รู้ก่อนขาย! 4 จุดบอด ขายอาหารคลีน แบบนี้มีแต่เจ๊ง! - Amarin Academy

รู้ก่อนขาย! 4 จุดบอด ขายอาหารคลีน แบบนี้มีแต่เจ๊ง!

ในปัจจุบันนี้จะสังเกตได้ว่า เป็นยุคที่คนหันมาใส่ใจในสุขภาพของตัวเองมากขึ้น มีกิจกรรมรณรงค์เรื่องสุขภาพออกมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย หรือแม้แต่การบริโภคอาหารที่มีประโยชน์ เพราะเรื่องอาหารการกินก็เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้สุขภาพร่างกายดีขึ้น จึงเป็นผลทำให้ทุกวันนี้เราจะเห็นร้านอาหารคลีนใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมายอย่างต่อเนื่อง เราจะเห็นโฆษณาบ่อย ตามช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instargram และช่องทางออนไลน์อื่นๆ เมื่อมีกระแสคนรักสุขภาพมากขึ้น ก็เป็นการเพิ่มช่องทางทำเงินจากธุรกิจอาหารคลีนได้มากขึ้นเช่นกัน แต่การจะ ขายอาหารคลีน ให้รุ่งนั้น ต้องรู้ว่าอะไรควรทำ และอะไรที่เป็นจุดบอดควรหลีกเลี่ยง

 

ขายอาหารคลีน ควรเลี่ยง 4 จุดบอดนี้!!

อาหารคลีน  (Clean Food) คือ อาหารที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่ในการปรุงอาหาร ขั้นตอนในการปรุงจะไม่ใช้สารเคมีปรุงแต่งอาหาร หรือผ่านการแปรรูปให้น้อยที่สุด และไม่ผ่านกระบวนการปรุงแต่งรสชาติที่มากเกินไป แต่ยังคงไว้ซึ่งสารอาหารและคุณค่าครบถ้วน รวมถึงมีการคำนวณพลังงานที่ร่างกายจะได้รับในแต่ละมื้ออาหารนั้นไว้ด้วย ดังนั้น อาหารคลีนจึงเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพนั่นเองค่ะ

และถึงแม้ว่ากระแสอาหารคลีนยังคงอยู่ และมีผู้ประกอบการที่อยาก ขายอาหารคลีน เกิดขึ้นมากมาย แต่ก็ใช่ว่าทุกร้านจะอยู่รอดนะคะ ขายอาหารคลีน ยังต้องมีองค์ประกอบอีกหลายอย่างที่ต้องรู้ รวมถึง จุดบอดที่ควรเลี่ยงอย่างที่เราได้กล่าวไป ซึ่ง4 จุดบอดนั้นคือ

จุดบอดที่ 1 รสชาติไม่อร่อย

แน่นอนว่าใครๆ ก็อยากจะบริโภคอาหารที่อร่อยจริงไหมคะ แม้ว่าจะเป็นอาหารคลีนก็ตาม แต่คนทานก็ยังคงหวังว่าจะได้ทานอาหารคลีนที่ดีด้วยและอร่อยด้วย เพราะอาหารกับรสชาติย่อมเป็นของคู่กัน การต้องทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ แต่ต้องฝืนในรสชาติของอาหารนั้นๆ ก็อาจจะทำให้หลายคนถอดใจในการทาน ซึ่งก็ทำให้เสียลูกค้าค้าได้ ดังนั้น ถ้าคิดจะขายอาหารคลีนให้ลูกค้าติดใจ ก็ต้องพัฒนาเรื่องรสชาติด้วย แต่ก็ยังคงคอนเซ็ปต์ของอาหารคลีนที่ต้องดีต่อสุขภาพด้วยค่ะ

 

จุดบอดที่ 2 เมนูจำเจ ไม่มีความหลากหลาย

เนื่องจากอาหารคลีนนั้น ค่อนข้างจะมีรสชาติที่จำกัดอยู่แล้ว และหากต้องทานอาหารที่มีรสชาติจำกัด แล้วยังเป็นอาหารแบบเดิมๆ ไม่หลากหลาย ลูกค้าก็คงเบื่อแย่ ดังนั้น จะขายอาหารคลีนก็ต้องมีไอเดียความคิดสร้างสรรค์เรื่องเมนูให้หลากหลาย คิดเมนูใหม่ๆ อยู่เสมอ ไม่ซ้ำซากจำเจ อาจจะเปลี่ยนไปตามเทศกาล หรือวัตถุดิบตามฤดูกาล และสร้างความแปลกใหม่ให้เมนู เพื่อดึงดูดลูกค้าไว้ค่ะ

 

จุดบอดที่ 3 ผิดพลาดเรื่องความสะอาด

ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า อาหารคลีน นอกจากจะคลีนในแง่ของความสดของวัตถุดิบแล้ว เรื่องของความสะอาดก็สำคัญมากๆ เคยไหมคะที่เราซื้ออาหารคลีนมาทาน แล้วเจอสิ่งแปลกปลอมปนมาด้วย นั่นแสดงถึงความไม่ใส่ใจในเรื่องความสะอาดของร้านอย่างยิ่ง แบบนี้ลูกค้าหนีหายแน่นอน ถึงร้านคุณจะอร่อยเพียงใด แต่เรื่องสุขอนามัยเป็นความผิดพลาดที่ไม่น่าให้อภัยที่สุด ถ้าคุณคิดจะขายอาหารค่ะ

 

จุดบอดที่ 4 ความใส่ใจไม่มี ทำแบบขอไปที

ความจริงแล้ว ไม่ว่าคุณจะทำร้านอาหารใดๆ ความใส่ใจในทุกขั้นตอนเป็นเรื่องที่สำคัญ โดยเฉพาะการ ขายอาหารคลีน ซึ่งเป็นอาหารสุขภาพที่ต้องใส่ใจมากเป็นพิเศษ ต้องพิถีพิถันในทุกๆ ขั้นตอน เริ่มตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบ การปรุงวัตถุดิบ ไปจนกระทั่งการจัดวางตกแต่ง หรือการจัดลงบรรจุภัณฑ์ เพราะหากคุณทำแบบขอไปที เชื่อว่าลูกค้าดูออกแน่นอน และนั่นก็อาจจะทำให้ลูกค้าเห็นถึงความไม่ใส่ใจของร้านคุณ และเสียลูกค้าไปในที่สุด

ขายอาหารคลีน

รู้จุดบอดไปแล้ว ใครที่คิดจะขายอาหารคลีนก็ควรเลี่ยงนะคะ แล้วจะ ขายอาหารคลีน อย่างไรจึงจะรุ่งและไม่เจ็บตัว มาดูเคล็ดลับกันค่ะ

1. เรียนรู้เข้าใจในกระบวนการทำอาหารคลีน และวิธีคำนวณปริมาณพลังงาน

ความยากอีกหนึ่งอย่างของการขายอาหารคลีน ก็คือ วิธีการคำนวณพลังงานต่อมื้อของอาหารนั้น สิ่งนี้คือกระบวนการที่เพิ่มจากการปรุงอาหารปกติ แต่ในยุคนี้สามารถหาข้อมูลความรู้เรื่องนี้ได้ง่ายขึ้นบนอินเทอร์เน็ต ดังนั้น ก่อนจะเปิดขายเจ้าของร้านควรต้องศึกษาเรื่องนี้อย่างละเอียดด้วยค่ะ เพราะถ้าคำนวณดีเห็นผล รับรองลูกค้าติดแน่นอน

2. กำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้ชัดเจน

แม้ว่าวัตถุประสงค์ในการทานอาหารคลีนจะเพื่อการดูแลสุขภาพร่างกาย แต่ยังมีจุดประสงค์อื่นๆอีก เช่น เพื่อควบคุมน้ำหนัก เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อในการเล่นฟิตเนส แน่นอนว่าพลังงานที่ต้องคำนวณย่อมต่างกัน และอีกประเด็นคือรสนิยมในการทานอาหารก็ไม่เหมือนกัน เช่น สาวออฟฟิศชอบทานอย่างหนึ่ง ในขณะที่วัยรุ่น นักศึกษาชอบทานอีกแบบ กำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ดีที่สุด แล้วลูกค้าก็จะอยู่กับคุณเองค่ะ

3. บริหารจัดการต้นทุนให้ดี

การบริหารต้นทุน คือ จุดอ่อนของคนทำธุรกิจอาหาร ไม่เว้นแม้แต่อาหารคลีน ถ้าคุณคำนวณต้นทุนและบริหารไม่ดี  คุณก็เหนื่อยเปล่า จำไว้ว่าเรื่องของต้นทุนเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องจัดการก่อนเป็นลำดับแรก ถ้าปล่อยให้ต้นทุนบานปลายคุณก็เสี่ยงเจ๊งสูงค่ะ

4. ตั้งราคาสมเหตุสมผล

เมนูอาหารเพื่อสุขภาพ หรืออาหารคลีน ที่เราเห็นทั่วไปส่วนใหญ่มักอยู่ในระดับราคาที่ค่อนข้างสูงกว่าอาหารปกติอยู่แล้ว ด้วยวัตถุดิบที่นำมาใช้ แต่ถ้าตั้งราคาสูงจนเกินไปก็ใช่ว่าจะส่งผลดี ลูกค้าอาจจะไปซื้อเจ้าอื่นได้ ในขณะเดียวกันถ้าราคาถูกจนเกินไป ก็อาจจะถูกมองว่าวัตถุดิบมีคุณภาพจริงหรือไม่ ดังนั้น ควรตั้งราคาให้เหมาะสมกับราคาวัตถุดิบ และกรรมวิธีที่คุณต้องทำเพิ่มเติมจากอาหารปกติด้วยค่ะ

5. บรรจุภัณฑ์สวยดูดี บอกพลังงานหรือแคลอรี่ชัดเจน

ต้องยอมรับว่าบรรจุภัณฑ์ เป็นอีกสิ่งที่หนึ่งที่ดึงดูดให้ลูกค้าหันมาสนใจอาหารคลีนของคุณได้ไม่น้อยค่ะ ยิ่งถ้าบรรจุภัณฑ์สวยดูดี สะดุดตา และที่สำคัญควรบอกปริมาณแคลอรี่ที่ชัดเจน จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจ อยากซื้อมากขึ้น รวมถึงการจัดวางอาหารลงในบรรจุภัณฑ์ก็ต้องมีความสวยงาม ก็จะยิ่งดึงดูดลูกค้า

ุ6. สื่อออนไลน์ ขาดไม่ได้ในการ ขายอาหารคลีน

ในยุคโซเชียลมีเดียครองเมืองแบบนี้ สื่อออนไลน์สำคัญมากๆ กับการทำธุรกิจก็ว่าได้ค่ะ น้อยคนที่จะขายของแล้วไม่ใช้ช่องทางออนไลน์ในการทำการตลาด ซึ่งสิ่งที่ต้องเรียนรู้การทำการตลาดออนไลน์สำหรับอาหารคลีนก็คือ การถ่ายรูป หากคุณถ่ายรูปอาหารให้ดูน่าทานมากเพียงใด ก็ยิ่งได้รับความสนใจมากขึ้นเท่านั้นค่ะ  และเมื่อมีภาพที่สวยแล้ว ก็อย่าลืมมาพร้อมคำบรรยายที่เปรียบเสมือนการแนะนำเมนูอาหารของร้านด้วย

7. ช่องทางเดลิเวอรี่ ขาดไม่ได้

ทุกวันนี้การตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค อันดับต้นๆ ที่ปฏิเสธไม่ได้เลยก็คือ ความสะดวกสบายในการซื้อ การจัดส่ง ดังนั้นร้านอาหารแทบทุกร้านต้องมีบริการเดลิเวอรี่ และการจัดส่งที่รวดเร็ว อาหารคลีนก็เช่นกันค่ะ ถ้าคุณมีบริการเดลิเวอรี่ส่งตรงถึงที่ การขายก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป บอกเลยว่าช่องทางนี้เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ช่วยเพิ่มยอดขายให้ร้านของคุณได้เยอะเลยค่ะ

 

การทำธุรกิจอาหารคลีนนั้นอย่างที่บอกว่า แม้จะเป็นกระแสความนิยมอยู่ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีความเสี่ยง เมื่อเรารู้จุดบอดที่ควรเลี่ยง และสิ่งที่ควรทำแล้ว แต่ก็ยังมีรายละเอียดอื่นๆ ที่เจ้าของร้านยังต้องศึกษาเพิ่มเติมอีกมากมาย เพราะฉะนั้น ใครที่กำลังคิดจะเปิดร้านอาหาร แล้วอยากให้ร้านของคุณเติบโตได้มากกว่าที่คิดกับหลักสูตรที่เข้มข้นที่สุดในรอบปี  Operation Setup วางระบบร้านอาหารอย่างมืออาชีพ รุ่นที่ 4  ถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์จากวิทยากร  ที่การันตีความสำเร็จ จากประสบการณ์การบริหารธุกิจร้านอาหาร ทั้งในและต่างประเทศ กับ Blue Elephant International, YUM Brand LSG Sky Chef , Minor Food และ Wow Thai Food Holding ประเทศเนเธอร์แลนด์ คุณธามม์ ประวัติตรี   วันอังคารที่ 29 และวันพุธที่ 30 ตุลาคม 2562 เวลา 09.00 -17.00 น.

สมัครเลยถ้าคุณไม่อยากพลาดหลักสูตรที่จะช่วยแก้ทุกปัญหาให้กับคุณ  คลิก!!

 

อ่านต่อบทความที่น่าสนใจ

Bartercard ทางเลือกคนทำธุรกิจ ช่วยเพิ่มยอดขาย ค่าใช้จ่ายลด

วิธี คำนวณต้นทุนร้านอาหาร ที่เจ้าของร้านต้องรู้! by คุณ ธามม์ ประวัติตรี

FIFO เทคนิคการจัดเก็บวัตถุดิบร้านอาหาร ที่ช่วยลดต้นทุนได้

อย่าปล่อยให้ ระบบงานครัว ทำร้านเจ๊ง ถึงเวลาเจ้าของร้านต้องวางแผน

วิธีรับมือลูกค้า ที่มีปัญหา รับมืออย่างไรให้เจ๋ง พลิกวิกฤตเป็นโอกาสได้

เปิดร้านของตัวเอง VS ซื้อแฟรนไชส์ แบบไหนดีกว่ากัน?

How to 10 เทคนิค ถ่ายภาพอาหารให้น่ากิน

วิธีเก็บผัก เก็บอย่างไรให้ถูกต้อง และเก็บได้นาน

MAJI Curry ข้าวแกงกะหรีี่จากญี่ปุ่น ดึงจุดแข็งดีกรีแชมป์เรียกลูกค้าคนไทย

เปิดร้านของตัวเอง VS ซื้อแฟรนไชส์ แบบไหนดีกว่ากัน?

เรื่องแนะนำ

เริ่มต้นเปิดร้านอาหาร

9 ขั้นตอนการ เริ่มต้นเปิดร้านอาหาร อย่างมืออาชีพ

อยากเปิดร้านอาหาร แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี? เรามีขั้นตอน การเริ่มต้นเปิดร้านอาหาร มาฝาก เผื่อจะเป็นแนวทางสำหรับใครที่ยังนึกไม่ออกว่าจะเริ่มต้นอย่างไร

เทรนด์โลก

5 เทรนด์โลก กับเรื่องที่ผู้ประกอบการ (ธุรกิจผลิตอาหาร) ต้องปรับตัวให้ทัน

เรื่องของอาหารการกินเป็นสิ่งที่หลายคนให้ความใส่ใจและพิถีพิถันในการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง ถึงขนาดมีคำพูดติดปากที่ว่า “เรื่องกินเรื่องใหญ่”

ถามตัวเองก่อนเริ่มทำร้านอาหาร

4 คำถามที่ควร ถามตัวเองก่อนเริ่มทำร้านอาหาร

คำถามเหล่านี้น่าจะช่วยให้คุณตัดสินใจในการจะเริ่มร้านอาหารได้ง่ายขึ้น อย่างนั้นมาดู 4 คำถามที่ควร ถามตัวเองก่อนเริ่มทำร้านอาหาร กันเลยครับ

เดลิเวอรี่

5 ปัญหาต้องรู้! ก่อนนำร้านเข้าสู่ระบบ เดลิเวอรี่

เดลิเวอรี่ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางทำกำไรในธุรกิจอาหารก็ว่าได้ค่ะ แต่แน่นอนว่ามีข้อดี ก็ย่อมมีข้อเสีย ถ้าหากลองติดตามกลุ่มเจ้าของร้านอาหารขนาดเล็ก ก็จะพบว่าหลายรายมีปัญหากับการเข้าร่วมให้บริการเดลิเวอรี่ ซึ่งส่งผลต่อการบริหารจัดการร้านอาหารอยู่ไม่น้อย วันนี้ Amarin Academy รวม 5 ปัญหาที่ต้องเจอ เมื่อร้านของคุณเข้าสู่ระบบ เดลิเวอรี่ และร้านอาหารต้องเตรียมรับมืออย่างไร   5 ปัญหา เมื่อนำร้านเข้าสู่ระบบ เดลิเวอรี่ 1. ระบบการทำบัญชี ระบบบัญชี การเงิน และกระแสเงินสดมีความสำคัญกับธุรกิจร้านอาหารมาก ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้น เมื่อนำร้านเข้าระบบ เดลิเวอรี่ ก็คือ การรายงานยอดขายที่ไม่ตรงกันระหว่างหน้าร้านและผู้ให้บริการ กำหนดและระบบการวางบิล การจ่ายเงินค่าคอมมิชชั่นที่ไม่สอดคล้อง ซึ่งถ้าหากต้องมีการจัดการแก้ไขทุกเดือนก็จะทำให้เสียเวลาในการบริหารจัดการอยู่ไม่น้อย เพราะฉะนั้นก่อนการตกลงทำสัญญาเป็นพันธมิตรร่วมกับผู้ให้บริการรายใด ร้านอาหารจำเป็นต้องศึกษาระบบด้านการเงิน การบัญชี เพื่อเลือกผู้ให้บริการที่สอดคล้องกับระบบร้านของตัวเอง หรือเตรียมความพร้อมด้านระบบบัญชีหลังบ้าน เพื่อลดปัญหาในการดำเนินการให้มากที่สุด และควรคำนึงถึงการจัดการด้านภาษีจากรายได้ส่วนนี้ด้วย   2. รสชาติ และคุณภาพอาหารลดลง เมื่อนำร้านเข้าระบบเดลิเวอรี่ อีกหนึ่งปัญหาที่อาจต้องเจอ ก็คือ รสชาติและคุณภาพอาหารที่ลดลง บางร้านถึงขั้นแย่เลยทีเดียว ซึ่งสาเหตุอาจเกิดจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นระยะเวลาในการจัดส่ง หรือการบรรจุภัณฑ์ที่ไม่ดีพอ ตัวอย่างเช่น กรณี […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2024 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.