เสิร์ฟเร็วขึ้น 10 นาที เพิ่มยอดขาย ได้ปีละ 4 แสน! - Amarin Academy

เสิร์ฟเร็วขึ้น 10 นาที เพิ่มยอดขาย ได้ปีละ 4 แสน!

เสิร์ฟเร็วขึ้น 10 นาที เพิ่มยอดขาย ได้ปีละ 4 แสน!

ร้านอาหารที่ขายดีอยู่แล้ว แต่อยาก เพิ่มยอดขาย ควรทำยังไง ? ส่วนใหญ่มักเลือกเล่นโปรโมชั่นเพื่อ ดึงลูกค้าให้เข้าร้านเพิ่มขึ้น ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิด แต่การทำโปรชั่นต้องแลกมากับการที่คุณอาจจะได้กำไรน้อยลง และถ้าหมดโปรโมชั่น ยอดขายก็อาจไม่พุ่งเท่าเดิม แล้วอย่างนี้มีวิธีอื่นๆ ไหม ที่ทำเราให้ได้ยอดขายเพิ่มขึ้น โดยที่กำไรไม่ได้ลดลง แถมยอดขายยังสูงสม่ำเสมอ เรามีวิธีดีๆ มาแนะนำ

วิธีที่ว่านั้นคือ เราต้องพยายามเพิ่มรอบ ให้ลูกค้าเข้าร้านได้มากขึ้น เช่น จากปกติรับลูกค้าได้วันละ 3 รอบ ก็เพิ่มเป็น 4 รอบ

อธิบายอย่างนี้อาจจะไม่เข้าใจ เราจะยกตัวอย่างง่ายๆ ให้ฟัง

สมมติว่าร้านอาหารของคุณเป็นร้านก๋วยเตี๋ยว ตั้งอยู่ในโซนออฟฟิศสำนักงาน มีโต๊ะทั้งหมด 10 โต๊ะ โต๊ะละ 4 ที่นั่ง (เท่ากับทั้งหมดมี 40 ที่นั่ง) ซึ่งแต่ละโต๊ะจะใช้เวลานั่งในร้านประมาณ 40 นาที ค่าเฉลี่ยต่อหัวที่ลูกค้าจ่ายคือคนละ 50 บาท

ช่วงเวลาที่คุณเปิดร้านคือ 08.00 – 15.00 น. แต่ช่วงเวลาที่ขายดีคือ ระหว่างเวลา 11.30 – 13.30 เราจะมาลองเพิ่มรอบในช่วงเวลานี้กัน

  • ลูกค้ารอบแรก (คนหิวเร็ว) จะอยู่ในร้านช่วงเวลา 11.30 – 12.10 น.
  • ลูกค้ารอบที่สอง (คนตรงเวลา) จะอยู่ในร้านช่วงเวลา 12.10 – 12.50 น.
  • ลูกค้ารอบที่สาม (คนไม่อยากต่อคิว) จะอยู่ในร้านช่วงเวลา 12.50 – 13.30 น.

เท่ากับว่า 1 วัน คุณจะรับได้ 3 รอบ โดย 1 รอบ อาจจะนั่งไม่เต็มร้าน แค่ประมาณ 35 ที่นั่ง เมื่อคำนวณแล้วจะพบว่า

  • 1วันคุณจะมียอดขาย 5,250 บาท (35 ที่นั่ง คูณ 3 รอบ คูณ ค่าเฉลี่ยต่อหัว 50 บาท)
  • 1เดือน ขาย 22 วัน (หยุดวันเสาร์ – อาทิตย์) เท่ากับ115,500 ต่อเดือน (5,250 คูณ 22 วัน)
  • 1ปี มี 12 เดือน เท่ากับ 1,386,000 บาท (115,500 คูณ 12 เดือน)

ตัวเลขนี้ คือยอดขาย ยังไม่หักต้นทุน ซึ่งตามปกติ กำไรของร้านอาหารจะอยู่ที่ 10 – 25 % ขึ้นอยู่กับระบบการจัดการ เราของยกเลขกลางๆ คือ 15 % เท่ากับ 1 ปี คุณจะมีกำไร ประมาณ 207,900 บาท

กลับกัน หากคุณทำให้ลูกค้าลุกเร็วขึ้น ไม่ว่าจะด้วยการรับออร์เดอร์เร็ว เสิร์ฟอาหารเร็ว เช็คบิลเร็ว ลองมาดูตัวเลขที่เพิ่มขึ้นกัน

เดิมลูกค้าจะใช้เวลาในร้าน 40 นาที ก็ลองปรับวิธีการทำงาน โดยพยายามทำให้อยู่ในร้านแค่ 30 นาที ลองมาคิดตามดู

  • ลูกค้ารอบแรก (คนหิวเร็ว) จะอยู่ในร้านช่วงเวลา 11.30 – 12.00 น.
  • ลูกค้ารอบที่สอง (คนตรงเวลา) จะอยู่ในร้านช่วงเวลา 12.00 – 12.30 น.
  • ลูกค้ารอบที่สาม (คนเดินช้า) จะอยู่ในร้านช่วงเวลา 12.30 – 13.00 น.
  • ลูกค้ารอบที่สี่ (คนไม่อยากต่อคิว) จะอยู่ในร้านช่วงเวลา 13.00 – 13.30 น.

เท่ากับว่า 1 วัน จากที่คุณจะรับลูกค้าได้ 3 รอบ ก็เพิ่มเป็น 4 รอบ รายได้จะเพิ่มเท่าไร ?

  • 1วันคุณจะมียอดขาย 7,000 บาท (35 ที่นั่ง คูณ 4 รอบ คูณ ค่าเฉลี่ยต่อหัว 50 บาท)
  • 1เดือน ขาย 22 วัน (หยุดวันเสาร์ – อาทิตย์) เท่ากับ 154,500 ต่อเดือน (7,000 คูณ 22 วัน)
  • 1ปี มี 12 เดือน เท่ากับ 1,848,000 บาท (154,000 คูณ 12 เดือน)

เท่ากับ 1 ปี คุณจะมีกำไร ประมาณ 277,200 บาท

นั่นแสดงว่า 1 ปี ยอดขายคุณจะเพิ่มสูงถึง 462,000 บาท กำไรจะเพิ่มขึ้นประมาณ 69,300 บาท*

(ตัวเลขนี้เป็นตัวเลขสมมติ ขึ้นอยู่กับจำนวนที่นั่ง จำนวนลูกค้า จำนวนค่าเฉลี่ยต่อหัว และอัตรากำไรของแต่ละร้าน)

แม้ว่าตัวเลขที่เรายกมาจะไม่ได้ตรงเป๊ะ แต่ก็ถือว่าเป็นแนวทางที่ทำให้คุณรู้ว่า เพิ่มยอดขาย อัพกำไร ไม่ได้มีวิธีแค่ทำโปรโมชั่นเพียงอย่างเดียว

แต่วิธีการลดระยะเวลาการทำงานลง เพื่อบริการลูกค้าได้เร็วขึ้นจะเป็นอย่างไร ติดตามได้ในบทความนี้

(5 เคล็ดลับ จัดการร้านอาหารดี บริการลูกค้าได้เร็ว ยอดขายเพิ่ม)

เรื่องแนะนำ

พกน้ำจิ้มไปร้านอาหาร เป็นการไม่ให้เกียรติร้านไหม? ความคิดเห็นจากสมาชิก กลุ่มคนรักบุฟเฟต์ (Buffet Lovers)

พกน้ำจิ้มไปร้านอาหาร เป็นการไม่ให้เกียรติร้านไหม? ความคิดเห็นจากสมาชิก กลุ่มคนรักบุฟเฟต์ (Buffet Lovers) แอดได้ไปเห็นโพสต์หนึ่งที่สมาชิก “กลุ่มคนรักบุฟเฟต์ (Buffet Lovers)” ได้มาตั้งคำถามเกี่ยวกับประเด็นเรื่องน้ำจิ้มได้อย่างน่าสนใจ ซึ่งประเด็นนี้ได้มีการตั้งคำถามถึง “การพกน้ำจิ้มไปร้านบุฟเฟต์ ว่าเป็นการกระทำที่ไม่ให้เกียรติร้านหรือไม่?” โดยสมาชิกเจ้าของโพสต์ ได้ยกตัวอย่างว่าเธอก็เป็นคนหนึ่งที่พกน้ำจิ้มซีฟู้ดไปร้านบุฟเฟต์ ด้วยเหตุผลว่าบางร้านน้ำจิ้มไม่ถูกปาก เลยพกไปเองดีกว่าจะได้กินได้เยอะ ๆ และเปรียบเทียบว่าถ้าตนเป็นเจ้าของร้านก็น่าจะชอบ ที่ไม่ต้องเปลืองน้ำจิ้มที่ร้าน . ซึ่งเมื่อเรื่องนี้ออกไปก็ได้มีสมาชิกกลุ่มดังกล่าวต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันด้วยเหตุผลที่หลากหลาย แบ่งออกเป็น 2 ฝ่ายหลัก ๆ คือฝ่ายที่คิดว่าสามารถพกน้ำจิ้มไปได้ ไม่เห็นเป็นอะไร แต่ต้องมีการสอบถามหรือขออนุญาตร้านก่อนพกน้ำจิ้มเข้าไปด้วย กับฝ่ายที่คิดว่าไม่ควรนำอาหารอื่น ๆ เข้าร้านอาหาร โดยสรุปเป็นเหตุผลหลัก ๆ ได้ ดังนี้  มองว่า พกน้ำจิ้มไปได้ กินคีโต “คนกินคีโตต้องพกไปค่ะ ต้องปรุงน้ำจิ้มเอง แล้วไปทานเนื้อสัตว์ (ที่ไม่หมัก) ที่ร้าน แต่คิดว่ายังไงก็ควรพูดคุยตกลงกันก่อนว่าโอเคทั้งสองฝ่ายไหม เพราะบางร้าน Signature เขาคือน้ำจิ้ม” “คนกินคีโตบางที่ก็เรื่องปกติเลย พกไปเองเพราะไม่อยากหลุดหรือปนเปื้อนเยอะกว่าจะเข้าใหม่ลำบาก” “เราทานคีโต พกน้ำจิ้มไปเอง ร้านน่าจะชอบนะคะ เพราะเราทานน้ำจิ้มทั่วไปไม่ได้” […]

เทคนิคการขยายสาขา

7 เทคนิคการขยายสาขา จาก 7 ร้านดัง

ร้านอาหารหลายๆ ร้านอาจกังวลว่าหากขยายไป สาขาสองอาจไม่เปรี้ยงเท่าสาขาแรก เราจึงรวบรวม เทคนิคการขยายสาขา จากร้านดังที่ประสบความสำเร็จมาฝากกัน

6 เคล็ดลับ การเปิดร้านอาหาร ให้ “รอด” และ “รวย”

บางคนคิดว่า การเปิดร้านอาหาร เป็นเรื่องง่ายมีเงินก็สามารถเปิดร้านได้แล้ว แต่จะเปิดให้อยู่รอดได้นั้นยากมาก แล้วเคล็ดลับที่จะทำให้ร้านอาหารอยู่รอด คืออะไร? ” การเปิดร้านอาหาร นั้นง่าย แต่ให้อยู่รอดนั้นยาก” คำกล่าวที่ใครหลายๆคนพูดไว้ ธุรกิจร้านอาหารเป็นธุรกิจสำหรับคนที่พอมีเงินลงทุน มักจะเลือกลงทุน เพราะคิดว่าเป็นธุรกิจที่ไม่ยุ่งยาก อย่างไรก็ตามกลับพบว่า ร้านอาหารที่เปิดขึ้นมากมายในแต่ละปีนั้น ปิดตัวลงไปหลายร้าน สาเหตุอาจมาจาก รายได้ไม่เป็นไปตามที่คิด เงินทุนสำรองไม่พอ ค่าใช้จ่ายสูง ในที่สุดก็ต้องปิดกิจการลง สำหรับมือใหม่ที่อยากมีอาชีพด้วยการเปิดร้านอาหาร วันนี้เรามีเคล็ดลับการเปิดร้านอาหาร ให้รอด และ รวย  มาฝากคนที่อยากทำร้านอาหารค่ะ   1.ทำเลที่ตั้ง คนที่อยากจะเปิดร้านอาหาร ไม่ว่าใครต่อใครก็อยากอยู่ในบริเวณแหล่งชุมชนคนเยอะๆ ถ้าจะให้ดีควรลงพื้นที่สำรวจและสังเกตว่ามีกลุ่มลูกค้ามากน้อยแค่ไหน ดูว่ากลุ่มคนแถวนั้นเป็นลูกค้ากลุ่มใด เช่น พนักงานบริษัท กลุ่มคนทำงานโรงงาน กลุ่มนักเรียน นักศึกษา หรือพ่อบ้านแม่บ้าน เพราะกลุ่มคนจะสัมพันธ์กับชนิดสินค้าและราคาที่เราจะขาย เช่น เราคงไม่เปิดร้านอาหาร Fine Dining ในย่านสถานศึกษาเพื่อขายนักเรียน แต่ควรขายของที่กินง่ายๆ อย่างไก่ป๊อบทอด เฟรนช์ไฟลส์ทอด ในราคาไม่แพง นอกจากนั้นต้องรู้ว่าเวลาเข้างาน พักเที่ยง เลิกงาน  เพื่อให้เรารู้ว่าเวลาไหนคนเยอะคนน้อย เตรียมของขายได้ถูกช่วงเวลา […]

อาหารบูด

เมื่อลูกค้าเจอ ” อาหารบูด ” ควรทำอย่างไร

ร้านอาหารหลายๆ ร้าน คงเคยเจอปัญหาลูกค้าเจอ อาหารบูด ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของร้านอาหารเลยก็ว่าได้ แล้วอย่างนี้ เจ้าของร้านจะแก้ไขสถานการณ์นั้นอย่างไรดีล่ะ

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.