5 เทคโนโลยี SME ควรรู้ เหนื่อยน้อยลง เวลามากขึ้น
ผู้ประกอบการหลายคนคงเคยประสบปัญหา (หรือกำลังเจออยู่) คือช่วงกลางวันต้องดูแลร้าน ควบคุมการทำงานของพนักงาน พอปิดร้าน ก็ต้องมานั่งทำบัญชี เช็คยอด สรุปการทำงานเป็นรายวันใช่ไหม เหนื่อยไหมกับการต้องทำงานทั้งวันทั้งคืนเช่นนี้ (จะปล่อยให้ลูกน้องทำก็ไม่กล้า เพราะกลัวลูกน้องจะทำผิดพลาด หรือกลัวถูกโกง) แต่ปัจจุบันมีเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เข้ามาช่วยย่นระยะเวลาการทำงาน เพิ่มความสะดวกให้เจ้าของกิจการหลากหลายรูปแบบ วันนี้เราจึงขอแนะนำ 5 เทคโนโลยี SME ควรรู้ ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจให้ทุกคนทราบกัน
ระบบ POS
POS หรือ Point of Sale System คือ ระบบที่ช่วยในการเก็บข้อมูลการขาย รวมทั้งบันทึกค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นสำหรับสินค้าและบริการ โดยหลักการใช้ของระบบ POS นั้นง่ายมาก เพียงแค่ติดตั้งโปรแกรมเข้ากับเครื่องชำระเงินของร้าน เมื่อมีการใช้จ่ายเกิดขึ้น ระบบก็จะเก็บข้อมูลการขายเอาไว้ทั้งหมด โดยที่เจ้าของร้านไม่ต้องนั่งจดเองว่าวันนี้จำหน่ายสินค้าอะไรไปบ้าง ยอดขายเท่าไร ได้กำไรเท่าไร ทั้งสะดวก แม่นยำ แถมประหยัดเวลามากๆ อีกด้วย ทั้งนี้ระบบ POS มีมากมาย ทั้งให้บริการฟรีๆ แบบชำระเงินก้อนเดียว และแบบชำระเงินเป็นรายเดือน เช่น Ocha, Soft lavu เป็นต้น ซึ่งแต่ละระบบก็จะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันออกไป แต่โดยส่วนใหญ่ทุกระบบจะมีบริการทดลองใช้ได้ฟรี หากผู้ประกอบการถูกใจ ก็สามารถสมัครสมาชิกเพื่อใช้ในระยะยาวได้ทันที
ระบบจัดการร้านอาหาร
ระบบนี้ต่อยอดมาจาก POS แต่ถูกสร้างมาเพื่อแก้ไขสารพัดปัญหาของร้านอาหารโดยเฉพาะ ทั้งนี้เจ้าของร้านอาหารส่วนใหญ่มักทราบดีว่าการเปิดร้านอาหารมีกระบวนการทำงานทั้งหน้าบ้านและหลังบ้านค่อนข้างเยอะ แถมวุ่นวาย และมีโอกาสผิดพลาดสูงมาก เริ่มจากการรับออร์เดอร์ ที่อาจตกหล่นหรือผิดพลาด ทั้งฟังผิด จดผิด เขียนไม่ครบ ฯลฯ งานหลังครัว ที่เชฟอาจอ่านลายมือพนักงานไม่ออก ส่งผลให้ทำอาหารผิดพลาด ออร์เดอร์ตกหล่น ลืมทำอาหารให้ลูกค้า หรือเช็คสต็อกวัตถุดิบพลาด ฯลฯ และอีกสารพักปัญหาที่เกิดขึ้นได้ ทำให้เจ้าของร้านต้องมานั่งปวดหัวแก้ปัญหาเดิมๆ ในทุกๆ วัน
แต่ปัจจุบันมีแอปพลิเคชันหลากหลายแบรนด์ที่พัฒนาขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้เจ้าของร้านอาหารโดยเฉพาะ เริ่มตั้งแต่ระบบรับออร์เดอร์ ที่ใช้การสั่งผ่าน Tablet หรือ iPad พร้อมส่งออร์เดอร์สู่ครัวโดยตรง ช่วยย่นเวลาในการทำงาน รวมทั้งลดข้อผิดพลาดต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น นอกจากนี้เมื่อเชฟปรุงอาหารเสร็จ พร้อมเสิร์ฟถึงโต๊ะ ระบบตัดสต็อกวัตถุดิบอัตโนมัติ ทำให้ตัดงานด้านการเช็คสต็อกวัตถุดิบออกไปได้เลย แถมขจัดปัญหาวัตถุดิบหมดกะทันหันอีกด้วย
ทั้งนี้ระบบจัดการร้านอาหารมีมากมาย เช่น Food Story, Food Solution, Storehub, real4pos เป็นต้น
แอปพลิเคชันจัดการบัญชี
เชื่อว่าเจ้าของธุรกิจหลายคนคงเคยปวดหัวกับการคำนวณตัวเลขและการทำบัญชีแน่นอน ยิ่งวันไหนยอดเงินในลิ้นชัก ไม่ตรงกับรายการที่ขายได้ ก็ต้องมานั่งไล่ดูว่าเงินรั่วไหลไปทางไหน เสียทั้งเวลาและสุขภาพ (ต้องมาปวดหัวคิดเรื่องเดิมๆ วนไป วนมา) แทนที่จะมีเวลาไปพัฒนาธุรกิจ กลับต้องมานั่งหาเงินที่หายไปซะนี่
แต่ทุกวันนี้มีหลายบริษัทพัฒนาระบบบัญชีออนไลน์ ที่เชื่อมต่อกับเครื่องคิดเงินและระบบ POS เก็บข้อมูลการขายพร้อมสรุปบัญชีรายรับรายจ่ายให้เสร็จสรรพ ทำให้เจ้าของร้านสามารถรับรู้ความเคลื่อนไหวของการเงินในร้านได้ตลอด 24 ชั่วโมงแม้ไม่ได้เข้าร้าน
ทั้งนี้ระบบบัญชีออนไลน์มีหลายเจ้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น Flow account, Peak Engine เป็นต้น
แอปพลิเคชัน สารพัดช่างซ่อม
การทำธุรกิจไม่ได้มีแค่งานหลักที่ต้องทำให้ดีเท่านั้น แต่ยังมีงานหลังบ้านอีกมากมายที่ผู้ประกอบการต้องคำนึงถึงด้วย เช่น การเปิดร้านอาหาร คุณไม่ได้ดูแลแค่หน้าร้านเท่านั้น ยังมีงานครัว งานระบบไฟฟ้า ประปาที่ต้องดูแล โดยปัญหาส่วนใหญ่คือ เวลาระบบเหล่านี้มีปัญหา ต้องตามช่างมาซ่อมหรือแก้ไขนั้นใช้เวลานานมาก หรือบางครั้งช่างก็ไม่มีความชำนาญทำให้ยิ่งแก้อาจจะยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ จึงเกิดเป็นบริษัทที่ทำหน้าที่ในการประสานงานระหว่างธุรกิจกับช่างจากสายงานต่างๆ เมื่อเกิดปัญหาเพียงเข้าแอปพลิเคชันเพื่อเรียกช่าง เราก็มั่นใจได้ว่า จะได้ช่างที่มาทันเวลาและเป็นมืออาชีพแน่นอน โดยบริษัทที่แนะนำ เช่น Service Hero, Fixzy เป็นต้น
แอปพลิเคชันจัดการพนักงานพาร์ทไทม์
เคยไหม เวลาที่ร้านยุ่งๆ แล้วอยากได้พนักงานพาร์ทไทม์มาช่วยแบ่งเบาภาระสักวันละ 4-5 ชั่วโมง แต่ไม่รู้จะหาพนักงานได้จากที่ไหน จะจ้างเป็นพนักงานประจำก็ค่าใช้จ่ายสูง จะหาพนักงานพาร์ทไทม์ก็ไม่มี หรือหากมี ก็กังวลว่าการทำงานจะไม่มีประสิทธิภาพ จึงเกิดเป็นบริการรับจัดหาพนักงานพาร์ทไทม์ขึ้น โดยสามารถหาได้ตั้งแต่พนักงานเสิร์ฟ พนักงานออกบูธและงานอีเว้นท์ พนักงานผู้ช่วยในครัว พนักงานคีย์ข้อมูล เป็นต้น โดยผู้ประกอบการสามารถเรียกใช้บริการได้ตลอดเวลา โดยแอปพลิเคชันยอดนิยมและมาแรงคือ Helpster ที่เข้ามาตอบโจทย์ได้อย่างตรงจุด
เทคโนโลยีที่เราแนะนำมานี้ ถือว่ามีประโยชน์ต่อธุรกิจค่อนข้างมาก แม้บางเทคโนโลยีจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการใช้บริการ แต่เมื่อเทียบกับความสะดวกสบาย คลายความเหนื่อย ก็ถือว่าคุ้มค่าที่เดียว แต่ก่อนใช้ควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบ เปรียบเทียบข้อดี ข้อเสียของแต่ละเจ้าให้ชัดเจน เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อธุรกิจมากที่สุด