8 ข้อสำคัญที่ลูกค้า อยากบอกเจ้าของร้านอาหาร - Amarin Academy

8 ข้อสำคัญที่ลูกค้า อยากบอกเจ้าของร้านอาหาร

8 ข้อสำคัญที่ ลูกค้าอยากบอกเจ้าของ ร้านอาหาร

แน่นอนว่าร้านอาหารทุกร้านย่อมอยากให้ลูกค้าพึงพอใจมากที่สุด จะได้มาใช้บริการอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะเรื่องรสชาติและการบริการที่ร้านอาหารหลายร้านใส่ใจเป็นอันดับต้นๆ แต่รู้ไหมว่าลูกค้ายังมีความคาดหวังด้านอื่นๆ ซ่อนอยู่ด้วย หลายคนอาจสงสัยว่า แล้วจะรู้ได้อย่างไรล่ะ ว่าลูกค้าต้องการอะไรบ้าง ไม่ต้องกังวลไป เพราะเรารวบรวม 8 ข้อสำคัญที่ ลูกค้าอยากบอกเจ้าของ ร้านอาหารมาให้คุณแล้ว

ถูกแพงไม่ว่า คุ้มค่าสำคัญกว่า

ร้านอาหารหลายร้าน มักไม่กล้าตั้งราคาอาหารสูง เพราะเกรงว่าลูกค้าจะคิดว่าแพง ไม่กล้าซื้อ แต่จริงๆ แล้วจากการสอบถามผู้บริโภคส่วนใหญ่ มักกล่าวว่า “ถ้าแพง แต่คุ้มค่า ก็พร้อมจ่าย” เมื่อเจาะลึกว่าคำว่าคุ้มค่าหมายความอะไร ส่วนใหญ่มักให้ความสำคัญกับคุณภาพและปริมาณต้องเหมาะสมกับราคา กินแล้วอิ่ม อร่อย ได้คุณภาพ ถัดมาเป็นการบริการและประสบการณ์ที่ได้สัมผัสระหว่างการรับประทานอาหาร ควรทำให้รู้สึกประทับใจ เหมาะสมกับเงินที่จ่ายไป

ความสะอาดคือสิ่งสำคัญ

ข้อนี้ก็ถือเป็นคำตอบอันดับต้นๆ ของผู้บริโภคส่วนใหญ่ เริ่มตั้งแต่ก้าวเข้าร้าน ไม่ว่าจะเป็นมือจับประตูต้องสะอาด ไม่ใช่เต็มไปด้วยคราบน้ำมัน พื้น โต๊ะและเก้าอี้ ไม่ควรมีน้ำหรืออาหารหกเลอะเทอะ ผ้ากันเปื้อนของพนักงานก็เช่นกัน ต้องดูใหม่และสะอาดเสมอ แก้วน้ำต้องไม่มีคราบสกปรก ไม่เป็นรอยนิ้วมือ ส่วนอาหารไม่จำเป็นต้องจัดจานสวยอลังการ แต่ขอบจานต้องไม่เขรอะ เช่น อาหารจานเส้นไม่ควรมีเส้นห้อยที่ขอบจาน หรือผัดผัก น้ำมันหอยก็ไม่ควรหยดเลอะขอบจาน และเวลาเสิร์ฟพนักงานไม่ควรเอานิ้วจับล้ำเข้าไปในขอบจานมากจนเกินไป และสำคัญที่สุดคือ ต้องไม่มีสัตว์เล็กๆ น้อยๆ โผล่มาให้เห็น โดยเฉพาะแมลงสาบ ที่ลูกค้าทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกัน รับไม่ได้จริงๆ

รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ พนักงานหรือเจ้าของร้านบางคนอาจมองข้าม แต่ลูกค้าบางคนเขาสังเกตจริงๆ เพราะเขาคิดว่าถ้าหน้าร้านยังไม่ใส่ใจขนาดนี้ หลังร้านจะขนาดไหนล่ะเนี่ย

ไม่จำเป็นต้องใช้ของแพงๆ แต่ขอให้อร่อย ถูกปาก

ใครๆ ก็ชอบบอกว่าอาหารของตัวเองอร่อยที่สุด ใช้วัตถุดิบดีที่สุด คุณภาพพรีเมี่ยม หรือใช้ของนำเข้าจากต่างประเทศ จริงๆ แล้ว ลูกค้าส่วนใหญ่แทบไม่สนใจเลยว่าคุณจะใช้วัตถุดิบดีขนาดไหน เขาตัดสินจากรสชาติมากกว่า “ถ้ากินกุ้ง เนื้อก็ต้องสด หวาน ไม่จำเป็นต้องตัวใหญ่ ไซส์จัมโบ้ก็ได้ แค่ขอให้สดอร่อยก็พอ”

ฉะนั้นไม่ต้องมัวไปสรรหาของนำเข้า หรือวัตถุดิบพรีเมี่ยมราคาสูง แค่เลือกซื้อของที่ใหม่ สดเสมอ และปรุงด้วยความใส่ใจและพิถีพิถันก็เพียงพอแล้ว

บริการด้วยความเต็มใจ จริงใจและใส่ใจ

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการบริการ คือหนึ่งในปัจจัยที่ลูกค้าคาดหวังสูงมาก โดยลูกค้าส่วนใหญ่ต้องการความ “เต็มใจ” คือ ต้องยิ้มแย้ม พร้อมบริการลูกค้าเสมอ “จริงใจ” คือ ต้องบริการดีเสมอต้นเสมอปลาย ไม่ใช่หน้าร้านยืนเรียกลูกค้าด้วยความกระตือรือร้น เมื่อลูกค้านั่งที่โต๊ะปุ๊บ ก็เปลี่ยนเป็นโหมดไม่รับแขกขึ้นมาทันที (เพราะคิดว่าเมื่อลูกค้าเข้าร้านแล้วก็จบ) “ใส่ใจ” คือ เมื่อเห็นลูกค้าต้องการความช่วยเหลือ ต้องรีบเข้าไปช่วยทันที ไม่ต้องรอให้ลูกค้าเรียกซ้ำแล้วซ้ำอีก

แถมอีกข้อ ที่ลูกค้าหลายคนพูดว่าจะทำให้รู้สึกประทับใจมากขึ้นคือ จดจำรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของเขาได้ “เราจะรู้สึกดีมากเลย ถ้าไปบ่อยๆ แล้วเจ้าของร้านจำเราได้ เช่น พอเราเดินเข้าร้านปุ๊บก็ทักทาย เมนูเดิมรึเปล่าคะ วันนี้กุ้งไม่ค่อยสด ไม่ได้เอามาขายนะ สั่งอย่างอื่นแทนได้รึเปล่า ความใส่ใจเล็กๆ น้อยๆ อย่างนี้ จะทำให้เราอยากกลับไปใช้บริการอีกครั้ง”

อาหารต้องรวดเร็ว มาก่อนควรได้ก่อน

 

คงไม่มีใครอยากเข้าไปนั่งในร้านอาหารประมาณ 20 นาทีก็แล้ว ครึ่งชั่วโมงก็แล้ว แต่อาหารยังไม่มาเสิร์ฟจริงไหม ลูกค้าแทบทุกคนก็รู้สึกอย่างนั้นเช่นกัน “ช่วงเวลาเร่งด่วนเราก็เข้าใจ แต่บางครั้งนานเกินไปเราก็อารมณ์เสียเหมือนกัน ยิ่งเวลาคนมาทีหลังแต่ได้รับอาหารก่อน จะรู้สึกหงุดหงิดเพิ่มขึ้น ฉะนั้นก็อยากให้ร้านอาหารบริหารจัดการเรื่องเวลาดีๆ ที่สำคัญขอให้ทำตามคิวจะดีกว่า”

ซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา

ความซื่อสัตย์ก็เป็นสิ่งสำคัญ ซื่อสัตย์ในที่นี้ทั้งด้านอาหาร ต้องใช้ของที่ดี มีคุณภาพ ไม่นำของไม่สด ของเก่า ของหมดอายุมาให้ลูกค้า ด้านราคา ต้องมีมาตรฐาน ไม่ใช่กินวันนี้ราคาหนึ่ง อีก 2 วันเปลี่ยนเป็นราคาอื่น “ถ้าจะขึ้นราคาอาหารควรแจ้งลูกค้าก่อน เราจะได้รู้ว่าต้องจ่ายเท่าไร บางร้านไม่ยอมแจ้ง อาจจะเพราะว่ากลัวลูกค้าไม่เข้าร้าน แต่สุดท้ายเราก็ต้องรู้ราคาอยู่ดี และเป็นการรู้ที่เสียความรู้สึกมากกว่าด้วย เพราะเรารู้สึกว่ามันไม่ตรงไปตรงมา” อีกข้อหนึ่งคือเรื่อง vat และ service charge ถ้าจะบวกเพิ่มจากราคาอาหาร ต้องแจ้งให้เห็นเด่นชัด เพื่อที่ลูกค้าจะได้ประเมินได้ว่า มื้อนี้ต้องจ่ายเงินเท่าไร

โต๊ะ เก้าอี้อย่าวางแน่นเกินไป หายใจไม่ออกแล้ว

ร้านอาหารบางร้านจัดวางโต๊ะเก้าอี้แน่นมาก เพื่อจะได้รองรับลูกค้าได้เยอะๆ แต่รู้หรือไม่ว่า ลูกค้าบางคนก็อยากได้พื้นที่ส่วนตัวบ้าง ไม่ใช่ขยับตัวก็ชนนั่น เอื้อมมือไปหยิบของก็ชนนี่ ที่วางกระเป๋าก็ไม่มี เจอแบบนี้เข้าเป็นใครก็เซ็ง เพราะไม่มีความเป็นส่วนตัวเลย ฉะนั้นจัดวางโต๊ะเก้าอี้ให้เหมาะสมกับพื้นที่ดีกว่า ช่วยให้ลูกค้ารู้สึกดีขึ้นกว่าเดิมเยอะ

วิธีเก็บจานเราก็สนใจนะ

หลังจากรับประทานอาหารเรียบร้อยแล้ว เจ้าของร้านหลายคนคงโล่งใจว่าลูกค้าพึงพอใจ ไม่มีข้อผิดพลาดใดๆ ให้ถูกตำหนิ แต่รู้หรือเปล่า ขั้นตอนการเก็บจานก็ไม่ควรละเลย เพราะขั้นตอนนี้อาจทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าร้านอาหารของเรามีการจัดการหลังร้านที่สะอาดหมดจด หรือทำอย่างลวกๆ กันแน่

“เวลาเก็บจานเราก็ดูนะ ลูกค้าบางคนกินอาหารแล้วคายเศษอาหารไว้บนโต๊ะ เราเห็นพนักงานกวาดเศษอาหารเหล่านั้นใส่จาน เรารู้สึกว่ามันสกปรก จริงๆ ควรมีถังแยกไว้เทเศษอาหารเหล่านี้มากกว่า ซึ่งถังแยกก็ควรดูสะอาดสะอ้าน เพราะขณะที่เรากินอาหารหันไปเห็นภาพเศษอาหารรวมกันเยอะๆ ถังสกปรกๆ ก็เป็นภาพที่ไม่ค่อยน่าดูเท่าไร”

พอจะเห็นภาพแล้วใช้ไหมว่าลูกค้า คาดหวังอะไรจากร้านอาหารบ้าง จริงๆ อาจจะลองนำแนวทางไปปรับใช้ ไม่ต้องทำตามเป๊ะๆ ก็ได้ แต่ทางที่ดี ทำให้ดีที่สุด และสุดความสามารถดีกว่า ลูกค้าจะได้รู้สึกประทับใจ อยากเป็นลูกค้าประจำ

เรื่องแนะนำ

Ghost Kitchen ร้านอาหารยุคใหม่ ไม่ต้องมีหน้าร้าน!

Ghost Kitchen ร้านอาหารยุคใหม่ ไม่ต้องมีหน้าร้าน!!

สมัยนี้คนที่อยากเป็นเจ้าของร้านอาหาร ไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้านเป็นของตัวเอง หรือลงทุนอะไรเพิ่มเลยด้วยซ้ำ ด้วย “Ghost.Kitchen” หรือร้านอาหารที่มองไม่เห็น ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์ที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ไปพร้อมกับการสั่งอาหารแบบเดลิเวอรี ลองมาดูความเป็นมาและข้อดีข้อเสียของโมเดลร้านอาหารนี้กันครับ “Ghost Kitchen” ร้านอาหารยุคใหม่ ไม่ต้องมีหน้าร้าน ที่มาของครัวที่มองไม่เห็น “Ghost.Kitchen”  “Ghost.Kitchen” ก็คือการเปิด “ร้านอาหารที่มีแต่ครัว” โดยไม่ต้องเปิดขายหน้าร้าน แต่เน้นรับออเดอร์อาหารผ่านแอปพลิเคชันต่าง ๆ เพื่อจัดส่งเดลิเวอรี่เท่านั้น โดยเจ้าของร้านเหล่านี้อาจจะขายอาหารได้แม้จะอยู่ภายในบ้าน หรือคอนโดมิเนียมที่ใช้พื้นที่ขนาดเล็กภายในตัวเมือง แค่เชื่อมต่อร้านกับแอปลิเคชันเดลิเวอรีต่างๆ หรือรับออเดอร์ผ่านโซเชียลมีเดีย ถ้าใครสะดวกก็จัดส่งเองได้เลย หรือบางคนก็ใช้วิธีจัดส่งเป็นรอบๆ ในพื้นที่บริเวณที่กำหนด เทรนด์อาหารเดลิเวอรี่กับการเติบโตของ Ghost.Kitchen สถิติจากศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า ธุรกิจอาหารเดลิเวอรี่มีเติบโตขึ้นราวปีละ 10% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งสูงกว่าการขยายตัวของร้านอาหารทั่วไปที่โตแค่ 3-4% ต่อปี สอดคล้องกับการโตของธุรกิจ Ghost.Kitchen โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงโควิดที่กระตุ้นให้การเกิดเปลี่ยนแปลงเร็วขึ้นไปอีก จะเห็นได้ว่าแม้แต่คนรอบตัวของเรา ก็หันมาขายอาหารผ่าน application หรือออนไลน์มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ปัจจุบันร้านอาหารแบรนด์ใหญ่ก็มีการแชร์ครัวประเภทนี้ร่วมกัน เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายที่จะต้องลงทุนทำครัวของแต่ละร้านเอง ตัวอย่างเช่น Grab Kitchen ที่รวมเอาร้านอาหารยอดนิยม 12 ร้าน […]

ถามตัวเองก่อนเริ่มทำร้านอาหาร

4 คำถามที่ควร ถามตัวเองก่อนเริ่มทำร้านอาหาร

คำถามเหล่านี้น่าจะช่วยให้คุณตัดสินใจในการจะเริ่มร้านอาหารได้ง่ายขึ้น อย่างนั้นมาดู 4 คำถามที่ควร ถามตัวเองก่อนเริ่มทำร้านอาหาร กันเลยครับ

ธุรกิจมีปัญหา

3 สิ่งที่ต้องทำ เมื่อ ธุรกิจมีปัญหา

ทำธุริจคงหลีกเลี่ยงปัญหาไปไม่ได้ และบางครั้งอาจเจอปัญหาหนักจนไม่รู้จะแก้อย่างไร เราจึงมีเทคนิคดีๆ ที่จะช่วยดึงสติยาม ธุรกิจมีปัญหา มาฝาก

พกน้ำจิ้มไปร้านอาหาร เป็นการไม่ให้เกียรติร้านไหม? ความคิดเห็นจากสมาชิก กลุ่มคนรักบุฟเฟต์ (Buffet Lovers)

พกน้ำจิ้มไปร้านอาหาร เป็นการไม่ให้เกียรติร้านไหม? ความคิดเห็นจากสมาชิก กลุ่มคนรักบุฟเฟต์ (Buffet Lovers) แอดได้ไปเห็นโพสต์หนึ่งที่สมาชิก “กลุ่มคนรักบุฟเฟต์ (Buffet Lovers)” ได้มาตั้งคำถามเกี่ยวกับประเด็นเรื่องน้ำจิ้มได้อย่างน่าสนใจ ซึ่งประเด็นนี้ได้มีการตั้งคำถามถึง “การพกน้ำจิ้มไปร้านบุฟเฟต์ ว่าเป็นการกระทำที่ไม่ให้เกียรติร้านหรือไม่?” โดยสมาชิกเจ้าของโพสต์ ได้ยกตัวอย่างว่าเธอก็เป็นคนหนึ่งที่พกน้ำจิ้มซีฟู้ดไปร้านบุฟเฟต์ ด้วยเหตุผลว่าบางร้านน้ำจิ้มไม่ถูกปาก เลยพกไปเองดีกว่าจะได้กินได้เยอะ ๆ และเปรียบเทียบว่าถ้าตนเป็นเจ้าของร้านก็น่าจะชอบ ที่ไม่ต้องเปลืองน้ำจิ้มที่ร้าน . ซึ่งเมื่อเรื่องนี้ออกไปก็ได้มีสมาชิกกลุ่มดังกล่าวต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันด้วยเหตุผลที่หลากหลาย แบ่งออกเป็น 2 ฝ่ายหลัก ๆ คือฝ่ายที่คิดว่าสามารถพกน้ำจิ้มไปได้ ไม่เห็นเป็นอะไร แต่ต้องมีการสอบถามหรือขออนุญาตร้านก่อนพกน้ำจิ้มเข้าไปด้วย กับฝ่ายที่คิดว่าไม่ควรนำอาหารอื่น ๆ เข้าร้านอาหาร โดยสรุปเป็นเหตุผลหลัก ๆ ได้ ดังนี้  มองว่า พกน้ำจิ้มไปได้ กินคีโต “คนกินคีโตต้องพกไปค่ะ ต้องปรุงน้ำจิ้มเอง แล้วไปทานเนื้อสัตว์ (ที่ไม่หมัก) ที่ร้าน แต่คิดว่ายังไงก็ควรพูดคุยตกลงกันก่อนว่าโอเคทั้งสองฝ่ายไหม เพราะบางร้าน Signature เขาคือน้ำจิ้ม” “คนกินคีโตบางที่ก็เรื่องปกติเลย พกไปเองเพราะไม่อยากหลุดหรือปนเปื้อนเยอะกว่าจะเข้าใหม่ลำบาก” “เราทานคีโต พกน้ำจิ้มไปเอง ร้านน่าจะชอบนะคะ เพราะเราทานน้ำจิ้มทั่วไปไม่ได้” […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.