Food Blogger กับ ร้านอาหาร ความ WIN WIN ที่ลงตัว - Amarin Academy

Food Blogger กับ ร้านอาหาร ความ WIN WIN ที่ลงตัว

พลังของการรีวิวบนโลกออนไลน์ เข้ามามีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคในยุคนี้เป็นอย่างมาก แม้แต่การเลือกร้านอาหาร ทำให้ปัจจุบันมีอาชีพใหม่ที่เรียกว่า Food Blogger / Food Reviewer หรือนักรีวิวอาหารนั่นเอง ร้านอาหารหลายๆร้าน เริ่มให้ความสนใจกับนักรีวิวอาหารมากขึ้น บางร้านเลือกใช้นักรีวิวอาหารที่ได้รับความนิยม อยู่ในกระแสที่มีผู้ติดตามจำนวนมากในการโปรโมทร้าน หากร้านไหนถูกพูดถึงมาก หรือมีรีวิวที่ดี ก็มีแนวโน้มที่จะขายดีและเป็นที่รู้จักมากขึ้น

“ Food Blogger ช่วยในการขยายฐานลูกค้าหรือชักนำไปสู่ร้านก็จริง

แต่ที่สำคัญ ร้านต้องทำตัวเองให้แข็งแกร่งก่อน ”

 

อาหารที่เป็นมากกว่าปัจจัย 4

ร้านอาหารเป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะอาหารถือได้ว่าเป็นปัจจัย 4 ในการดำรงชีวิต แต่ทุกวันนี้อาหารเป็นมากกว่าปัจจัย 4 ไปแล้ว เพราะอาหารสามารถบ่งบอกไลฟ์สไตล์ของคุณได้เลย ผ่านภาพถ่ายที่คุณแชร์ ว่ามีไลฟ์สไตล์อย่างไร ชื่นชอบอาหารแนวไหน ทำให้เหล่านักชิมและนักรีวิวอาหาร หรือFood Blogger / Food Reviewer เริ่มต้นในการทำเพจอาหารหรือเพจชิมอาหารตามร้านต่างๆ เพื่อตอบโจทย์กับผู้บริโภคที่มักหาข้อมูลรีวิวต่างๆ จากสื่อโซเชียลก่อนไปลองทานที่ร้านจริงๆ คราวนี้เรามาดูกันว่าFood Blogger และ  ร้านอาหาร สามารถทำงานร่วมกันได้อย่าง WIN WIN ทั้งสองฝ่ายได้อย่างไร

สิ่งสำคัญของการเป็นFood Blogger

      ไม่ว่าจะธุรกิจสายไหนก็ตามมันคือการ Weight หรือการให้น้ำหนักที่ต้อง Balance กันระหว่างงานกับความเป็นตัวเอง เช่น ในส่วนของงานก็อาจจะต้องทำตามความต้องการของลูกค้า ทำตามความต้องการของคนอ่านยังไง แต่ก็ต้องให้สอดคล้องกับความเป็นตัวเอง ไปในแนวทางเดียวกันกับเพจ ไลฟ์สไตล์ของเพจที่มีฐานผู้ติดตาม (Follower) เป็นแบบไหน การรับงานรีวิวร้านอาหารบางร้าน อาจไม่เหมาะกับแนวทางของเพจที่เป็นอยู่ก็ได้ ดังนั้นFood Blogger ต้องพยายามหาจุดที่ลงตัวของสองสิ่งนี้ คือ ความเป็นตัวเองกับความต้องการฝั่งคนทำธุรกิจ ให้เกิดสมดุลให้ได้ จึงจะถือได้ว่าเป็น Blogger ที่ดีค่ะ

 

นักรีวิวอาหาร (Food Blogger) ได้อะไรจากการรีวิว

      การสร้างคอนเทนท์ลงเพจจากร้านอาหารที่จ้างให้ไปรีวิวนั้น บางร้านจ่ายเป็นเงิน บางร้านแค่ให้ไปทานอาหารฟรี! แต่สิ่งที่นักรีวิวที่ดีควรคิดเสมอ คือ ไม่ใช่เพียงแค่ค่าตอบแทน แต่คือการสื่อสารกับคนที่มาอ่านรีวิว เพราะทุกครั้งของการรีวิวอาหาร นักรีวิวจะต้องรับฟังและคิดตามว่าคนที่คิดเมนูออกมา เขาต้องการจะสื่อสารอะไรกับคนที่จะมาทานอาหาร แต่ละเมนูมีจุดเด่นตรงไหน ต้องสื่อสารกับคนที่มาอ่านรีวิวให้ได้ เพราะอาหารกลายเป็นเทรนด์อย่างหนึ่งไปแล้ว นักรีวิวเองก็ต้องตามให้ทันอย่างเข้าใจ เพราะการตามให้ทันนั้นไม่ใช่แค่เห็นเขาฮิต ก็ไปถ่ายๆ มาลงให้คนกดไลค์ กดแชร์ แต่ควรคิดตามเสมอว่า คนที่ทำอาหารออกมาขายและได้รับความนิยมถึงขนาดว่าคนต้องไปต่อคิวซื้อให้ได้ เขาใช้วิธีไหนเล่าเรื่องราวอาหารของเขา ทำไมช่วงเวลานั้นถึงต้องฮิตเมนูนี้ ที่มาคืออะไร และคนในยุคนั้นกำลังเสพเทรนด์ไหนกันอยู่ นี่เป็นสิ่งที่นักรีวิวได้รับมากกว่าแค่การไปชิมอาหารและบอกแค่ว่ามันอร่อยหรือไม่อร่อย

 

 

ร้านต้องมีเคล็ดลับปรับกลยุทธ์ให้เข้าตาลูกค้า และบล็อกเกอร์

ร้านอาหารยุคนี้ต้องทำยังไงถึงจะเข้าตานักรีวิว มีของดีอะไรให้เขารีวิว??

สิ่งแรกเลยที่ต้องคิดถึงเมื่อจะจ้างบล็อคเกอร์มาทำรีวิว คือ ร้านเรามีอะไรดี Signature Menu ของร้านคืออะไร แตกต่างจากร้านอื่นอย่างไร บรรยากาศร้านเป็นอย่างไร ยิ่งยุคนี้ถ้าร้านนั้นๆ มีเรื่องราว(Story) ที่น่าสนใจมากกว่าแค่รสชาติ ก็ยิ่งเป็นที่ดึงดูดลูกค้า รวมถึงเหล่านักรีวิวได้ไม่น้อยค่ะ

 

นอกจากนี้ คุณต้องหาจุดขายเฉพาะตัว (Unique Selling Point) ให้ได้ก่อน ต้องมี! เพื่อให้เกิด Story นำไปรีวิว หากเป็นกรณีร้านเปิดมานานแล้ว เคยรีวิวไปแล้วหลายรอบต้องการจะรีวิวซ้ำ ก็ควรหาเมนูใหม่ ๆ เพื่อสร้างจุดขายใหม่ขึ้นมา การมี Unique Selling Point จะช่วยให้เกิดความน่าสนใจเป็นพิเศษ เพื่อให้การรีวิวมีประสิทธิภาพทางการตลาดอย่างที่เราต้องการเต็มที่

 

บางคนอาจจะมองว่าทำร้านอาหารหรือธุรกิจอะไรก็ตามแค่มีคนมารีวิวดี ๆ อวย ๆ ก็ดังได้แล้ว ใคร ๆ ก็ทำได้ แต่ลองนึกดูว่ามีกี่ร้านที่ต้องปิดตัวลง เพราะฐานไม่แข็งแกร่งพอ นักรีวิวอาหาร (Food Blogger) เป็นเพียงแค่กระบอกเสียงหนึ่งในการช่วยโปรโมทร้านอาหารของคุณ แต่การทำธุรกิจร้านอาหารนั้นมีเรื่องให้ท้าทายอยู่เสมอ หากคุณเข้าใจลูกค้าในยุคนี้ รู้ว่าพวกเขาต้องการอะไร อีกทั้งยังพร้อมปรับเปลี่ยนตัวเองอยู่เสมอเพื่อตามเทรนด์ให้ทัน การทำธุรกิจร้านอาหารให้ประสบความสำเร็จก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินไปสำหรับคุณ
 

อ่านต่อบทความที่น่าสนใจ

How to 10 เทคนิค ถ่ายภาพอาหารให้น่ากิน

วิธีเก็บผัก เก็บอย่างไรให้ถูกต้อง และเก็บได้นาน

วิธี คำนวณต้นทุนร้านอาหาร ที่เจ้าของร้านต้องรู้! by คุณ ธามม์ ประวัติตรี

อย่าปล่อยให้ ระบบงานครัว ทำร้านเจ๊ง ถึงเวลาเจ้าของร้านต้องวางแผน

วิธีรับมือลูกค้า ที่มีปัญหา รับมืออย่างไรให้เจ๋ง พลิกวิกฤตเป็นโอกาสได้

เรื่องแนะนำ

kokoblocks

Kokoblocks เพิ่มความเท่ให้ร้านอาหาร

ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้การตกแต่งร้านอาหารถือเป็นปัจจัยสำคัญในการดึงดูดลูกค้า เรามีแบรนด์ Kokoblocks เฟอร์นิเจอร์สุดแนว ที่จะนำไปแต่งบ้านก็ดี แต่งร้านก็โดนมาแนะนำ

Emotional Value

มากกว่าแค่ธุรกิจร้านอาหาร ต้องพิชิตใจลูกค้าด้วย Emotional Value

ที่ร้านขายอะไรกันเหรอ? …..… ร้านฉันขายอาหารตามสั่งทั่วไป ร้านฉันขายกาแฟ บางคนตอบได้ดีกว่านั้น ก็คือ ร้านฉันขายประสบการณ์การทานอาหารให้กับลูกค้า ลูกค้าจะได้รับการต้อนรับที่อบอุ่นเมื่อมาทานที่ร้านของเรา แล้วเคยคิดกันไหมคะ ว่าสิ่งที่อยู่เบื้องหลังประสบการณ์ที่ลูกค้าได้รับนั้นมาจากอะไร คำตอบคือ “อารมณ์ (Emotional)” ธุรกิจร้านอาหารทุกวันนี้ ใช้กลยุทธ์พิชิตใจลูกค้า โดยให้ความสำคัญสิ่งที่เรียกว่า Emotional Value (คุณค่าทางอารมณ์) เพิ่มมากขึ้น แล้ว Emotional Value แบบไหน ที่ทำให้ลูกค้าเลือกมาร้านของเรา แทนที่จะไปร้านอื่นๆ   “ลองปรับเปลี่ยนมุมมองการตลาด และเปิดประสบการณ์ให้กับลูกค้าของคุณ เพื่อพิชิตใจลูกค้าด้วย Emotional Value”   Emotion : Caring การดูแล ห่วงใย เอาใจใส่       มนุษย์เราอยู่รวมตัวกันเป็นกลุ่มและชุมชนเพื่อสร้างความผูกพัน การบริการลูกค้าโดยใช้กลยุทธ์ที่เรียกว่า CARE หรือการดูแล การเอาใจใส่ เพื่อดึงให้ลูกค้าเข้ามามีส่วนร่วมและผูกพันกับร้านของคุณ ถือเป็นกุญแจสำคัญด่านแรก บางครั้งการบริการไม่ได้เริ่มต้นจากสิ่งที่เราอยากจะทำ หรืออยากจะขายในร้านอาหารของเราเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่อาจเริ่มจากสิ่งที่ลูกค้าต้องการจากเรา       เจ้าของร้านอาหารไม่ควรมองข้ามฐานลูกค้าของตนเอง รวมไปถึงกลุ่มทางสังคมกลุ่มอื่นๆ บางร้านอาจเลือกทำบุญเลี้ยงอาหารเด็กกับองค์กรเด็ก และเชิญลูกค้าของทางร้านให้เข้ามามีส่วนร่วม หรือ […]

ป้ายร้าน

ป้ายร้าน แค่ภาษาไทยคงไม่พอ ถ้าอยากเจาะกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ

ร้านในเมืองไทย แต่ใช้ ป้ายร้าน เป็นภาษาไทยคงไม่พอแล้วล่ะครับ ยิ่งร้านไหนอยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยว ต้องเพิ่มเรื่องภาษาต่างชาติเข้าไปหน่อย จะได้จดจำได้ง่าย

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.