7 เทคนิคสร้างเพจร้านอาหาร ให้เปรี้ยง! - Amarin Academy

7 เทคนิคสร้างเพจร้านอาหาร ให้เปรี้ยง!

7 เทคนิคสร้างเพจร้านอาหาร ให้เปรี้ยง!

ยุคนี้การสร้างเพจร้านอาหารไว้สื่อสารกับลูกค้า ถือเป็นกลยุทธ์การตลาดที่ร้านอาหารทุกร้านนิยมทำ ฉะนั้นจะทำอย่างไรให้เพจเราแตกต่างจากเจ้าอื่นๆ ล่ะ อย่างนี้มาดู 7 เทคนิคสร้างเพจร้านอาหาร ให้เปรี้ยง กันดีกว่า

1.ตอบรับการรีวิวของลูกค้าทุกๆ คน

การที่ลูกค้าเข้ามาแสดงความคิดเห็น ติชม หรือให้คะแนนร้านอาหาร ถือเป็น feedback ที่ดีที่สุด ที่คุณสามารถนำมาปรับปรุงร้านให้ดีขึ้นได้ และการตอบกลับทุกคำติชมของลูกค้า ยังแสดงให้เห็นว่าคุณใส่ใจกับความคิดเห็นของพวกเขาจริงๆ ถือเป็นการสร้างความใกล้ชิด ทำให้ลูกค้ารู้สึกประทับใจในการบริการของคุณ

2.แชร์ภาพของลูกค้าลงเพจร้าน

ทุกวันนี้วัฒนธรรม “ถ่ายก่อน กินทีหลัง” กำลังมาแรง ใครๆ ก็นิยมถ่ายภาพอาหารหรือภาพร้านแล้วอัพโซเชียลมีเดีย แทนที่คุณจะนั่งอ่านและชื่นใจอยู่เพียงคนเดียว แล้วปล่อยให้ภาพสวยๆ คอมเม้นท์ดีๆ เหล่านั้น หายไปตามวันเวลา ลองนำมาแชร์ในเพจร้านของคุณดูสิ

นอกจากจะได้เนื้อหาดีๆ ในการโปรโมทร้านจากลูกค้าตัวจริงแล้ว ยังทำให้เจ้าของภาพรู้สึกประทับใจในความใส่ใจของคุณและกลับมาเป็นลูกค้าประจำอีกด้วย

3.เล่นเกมแจกของสักหน่อย

ไม่ว่าใครก็ชอบของฟรี ข้อนี้คงไม่มีใครปฏิเสธ อย่างนั้นมาใช้วิธีนี้ในการทำเพจให้เป็นที่รู้จักดีกว่า เพียงกำหนดกติกาแจกของรางวัลง่ายๆ ก็ช่วยเพิ่มยอดไลก์ ยอดแชร์ในเพจได้แล้ว แถมถ้าทำโปรโมชั่นดีๆ อาจได้ยอดขายเพิ่มขึ้นด้วย เช่น กำหนดกติกาว่า แจกฟรีคูปองพุดดิ้งไอศกรีม 1 ชุด  สำหรับคนกดไลค์ และกดแชร์โพสนี้ พร้อมแท็คคนที่จะพามากินด้วยกัน

นอกจากจะได้โปรโมทเพจผ่านการกดไลก์ กดแชร์ของลูกค้าแล้ว การที่บอกให้เขามาเป็นคู่ แสดงว่า เขาต้องสั่งอาหารอื่นๆ เพิ่มขึ้นด้วย

4.ถ่ายภาพพนักงานลงเพจสักหน่อย

ร้านไหนๆ ก็ถ่ายภาพร้าน ภาพอาหาร ภาพลูกค้า เพื่อลงโปรโมท แต่แทบจะไม่มีเคยมีเพจไหน ถ่ายภาพพนักงาน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของร้านอาหารลงในเพจเลยนะครับ (ยกเว้นพนักงานสวยๆ หล่อๆ) การที่คุณเริ่มต้นถ่ายภาพพนักงานลงเพจ อาจจะดูแปลกสักนิด แต่หากคุณเพิ่มคำบรรยาย ใส่ความน่ารักหรือความตลกลงไปเล็กน้อย อาจทำให้ลูกค้ารู้สึกว่า ร้านของคุณดูเป็นกันเองมากยิ่งขึ้น

5.ตั้งคำถาม เพิ่ม Engage

ด้วยความที่ทุกวันนี้ บนโซเชียลมีเดีย มีข้อมูลมากเหลือเกิน ถ้าโพสภาพ บรรยายอย่างเดียว อาจไม่ช่วยเพิ่มยอด Engage สักเท่าไร หลายคนแค่กดอ่านแล้วก็เลื่อนลงโดยไม่มีปฏิสัมพันธ์ใดๆ อย่างนั้นลองตั้งคำถามแล้วกระตุ้นให้ลูกเพจมาตอบคำถามดู อาจจะใช้คำถามตลกๆ หรือคำถามเกี่ยวกับเมนูอาหาร เช่น รู้ไหม ส่วนผสมนี้คืออะไร หรือ ถ้าเปรียบขิงแง่งนี้เป็นผู้หญิง คิดว่าจะมีนิสัยอย่างไร เป็นต้น

ลองทำวิธีนี้ดู แทนที่เขาจะอ่านผ่านๆ เหมือนบทความทั่วไป อาจหยุดคิดแล้วคอมเม้นท์ตอบคำถามเราก็ได้

6.ตามกระแสให้ทัน

กระแสบนโซเชียลมีเดียเกิดขึ้นไม่เว้นแต่ละวัน ก่อนหน้านี้ ไมโล คิวบ์กำลังมาแรง หรือรายการ The mask singer ที่ทำให้ทุเรียน (ทั้งคนและผลไม้) ดังเป็นพลุแตก ลองหยิบกระแสนั้นมาเล่นบ้าง เพื่อให้เพจของคุณอยู่ในกระแส และถูกพูดถึงในวงกว้าง

7.ใช้วิดีโอดึงความสนใจ

วิดีโอ ถือเป็นสื่อที่ร้านอาหารนิยมใช้มากขึ้น เพราะแสดงภาพ แสง สี และให้อารมณ์ความรู้สึกได้มากกว่าภาพนิ่งธรรมดา ยิ่งเป็นร้านอาหารด้วยแล้ว วิดีโอยิ่งทำให้อาหารของเราน่ากินขึ้นอีกหลายเท่า ฉะนั้น แทนที่จะถ่ายภาพอาหารที่ทำเสร็จพร้อมรับประทาน ลองเข้าไปถ่ายในครัวขณะเชฟกำลังปรุง กำลังผัด กำลังทอด ให้ลูกเพจรู้สึกน้ำลายไหลขณะกำลังดูเลยดีกว่า

เห็นไหมคัรบ เพียงใช้เทคนิคง่ายๆ บวกกับความสร้างสรรค์ ก็ช่วยให้เพจร้านของเรา เปรี้ยง! โดยไม่ต้องลงทุนมากเลย อย่าลืมนำไปทำตามกันดูนะครับ


บทความน่าสนใจ

5 เทคนิค ลดต้นทุน เพิ่มกำไร แต่มาตรฐานเท่าเดิม!

เรื่องแนะนำ

Hyper-Personalization

อ่านใจลูกค้าออก บริการได้ตรงใจ ด้วยการตลาดแบบ Hyper-Personalization

อ่านใจลูกค้าออก บริการได้ตรงใจ ด้วยการตลาดแบบ Hyper-Personalization อยากมัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด ก็ต้องอ่านใจลูกค้าให้ออก.. ทุกวันนี้เราอยู่ในยุคที่ผู้บริโภคอยากรู้ทุกอย่าง และสามารถเข้าถึงข้อมูลทุกเรื่องได้ด้วยปลายนิ้ว ฉะนั้นการทำการตลาดแบบเดิมๆ อาจไม่ได้ผลอีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการจำชื่อลูกค้า, ส่งข้อความ หรืออีเมล์ไปอวยพรวันเกิด พร้อมส่วนลดต่างๆ ซึ่งวิธีเหล่านี้กำลังจะกลายมาเป็นเพียงข้อมูลพื้นฐานสำหรับการทำการตลาดเท่านั้น ดังนั้นธุรกิจร้านอาหารหรือแบรนด์ที่จะสะกิดใจคนได้ ต้องเป็นแบรนด์ที่รู้จักและรู้ใจลูกค้า ด้วยการทำการตลาดแบบ Hyper-Personalization ซึ่งเป็นการตลาดที่เข้าถึงตัวบุคคลมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่ตรงใจลูกค้ามากกว่าที่เคย อย่าปล่อยให้เสียเวลาเปล่า เจ้าของธุรกิจทั้งหลายต้องรีบทำความเข้าใจ เรียนรู้ และปรับตัว รวมถึงเปลี่ยนรูปแบบวิธีการทำงานให้เข้ากับสถานการณ์ แล้วจะช่วยให้ลูกค้าเดินเข้าร้านได้อย่างยิ้มแย้มและเต็มใจ หัวใจของ Hyper Personalization อยู่ที่ “Big Data” ก่อนอื่นต้องอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ก่อนว่าการตลาดแบบ Hyper Personalization เป็นการนำ Big Data แบบเรียลไทม์มาใช้ในการคาดเดาความต้องการของผู้บริโภค ไม่ใช่แค่ข้อมูลจากประวัติการสั่งซื้อทั่วไป แต่เป็นการเอาข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์ออกมาเป็นพฤติกรรมการซื้อ เพื่อให้สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ว่าลูกค้าคนนี้อยากจะซื้อกับเราครั้งถัดไปเมื่อไหร่ หรือจะกระตุ้นเขาให้ซื้อได้ด้วยวิธีไหน ซึ่ง Big Data คือการนำข้อมูลรอบๆ ตัว จากหลายๆ ส่วนมาประมวล วิเคราะห์ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อ  จึงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับเจ้าของร้านอาหาร ที่จะนำมาวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมลูกค้า […]

ปิ๊งไอเดียธุรกิจ

ปิ๊งไอเดียธุรกิจ ใน 4 สเต็ป

เมื่อคิดอยากจะทำอะไรสักอย่าง อย่ามัวแต่นั่งรอโอกาสให้ผ่านเข้ามา แต่คุณต้องสวมวิญญาณนักสืบ คอยเสาะหาไอเดีย แรงบันดาลใจ ระดมความคิด คิดและหาข้อมูลอย่างหนัก เตรียมความพร้อมก่อนจะกระโดดเข้าสู่สังเวียนธุรกิจจริง

แผนการตลาด

สำรวจก่อนเริ่มทำ แผนการตลาด ธุรกิจ E-Commerce

ธุรกิจ E-Commerce แต่ละประเภทอาจมีเป้าหมายและจุดขายที่แตกต่างกัน แต่โดยพื้นฐานส่วนใหญ่แล้วมักมีวัตถุประสงค์ 3 ข้อนี้รวมอยู่ด้วย คือ เพิ่มจำนวนผู้เข้าชมและสร้างการรับรู้ เปลี่ยนจากผู้เข้าชมเป็นลูกค้า และสื่อสารกับลูกค้าที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพ

ธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพ

4 ความลับ ที่เจ้าของ ธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพ ต้องรู้

ใครคิดจะทำ ธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพ ต้องคิดให้ลึกมากกว่าเดิม เพราะตอนนี้ผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มคนรักสุขภาพอาจไม่ได้ต้องการเพียงแค่อาหารคลีนๆ เหมือนเดิมแล้ว

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.