ครัว ถือเป็นหัวใจสำคัญของร้านอาหาร ถ้าเจ้าของร้านอาหารวางระบบครัวได้ดี เลือกเครื่องครัวได้เหมาะกับเมนูอาหาร งานทุกอย่างก็ราบรื่น ออกอาหารเร็ว ลูกค้าไม่ต้องรอนาน แถมประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วย เราจึงมีเทคนิคการ วางผังครัวร้านอาหาร ที่ดี พร้อมวิธีการเลือกเคาท์เตอร์ครัวให้เหมาะกับร้านอาหารมาแนะนำ
เทคนิคการ วางผังครัวร้านอาหาร ให้งานราบรื่น
การวางระบบครัวที่ดี
1.เหมาะกับสไตล์และเมนูอาหาร
ก่อนจะวางระบบครัว เจ้าของร้านอาหารต้องกำหนดรูปแบบและสไตล์อาหารให้ชัดเจนเสียก่อน เพื่อจะได้ระบุสัดส่วนของครัวและการจัดวางตำแหน่งอุปกรณ์ครัวให้เหมาะสม เพราะอาหารแต่ละประเภทมีระบบครัวที่ต่างกัน เช่น ครัวอาหารประเภทชาบู สุกี้ ที่เป็นบุฟเฟต์ อาจไม่ต้องการพื้นที่ในการปรุงอาหารมากนัก แต่จำเป็นต้องมีพื้นที่ในการจัดเก็บวัตถุดิบเพื่อรอเสิร์ฟค่อนข้างมาก เพื่อจะได้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าและเสิร์ฟได้ด้วยความรวดเร็ว ลูกค้าไม่ต้องรอนาน ตรงข้ามกับครัวอาหารไทย ที่จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับพื้นที่ปรุงอาหาร เพราะอาหารไทยมีความหลากหลาย ทั้งต้ม ผัด แกง ทอด จึงต้องออกแบบผังครัวให้เหมาะสม ภาชนะที่ใส่วัตถุดิบต้องอยู่ใกล้มือ เพื่อให้เชฟหยิบจับได้สะดวก ที่สำคัญต้องมีระบบระบายอากาศที่เหมาะสมด้วย
2.พนักงานเคลื่อนไหวสะดวก
การวางผังครัว ต้องคำนึงถึงการเคลื่อนไหวของพนักงานด้วย โดยต้องมีพื้นที่กว้างพอเหมาะ ไม่กว้างเกินไป หรือแคบเกินไป พนักงานสามารถเดินสวนกันได้ โดยไม่ติดขัด
อุปกรณ์ต่างๆ ที่ต้องใช้ร่วมกัน ควรวางอยู่ใกล้กัน เช่น ตู้แช่วัตถุดิบ ควรอยู่ใกล้กับส่วนที่ปรุงอาหาร เวลาเชฟปรุงอาหารจะได้ไม่ต้องเสียเวลาในการเดินไปหยิบ และนอกจากระยะใกล้ – ไกล แล้ว ควรคำนึงถึงการก้มและเอื้อมหยิบของด้วย เพราะหากพนักงานต้องก้มตัว หรือเอื้อมหยิบของบ่อยๆ อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บขณะทำงานได้
3.ระบบน้ำ ระบบไฟ พร้อมใช้ไม่ขัดข้อง
ระบบน้ำ – ไฟ ต้องมีการออกแบบให้พร้อม ต้องเดินท่อน้ำดีและท่อน้ำเสียให้เหมาะสม โดยร้านอาหารส่วนใหญ่มักประสบปัญหาเรื่องระบบน้ำเสีย นั่นคือท่อน้ำเสียออกแบบมาไม่เหมาะสมต่อการใช้งาน ทำให้เกิดการอุดตัน เนื่องจากน้ำเสียจากร้านอาหารมักมีไขมันผสมอยู่ด้วย ทำให้ท่ออุดตันง่าย จึงอาจต้องมีระบบดักไขมันเพิ่มเข้ามา เพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว
ระบบไฟ เจ้าของร้านต้องระบุรายละเอียดเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ให้ชัดเจนเพื่อแจ้งให้ช่างไฟรับทราบ จะได้ติดตั้งระบบไฟให้เพียงพอต่อการใช้งาน โดยเฉพาะร้านประเภทชาบู ปิ้งย่าง ที่มีการใช้ตู้แช่แข็ง สำหรับแช่เนื้อสัตว์ และเตาไฟฟ้าจำนวนมาก หากกำลังไฟไม่เพียงพอ อาจทำให้เกิดปัญหาใหญ่ เช่น หม้อแปลงระเบิด ตามมาได้
การเลือกเคาท์เตอร์ครัว
1.วัสดุทนทาน ทำความสะอาดง่าย
เคาท์เตอร์ครัวที่ดี ต้องทำจากวัสดุที่ทนทาน ทนน้ำ – ทนไฟ พื้นผิวต้องสามารถรองรับแรงกระแทก การขีดข่วน – เสียดสีได้ดี โดยพื้นผิวครัวที่ร้านอาหารส่วนใหญ่นิยมใช้จะเป็น สแตนเลส หรือหินสังเคราะห์ เนื่องจากทนทาน อายุการใช้งานยืนยาว (ซื้อครั้งเดียวไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย) ที่สำคัญทำความสะอาดง่าย และถูกสุขลักษณะ ไม่เป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรีย (เพื่อให้เป็นไปตาม ข้อบังคับร้านอาหาร 22 ข้อ อ่านเพิ่มเติม http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2561/A/042/19.)
2.เปิด – ปิด จัดเก็บอุปกรณ์ง่าย อำนวยความสะดวกในการปรุงอาหาร
อีกสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องคำนึงในการเลือกใช้เคาท์เตอร์ครัวคือ ต้องเปิด – ปิดง่าย (องศาการเปิดกว้างพอที่จะใส่อุปกรณ์ต่างๆ) เวลาหยิบอุปกรณ์ออกมาใช้งานก็สะดวก เพราะช่วงเวลาเร่งด่วนที่มีออเดอร์เยอะๆ ถ้าพนักงานครัวต้องเจออุปสรรคในการหยิบอุปกรณ์ หรือหาเครื่องครัวไม่เจอ ก็จะทำให้ออกอาหารช้า ส่งผลกระทบต่องานด้านอื่นๆ
นอกจากนี้เคาท์เตอร์ครัวที่ด้านล่างเป็นตู้เก็บของในตัว ควรต้องมีช่องระบายอากาศ เพราะเครื่องครัวหรืออุปกรณ์บางชนิดอาจทำจากไม้ ถ้าจัดเก็บไม่ดี อาจเกิดเชื้อราได้
3.ออกแบบได้เหมาะสมตามการใช้งาน
ร้านอาหารส่วนใหญ่มักมีการออกแบบพื้นที่ครัวขึ้นมาโดยเฉพาะ ซึ่งสิ่งสำคัญที่ควรกำหนดให้ชัดเจนคือ ความกว้าง ความสูงของเคาท์เตอร์ครัว ที่ต้องกำหนดให้พอเหมาะ ไม่สูงหรือเตี้ยจนเกินไป เพราะหากเชฟต้องปรุงอาหารโดยยืนผิดท่าตลอดเวลา อาจทำให้เคลื่อนไหวไม่สะดวก หรือเป็นอันตรายต่อสุขภาพในระยะยาวได้
ทุกวันนี้มีบริษัทรับออกแบบเคาท์เตอร์ครัวให้เลือกมากมาย ซึ่ง Giohome ก็เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีบริการออกแบบเคาท์เตอร์ครัวครบครัน เจ้าของร้านอาหารท่านใจสนใจสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Giohome
การ วางผังครัวร้านอาหาร เป็นเรื่องสำคัญที่เจ้าของร้านอาหารจะมองข้ามไม่ได้เลย เพราะถ้าคุณวางผังครัวผิด อาจทำให้งานที่ควรจะราบรื่น เกิดอุปสรรคตามมาได้ ฉะนั้นก่อนวางผังครัว ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญและคิดให้รอบคอบก่อนจะดีที่สุด
กลับมาอีกครั้งกับหลักสูตร HR for Food Business บริหารคน สำหรับธุรกิจอาหาร รุ่นที่ 3 หลักสูตรที่จะทำให้ผู้ประกอบการเรียนรู้การบริหารบุคลากรอย่างมีประสิทธิภาพ ไขข้อข้องใจปัญหาเรื่องพนักงานลาออกบ่อย ขาด ลา มาสาย ทะเลาะกัน การหาพนักงานที่ดี โครงสร้างเงินเดือน สัญญาจ้างงาน รวมถึงกฎหมายเกี่ยวกับแรงงานต่างๆ ที่ต้องรู้ โดยวิทยากร คือ อาจารย์ พีรพัฒน์ กองทอง ผู้มีประสบการณ์จากธุรกิจอาหารเชนใหญ่อย่าง แมคโดนัลด์ ประเทศไทย ที่จะมาพร้อมแขก สุดพิเศษ ร่วมแชร์ประสบการณ์การบริหารจัดการพนักงานในร้าน งานนี้จะจัดขั้นในวันอังคารที่ 31 มีนาคม – วันพุธที่ 1 เมษายน 2563 เวลา 9.00-17.00 น.
คลิกสมัครด่วน! หลักสูตร HR for Food Business บริหารคน สำหรับธุรกิจอาหาร รุ่นที่ 3