Copper International Buffet ผู้กล้าปฏิวัติวงการบุฟเฟต์นานาชาติ
เวลาที่เราอยากกินบุฟเฟต์ดีๆ มีคุณภาพ ปรุงจากวัตถุดิบสดใหม่ เรามักจะคิดถึงการไปกินบุฟเฟต์ระดับพรีเมียม ในห้องอาหารของโรงแรม (ที่ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในเมือง) แต่ในโซนปิ่นเกล้ายังมีร้านบุฟเฟต์นานาชาติที่ใครต่อใครต่างอยากมาลิ้มลองอยู่แห่งหนึ่ง นั่นคือ Copper International Buffet ร้านอาหารสไตล์บุฟเฟต์นานาชาติ ใน The sense ปิ่นเกล้า ที่คุณเกษมสันต์ สัตยารักษ์ General Manager ของร้านบอกว่า เป็นการปฏิวัติวงการบุฟเฟต์นานาชาติของเมืองไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณภาพของอาหารและการบริการ
จากประสบการณ์ในการทำร้านอาหารแบบ Fine Dining มากกว่า 30 ปี ทำให้ลูกค้าที่เข้ามาในร้านจะได้รับประสบการณ์แบบที่ไม่เคยสัมผัสจากที่ไหนมาก่อน เราอยากทำร้านบุฟเฟต์รูปแบบใหม่ที่ลูกค้าจะได้กินอาหารร้อนๆ แบบจานต่อจาน โดยนำเทคนิคการทำอาหารสไตล์อิตาลีและฝรั่งเศสมาใช้กับบุฟเฟต์นานาชาติ
เริ่มต้นจากการวางแผนที่ดี
ก่อนจะทำร้านนี้ขึ้นมาผมกับเจ้าของร้านได้ทำการบ้าน โดยไปลองกินอาหารบุฟเฟต์จากหลายๆ ที่ ตั้งแต่ร้านข้างทางไปจนถึงบุฟเฟต์ในโรงแรม ใช้เวลาในการคิดคอนเซ็ปต์กว่า 1 เดือน จนกลายเป็นคอนเซ็ปต์ร้านแบบ Casual Fine Dining ที่เสิร์ฟอาหารปรุงร้อนอร่อยๆ พร้อมด้วยการตกแต่งและบริการในระดับเดียวกับร้านอาหารในโรงแรม เพื่อให้ทุกคนได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในทุกสัมผัส
เรื่องผิดพลาดในแง่ของคนที่ไม่เคยมีประสบการณ์การทำร้านอาหารมาก่อนเลยคือ มีแต่ความอยากแต่ไม่มีความรู้ มีเพื่อน มีเงิน ส่วนใหญ่ทำร้านแล้วค่อยมาแก้ปัญหากันทีหลัง แต่ในความเป็นจริงเราต้องวางแผนไว้ตั้งแต่ต้น ลิสต์รายการออกมาดูเลยว่าแต่ละฝั่งจะเกิดปัญหาอะไรขึ้นได้บ้าง ลองแบ่งปัญหาออกเป็นแต่ละหัวข้อ เช่น ปัญหาพนักงาน ปัญหาลูกค้า ปัญหาจากธรรมชาติ การเมือง วัตถุดิบ ฯลฯ แล้วเขียนคำตอบหรือวิธีการรับมือกับปัญหาเอาไว้ให้ชัดเจน
ลูกค้าส่วนใหญ่คิดว่านานๆ จะกินอาหารบุฟเฟต์โรงแรมสักทีหนึ่ง เพราะมีราคาค่อนข้างสูง ดังนั้นช่วงเปิดร้านใหม่ๆ เราทำการตลาดโดยเอาราคามาสู้ ในช่วง 6 เดือนแรกเรายอมขาดทุนมาโดยตลอด เพื่อให้คนรู้จักแบรนด์ของเรามากขึ้น โดยทางร้านได้คำนวณไว้แล้วว่าต้นทุนส่วนนั้นเป็นงบประมาณในการทำการตลาดที่เราต้องเสีย เพราะเรารู้ว่าเรื่องอย่างนี้ต้องใช้เวลา ประกอบกับเมื่อเขาเห็นถึงความคุ้มค่าที่เรามอบให้ สัมผัสได้ถึงคุณภาพของวัตถุดิบ เขาก็อยากกลับมาใหม่อีกหลายๆ ครั้ง
Service Mind ทำให้คนอยากมากินอาหารที่คอปเปอร์
แบรนด์คอปเปอร์นั้นกำลังแข็งขึ้นเรื่อยๆ โดยเกิดจากความรู้สึกของลูกค้าที่เหมือนกับว่าพวกเขาได้เจอคนรักแล้ว จึงอยากจะกลับมาหาอีกบ่อยๆ “ผมเชื่ออย่างหนึ่งว่าการทำร้านอาหาร ถ้าเราคิดถึงลูกค้าก่อน คิดว่าลูกค้าต้องการอะไร เหมือนกับการมี Service Mind ที่ดี ทำในสิ่งที่ลูกค้าต้องการ ทำในสิ่งที่ลูกค้าคาดไม่ถึง ทำในสิ่งที่ลูกค้ารู้สึกว่าไม่ต้องร้องขอ แต่เราทำให้เขาเลย นั่นล่ะคือความสำเร็จ”
จากการมีพื้นฐานในการทำร้านอาหารแบบ Fine Dining ทำให้เราเชื่อว่าในร้านระดับเดียวกัน คอปเปอร์มีคุณภาพการบริการที่ไม่แพ้ใคร รวมถึงเรื่องรสชาติของอาหาร ที่เราพิถีพิถันตั้งแต่ขั้นตอนการเลือกสรรวัตถุดิบที่ดี ขั้นตอนการปรุง ซึ่งมีการทดสอบอยู่ตลอดเวลา เพื่อรักษามาตรฐานของร้าน เหมือนกับเราย่อส่วนร้านอาหารแบบ Fine Dining มาอยู่ในร้าน ดังนั้นสิ่งที่ลูกค้าจะได้รับกลับไปนั้นคงเกินความคาดหมายอยู่แล้ว
สร้างตัวเลือก หลักในการทำโปรโมชั่น
ร้านอาหารที่ดีต้องประกอบไปด้วยปัจจัย 3 อย่าง คือ บรรยากาศการตกแต่งร้านให้สวย อาหารอร่อย และบริการที่ดี ต่อไปคือการทำให้ลูกค้ารู้จัก โดยเครื่องมือทางตลาดที่จะขาดไปไม่ได้เลยคือการใช้สื่อออนไลน์ เข้ามาช่วยประชาสัมพันธ์ทำให้คนรู้จักร้านมากขึ้น อย่าง Line@, Facebook และ Instagram
การทำโปรโมชั่นเรานึกถึงลูกค้าเป็นอันดับแรก โดยดูว่าเขาอยากกินอะไร เขาอาจอยากกินล็อบสเตอร์ เนื้อแกะ หรือตับห่าน เขาก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายแพง เพียงแค่มีบัตรสมาชิกของคอปเปอร์ ลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าเขาจะใช้สิทธิส่วนลดตามหลังบัตร หรือนำมาแลกเป็นเมนูจานพิเศษในช่วงฤดูกาลนั้นๆ แทนก็ได้ ให้เขาตัดสินใจเอง โดยที่เราไม่ได้ไปบังคับลูกค้า
ตัวตนของ Copper คือ “คุณธรรม”
ปัจจุบันเราใช้หลักธรรมะในการบริหารจัดการธุรกิจ เพื่อให้ธุรกิจสามารถยืนได้ในระยะยาว โดยอิงจากคำสอนของหลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม วัดอัมพวัน (จ.สิงห์บุรี) ที่ว่า “ยิ่งให้ยิ่งได้ ยิ่งหวงยิ่งอด” หลักการนี้มีความหมายคือในการทำธุรกิจ เราต้องรู้จักให้ โดยให้ในที่นี้คือการให้ใจทั้งกับลูกค้าและพนักงาน ในส่วนของลูกค้าอะไรที่ดี เราก็พร้อมจะให้บริการเขา อะไรที่ไม่ดีก็อย่าทำ
สำหรับพนักงานที่เหมือนกับฟันเฟืองของธุรกิจ เราต้องให้ความต้องการขั้นพื้นฐานกับพวกเขาได้ มีการจ่ายเงินเดือนเท่าไหร่ มีประกันสังคมให้เขาไหม สวัสดิการอื่นๆ เป็นอย่างไร พนักงานต้องการรายได้ที่ดี มีโบนัส มีวันหยุด มีงานสังสรรค์ฯลฯ ที่คอปเปอร์เราพาพนักงานไปเที่ยวกันทุกปี ปีแรกไปพัทยา ล่าสุดเป็นทริปปิดร้านไปเที่ยวภูเก็ต หลายคนไม่เคยขึ้นเครื่องบิน หลายคนไม่เคยเห็นทะเล เพียงเท่านี้ก็ทำให้เขามีความสุขได้ นั่นคือเราให้ใจกับเขาก่อน
สิ่งสำคัญอยู่ที่วิธีคิดของคุณว่า คุณได้ให้อะไรกับคนอื่นบ้าง อย่าเป็นเจ้าของธุรกิจที่หวังแต่ผลประโยชน์และคิดจะเอาเปรียบอยู่ฝ่ายเดียว
สุดท้ายแล้วคือการลงมือทำ ถ้าอ่านอย่างเดียวก็ได้แต่นึกตามหนังสือ แต่ถ้าลงมือทำก็จะเห็นเลยว่าความจริงคืออะไร เมื่อคิดแล้วก็ต้องลงมือทำ ลองให้รู้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะทำผิด เพราะการทำผิดให้มากๆ จะทำให้คุณได้เรียนรู้ว่าถูกคืออะไร ผิดเป็นแบบไหน และจะได้ไม่เดินซ้ำรอยเดิม
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ