบริหารจัดการร้าน รวมถึงปัญหาทั้งภายในร้านและกับลูกค้าที่จะต้องพบเจอตลอดเวลา ทำให้ผลตอบแทนนี้อาจไม่คุ้มในสายตาของใครหลายคน รวมไปถึงอัตราการเจ๊งของธุรกิจนี้ที่ค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับธุรกิจอื่นโดย 7 ใน 10 ของคนเริ่มธุรกิจร้านอาหารจะปิดตัวลงในระยะเวลาไม่ถึง 1 ปี และจะมีเพียงแค่ 1 จาก 10 รายเท่านั้นที่จะอยู่รอดเกิน 5 ปีได้ ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับธุรกิจอื่นๆ ข้อนี้ทำให้คุณจำเป็นต้องคิดให้ดีว่า พร้อมเสี่ยงธุรกิจนี้จริงๆ หรือไม่

3.คุณรักการบริการและการบริหารคนหรือไม่

อาหารไม่เหมือนกับผลิตภัณฑ์ชนิดอื่นที่ใช้เครื่องจักรในการทำหรือประกอบได้ รวมไปถึงไม่สามารถลอยจากครัวสู่โต๊ะลูกค้าเองได้ แทบทุกกระบวนการต้องใช้พนักงานทั้งนั้น เราจึงพูดได้ว่า เราไม่ได้อยู่ในธุรกิจอาหารแต่เราอยู่ในธุรกิจบริการผ่านอาหาร

ฉะนั้นหนึ่งในปัจจัยความสำเร็จนอกจากรสชาติของอาหารก็คือการบริการที่ดีนั่นเอง เพราะต่อให้คุณทำอาหารได้อร่อยขนาดไหน แต่ถ้าพนักงานไม่สามารถทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจในการบริการได้แล้ว อาจทำให้ลูกค้าไม่กลับมาหาเราอีกเลยก็ได้

ในฐานะเจ้าของร้านคุณจำเป็นต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้ พนักงาน ด้วยการให้บริการลูกค้าอย่างดีที่สุด แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ไม่ชอบพูดคุยดูแลลูกค้า หรือการสู้หน้ากับลูกค้าเวลาที่ลูกค้าบ่นว่ารสชาติไม่อร่อยหรืออาหารออกช้าแล้ว แนะนำว่าอย่าเข้ามาในธุรกิจนี้เลย

4.คุณพร้อมที่เรียนรู้และปรับตัวตลอดเวลาหรือไม่

ธุรกิจร้านอาหารเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง ทุกๆ วันจะมีคนที่อยากเข้ามาแข่งกับคุณตลอดเวลา การปรับตัวตามสภาพเศรษฐิจและพฤติกรรมผู้บริโภคจึงเป็นสิ่งจำเป็นมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่โซเชียลมีเดียครองเมือง ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น เมนูที่เคยขายดีสมัยเปิดร้าน ผ่านไป 2-3 ปี อาจไม่เป็นที่นิยมแล้วก็ได้ ลูกค้าที่เคยเป็นลูกค้าประจำร้านคุณ อาจย้ายไปร้านอื่นที่เพิ่งเปิดใหม่หรือมีโปรโมชั่นน่าสนใจกว่า เรียกได้ว่าธุรกิจนี้ไม่เหมาะกับคนที่ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงและปรับตัว เพราะหากคุณยังยึดติดกับการขายแบบเดิมๆ ก็เตรียมพับกระเป๋าเก็บได้เลย

หากคำตอบทั้ง 4 ข้อของคุณคือ “ใช่” ยินดีด้วย แสดงว่าคุณมีความพร้อมที่จะเริ่มธุรกิจนี้ แต่หากคำตอบข้อใดข้อหนึ่งของคุณคือ ไม่ใช่ แล้ว ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่เหมาะกับธุรกิจนี้ เพียงแต่คุณอาจจะต้องหาใครสักคนที่มีคุณสมบัติที่คุณขาดมาเป็นหุ้นส่วนหรือร่วมทำธุรกิจ เพื่อมารับผิดชอบในสิ่งนั้นและคุณเองก็จะได้ไปทำในด้านที่คุณถนัดนั่นเอง ฉะนั้นถามตัวเองก่อนเริ่มลงมือนะครับ

 

เรื่องแนะนำ

ขายอาหารคลีน

รู้ก่อนขาย! 4 จุดบอด ขายอาหารคลีน แบบนี้มีแต่เจ๊ง!

ในปัจจุบันนี้จะสังเกตได้ว่า เป็นยุคที่คนหันมาใส่ใจในสุขภาพของตัวเองมากขึ้น มีกิจกรรมรณรงค์เรื่องสุขภาพออกมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย หรือแม้แต่การบริโภคอาหารที่มีประโยชน์ เพราะเรื่องอาหารการกินก็เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้สุขภาพร่างกายดีขึ้น จึงเป็นผลทำให้ทุกวันนี้เราจะเห็นร้านอาหารคลีนใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมายอย่างต่อเนื่อง เราจะเห็นโฆษณาบ่อย ตามช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instargram และช่องทางออนไลน์อื่นๆ เมื่อมีกระแสคนรักสุขภาพมากขึ้น ก็เป็นการเพิ่มช่องทางทำเงินจากธุรกิจอาหารคลีนได้มากขึ้นเช่นกัน แต่การจะ ขายอาหารคลีน ให้รุ่งนั้น ต้องรู้ว่าอะไรควรทำ และอะไรที่เป็นจุดบอดควรหลีกเลี่ยง   ขายอาหารคลีน ควรเลี่ยง 4 จุดบอดนี้!! อาหารคลีน  (Clean Food) คือ อาหารที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่ในการปรุงอาหาร ขั้นตอนในการปรุงจะไม่ใช้สารเคมีปรุงแต่งอาหาร หรือผ่านการแปรรูปให้น้อยที่สุด และไม่ผ่านกระบวนการปรุงแต่งรสชาติที่มากเกินไป แต่ยังคงไว้ซึ่งสารอาหารและคุณค่าครบถ้วน รวมถึงมีการคำนวณพลังงานที่ร่างกายจะได้รับในแต่ละมื้ออาหารนั้นไว้ด้วย ดังนั้น อาหารคลีนจึงเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพนั่นเองค่ะ และถึงแม้ว่ากระแสอาหารคลีนยังคงอยู่ และมีผู้ประกอบการที่อยาก ขายอาหารคลีน เกิดขึ้นมากมาย แต่ก็ใช่ว่าทุกร้านจะอยู่รอดนะคะ ขายอาหารคลีน ยังต้องมีองค์ประกอบอีกหลายอย่างที่ต้องรู้ รวมถึง จุดบอดที่ควรเลี่ยงอย่างที่เราได้กล่าวไป ซึ่ง4 จุดบอดนั้นคือ จุดบอดที่ 1 รสชาติไม่อร่อย แน่นอนว่าใครๆ ก็อยากจะบริโภคอาหารที่อร่อยจริงไหมคะ แม้ว่าจะเป็นอาหารคลีนก็ตาม […]

Instagram

แชร์ 10 เทคนิค ใช้ Instagram ให้ปัง เพื่อคนทำธุรกิจอาหาร

Social Media กลายเป็นเครื่องมือที่ผู้ประกอบการร้านอาหาร หรือ ผู้ที่ทำธุรกิจอาหารในปัจจุบันขาดไม่ได้เลย ซึ่ง Social Media ที่ใช้ทำการตลาดนั้นมีมากมายหลายประเภท และที่ร้านนิยมใช้มากหนึ่งในนั้นก็คือ IG หรือ Instagram นั้นเอง   10 เทคนิค ใช้ Instagram ให้ปัง เพื่อคนทำธุรกิจอาหาร Instagram หรือ IG แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่เน้นการแชร์รูปภาพและวิดีโอเป็นหลัก ร้านอาหารส่วนใหญ่จึงใช้ช่องทางนี้สำหรับประชาสัมพันธ์ร้าน ด้วยการแชร์ภาพ หรือวิดีโอ ที่เห็นบรรยากาศร้าน และเมนูเด็ดของร้านให้ดูน่ารับประทาน และน่ารีวิว แต่บางครั้งเจ้าของร้านอาจจะรู้ฟังก์ชันการใช้งานInstagram แค่บางฟังก์ชันเท่านั้น แต่ความจริงแล้วยังมีลูกเล่นที่เจ้าของร้านสามารถนำไปใช้ได้อีกมากมาย เรามาดูกันว่ามีเทคนิคอะไรกันบ้าง ที่สามารถช่วยให้ร้านของคุณโดดเด่น และดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาติดตามได้   1.ชื่อโปรไฟล์ การตั้งชื่อโปรไฟล์ เหมือนง่ายแต่การตั้งชื่อโปรไฟล์ที่ดี คือ ชื่อจะต้องสะดุดหู หรือเป็นที่จดจำได้ง่าย กระชับ และสามารถสะท้อนอัตลักษณ์ร้านของคุณได้ดีที่สุด 2. รูปโปรไฟล์ ส่วนของรูปโปรไฟล์นั้น ก็สำคัญไม่น้อยไปกว่าชื่อ เพราะเป็นสิ่งที่ผู้เข้ามาติดตามจะเห็นเป็นอันดับแรกๆ ดังนั้น รูปโปรไลฟ์แนะนำให้ใช้รูปโลโก้ของร้าน ก็เป็นตัวเลือกที่ดี หลีกเลี่ยงภาพเซลฟี่ […]

ถามตัวเองก่อนเริ่มทำร้านอาหาร

4 คำถามที่ควร ถามตัวเองก่อนเริ่มทำร้านอาหาร

คำถามเหล่านี้น่าจะช่วยให้คุณตัดสินใจในการจะเริ่มร้านอาหารได้ง่ายขึ้น อย่างนั้นมาดู 4 คำถามที่ควร ถามตัวเองก่อนเริ่มทำร้านอาหาร กันเลยครับ

เปิดเพลงในร้านอาหาร

5 วิธี เปิดเพลงในร้านอาหาร ไม่ให้ละเมิดลิขสิทธิ์

ก่อนหน้านี้เรามักจะได้ยินข่าวอยู่บ่อยๆว่า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ที่เปิดเพลงต่างๆ ภายในร้านของตัวเอง ถูกดำเนินคดีในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์งานเพลง หรือแม้แต่ข่าวตัวศิลปินเอง ที่นำเพลงมาร้องก็ถูกดำเนินคดีเช่นกัน ต้องบอกเลยว่าในยุคปัจจุบันนี้ ปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์เพลงเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง เพราะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างซับซ้อน และมีรายละเอียดมาก ซึ่งเจ้าของร้านบางราย หรือตัวศิลปินที่นำเพลงมาร้องตามร้านนั้น อาจจะยังไม่เข้าใจถึงข้อกฎหมายในเรื่องลิขสิทธิ์เพลงที่ชัดเจนมากพอ วันนี้ Amarin Academy จะมาอธิบายให้ทราบว่า จะมีวิธี เปิดเพลงในร้านอาหาร อย่างไรไม่ให้ผิดกฎหมาย และหากถูกกล่าวหาว่าละเมิดลิขสิทธิ์งานเพลง ต้องทำอย่างไร มาดูกันค่ะ   5 วิธี เปิดเพลงในร้านอาหาร ไม่ให้ละเมิดลิขสิทธิ์ ตรวจสอบรายชื่อเพลงที่จะใช้เปิด ว่ามีบริษัทใดจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์บ้าง ตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์กรมทรัพย์สินทางปัญญา www.ipthailand.go.th เลือกใช้เพลงที่ศิลปินหรือค่ายเพลง ประกาศอนุญาตให้ใช้ได้โดยไม่เสียค่าลิขสิทธิ์ จำกัดการใช้งานเพลงเพื่อลดต้นทุนค่าลิขสิทธิ์ และลดปัญหาการถูกดำเนินคดี ตรวจสอบความเคลื่อนไหวของรายชื่อเพลงที่แจ้งจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ในเว็บไซต์กรมทรัพย์สินทางปัญญาอย่างต่อเนื่อง หากเกิดการละเมิดลิขสิทธิ์เพลง และต้องการจ่ายค่ายอมความจะต้องกระทำต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ และระบุรายชื่อเพลง และจำนวนเงินที่ยอมความในบันทึกยอมความไว้เป็นหลักฐานเสมอ   สำหรับทั้ง 5 คำแนะนำข้างต้น เจ้าของร้านที่จะ เปิดเพลงในร้านอาหาร ควรจะต้องรีบตรวจสอบเลยค่ะ ว่างานเพลงที่ใช้เปิดอยู่นั้นมีเจ้าของลิขสิทธิ์หรือไม่ และดำเนินการเจรจาค่าลิขสิทธิ์ให้ถูกต้องตามกฎหมาย ตัวเจ้าร้านเองก็จะได้สบายใจ ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกดำเนินคดีค่ะ แต่ถ้าหากพูดถึงอีกหนึ่งกรณี […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.