ร้านอาหารบริการดี เป็นอย่างไร - Amarin Academy

ร้านอาหารบริการดี เป็นอย่างไร

ร้านอาหารบริการดี เป็นอย่างไร

สิ่งที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่คาดหวังเป็นอันดับต้นๆ เมื่อเข้าไปใช้บริการร้านอาหาร คือ การบริการ เขาไม่สนหรอกว่า ร้านจะตกแต่งสวยงาม หรูหราแค่ไหน อาหารจะอร่อยเพียงใด ถ้าบริการแย่ ทุกอย่างก็จบ นอกจากจะไม่ประทับใจในมื้ออาหารนั้น และไม่คิดจะกลับมาใช้บริการอีกแล้ว ยังอาจบอกต่อเพื่อนๆ หรือคนรู้จักไม่ให้มากินร้านอาหารของคุณอีกต่างหาก ฉะนั้นเจ้าของร้านต้องเอาใจใส่ในการบริการให้มากเป็นพิเศษ จะได้ไม่เกิดปัญหาตามมาในภายหลัง อย่างนั้นลองมาดูเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ กันดีกว่าว่า ร้านอาหารบริการดี เป็นอย่างไร

1.ลูกค้าถูกเสมอ

นี่คือกฎข้อสำคัญในการทำธุรกิจทุกประเภท แม้ว่าลูกค้าจะผิดจริงๆ ก็ตาม คุณไม่ควรพูดออกไป เพราะนั่นอาจส่งผลเสียต่อร้านโดยตรง

ก่อนอื่นเจ้าของร้านต้องเข้าใจธรรมชาติของลูกค้าว่า เขาต้องการบริการที่ดีที่สุด หากมีส่วนใดขาดตกบกพร่องไปจากที่คาดหวัง ถือว่าเป็นความผิดของร้าน ฉะนั้นหากลูกค้าไม่พอใจ ไม่ว่าเรื่องใดก็ตาม สิ่งแรกที่พนักงานบริการควรทำคือ รับฟังคำตำหนิหรือข้อแนะนำอย่างเต็มใจ กล่าวคำขอโทษ และรีบแก้ไขข้อผิดพลาดโดยเร็วที่สุด

ทั้งนี้วิธีที่คุณนำมาใช้จัดการปัญหาที่เกิดขึ้น จะเป็นตัวตัดสินเลยว่า ลูกค้าจะกลับมาเป็นลูกค้าประจำ หรือไม่กลับมาที่ร้านคุณอีกเลย

2.บริการที่ดี ต้องดีแบบครบวงจร

เริ่มตั้งแต่พนักงานต้อนรับ ซึ่งเป็นเหมือนหน้าตาของร้านอาหาร พนักงานเสิร์ฟ พนักงานในครัว ไปจนถึงพนักงานทำความสะอาด ทุกคนในร้านต้องเต็มใจบริการ มีมนุษย์สัมพันธ์ดี ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เพื่อสร้างความประทับใจให้ลูกค้า

เช่น เมื่อลูกค้าเข้ามาในร้าน พนักงานต้องต้อนรับด้วยรอยยิ้ม สอบถามข้อมูลและความต้องการเบื้องต้น เช่น มากี่ท่าน หากมีเด็กมาด้วย ต้องการเก้าอี้เสริมหรือไม่ จากนั้นจึงพาเข้าไปในร้าน ดูแลการนั่งให้เรียบร้อย และส่งเมนูอาหารให้เลือก รอสักพัก พนักงานจึงรับออร์เดอร์ โดยคอยให้คำแนะนำและใส่ใจสิ่งที่ลูกค้าพูดตลอดเวลา ไม่หันไปคุยกันเองหรือผละไปทำงานอื่นๆ

เมื่อลูกค้าสั่งเสร็จ ต้องทวนรายการอาหาร จากนั้นจึงส่งออร์เดอร์เข้าครัว  โดยพนักงานในครัวควรตรวจสอบรายการอาหารก่อนลงมือทำ และต้องสังเกตว่ามีคำขอพิเศษอื่นๆ หรือไม่ เช่น ไม่ใส่ผัก ไม่ใส่กระเทียม เป็นต้น เพื่อจะได้ทำอาหารให้ตรงตามที่สั่ง จากนั้นจึงนำมาเสิร์ฟ อย่างรวดเร็ว ไม่ใช่ปล่อยให้อาหารเย็นชืด หมดความอร่อย

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของขั้นตอนการบริการเท่านั้น  จริงๆ แล้วยังมีขั้นตอนอีกมาก เจ้าของร้านควรสร้างวัฒนธรรมภายในร้านให้พนักงานบริการดีที่สุด เพื่อจะได้ทำให้ลูกค้าประทับใจมากที่สุด

3.อย่าเปิดให้จองโต๊ะเกินจำนวน

หากร้านอาหารของคุณมีบริการจองโต๊ะ สิ่งสำคัญคือ ต้องแน่ใจว่า คุณมีที่พอสำหรับช่วงเวลานั้นจริงๆ ไม่ใช่ลูกค้าจองโต๊ะตอน 6 โมงเย็น เมื่อเขาเดินทางมาถึงกลับบอกว่าต้องรอประมาณ 30 นาที แบบนี้เป็นใครก็ไม่ชอบใจจริงไหม

ทั้งนี้หากเจ้าของร้านบริหารจัดการการจองโต๊ะได้ดี จะช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น จัดสรรโต๊ะอย่างเป็นระบบ พนักงานครัวรู้ว่าต้องเตรียมอาหารสำหรับคนลูกค้ากี่ที่ เป็นต้น

กลับกันหากวางแผนการจองที่ไม่ดี ก็อาจทำให้ร้านวุ่นวาย ที่นั่งไม่พอ ลูกค้าไม่พอใจ คนในครัวทำอาหารไม่ทัน เป็นต้น

สิ่งสำคัญอีกสิ่งหนึ่งคือ คุณควรสร้างสมดุลระหว่างคนที่จองโต๊ะกับแขกที่ Walk-in ด้วย โดยไม่ควรเปิดให้จองโต๊ะทั้งหมด โดยไม่เหลือที่สำหรับลูกค้า walk-in เลย เพราะถ้ามาถึงแล้วมีโต๊ะว่างเต็มไปหมด แต่กลับเข้าไปนั่งกินไม่ได้ เขาต้องอารมณ์เสียแน่นอน

 

6.ใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของลูกค้าประจำ

ร้านอาหารหลายร้านคงมีลูกค้าประจำที่มาร้านคุณบ่อยมากๆ (แต่อาจจะไม่ได้สั่งอาหารมาก) เช่น คู่รักที่มากินมื้อเย็นที่ร้านคุณทุกสัปดาห์ พนักงานออฟฟิศที่มานั่งดื่มเบียร์ร้านคุณทุกเย็น เจ้าของร้านอาหารควรลองสังเกตว่าพวกเขาชอบรับประทานอะไร มาเวลากี่โมง เมื่อเขามาครั้งถัดไป อาจลองทักทายว่า วันนี้มาตรงเวลาเหมือนเดิมเลยนะครับ หรือพวกพูดว่า เมนู…เหมือนเดิมใช่ไหมครับ พร้อมรอยยิ้ม เพื่อแสดงให้เขาเห็นว่า คุณจำเขาได้และใส่ใจเขาจริงๆ

5.เงินทิป บอกอะไรได้มากกว่าที่คุณคิด

เงินทิป คือเครื่องมือที่บ่งชี้ว่าลูกค้าประทับใจในร้านอาหารของคุณมากน้อยแค่ไหน การที่ร้านคุณได้ทิปน้อย ไม่ได้หมายความว่า บริการของพนักงานเสิร์ฟย่ำแย่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่อาจหมายถึงเขาไม่พอใจในรสชาติอาหาร ไม่พอใจเรื่องความสะอาดของร้าน หรือไม่พอใจเรื่องราคา ก็เป็นได้ ฉะนั้น แทนที่คุณจะไล่บี้กับพนักงานเสิร์ฟเพียงอย่างเดียว ต้องลองสังเกตส่วนอื่นๆ ของร้านประกอบด้วย

6.สอบถามความพึงพอใจจากลูกค้าเสมอ

ทุกครั้งที่ลูกค้าเรียกเก็บเงิน ควรสอบถามความพึงพอใจจากเขา เช่น รสชาติอาหารเป็นอย่างไรบ้างครับ การบริการเป็นอย่างไร อยากให้ปรับปรุงอะไรเพิ่มเติมหรือเปล่าครับ เป็นต้น แต่ลูกค้าบางคนอาจไม่กล้าแสดงความคิดเห็น คุณอาจใช้วิธีให้เขียน Comment แทน

เมื่อรวมรวม Feedback แล้ว ไม่ว่าดีหรือแย่ ควรแจ้งพนักงานทุกครั้ง แม้ว่าคำตำหนิจะเป็นสิ่งที่พวกเขา หรือแม้แต่คุณเองไม่อยากได้ยิน แต่มันคือเครื่องมือชิ้นสำคัญในการพัฒนาร้านอาหารให้ดีขึ้น

7.รู้วิธีจัดการกับลูกค้าที่ “มีปัญหา”

หากร้านอาหารของคุณเสิร์ฟเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ขอฟันธงเลยว่า ต้องเจอปัญหาลูกค้า “ดื่มมากเกินไป” อย่างแน่นอน ดังนั้น คุณต้องเทรนด์พนักงานทุกคนให้สามารถรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวให้ได้ เพื่อที่ลูกค้าคนนั้นจะได้ไม่สร้างความรำคาญใจให้พนักงานคนอื่น

อย่างแรก คุณต้องงดเสิร์ฟเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเสนอเครื่องดื่มอื่นๆ หรือให้เขาแทน โดยใช้การเจรจาอย่างสุภาพ แต่ถ้าเขาเริ่มโวยวายหรือส่งเสียงดัง ควรพาเขาออกนอกร้านโดยเร็ว และสุดท้ายหากควบคุมสถานการณ์ไม่ได้จริงๆ อาจต้องแจ้งตำรวจให้มาจัดการแทน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทุกการกระทำต้องทำอย่างสุภาพ และให้เกียรติลูกค้าให้มากที่สุด

8.ใช้สื่อโซเชียลมีเดียให้เกิดประโยชน์

หากร้านอาหารของคุณมีเพจในเฟซ์บุ๊ก หรือ IG ลองใช้ช่องทางนี้สร้างสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า ตอบโต้กับเขาด้วยความเป็นกันเอง หากพวกเขาลงรูปภาพที่เกี่ยวข้องกับร้านอาหารของคุณ ก็ควรเข้าไปขอบคุณ กดไลค์ หรือแชร์ลงเพจ เพื่อให้ลูกค้าประทับใจ แม้ไม่ได้เดินทางมาใช้บริการที่ร้านก็ตาม

หากร้านอาหารไหน สามารถทำได้ตามนี้ รับรองว่าลูกค้าจะประทับใจในการบริการของคุณแน่นอน

เรื่องแนะนำ

วิเคราะห์ ปัญหาร้านอาหาร ทำการตลาดดีแต่ไม่มีลูกค้าประจำ

เชื่อไหมว่า… ปัญหาร้านอาหาร ที่เจ้าของร้านประสบชะตากรรมยอดขายตก มักจะมีคำถามว่าทำการตลาดอย่างไรดีช่วงนี้ให้ลูกค้าเข้าร้านเยอะ ๆ แทนที่จะตั้งคำถามว่า Operation อย่างไรให้ดี จนลูกค้าบอกต่อโดยไม่ต้องทุ่มงบทำการตลาด ซึ่งเจ้าของร้านอาหารบางท่าน ก็ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่า Operation ทำหน้าที่ไล่ลูกค้าไปกี่คนแล้วต่อเดือน !   ทำไมการตลาดเรียกลูกค้า Operation ไล่ลูกค้า ?             ไม่ว่าจะเป็นการโฆษณา การจัดทำโปรโมชั่น ล้วนเป็นการสร้างความเคลื่อนไหวให้กับร้าน ทำให้ลูกค้าเกิดความสนใจ และตัดสินใจลองใช้บริการมากขึ้นในช่วงนั้น ๆ ซึ่งร้านอาหารมีโอกาสที่จะเปลี่ยนลูกค้าใหม่ให้เป็นลูกค้าประจำ และทำให้ลูกค้าประจำมีการซื้อมากขึ้นได้ ในทางกลับกันถ้า Operation มีจุดบอดก็จะเปิดโอกาสให้ลูกค้ามาเจอกับประสบการณ์ที่ไม่ดีได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นพนักงานบริการไม่ดี อาหารออกช้า ความไม่คงที่ของรสชาติและปริมาณ แทนที่จะเพิ่มยอดขาย กลับทำให้ร้านเกิดผลกระทบด้านลบในระยะยาวแทน เช่นเดียวกัน ถ้าหากร้านของคุณยังมีปัญหาด้าน Operation ก็ยากที่จะครองใจลูกค้าไว้ได้ แม้จะดันการตลาดมากแค่ไหนก็ตาม   การตลาดที่ดีต้องคำนึงถึงการ Operation หน้าร้านด้วย             กรณีศึกษา เกิดขึ้นกับร้านอาหารในประเทศจีน ทำการตลาดกินฟรี โดยกำหนดช่วงเวลา เพื่อหวังให้ร้านเป็นที่รู้จักในระยะเวลาอันรวดเร็ว แต่ปรากฏว่าการจัดการหน้าร้านไม่สามารถรองรับจำนวนลูกค้าที่ล้นหลามได้ และยังทำให้ร้านอาหารประสบกับปัญหาขาดทุนจากการจัดการต้นทุนที่ผิดพลาด แทนที่ร้านจะมีชื่อเสียงกลับทำให้เจ้าของร้านต้องตัดสินใจปิดร้านในเวลาอันรวดเร็ว การทำการตลาดจึงต้องคำนึงถึงความพร้อมของการจัดการหน้าร้านด้วย […]

เจ๊จง หมูทอด

ถอดบทเรียน เจ๊จง หมูทอด ร้อยล้าน !

เจ๊จง หมูทอด เป็นร้านอาหารไม่กี่แห่งที่ขายดีมากอย่างสม่ำเสมอ เมื่อมีโอกาสคุยกับเจ๊จง เลยอดไม่ได้ที่จะชวนคุยถึงข้อคิดที่ทำให้ประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้

ซื้อหุ่นยนต์ มาช่วยเสิร์ฟจะคุ้มไหม? เทียบให้ชัดความต่าง ระหว่างแรงงานคนและหุ่นยนต์

ซื้อหุ่นยนต์ มาช่วยเสิร์ฟจะคุ้มไหม? เทียบให้ชัดความต่าง ระหว่างแรงงานคนและหุ่นยนต์ ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้หลาย ๆ ธุรกิจ รวมถึงร้านอาหาร ได้มีการนำเอา หุ่นยนต์ เข้ามาใช้ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นเพื่ออำนวยความสะดวก ลดต้นทุนค่าแรง เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า ไปจนถึงการทำกำไรให้ร้านได้มากขึ้น ซึ่งร้านอาหารในไทยที่ได้มีการนำ หุ่นยนต์ โดยเฉพาะ “ หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหาร ” มาใช้ ก็อย่างเช่น Sizzler, MK, Sukishi, BarBQ Plaza และสุกี้ตี๋น้อย ที่เชื่อว่าหลาย ๆ คนที่เคยได้ไปใช้บริการ จะต้องเคยได้ใช้บริการน้อง ๆ หุ่นยนต์กันมาบ้าง ทีนี้มองในแง่ของการนำมาใช้ การใช้ หุ่นยนต์ แตกต่างจากการใช้พนักงานเสิร์ฟยังไง ? แล้วร้านแบบไหนที่เหมาะกับนำ หุ่นยนต์ นี้เข้ามาใช้ เรามาหาคำตอบกัน! เว็บไซต์ www.idio-tech.net ผู้นำเข้าและจำหน่ายหุ่นยนต์เสิร์ฟอาหาร เคยได้ให้ข้อมูลเปรียบเทียบการทำงานระหว่างพนักงานและหุ่นยนต์ ที่สามารถสรุปได้ดังนี้ พนักงาน 1 […]

เปิดร้านอาหารวันแรก

เปิดร้านอาหารวันแรก ต้องเจอปัญหาอะไรบ้าง

เปิดร้านอาหารวันแรก หลายคนคงตื่นเต้นและดีใจที่ความฝันของตัวเองสำเร็จสักที แต่อย่าเพิ่งดีใจจนเกินไป เพราะบางครั้งวันแรกก็ไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2023 Amarin Corporations Public Company Limited.