9 Checklist ธุรกิจ ควรทำ ถ้าไม่อยากเจ๊ง! - Amarin Academy

9 Checklist ธุรกิจ ควรทำ ถ้าไม่อยากเจ๊ง!

9 Checklist ธุรกิจ ควรทำ ถ้าไม่อยากเจ๊ง!

ทำธุรกิจต้องหมั่นตรวจสอบระบบการทำงานอยู่เสมอ เพื่อเช็คว่าธุรกิจของคุณมีปัญหาอะไรต้องเร่งแก้ไข หรือควรพัฒนาส่วนใดเป็นพิเศษ เพื่อให้ธุรกิจของเราโตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด อย่างนั้นมาดูกันดีกว่าว่า Checklist ธุรกิจ ที่เจ้าของธุรกิจควรทำมีอะไรบ้าง

  1. Check งานให้เป็นระบบ

ระบบ คือหัวใจสำคัญที่ทำให้งานทุกส่วนราบรื่น ดังนั้นเจ้าของธุรกิจต้องวางระบบการทำงานให้เหมาะสม กำหนดหน้าที่และความรับผิดชอบให้พนักงานแต่ละตำแหน่งให้ชัดเจน เพื่อให้การทำงานเกิดประสิทธิภาพสูงสุด เช่น ร้านอาหารขนาดใหญ่ ควรสร้างระบบการดูแลลูกค้าให้พนักงาน โดยรับผิดชอบเป็นโซน อาจแบ่งเป็น A B C เพื่อให้พนักงานดูแลลูกค้าได้ทั่วถึง หรือสร้างระบบงานครัว เมื่อรับออร์เดอร์แล้ว ตำแหน่งใดจะเป็นคนส่งต่อออร์เดอร์นั้นให้เชฟ ใครจะคอยเช็คว่าอาหารทุกจานถูกต้องและตรงตามที่ลูกค้าสั่ง หรือมีเมนูใดตกหล่นหรือเปล่า เป็นต้น

  1. Check ทีมให้พร้อม

ไม่มีใครสามารถทำธุรกิจด้วยตัวคนเดียวได้ ดังนั้นทีมงานคือส่วนสำคัญ เจ้าของธุรกิจจะต้องประเมินความรู้ ความสามารถและทักษะของพนักงานอย่างสม่ำเสมอ พร้อมหาวิธีผลักดันให้พวกเขาพัฒนาตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการจัดเทรนด์นิ่ง ฝึกทักษะการทำงาน หรืออย่างร้าน Factory Coffee ที่ใช้การแข่งขันบาริสต้า เป็นเครื่องผลักดันบาริสต้าภายในร้านให้เก่งขึ้น

ยิ่งทีมงานของคุณเก่งขึ้นเท่าไร ธุรกิจของคุณก็เติบโตได้มากขึ้นเท่านั้น

  1. Check คุณภาพสินค้าและบริการให้ได้มาตรฐาน

ไม่ว่าคุณจะทำการตลาดเก่งขนาดไหน ถ้าสินค้าหรือบริการคุณไม่ดีพอ หรือทำให้ลูกค้าประทับใจไม่ได้ โอกาสที่คุณจะประสบความสำเร็จก็น้อยตามไปด้วย ฉะนั้นก่อนจะพัฒนางานด้านอื่นๆ หรือวางแผนการเติบโต เจ้าของธุรกิจต้องทำให้สินค้าหรือบริการมีมาตรฐานคงที่ให้ได้เสียก่อน รวมทั้งพัฒนาให้ดีขึ้นอยู่เสมอด้วย

  1. Check บัญชีให้ถูกต้อง

เรื่องเงินๆ ทองๆ กับธุรกิจเป็นของคู่กัน เจ้าของธุรกิจบางคนอาจรู้สึกปวดหัวกับเรื่องบัญชี รายรับ – รายจ่าย หรือไม่มีความรู้เรื่องบัญชีเลย จึงตัดสินใจให้ลูกน้องจัดการทั้งหมด แล้วตัวคุณเองดูแค่ตัวเลขบรรทัดสุดท้ายว่าได้กำไรหรือขาดทุน กำไรก็แล้วไป ขาดทุนค่อยมาว่ากัน แต่!!! การทำอย่างนั้นคือหายนะขั้นสุด เพราะเรื่องเงินคืองานที่คุณจะไว้ใจใครไม่ได้เลย บางครั้งลูกน้องอาจทำงานผิดพลาดหรือเกิดการทุจริตขึ้นมา ธุรกิจของคุณเสียหายแน่นอน แต่หากคุณไม่เก่งเรื่องตัวเลขจริงๆ อาจลองนำเทคโนโลยีเกี่ยวกับระบบการจัดการบัญชีที่แสดงผลแม่นยำเข้ามาช่วย เท่านี้ก็ไม่ต้องปวดหัวกับตัวเลขแล้ว

  1. Check ช่องทุจริต

ทำธุรกิจ มีรอยรั่วได้ทุกจุด เจ้าของธุรกิจต้องหมั่นตรวจสอบว่าธุรกิจของคุณมีรอยรั่วที่จุดใด เช่น หากคุณทำร้านอาหาร ต้องเริ่มเช็คตั้งแต่การรับออร์เดอร์ของพนักงานว่า จำนวนอาหารที่เสิร์ฟตรงกับยอดเงินที่ได้รับไหม วัตถุดิบที่ใช้ในแต่ละวัน เหลือเท่าไร สอดคล้องกับยอดขายไหม ยอดการสั่งซื้อวัตถุดิบ ตรงกับจำนวนวัตถุดิบที่ได้รับไหม จำนวนเงินในลิ้นชัก ตรงกับยอดขายจริงหรือเปล่า ฯลฯ สิ่งเหล่านี้คือช่องทางที่สามารถทุจริตได้ทั้งสิ้น เจ้าของร้านจะต้องวางระบบให้มีประสิทธิภาพเพื่อป้องกันการทุจริตให้ได้มากที่สุด

  1. Check ต้นทุน ไม่ให้พุ่ง

ต้นทุน คือสิ่งที่เจ้าของธุรกิจต้องควบคุมให้ได้ เพราะถ้าต้นทุนสูง กำไรของคุณก็น้อยตามไปด้วย ดังนั้นเจ้าของธุรกิจต้องหมั่นเช็คต้นทุนอย่างสม่ำเสมอว่าเหมาะสมหรือไม่ ถ้าหากสูงเกินไป ก็ต้องตรวจสอบว่าเกิดจากสาเหตุใด เพื่อจะได้แก้ไขได้ตรงจุด เช่น ถ้าคุณทำธุรกิจโรงแรม แล้วพบว่าค่าไฟสูงมาก ต้องไล่หาสาเหตุว่ามาจากอะไร เช่น ลูกค้าเปิดแอร์ทิ้ง

  1. Check คู่แข่ง อย่าปล่อยให้แซงหน้า

ไม่มีธุรกิจใด ไม่มีคู่แข่ง ฉะนั้นถ้าเรามัวแต่อยู่เฉยๆ หรือเดินช้าๆ คู่แข่งอาจจะวิ่งแซงจนไม่เห็นฝุ่น เจ้าของธุรกิจต้องคอยตรวจสอบว่า ตอนนี้คู่แข่งเขาเดินเกมอย่างไร วางกลยุทธ์หรือพัฒนาผลิตภัณฑ์ในรูปแบบไหน แต่ดูในที่นี้ไม่ใช่ดูเพื่อทำตาม แต่ต้องนำมาเป็นเกณฑ์ในการประเมินว่า เรากำลัง “ช้า” ไปหรือเปล่า เมื่อรู้จักคู่แข่งอย่างรอบด้านแล้ว เราก็จะรู้ว่าควรจะโตอย่างไร จึงแตกต่างและดีกว่าคู่แข่ง

  1. Check เทรนด์ผู้บริโภค

ทุกวันนี้เทรนด์ผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว สังเกตได้จากกระแสความนิยมที่เปลี่ยนแทบทุกสัปดาห์ (ก่อนหน้านี้ชากุหลาบก็มาแรง ต่อด้วยกระแสชาเขียว มันม่วง ฯลฯ ) ดังนั้นเจ้าของธุรกิจต้องไม่นิ่งเฉย หรือปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไป แต่ต้องศึกษาเทรนด์ผู้บริโภคอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะเทรนด์ในต่างประเทศ ที่มักเกิดขึ้นเร็วกว่าประเทศไทย หากผู้ประกอบการจับทางได้ถูกก็มีโอกาสปลุกกระแส สร้างยอดขายได้ไม่ยาก

  1. Check โอกาสในการเติบโต

ทำธุรกิจ ใครๆ ก็อยากเติบโต แต่ถ้ามัวนั่งรอให้โอกาสเข้ามาถึงที่ คุณอาจไม่มีโอกาสโตเลยก็ได้ ฉะนั้นผู้ประกอบการต้องวิ่งหาโอกาส เพื่อทำให้ธุรกิจเติบโตได้เร็วที่สุด เช่น แทนที่จะรอให้เงินทุนพร้อมแล้วค่อยขยายสาขา ก็อาจเปลี่ยนเป็นการโตด้วยวิธีอื่นที่ใช้เงินทุนไม่มากนัก เช่น โตด้วยการสร้างพันธมิตร จับมือกับธุรกิจอื่นออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ มาตีตลาด หรือขยายช่องทางการขาย กรณีที่น่าสนใจคือ Starbucks ที่จับมือกับ After you นำเมนูเด็ดคือ ชิบูย่าฮันนี่ โทสต์ และ ช็อคโกแลตบราวนี่ เข้าไปจำหน่ายในสาขาต่างๆ เป็นต้น

การทำธุรกิจต้องหมั่นตรวจสอบระบบและพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เพราะหากคุณหยุดนิ่งเมื่อไร โอกาสที่ธุรกิจจะหายไปจากตลาดก็สูงตามไปด้วย ดังนั้น Checklist ที่เราแนะนำมานี้ อย่าลืมนำไปปรับใช้กันนะครับ

เรื่องแนะนำ

เผยสูตรคำนวณ ต้นทุนร้านอาหาร คุมค่าใช้จ่ายให้เป๊ะก่อนเปิดร้าน

เพราะการทำร้านอาหารจะกำไรหรือขาดทุน ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าของร้านอาหารควบคุม ต้นทุนร้านอาหาร ได้ดีขนาดไหน การกำหนดโครงสร้างต้นทุนร้านอาหาร จะช่วยทำให้ตั้งราคาขาย และกำหนดยอดขายในแต่ละวันได้อย่างเหมาะสม  ที่สำคัญยังช่วยให้ป้องกันปัญหาต้นทุนพุ่งจนกระทบยอดรายได้  เพราะสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างเหมาะสม   โครงสร้าง ต้นทุนร้านอาหาร ที่สำคัญมีอะไรบ้าง คำนวณอย่างไรไม่ขาดทุน   1.ต้นทุนอาหาร (วัตถุดิบ) ต้นทุนวัตถุดิบอาหาร หมายรวมถึงวัตถุดิบที่ใช้ปรุง การตกแต่งจาน รวมถึงบรรจุภัณฑ์ต่างๆ โดยทั่วไปแล้ว ต้นทุนวัตถุดิบที่เหมาะสมอยู่ระหว่าง 25-30 เปอร์เซ็นต์ นอกจากร้านอาหารประเภทบุฟเฟต์ จะมีต้นทุนวัตถุดิบอยู่ประมาณ 35 เปอร์เซ็นต์ การทราบต้นทุนอาหาร ช่วยให้กำหนดราคาขายต่อเมนูได้อย่างแม่นยำ สูตรการคิดคำนวณต้นทุนอาหาร ต้องคำนวณจาก Yield หรือวัตถุดิบที่ใช้ได้จริง เป็นหลัก เพราะฉะนั้นร้านอาหารจะต้องหา Yield ของวัตถุดิบทุกชนิด โดยขั้นตอนก็คือ การชั่งน้ำหนักวัตถุดิบ และทำการเตรียมวัตถุดิบพร้อมสำหรับการปรุง เช่น เนื้อปลา เมื่อหั่นให้ได้ขนาดชิ้นตามสูตร SOP ที่กำหนดแล้ว ให้นำเนื้อปลาหลังตัดแต่ง และเนื้อปลาส่วนที่ตัดทิ้ง มาชั่งน้ำหนักเปรียบเทียบเพื่อคำนวณ   ค่าเปอร์เซ็นต์ Yield =  ปริมาณหลังตัดแต่ง […]

ผู้จัดการมือใหม่

เคล็ดลับการจัดการร้านอาหาร  ผู้จัดการมือใหม่ ต้องรู้!

เคล็ดลับการจัดการร้านอาหาร ผู้จัดการมือใหม่ ต้องรู้! การจัดการร้านอาหารเป็นเรื่องที่ซับซ้อน ผู้ประกอบบางรายเลือกที่จะดูแลทุกอย่างด้วยตัวเอง หรือบางรายก็จ้างผู้จัดการร้านเพื่อแบ่งเบาภาระต่างๆ แม้ว่าเงินเดือนของผู้จัดการร้านจะค่อนข้างสูง แต่ก็มาพร้อมกับหน้าที่ความรับผิดชอบและความคาดหวังที่สูงตามไปด้วย ไม่ว่าจะเป็น การควบคุมต้นทุน ยอดขายและกำไรของร้านอาหารให้เป็นไปตามเป้าหมาย วางแผนสั่งวัตถุดิบเข้าร้านให้เหมาะสมกับยอดขาย คอยดูแลมาตรฐานการทำงานของพนักงาน จัดตำแหน่งงานและตารางเวลาให้เหมาะสม ดูแลความเรียบร้อยภายในร้าน แก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าพึงพอใจ จัดประชุมวางแผนงาน แผนการตลาด และประสานงานกับฝ่ายต่างๆ    สรุปข้อมูลการขาย รายงานปัญหาต่างๆ แก่ผู้บริหาร  รวมถึงหน้าที่อื่น ๆ ที่ได้รับมอบหมายจากเจ้าของร้าน จะเห็นได้ว่าบทบาทหน้าที่ของ ผู้จัดการร้าน นั้นสำคัญมาก หากคุณเป็นผู้ประกอบการร้านอาหาร หรือผู้จัดการร้านอาหาร เคล็ดลับเหล่านี้อาจจะช่วยพัฒนาทักษะการบริหารจัดการร้านของคุณได้ คือ   มีความหนักแน่น  ปัญหาในร้านอาหารมีได้ทุกวันโดยไม่ซ้ำอย่าง สิ่งที่ผู้จัดการสามารถทำได้ในสถานการณ์เฉพาะหน้าคือ การใช้ความหนักแน่นในการคิดหาวิธีแก้ปัญหา โดยต้องคำนึงถึงในเรื่องต่างๆดังนี้ จะพูดคุยสื่อสารอย่างไร ทำอย่างไรจึงจะรักษากฎของร้านไว้ ผลลัพธ์ที่คาดหวังคืออะไร ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านลูกค้าหรือพนักงาน คุณจะต้องคิดแนวทางในการแก้ปัญหาอย่างรอบคอบ สื่อสารอย่างมีเหตุผลและเหมาะสม เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในฐานะผู้จัดการ และได้รับการยอมรับจากทีมงาน ทำให้พนักงานทำงานที่มีความกดดันสูงในร้านอาหารได้โดยไม่ลาออกง่ายๆ  การจัดการเชิงรุก ในธุรกิจร้านอาหารที่มีการแข่งขันสูง และมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การคิดล่วงหน้าและจัดการป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น ย่อมดีกว่าการตามแก้ปัญหาในภายหลัง ดังนั้น การวางแผนงานในร้านจะต้องไม่มองแค่ในปัจจุบัน […]

5 เคล็ดลับสร้างเซอร์วิสมาย ให้ลูกค้ารักร้านของคุณ

  ร้านอาหารอร่อยอาจทำให้ลูกค้าหลายคนอยากลองมาชิม แต่ถ้าร้านอาหารนั้นบริการดีด้วย จะทำให้ลูกค้าอยากมาซ้ำ ๆ และบอกต่อคนรอบตัวเขา การบริการที่ดี จึงเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้น ๆ ที่เจ้าของร้านอาหารต้องสร้างให้พนักงานมีใจในการบริการ (Service Mind ) ให้ได้ เพราะมันสามารถชี้ชะตาได้เลยว่า ร้านอาหารของคุณจะรุ่งหรือจะร่วง แต่จะทำอย่างไรนั้นบทความนี้มีคำตอบให้กับคุณ 1.สร้างความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่ง และมีเป้าหมาย ความรู้สึกทำตามหน้าที่ปกติ กับความรู้สึกทำอย่างมีเป้าหมายนั้น ให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ยกตัวอย่างร้าน Starbuck  ทราบดีว่า พนักงานนั้น คือ Touch point สำคัญของแบรนด์  พวกเขาถูกวางให้เป็นพาร์ทเนอร์ไม่ใช่ลูกจ้าง มีการอบรมให้มีความเข้าใจในสินค้า และบริการของร้านอย่างถ่องแท้ ที่สำคัญคือสื่อสารเป้าหมายให้เห็น และสร้างความรู้สึกว่าพวกเขาเป็นหนึ่งในเป้าหมายนั้นด้วย เคล็ดลับ ก็คือ แทนที่คุณจะมุ่งให้พนักงานสร้างความพึงพอใจลูกค้าเพียงอย่างเดียว แต่การบริหารคนให้เกิดความพอใจตั้งแต่แรก จะถูกส่งต่อถึงลูกค้าของคุณเอง ทั้งยังเป็นการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง และมีมูลค่าผ่านพวกเขาอีกด้วย   2.สร้างระบบการบริการที่ดี บางครั้งลูกค้าไม่ได้คอมเพลนที่ตัวพนักงาน แต่คอมเพลนระบบในการบริการที่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การทำงานบริการให้ดี  ข้อกำหนดบางอย่างอาจสร้างปัญหาหน้างานด้วยซ้ำ เจ้าของร้านอาหารควรให้ความสำคัญตั้งแต่การออกแบบการบริการของร้านที่เหมาะสม และกำหนดให้สามารถยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ และสถานะของร้านอาหารในขณะนั้น เคล็ดลับ ก็คือ  พนักงานเป็นตัวแปรสำคัญในการรับมือกับสถานการณ์ เพราะจะต้องเป็นคนสื่อสารให้ลูกค้าเข้าใจ […]

ฮั่วเซ่งฮง

ฮั่วเซ่งฮง พลิกธุรกิจสู่ยอดขาย 70 ล้าน!

ฮั่วเซ่งฮง ไม่ได้มีแค่รูปแบบภัตตาคาร แต่ขยายธุรกิจไปมากมายทั้งในห้างสรรพสินค้า การจัดเลี้ยงนอกสถานที่ และในปั๊มน้ำมัน เพราะอะไรถึงเลือกขยายธุรกิจเช่นนี้ ?

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.