4 พฤติกรรมของผู้บริโภคกับการ กินอาหารนอกบ้าน - Amarin Academy

เจ้าของธุรกิจร้านอาหารต้องรู้ 4 พฤติกรรมของผู้บริโภคกับการ กินอาหารนอกบ้าน

เมื่อพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป ในฐานะเจ้าของธุรกิจอาหารจึงต้องปรับตัวตาม จากรายงานการวิจัย FoodTrips ของนีลเส็น บริษัทที่ให้ข้อมูลและการประเมินผลชั้นนำของโลก ได้ทำการเก็บข้อมูลพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคต่อการ กินอาหารนอกบ้าน พบว่ามีเทรนด์ที่น่าสนใจอยู่ 4 ข้อ คืออะไรบ้าง?

 

4 พฤติกรรมของผู้บริโภคกับการ กินอาหารนอกบ้าน

1.ร้านสะดวกซื้อทางเลือกเบอร์ต้น

การ กินอาหารนอกบ้าน ที่เป็นที่นิยม 3 อันดับแรกของผู้บริโภคชาวไทย คือ ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายอาหารแบบแผงลอย (food stall) และอาหารข้างทาง (street food) เรียงตามลำดับ เหตุผลที่ผู้บริโภคเลือกที่จะเข้าร้านสะดวกซื้อหลักๆ แล้วเพื่อบรรเทาความหิวและเนื่องจากมีความรู้สึกว่าเป็นกิจวัตรประจำวัน

สมวลี ลิมป์รัชตามร กรรมการผู้จัดการ บริษัท นีลเส็น ประเทศไทย กล่าวว่า เราจะเห็นได้ว่าร้านค้าปลีกต่างๆ เช่น Lawson 108, MAXVALU, และ TOPS Daily ได้ให้ความสำคัญกับการให้บริการพื้นที่กินอาหารสำหรับลูกค้าที่เข้ามาเพื่อซื้ออาหารกินระหว่างเบรค หรืออย่างเช่น Family Mart ที่มีสาขาที่เป็น one-stop shopping destination ซึ่งมีทั้งขายของสด อาหาร บริการส่งสินค้า และแม้แต่ co-working space นี่อาจเป็นนัยสำคัญในการบ่งบอกถึงความสำคัญของการที่ผู้ค้าปลีกต้องตระหนักถึงพฤติกรรมการบริโภคและวิถีชีวิตของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป เพื่อที่จะสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ดีขึ้น

ซึ่งในปัจจุบัน ร้านสะดวกซื้อเหล่านี้ก็มีการพัฒนาเรื่องการบริการและความสะดวกสบายที่เพิ่มขึ้น เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคนี้

 

2.เน้นกินอาหารมื้อหลักมากขึ้น

ด้านของพฤติกรรมการกินอาหารของผู้บริโภคระหว่างวัน บางคนอาจแบ่งมื้ออาหารได้ถึง 7 มื้อ ประกอบด้วยอาหารมื้อเช้า อาหารว่างก่อนมื้อเที่ยง มื้อเที่ยง อาหารว่างช่วงบ่ายหลังมื้อเที่ยง อาหารว่างช่วงบ่ายแก่ๆ มื้อเย็น และอาหารว่างรอบดึก อย่างไรก็ตามรายงาน Food Trips เผยว่าผู้บริโภคมีพฤติกรรมการกินอาหารว่างน้อยลง ในขณะที่เพิ่มการกินอาหารมื้อหลักอย่างมื้อเช้า กลางวัน และเย็นมากขึ้น

3.การเติบโตของร้านกาแฟ (คาเฟ่)

เมื่อพูดถึงพฤติกรรมการกินอาหารนอกบ้าน คงจะเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่พูดถึงการดื่มชา กาแฟ ซึ่งเป็นหนึ่งในเทรนด์การกินอาหารของคนไทยและมีการเติบโตที่น่าสนใจ ทั้งนี้อัตราการเข้าถึงของร้านเหล่านี้อยู่ที่ 60% ทั่วประเทศ และเฉลี่ยแล้วผู้บริโภคชาวไทยจะเข้าร้านชา กาแฟประมาณ 6 ครั้งต่อเดือน ในขณะที่ผู้บริโภคในกรุงเทพนั้นเข้าร้านกาแฟโดยเฉลี่ยถึง 8 ครั้งต่อเดือน

อย่างไรก็ตามเมื่อเรามองลึกลงไปถึงกลุ่มผู้บริโภคที่ดื่มกาแฟที่แยกเป็นแต่ละประเภท จะเห็นได้ว่าสัดส่วนของกลุ่มที่ดื่มกาแฟเพราะว่าแบรนด์ของกาแฟนั้นสามารถสะท้อนและส่งเสริมภาพลักษณ์ของตัวเอง มีจำนวนที่โตขึ้น  เพราะฉะนั้น นอกเหนือจากคุณภาพและการบริการที่ดีแล้ว การสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งและมีจุดยืนที่ชัดเจนก็เป็นสิ่งที่เจ้าของธุรกิจกาแฟควรคำนึงถึงเพื่อดึงดูดลูกค้าในอนาคต

4.อาหารพร้อมทาน

ประเภทอาหารพร้อมทาน หรือ Ready to Eat เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ผู้บริโภคชาวไทยให้ความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ และอัตราการเติบโตในต่างจังหวัดมีมากกว่าในกรุงเทพ สาเหตุหลักที่ผู้บริโภคไม่ต้องการทำอาหารเองนั้นเป็นเพราะต้องใช้เวลาในการเตรียมวัตถุดิบต่างๆ และไม่ชอบในส่วนของการทำความสะอาดหลังทำอาหาร

 

จากสภาพเศรษฐกิจที่ส่งผลถึงพฤติกรรมของผู้บริโภค ทำให้เราได้เห็นถึงรูปแบบการกินอาหารนอกบ้านที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละปี แสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มนั้นมีการเปลี่ยนแปลงเสมอ ดังนั้นการรู้เท่าทันตลาดจะทำให้เราสามารถนำเอาความรู้นั้นมาปรับกลยุทธ์ในการบริหารธุรกิจได้อย่างทันท่วงที

 

ข้อมูลจาก: นีลเส็น

 

อ่านต่อบทความที่น่าสนใจ

ไวรัสโคโรน่า (COVID-19) กระทบหนัก! ร้านอาหารปรับตัวอย่างไรในวิกฤตนี้

เจ้าของร้านรู้หรือยัง? กฎกระทรวงสาธารณสุข ที่ร้านอาหารต้องทำตาม

แชร์ 10 เทคนิค ใช้ Instagram ให้ปัง เพื่อคนทำธุรกิจอาหาร

 

เรื่องแนะนำ

เมนูเด็ด

5 เมนูเด็ด ไม่อยากตกเทรนด์ ต้องเพิ่มในเมนู!

รนด์อาหารสุขภาพกำลังมาแรงมาก หากร้านอาหารออกมารองรับความต้องการผู้บริโภคได้ ก็มีโอกาสเพิ่มยอดขายได้ง่ายๆ มาดูกันกว่าว่า 5 เมนูเด็ด ที่ว่านั้น มีอะไรบ้าง

มัดใจลูกค้า

กระตุ้นการซื้อซ้ำ มัดใจลูกค้า ด้วยLine@

โลกในยุคนี้ที่อะไรๆ ก็ทำได้ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นความสะดวกสบายที่มีมากขึ้น คู่แข่งทางการตลาดในสินค้าหรือบริการชนิดเดียวกันที่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว

สร้างแบรนด์

How to ให้ลูกค้าเต็มใจจ่ายแม้ราคาสูง! ตอบโจทย์ด้วย การสร้างแบรนด์

เคยสงสัยไหมว่า ร้านอาหารที่ขายเมนูเหมือนๆกัน ใช้วัตถุดิบคุณภาพเดียวกัน รสชาติก็ยังอร่อยเหมือนกันอีก แต่ทำไมบางร้านที่ขายอาหารในราคาสูง กลับมีลูกค้าที่พอใจมาใช้บริการแทนที่จะไปร้านที่ราคาถูกกว่า สิ่งที่สามารถยกระดับร้านอาหารขึ้นมาและเพิ่มมูลค่าได้ นั้นคือ “การสร้างแบรนด์” How to ให้ลูกค้าเต็มใจจ่ายแม้ราคาสูง! ตอบโจทย์ด้วย การสร้างแบรนด์ มีประโยคหนึ่งที่มีคนกล่าวไว้ “ของแพงไม่มีอยู่จริง มีแต่ของที่คุ้ม กับไม่คุ้ม” แน่นอนว่าราคามีผลต่อการตัดสินใจซื้อ แต่มากกว่านั้นคือลูกค้ายอมจ่ายเพิ่มขึ้นสำหรับสิ่งที่ให้ความพึงพอใจได้มากกว่า เรียกได้ว่าถ้าโดนใจแล้ว ราคาเท่าไหร่ก็คุ้มค่า เหมือนการซื้อกาแฟจากร้านแบรนด์ดัง ลูกค้าจะรู้สึกถูกยกระดับขึ้นทันที เมื่อได้ถือไปที่ต่างๆ หรือแม้แต่ถ่ายรูปอวดเพื่อน นั่นคือความสำคัญของแบรนด์ต่อธุรกิจอาหาร   การสร้างแบรนด์ คืออะไร ? Branding หรือกระบวนการสร้างแบรนด์ เป็นการออกแบบภาพลักษณ์และความเป็นตัวตนของร้านอาหาร ผ่านการออกแบบโลโก้ สื่อโฆษณา คอนเทนต์ในสื่อออนไลน์ต่างๆ แม้แต่คอมเมนต์ในที่โต้ตอบกับลูกค้าในโซเชียลมีเดีย ก็ถือเป็นการสร้างแบรนด์ทั้งสิ้น  โดยการสร้างแบรนด์นี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อสื่อสารให้แก่ลูกค้าว่า ร้านอาหารของเราขายอะไร มีจุดเด่นเอกลักษณ์อะไรบ้าง สร้างความแตกต่างให้ร้านโดดเด่นออกมาจากร้านอื่น ๆ เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้บริโภค และนำไปสู่ความสนใจใช้บริการร้านอาหาร อาหารอร่อยอยู่แล้ว ทำไมสร้างแบรนด์อีก ? สมัยนี้ ความอร่อยอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ เพราะร้านอาหารที่อร่อยนั้นหาได้ง่าย ความอร่อยกลายเป็นพื้นฐานที่ร้านอาหารควรมี แต่สิ่งที่จะทำให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกร้านคุณนั้นก็คือ “ความรู้สึก” […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.