แค่การสั่งเมนู อาจทำให้ลูกค้ารู้สึก "เสียหน้า" เพราะความเข้าใจไม่ตรงกันกับร้าน

กรณีศึกษา แค่การสั่งเมนู อาจทำให้ลูกค้ารู้สึก “เสียหน้า” เพราะความเข้าใจไม่ตรงกันกับร้าน

กรณีศึกษา แค่การสั่งเมนู อาจทำให้ลูกค้ารู้สึก “เสียหน้า”
เพราะความเข้าใจไม่ตรงกันกับร้าน

แชร์ประสบการณ์โดยสมาชิกกลุ่ม “คนบ้ากาแฟ”
พร้อมรวมคำแนะนำต่าง ๆ ที่น่าสนใจ

แอดได้ไปเจอ Topic หนึ่งในกลุ่ม “คนบ้ากาแฟ” แล้วเห็นว่าน่าสนใจมาก ๆ นั่นก็คือเรื่อง ความเข้าใจของลูกค้า กับคนขายกาแฟ ที่บางครั้งอาจจะต่างกัน ทำให้เกิดความสับสนหรือเข้าใจผิด นำไปสู่การทำเครื่องดื่มที่ไม่ใช่แบบที่ลูกค้าสั่ง หรือไม่ตรงกับที่ลูกค้าอยากได้ แต่เจ้าของร้านจะสื่อสารอย่างไร ไม่ให้ลูกค้ารู้สึก “เสียหน้า” ล่ะ ?

ซึ่งสำหรับปัญหาความเข้าใจของลูกค้ากับคนขายกาแฟที่บางครั้งอาจจะต่างกันนั้น ได้มีผู้ประกอบการร้านกาแฟท่านหนึ่งได้มาแสดงความคิดเห็นเชิงแนะนำได้อย่างน่าสนใจว่า

“ความเข้าใจของลูกค้ากับคนขายกาแฟมักจะต่างกัน แต่หากลูกค้าเอื้อนเอ่ยออเดอร์ใด ที่เราคิดว่าชื่อไม่ถูก เราแค่ทวนออเดอร์และส่วนผสมก็พอ อย่าทำให้ลูกค้ารู้สึกเสียหน้า ลูกค้าบางท่านอาจจำชื่อมาแค่นั้น หรือไม่ได้เข้าร้านกาแฟบ่อยๆ และเขาไม่ต้องการให้เราสอนเขา

1.ถ้าลูกค้าสั่งเครื่องดื่มไม่หวาน เราแค่ทวนว่าไม่หวานเลยหรือใส่นิดหน่อย
2.ถ้าลูกค้าสั่งเอสเพรสโซ่ร้อนใส่น้ำเยอะ ๆ ถ้าเขาไม่ได้เรียกอเมริกาโน่ ก็ไม่เป็นไร ทำให้เขานะ มันเหมือนกัน
3.คาปูชิโน่ไม่ใส่ฟองนม ไม่ใส่ช็อคโกเลต ก็แค่ตอบว่า ค่ะ แล้วถามว่า “หวานปกติไหมคะ”

ตอนวัยรุ่นเคยสั่งชาเขียวปั่นร้านหนึ่ง เขาบอกไม่มีค่ะ มีแต่ frappe เราก็ไม่รู้จัก ลูกค้าต่อคิวก็เยอะ แต่ความรู้สึกตอนนั้นคือกลัวการเข้าร้านกาแฟแบรนด์นี้ไปเลย ดังนั้น การทวนออเดอร์ลูกค้าและส่วนผสม สำคัญมากค่ะ อย่าทำให้ลูกค้ารู้สึกเสียหน้า”
.
ด้วยความที่โพสต์นี้ได้แสดงถึงความเข้าอกเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง จึงทำให้มีทั้งผู้ประกอบการร้านกาแฟ และลูกค้าต่างเข้ามาแสดงความชื่นชมในทัศนคติของผู้ประกอบการรายนี้

🔸ความเห็นจากคนทำร้านกาแฟ☕️

1- “ขอตอบในฐานะแม่ค้า ถ้าทำหน้าไม่เป็นให้ยิ้มค่ะ แล้วถามลูกค้า หรือทวนออร์เดอร์ ลูกค้าน่ารักใจดีมีเยอะค่ะ และขอตอบในฐานะลูกค้า ไม่เคยรำคาญเวลาแม่ค้าถามย้ำหรือทวนออเดอร์กันพลาดนะคะ ยอมรับว่าบางทีตัวเราสั่งผิดเองก็มีค่ะ เพราะฉะนั้นการสื่อสารที่มากขึ้นอีกนิดนึงด้วยไมตรีมันดีขึ้นเสมอค่ะ ถ้าแม่ค้าทำเหมือนลูกค้าเป็นตัวตลก หายนะเกิดแน่นอน เพราะไม่ใช่จะเสียลูกค้าไปแค่คนเดียว แต่คำว่าปากต่อปากมันอันตรายค่ะ ร้านนั้นอาจจะเสียลูกค้าไปอีกสิบอีกร้อยคนได้ค่ะ”

2- “แม่ค้ายังทำเมนูยังไม่ถูกและรสชาติก็ไม่เหมือนกัน ลูกค้าบางคนก็นานๆ สั่งกิน เรียกผิดเรียกถูก พูดคุยกันดีๆ ทั้ง 2 ฝ่ายจะน่ารักกว่ามาพูดให้ลูกค้าไม่สบายใจ บางคนกลัวไม่อยากเข้าร้านกลัวสั่งผิดแล้วเจอแม่ค้าที่คอยแต่จะเอาเรื่องก็มี”

3- “ลูกค้าบางคนไม่ค่อยได้กินกาแฟสด ไม่รู้จักชื่อเมนู มาถึงก็เอากาแฟเย็นแก้วนึง เราก็แค่ถามว่ากินแบบเข้ม-กลาง-หรือว่าอ่อนคะ หวานปกติไหม แค่นั้นเองเราไม่งงลูกค้าก็เข้าใจง่ายอย่าไปโชว์ภูมิเหนือลูกค้าเลย ยิ่งอยู่แหล่งคนท้องถิ่นเยอะ อย่าคิดไปเองว่าเขาจะรู้เมนูเราเนอะ เราก็ไม่รู้เมนู แบรนด์ดังๆ เขาหรอก”

4- “ถ้ามีลูกค้ามาซื้อละบอกว่า เอากาแฟเย็นแก้วนึง เราจะไม่ถามว่ารับเป็นเมนูอะไรดีครับ แต่เราจะถามว่า ปกติลูกค้าทานกาแฟดำหรือกาแฟนม ถ้าลูกค้าบอกว่าทานแบบใด เราก็จะบอกชื่อเมนูและส่วนผสม ให้ลูกค้าได้เลือกครับ เพราะอย่างที่บอก มันจะเป็นการทำให้ลูกค้าเสียความมั่นใจ”

🔸ความเห็นจากลูกค้า🗣

5- “ถึงจะเป็นคนดื่มกาแฟประจำ สั่งแต่เมนูเดิมๆ แต่แต่ละร้านทำไม่เหมือนกันก็มีนะ หรือบางทีสั่งหวานน้อย ร้านบอกว่าปกติไม่ใส่หวานค่ะ แล้วทำหน้าเหยียดนิดๆ บางร้านก็บอกดีๆ ว่าปกติร้านไม่ใส่หวานเลย จะให้ใส่นิดนึงไหมคะ ความรู้สึกลูกค้ามันต่างกันนะ”

6- “ในฐานะลูกค้าที่กินชาไทยทุกวัน แต่วนกินหลายร้าน ไปเที่ยวต่างจังหวัด ก็แวะซื้อตลอด ยังเกร็งๆ เวลาสั่งเลยค่ะ ไปบอกเอาชานม บางร้านก็งง ไปบอกชาไทย บางร้านก็ทวนออเดอร์ว่า ชานมไหมคะ? ทำเอากล้าๆ กลัวๆ เวลาไปซื้อร้านที่ไม่เคยซื้อ ถ้าเจอคนขายที่เข้าใจลูกค้าแบบนี้ เราก็ไม่เกร็งเวลาเข้าร้าน”

7- “บางครั้งเราก็สั่งผิดจริงๆ แต่แม่ค้าใจดี สอนเราว่าอันนั้นเรียกว่าอะไรๆ เราก็ขอบคุณไป เพราะเขาไม่ทำให้เสียหน้าค่ะ เลยกลายเป็นเจ้าประจำของเราเลย”

8- “ในฐานะลูกค้า พ่อชอบกินกาแฟเราอยากให้กินกาแฟสดหอมๆ อร่อยๆ พ่อบอก พ่อสั่งไม่เป็น เคยเจอพนักงานชักสีหน้าใส่ ทวนเมนูไม่อะไรเยอะไปหมด พ่อเลยไม่กล้าซื้อกินอีกเลย แกก็กินแต่กาแฟชงรถเข็นของแกเช่นเดิม”

9- “เวลาเราสั่งกาแฟ เราไม่กินหวานเลย และเราก็ไม่รู้ว่าแต่ละร้านเค้าทำลาเต้ใส่หวานไหม ก็จะย้ำบอกเขาไปเผื่อๆ จะได้ไม่เสียเวลาทั้งคู่ บางร้านก็พูดจารำคาญว่าลาเต้มันไม่หวานอยู่แล้ว คือเราก็รู้ค่ะ แต่หลายร้านเขาทำหวาน เราก็ต้องบอกไว้ก่อนไง บางร้านพูดเหมือนเราโง่เลย”
.
ทั้งนี้แสดงให้เห็นว่าทัศนคติในการทำงานและใจในการบริการเป็นเรื่องสำคัญสำหรับการทำธุรกิจบริการ อย่างธุรกิจร้านอาหารหรือเครื่องดื่มมาก ๆ เพราะงานบริการมีผลต่อความประทับใจและความรู้สึกของลูกค้า ไม่แพ้รสชาติของอาหารเลย ดังนั้นสิ่งที่ผู้ประกอบการควรให้ความสำคัญไม่ได้มีแค่เรื่องยอดขาย แต่ยังมีเรื่องของความรู้สึกของลูกค้าอีกด้วยนะ
.
Reference: https://www.facebook.com/groups/259809032544230/posts/457590396099425/
#AmarinAcademy #ร้านอาหาร

 

เรื่องแนะนำ

วิธีคำนวณต้นทุนร้านอาหาร

วิธี คำนวณต้นทุนร้านอาหาร ที่เจ้าของร้านต้องรู้! by คุณ ธามม์ ประวัติตรี

การคำนวณต้นทุนร้านอาหาร ถ้ามองให้เป็นเรื่องใกล้ตัว พูดง่ายๆ ก็เหมือนเรามีเงินเดือน แล้วเราต้องรู้ว่าในแต่ละเดือนนั้น ต้องมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ และมีเงินเหลือเก็บหรือไม่ เช่นเดียวกับการ คำนวณต้นทุนร้านอาหาร ที่ต้องทำอย่างเป็นระบบ มาดูคำแนะนำจาก คุณ ธามม์ ประวัติตรี Managing Director, Wow Thai Food Holding ประเทศเนเธอร์แลนด์   “ คำนวณต้นทุนร้านอาหาร ไม่ใช่การเดา แต่ต้องทำให้เป็นระบบ แล้วผลประกอบการก็จะดีขึ้น ” เจ้าของธุรกิจบางรายมักใช้ความรู้สึก ในการวัดผลการดำเนินงาน เช่น วันที่ลูกค้าเต็มร้าน คาดว่าน่าจะมีรายได้มาก และน่าจะมีเงินหมุนเวียนในธุรกิจมากตามไปด้วย แต่คำว่ามากนั้น คงไม่เพียงพอที่จะบอกได้ว่าธุรกิจของคุณเป็นไปด้วยดีจริงหรือไม่ ทั้งนี้เจ้าของร้านจะต้องสามารถระบุได้ว่ามาตรฐานของร้าน หรือระดับรายได้ที่ควรจะได้คือเท่าไหร่ หรือมากกว่าคู่แข่งเท่าไหร่ หรือบางร้านอาจจะมีการจดบันทึกที่ละเอียดขึ้น คือมีการบันทึกรายรับ-รายจ่ายเป็นเงินสด ว่าวันนี้ขายได้กี่จาน จานละกี่บาท ก็จะบันทึกเป็นยอดขาย เพื่อนำมาคำนวณ ต่อวันจะขายได้เท่าไหร่ ต่อเดือนจะขายได้เท่าไหร่ แต่ความจริงแล้ว การคาดการณ์ที่กล่าวมาอาจไม่เพียงพอเท่าที่ควร และอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจในระยะยาวได้ เพราะเจ้าของร้านต้องไม่ลืมว่ารายรับนั้น ยังไม่ได้หักต้นทุนใด ๆ เลย ไม่ว่าจะเป็นค่าจ้างพนักงาน ค่าล่วงเวลาของพนักงาน […]

เปิดร้านอาหารให้สำเร็จ

3 สิ่งที่ควรทำ เปิดร้านอาหารให้สำเร็จ !

ใครๆ ก็อยาก เปิดร้านอาหารให้สำเร็จ แต่คนส่วนใหญ่มักเริ่มต้นจาก passion แต่จะทำอย่างไรให้ความชื่นชอบของคุณแปรเปลี่ยนมา "ทำเงิน" ได้ ไปติดตามกันได้เลย

ตั้งราคาอาหาร

5 สิ่งที่ควรรู้ก่อน ตั้งราคาอาหาร

หลายคนไม่รู้จะตั้งราคาอาหารของตัวเองเท่าไร ตั้งสูงไปก็กลัวขายไม่ได้ ตั้งต่ำไปก็กลัวจะขาดทุน วันนี้จึงขอนำข้อมูลเกี่ยวกับการ ตั้งราคาอาหาร มาฝาก

เจ้าของร้านจิวเวลรี่แชร์ ทำอาหารต้องถอดเครื่องประดับ! แหล่งสะสมเชื้อโรค มาตรฐานที่คนทำอาหารควรให้ความสำคัญ

ถอดบทเรียน เจ้าของร้านจิวเวลรี่แชร์ ทำอาหารอย่าลืมถอดเครื่องประดับ! เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคชั้นดี มาตรฐานความปลอดภัย ที่คนทำอาหารควรให้ความสำคัญ เวลาทำอาหารอย่าลืมถอดเครื่องประดับ!!! รู้หรือไม่ว่าเครื่องประดับที่เราใส่ ๆ กันอยู่ทุกวันเนี่ย เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคชั้นดีเลยนะ วันก่อนแอดได้เห็นโพสต์ที่เจ้าของร้านจิวเวลรีคนหนึ่งได้มาแชร์เป็นอุทาหรณ์ให้กับสมาชิกในกลุ่ม “เบเกอรี่พอเพียง” ถึงเรื่องการใส่เครื่องประดับทำขนมว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ โดยเฉพาะการใส่แหวน เพราะว่ามันสกปรกมาก อีกทั้งยังได้ส่งผลต่อภาพลักษณ์เรื่องความสะอาดของอาหารและร้านนั้น ๆ ด้วย 🔸แหล่งสะสมเชื้อโรค🤢 เจ้าของร้านจิวเวลรี่รายนี้ได้โพสต์ถึงประเด็นนี้ว่า “ว่ากันด้วยเรื่องของการใส่แหวนในการทำเบเกอรี่ ในฐานะของเจ้าของร้านจิวเวลรี่ อยากจะบอกทุกคนว่าให้ถอดก่อนทำเถอะค่ะ เพราะแหวนที่เราเห็นว่าสวยวิบวับเนี่ย ด้านในท้องแหวนหรือตามซอกเตยที่เกาะเพชร มันสกปรกมากเลยนะคะ เวลาเห็นคนที่ไลฟ์สดหรืออาจารย์ที่สอนตามคอร์สออนไลน์ใส่แหวนทำแล้วนี่รู้สึกไม่ดีทุกครั้ง เพราะเจอเวลาลูกค้าส่งแหวนมาทำความสะอาด มันไม่โอเคจริงๆ ค่ะ แล้วถ้าแม่ค้าใส่แหวนด้วยความเคยชินไม่ได้ถอด นึกภาพกันออกมั้ยคะว่าเรากำลังกินเชื้อโรคและสิ่งสกปรกเข้าไปอยู่ แม้มันจะผ่านความร้อนแล้วก็ตาม” พร้อมเสริมว่า “การทำความสะอาดแหวนทุกวันไม่ได้การันตีว่าแหวนเราจะสะอาดหมดจด เพราะตามซอกหลืบเล็กที่แปรงเข้าไม่ถึงยังมีเชื้อโรคที่สะสมอยู่ต้องทำความสะอาดด้วยเครื่องอัลตร้าโซนิค เครื่องใหญ่แบบที่ใช้ในโรงงานเท่านั้น ถึงจะสะอาดจริง ๆ ซึ่งเธอยังได้บอกอีกว่าการมาโพสต์ในครั้งนี้ไม่ได้มีเจตนาโจมตีใคร หากทำให้ท่านใดรู้สึกเห็นต่าง หรือไม่พอใจก็ขออภัย ณ ที่นี้ด้วย 🔸ความเห็นจากชาวเน็ต💬 เมื่อเรื่องนี้ออกไปก็ได้มีสมาชิกกลุ่มเบเกอรี่พอเพียงทั้งคนขายและลูกค้าต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้ โดยส่วนใหญ่เห็นด้วยกับเจ้าของโพสต์ว่าการใส่เครื่องประดับทำอาหารเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ ซึ่งคนทำเบเกอรีหลายคนก็ได้บอกว่าตั้งแต่ทำขนมขายก็ไม่ได้ใส่เครื่องประดับเลย ด้วยเหตุผลต่าง ๆ เช่น ความถนัด ความสะอาด เป็นต้น […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.