8 Business New Year's Resolutions สำหรับคนทำธุรกิจ - Amarin Academy

8 Business New Year’s Resolutions สำหรับคนทำธุรกิจ

8 New Year’s Resolutions สำหรับคนทำธุรกิจ

เผลอแป๊ปเดียวก็ปีใหม่อีกแล้ว ปีใหม่แบบนี้บางคนคงมี New Year’s Resolution ที่ตั้งใจจะทำบ้างใช่ไหมครับ ส่วนใหญ่เรามักจะชอบตั้งปนิธานสิ่งที่อยากทำ คือ อยากจะแก้นิสัยเสียเล็กๆ น้อยๆ ของตัวเอง เช่น จะออกกำลังกาย จะลดน้ำหนัก จะอ่านหนังสือให้มากขึ้น จะหาเวลาพักผ่อนให้ตัวเองบ้าง แต่เมื่อเป็นเจ้าของธุรกิจแล้ว New Year’s Resolution ของคุณต้องไม่ธรรมดาแค่นั้นแล้วล่ะครับ คุณต้องตั้งปณิธานที่ไม่ใช่แค่ให้ตัวคุณดีขึ้น แต่ต้องส่งผลให้ธุรกิจของคุณดีขึ้นไปด้วย ฉะนั้นมาดูกันที่กว่า 8 New Year’s Resolutions สำหรับคนทำธุรกิจ ที่คุณปรับแล้ว ธุรกิจของคุณจะดีตามไปด้วย

1. ฉันจะเรียนรู้เรื่องการเงินให้เข้าใจมากขึ้น

สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเจ้าของธุรกิจคือ ศึกษารายรับ-รายจ่ายของบริษัทตัวเองให้มากขึ้น รู้ถึงจำนวนเงินทุกบาททุกสตางค์ ที่หมุนเวียนอยู่ในระบบ อย่าละเลยให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายบัญชีเพียงอย่างเดียว ควรรู้ที่มาที่ไปของเงินทุกเม็ดทุกหน่วย จะได้วิเคราะห์สถานะการเงินของตัวเองได้ถูกต้อง เผื่ออนาคตจะคุณเองมีแพลนจะขายการลงทุน จะได้รู้ว่าตัวเองพร้อมแล้วหรือไม่

2. ฉันจะตั้งเป้าหมายให้ธุรกิจ (ระยะสั้นและระยะยาว)

จดทะเบียนร้านอาหาร

การตั้งเป้าหมายไม่ว่าจะเป็นเรื่องของธุรกิจ หรือ การตั้งเป้าหมายในชีวิต เหมือนเป็นการเซ็ตจุดมุ่งหมายในชีวิตให้ตัวเอง ทำให้คุณรู้ว่าต้องเดินไปในทิศทางไหน และ จะต้องทำอย่างไรให้ไปถึงเป้าหมาย การตั้งเป้าหมายระยะสั้น และระยะยาว จะต้องเป็นสิ่งที่คุณคิดว่าคุณสามารถทำได้จริง อย่าตั้งเป้าหมายเกินตัว ถ้าทำไม่ได้ คุณจะรู้สึกเฟลเปล่าๆ เช่น ระยะสั้น คือ ทุกเดือนจะเพิ่มยอดให้ได้ X บาท หรือ 1 ปีให้ตั้งเป้าว่า ต้องสร้างยอดให้ได้เท่าไร ส่วนระยะยาวอาจจะเป็นภายใน 3 ปีจะต้องขยายกิจการ หรือ เริ่มขายแฟรนไชส์ ทั้งนี้ต้องตั้งเป้าหมายยากขึ้นไปเรื่อยๆ เพื่อท้าทายตัวเอง แต่เมื่อคุณทำได้สำเร็จ เชื่อเถอะว่ามันสามารถช่วยสร้างแรงกระตุ้น ในการทำธุรกิจของคุณได้อีกเยอะ

3. ฉันจะปรับปรุงเว็บไซต์

ถ้าเว็บไซต์ของบริษัทคุณถูกทิ้งให้ร้าง ไม่ได้ผ่านการอัพเดตมากกว่า 2 ปี คงถึงเวลาต้องปรับปรุงเว็บไซต์บ้างแล้วครับ เว็บไซต์ที่ดี ต้องสามารถสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทได้ด้วย สมมติถ้าลูกค้าได้ยินชื่อบริษัทคุณมา เลยเสิร์ชเข้าไปใน Google แล้วพบว่าเว็บไซต์คุณไม่น่าดึงดูด แถมยังเป็นข้อมูลไม่มีการอัพเดต ความน่าเชื่อถือของคุณอาจจะลดลงทันทีครับ เว็บไซต์เหมือนเป็นสวนหน้าบ้านครับ ก่อนจะเห็นตัวบ้านก็ต้องเดินผ่านสวน จะปล่อยให้ทรุดโทรม หญ้ารก ใบไม้แห้งร่วงเต็มพื้น ก็คงจะไม่งามใช่ไหมครับ ฉะนั้นสวนของคุณก็สำคัญไม่แพ้ตัวบ้านนะครับ

4. ฉันจะศึกษาการใช้โซเชียลมีเดีย

ปฏิเสธได้ยากว่า ธุรกิจสมัยนี้จะไม่พึ่งโซเชียลมีเดียเลย นอกจากจะเป็นช่องทางการทำการตลาด โปรโมทข่าวสาร ยังเป็นช่องทางที่สามารถพูดคุยกับลูกค้าได้โดยตรง ให้บริการได้ทั้งก่อนขายพูดคุยชักจูงลูกค้า และให้บริการหลังการขายได้อีกด้วย สร้างความผูกพันระหว่างแบรนด์และลูกค้าครับ  โซเชียลมีเดียจึงเป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างยิ่ง ในยุคดิจิตัลแบบนี้

5.ฉันจะปรับกลยุทธ์การทำธุรกิจ

แผนธุรกิจหรือกลยุทธ์อะไรที่คุณทำมาสักพักแล้ว ดูท่าทีจะไม่ได้ทำธุรกิจคุณเดินหน้าไปทางที่ดีขึ้นเท่าไร แถมอาจจะเหมือนย่ำอยู่กับที่ด้วยซ้ำ ดังนั้นปีใหม่ทั้งที ลองวิเคราะห์ จุดอ่อน-จุดแข็งของแบรนด์คุณ รวมไปถึงโอกาสและทิศทางที่ต้องการจะเติบโต เพื่อใช้ปรับแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจของคุณ ทั้งนี้ถ้าสินค้าอะไรที่ขายไม่ดี บริการไหนไม่เวิร์ค ก็ถือโอกาสนี้ลองปรับเปลี่ยนดูครับ ทั้งนี้รวมไปถึงบริษัทอื่นที่คุณดีลงานด้วย แล้วความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทไม่ค่อยเวิร์คเท่าไร ลองมองหาที่อื่นดูครับ ความสัมพันธ์คุณกับเขาอยู่ในระดับที่ดี ก็จะทำงานกันได้ง่ายขึ้น

6. ฉันจะสร้างทีมให้แข็งแกร่ง

ถ้าคุณเป็นคนงานล้นมือ แต่ไม่ไว้ใจที่จะแบ่งงานให้ลูกน้องคุณทำ แสดงว่าคุณยังไม่เชื่อในความสามารถลูกน้องตัวเอง แล้วพวกเขาจะเก่งขึ้นได้อย่างไร หากลูกน้องคุณไม่ได้เจองานที่ท้าทายบ้าง เพราะเขาจะไม่ได้พัฒนาตัวเองเลย แถมอาจจะรู้สึกว่าการทำงานในบริษัทคุณมันน่าเบื่อด้วยซ้ำ ลองมอบหมายงานยากๆ ให้ลูกน้องคุณบ้างครับ เพื่อจะได้รู้ความสามารถของลูกน้องคุณแต่ละคน แถมจะทำให้ทีมงานของคุณแข็งแกร่งขึ้นด้วยครับ หากรู้สึกว่าในทีมยังมีช่องโหว่อะไร ลองส่งลูกน้องของคุณไปเรียนคอร์สสั้นๆ เพิ่มเติมดูครับ จะได้นำความรู้มาช่วยบริษัทคุณได้ หรือคุณเองก็สามารถช่วยสอนลูกน้องคุณได้ ต้องเป็นทั้งเจ้านายและคุณครูในคราวเดียวกัน ปรับเรื่องนี้ได้ คุณจะได้มีเวลาไปทำงานที่สำคัญ หรือ คิดโปรเจคใหม่ๆ ให้กับบริษัท

7. ฉันจะรับฟังให้มากขึ้น

“ฟังมากกว่าพูด ทำมากกว่าคิด” ใช้ได้กับทุกเรื่องและทุกสถานการณ์ครับ การฟังความเห็นลูกน้องทำให้คุณได้เห็นมุมมองใหม่ๆ หรือประเด็นหลายๆ อย่างที่คุณมองข้ามครับ เรื่องบางเรื่องคุณอาจจะเก่งไม่เท่าลูกน้องนะครับ เพราะพวกเขาจะใกล้ชิดกับงานที่เขารับผิดชอบมากกว่าเราที่เป็นผู้มอบหมาย ฉะนั้นคุณยังต้องพึ่งความคิดเห็นจากพวกเขาอยู่นะครับ

8. ฉันจะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ทุกวัน

การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ในทุกๆ วัน จำเป็นอย่างมาก เขาว่าอ่านหนังสือ คือ การเปิดโลกทัศน์อย่างหนึ่ง แต่หากใครที่ไม่ชอบอ่านหนังสือ เพราะรู้สึกจำเจ ต้องใช้ระยะเวลานานกว่าจะจบสักหนึ่งเล่ม ก็อาจจะเริ่มจากการอ่านข่าวสารบ้านเมืองทุกเช้า หรือหาบทความอ่านทุกวัน อาจจะเป็นเรื่องที่คุณสนใจ หรือเรื่องธุรกิจ เศรษฐกิจ สังคม การเมือง ไม่จำเป็นต้องอ่านเรื่องซีเรียสก็ได้ครับ ผมเชื่อว่าแค่อ่านก็ได้ความรู้ไม่มากก็น้อย การอ่านเรื่องราวต่างๆ ยังช่วยให้คุณตามทันโลก และอาจจะช่วยให้คุณได้ไอเดียใหม่ๆ ในการทำงานด้วยก็ได้ นอกจากนั้นลองไปงานประชุม งานสัมมนา ลงคอร์สเรียนต่างๆ ดูครับ นอกจากจะได้ความรู้ ยังได้ทำความรู้จักคนใหม่ๆ เผื่อจะได้คอนเนคชั่นเพิ่มขึ้นครับ

เริ่มต้นปีใหม่แล้วทั้งที ถือเป็นโอกาสที่ดี ที่จะให้คุณได้ลองปรับเปลี่ยนอะไรใหม่ๆ ในชีวิต ไม่ใช่แค่เฉพาะเรื่องงานนะครับ อาจจะเป็นเรื่องส่วนตัว หรือ อะไรที่ตั้งจะทำมาตั้งนานแล้ว แต่ก็ไม่ได้ทำสักที ถือว่าเป็นฤกษ์ดี ที่ได้ปรับเปลี่ยนอะไรใหม่ๆ ในชีวิตบ้าง ปี 2021 จะได้เป็นปีที่ดีอีกหนึ่งปีครับ 

 

บทความที่น่าสนใจรับปีใหม่ สำหรับผู้ประกอบการร้านอาหาร เทคนิคปรับร้านรับปีใหม่

เรื่องแนะนำ

ขายอาหารคลีน

รู้ก่อนขาย! 4 จุดบอด ขายอาหารคลีน แบบนี้มีแต่เจ๊ง!

ในปัจจุบันนี้จะสังเกตได้ว่า เป็นยุคที่คนหันมาใส่ใจในสุขภาพของตัวเองมากขึ้น มีกิจกรรมรณรงค์เรื่องสุขภาพออกมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย หรือแม้แต่การบริโภคอาหารที่มีประโยชน์ เพราะเรื่องอาหารการกินก็เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้สุขภาพร่างกายดีขึ้น จึงเป็นผลทำให้ทุกวันนี้เราจะเห็นร้านอาหารคลีนใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมายอย่างต่อเนื่อง เราจะเห็นโฆษณาบ่อย ตามช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instargram และช่องทางออนไลน์อื่นๆ เมื่อมีกระแสคนรักสุขภาพมากขึ้น ก็เป็นการเพิ่มช่องทางทำเงินจากธุรกิจอาหารคลีนได้มากขึ้นเช่นกัน แต่การจะ ขายอาหารคลีน ให้รุ่งนั้น ต้องรู้ว่าอะไรควรทำ และอะไรที่เป็นจุดบอดควรหลีกเลี่ยง   ขายอาหารคลีน ควรเลี่ยง 4 จุดบอดนี้!! อาหารคลีน  (Clean Food) คือ อาหารที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่ในการปรุงอาหาร ขั้นตอนในการปรุงจะไม่ใช้สารเคมีปรุงแต่งอาหาร หรือผ่านการแปรรูปให้น้อยที่สุด และไม่ผ่านกระบวนการปรุงแต่งรสชาติที่มากเกินไป แต่ยังคงไว้ซึ่งสารอาหารและคุณค่าครบถ้วน รวมถึงมีการคำนวณพลังงานที่ร่างกายจะได้รับในแต่ละมื้ออาหารนั้นไว้ด้วย ดังนั้น อาหารคลีนจึงเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพนั่นเองค่ะ และถึงแม้ว่ากระแสอาหารคลีนยังคงอยู่ และมีผู้ประกอบการที่อยาก ขายอาหารคลีน เกิดขึ้นมากมาย แต่ก็ใช่ว่าทุกร้านจะอยู่รอดนะคะ ขายอาหารคลีน ยังต้องมีองค์ประกอบอีกหลายอย่างที่ต้องรู้ รวมถึง จุดบอดที่ควรเลี่ยงอย่างที่เราได้กล่าวไป ซึ่ง4 จุดบอดนั้นคือ จุดบอดที่ 1 รสชาติไม่อร่อย แน่นอนว่าใครๆ ก็อยากจะบริโภคอาหารที่อร่อยจริงไหมคะ แม้ว่าจะเป็นอาหารคลีนก็ตาม […]

ลูกค้าหายไปไหนกัน ? เจ้าของร้านตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับพฤติกรรมลูกที่เปลี่ยนไป

ลูกค้าหายไปไหนกัน ? รวมความคิดเห็นจากคนทำร้านกาแฟ เจ้าของร้านตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับพฤติกรรมลูกที่เปลี่ยนไป ร้านคุณกำลังเผชิญกับภาวะยอดขายตก ลูกค้าหายอยู่หรือเปล่า ? เจ้าของร้านกาแฟรายหนึ่งได้มาโพสต์ตั้งคำถามในกลุ่ม “คนบ้ากาแฟ” เกี่ยวกับการทำธุรกิจของตนเองในขณะนี้ได้อย่างน่าสนใจว่า เดี๋ยวนี้ลูกค้าหายไปไหนหมด โดยโพสต์ดังกล่าวได้ระบุข้อความว่า “#ลูกค้าหายไปไหน มาชวนเพื่อนๆ ช่วยกันคิดหน่อย คิดว่าตอนนี้หลายร้านคงเจอกับภาวะ “นั่งตบยุง” “นั่งไถมือถือ” “นั่งดู Netflix” เราเป็นคนนึงที่เคยไม่กินกาแฟ แต่พอเปิดร้านกาแฟกลายมาเป็นคอกาแฟ ขาดกาแฟไม่ได้สักวัน เปิดร้านกาแฟมาเข้าปีที่ 7 เราเริ่มสงสัยว่า “ลูกค้าหายไปไหน” ทั้ง ๆ ที่ในซอยที่ร้านเราอยู่ ไม่มีร้านกาแฟจริงจังที่เป็นคู่แข่ง อาจจะมีร้านชากาแฟที่เป็นคีออสบ้าง แต่ถ้าร้านกาแฟจริงจังมีเราร้านเดียว พอลูกค้าหายไป เราเลยเริ่มสงสัยว่าลูกค้าหายไปไหน หรือเกิดจากกระแส 1. กาแฟดริป/Moka pot ทานเองที่บ้าน 2. เครื่องทำกาแฟแคปซูล 3. กาแฟในร้านสะดวกซื้อ 4. ลูกค้าเลิกกินกาแฟ 5. ลูกค้าไปทานร้านอื่น เพื่อนๆ ช่วยเราคิดหน่อยว่าลูกค้าหายไปไหน?” . หลังจากที่โพสต์นี้ออกไปก็ได้มีทั้งเจ้าของร้านกาแฟ และผู้บริโภคต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นกัน โดยสรุปเป็นหลายปัจจัยดังนี้ ชงกินเองที่บ้าน […]

ลดต้นทุนวัตถุดิบ

7 วิธีสุดเจ๋ง ช่วย ลดต้นทุนวัตถุดิบ ได้ชัวร์!

ต้นทุนวัตถุดิบ หรือ food cost ถือเป็นค่าใช้จ่ายสูงที่สุดในร้านอาหาร หากเจ้าของร้านสามารถ ลดต้นทุนวัตถุดิบ ได้มาก กำไรก็จะมากตามไปด้วย

คุมต้นทุนอาหาร

คุมต้นทุนอาหาร ด้วยเทคนิค 4 ข้อ

        หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ร้านอาหารต้องปิดตัวลง คือ “การคุมต้นทุนไม่อยู่” บางร้านอาจจะขายดีมากแต่ไม่ได้กำไรเพราะมีต้นทุนสูงเกินไป โดยเฉพาะต้นทุนด้านวัตถุดิบ ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายหลักของร้านอาหาร ร้านทั่วไปจะมีต้นทุนส่วนนี้ 30-40% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมด หรืออาจสูงกว่านี้ในร้านอาหารประเภทบุฟเฟ่ต์ ผู้ประกอบการจึงควรให้ความสำคัญกับการบริหารต้นทุนในส่วนนี้ให้มาก ลองมาดูสิ่งที่จะช่วย คุมต้นทุนอาหาร และเพิ่มกำไรให้ร้านอาหารของเรากันครับ คุมต้นทุนอาหาร ด้วยเทคนิค 4 ข้อ 1. ใส่ใจและติดตามราคาวัตถุดิบ         วิธีที่ดีในการคุมต้นทุน คือการติดตามราคาของวัตถุดิบที่ใช้ภายในร้าน บางท่านอาจจะรู้สึกยุ่งยากเพราะที่ร้านใช้วัตถุดิบหลายชนิด แต่วิธีง่ายๆ คือเลือกแค่วัตถุดิบที่เป็นต้นทุนหลักของร้านมาบันทึกราคา ปริมาณที่ใช้ และต้นทุนทั้งหมดของวัตถุดิบแต่ละชนิด เพื่อนำมาเปรียบเทียบราคาในแต่ละเดือน          สมมติว่าราคากุ้งเดิมกิโลกรัมละ 180 บาท เพิ่มขึ้นเป็น 220 บาทจากภาวะน้ำท่วมในบางพื้นที่ ส่วนต่างที่เพิ่มขึ้นมา 40 บาทนี้อาจจะดูไม่มาก แต่มันคือต้นทุนที่เพิ่มขึ้น 22% จากราคาเดิม ยิ่งร้านที่ขายดีเท่าไหร่ กำไรที่หายไปก็จะเพิ่มมากขึ้น ในช่วงภาวะต้นทุนวัตถุดิบปรับขึ้นราคา […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.