Specialty Coffee คืออะไร ? แตกต่างจากคาเฟ่ทั่วไปอย่างไร ?

Specialty Coffee คืออะไร ? แตกต่างจากคาเฟ่ทั่วไปอย่างไร ?

Specialty Coffee คืออะไร ?
แตกต่างจากคาเฟ่ทั่วไปอย่างไร ?

แชร์มุมมองโดย คุณมิน เจ้าของร้าน
Gorilla Coffee&Bakery

ทุกวันนี้มีร้านกาแฟให้เราได้เลือกกินอยู่เต็มไปหมด ซึ่งก็มีทั้งร้านที่เป็นรูปแบบคาเฟ่ ร้านกาแฟทั่วไป รวมถึงร้านแบบ Specialty ที่หลายคนให้คำจำกัดความร้านรูปแบบนี้ว่าเป็นร้านกาแฟที่มี “ความพิเศษ” ที่ต่างออกไปจากร้านกาแฟแบบอื่น ๆ ว่าแต่มันพิเศษยังไงล่ะ ? ลองมาดูมุมมองต่อความเป็นร้านกาแฟ Specialty ของคุณมิน ธมลวรรณ เจ้าของร้าน Gorilla Coffee&Bakery ร้านกาแฟ Specialty ย่านลาดกระบังกัน!
.


🔸นิยามของ Specialty✨
.
ในมุมมองของเรา Specialty Coffee คือ กาแฟที่พิเศษแตกต่างจากกาแฟทั่ว ๆ ไป เพราะเราให้ความใส่ใจ สนใจตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง ตั้งแต่การเลือกสายพันธ์ุกาแฟ ประเทศที่ปลูก การชง คาแรกเตอร์ของกาแฟแต่ละแบบ เอามาให้ผู้บริโภคเลือกมากกว่าร้านที่ขายกาแฟแบบปกติ เพราะคาแรกเตอร์แต่ละประเทศก็จะแตกต่างกัน

เมื่อก่อนคนกินกาแฟ ก็อาจจะดูจากเรื่องความขม ให้ความกระปรี้กระเปร่า แต่เดี๋ยวนี้คนให้ความสนใจกับรสชาติ สุนทรียะด้วย ไม่ใช่แค่ร้านที่ Specialty แต่ลูกค้าก็มีความ Specialty ด้วย
.


🔸การเป็น Specialty😎
.
สำหรับร้านเรา เราให้ความสนใจในรายละเอียดตั้งแต่ต้นทาง green bean เมล็ดก่อนคั่ว แหล่งเพาะปลูก การคั่ว เราต้องเลือกเมล็ดกาแฟเป็น คัดเมล็ดกาแฟได้ มีความรู้ในการคั่ว การชง กว่าจะออกมาเป็นกาแฟแก้วนึง ไม่เกี่ยวว่าร้านมีเครื่องคั่วแล้วจะเป็น Specialty แต่มันให้เสน่ห์ว่าเราทำมาตั้งแต่ต้นทาง

ในมุมของเรา เรามองว่าเป็นการสนใจตั้งแต่ต้นทาง สนใจในที่นี้ คือเข้าใจในความเป็นกาแฟ การแก้สถานการณ์เฉพาะหน้าในกรณีที่ลูกค้าต้องการกินแบบไหน เราทำให้ลูกค้าได้หรือเปล่า ในจุดที่เรามีอุปกรณ์เท่านี้ ทำได้ตอบโจทย์ลูกค้าได้ไหม เรามองว่าในทุก ๆ ร้านก็ความ Special ในแบบของตัวเอง

เดี๋ยวนี้ใคร ๆ ก็เป็น Specialty ได้ ถ้าเขียนต่อท้าย ซึ่งสำหรับเราที่เรียนมาจึงมั่นใจว่า เราก็เป็น Specialty ได้ เราเคยถามลูกค้าว่ามองอะไรถึงจะรู้ว่าร้านกาแฟนั้นเป็นแบบไหน ลูกค้าตอบว่าเขาดูร้านที่เป็น Specialty จากการที่ไม่เป็นแฟรนไชส์ เครื่องไม้เครื่องมือที่ใช้ และกลิ่นไหม้ของกาแฟ แต่ทั้งนี้ก็ไม่ใช่ปัจจัยหลัก ๆ และยังนวมถึงการนำเสนอของบาริสต้าด้วย เช่นที่ร้านเราจะมีการแนะนำให้ลูกค้าได้เลือก บอกลูกค้าว่าเมล็ดแบบนี้ ก็จะกลิ่นแบบนี้นะ มีทางเลือกให้กับลูกค้า

เรามองว่าความเป็น Specialty ไม่ได้มีบรรทัดฐาน หรือนิยามไหนมาวัดได้ แต่เรารู้ว่าเราต่างจากร้านอื่นอย่างไร รู้สึกว่ามันพิเศษและแตกต่างไปจากร้านอื่นอย่างไร มีเมล็ดให้เลือกเยอะจนลูกค้าบอกว่าต้องโยนหัวก้อย
.


🔸ความยากของ Specialty✨
.
ในเรื่องของเทคนิคการทำกาแฟเรามองว่ามันไม่ได้ยากมาก แต่เรื่องที่ยากคือการเทรนพนักงาน การเข้าออกของพนักงาน ปัญหาคนเป็นเรื่องยากที่คน ๆ นึงต้องรับมือ อย่างเราต้องเทรนน้องไปด้วย และต้องทำงานไปด้วย ที่ร้านก็คนเข้า ๆ ออก อีกอย่างถ้าลูกค้าถามหรือขอคำแนะนำบางอย่างเขาก็ตอบไม่ได้ บางคนมาทำแล้วเขารู้สึกว่ายากเกิน เขาเหนื่อย เขาก็ออก ปัญหาเรื่องคนเป็นปัญหาที่เราหนักใจมากที่สุด
.
แล้ว Specialty Coffee สำหรับคุณต้องเป็นยังไง ? มาแชร์มุมมองต่อกาแฟแก้วโปรดกัน☕️💖
.
#AmarinAcademy #ร้านอาหาร

เรื่องแนะนำ

จริงหรือไม่!? ร้านสวยแม้กาแฟแย่คนก็ซื้อ? ผู้ใช้ทวิตเตอร์แชร์มุมมอง กาแฟแย่และแพง แต่คนเยอะมากเพราะถ่ายรูปสวย หรือคาเฟ่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราไปแล้ว?

จริงหรือไม่!? ร้านสวยแม้กาแฟแย่คนก็ซื้อ? ผู้ใช้ทวิตเตอร์แชร์มุมมอง กาแฟแย่และแพง แต่คนเยอะมากเพราะถ่ายรูปสวย หรือ “คาเฟ่” เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราไปแล้ว? เป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในทวิตเตอร์ เมื่อผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่ง ได้มีการแชร์มุมมองเกี่ยวกับรสชาติของเครื่องดื่มและอาหารของร้าน คาเฟ่ ว่ามักจะมีรสชาติแย่ ในขณะที่ราคาแพงมาก แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีผู้ไปใช้บริการเยอะมาก ด้วยเหตุผลว่าเพราะร้านนั้นถ่ายรูปสวย และเธอยังได้ตั้งคำถามต่ออีกว่า ทำไมคาเฟ่ที่มีมุมถ่ายรูปถึงได้กลายมาเป็นส่วนสำคัญของวิถีชีวิตคนกรุงเทพฯ ได้ขนาดนี้ จนบางทีเธอก็คิดว่าทำไมให้ทำคาเฟ่ให้เป็นสตูดิโอถ่ายรูปไปเลย… โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์รายนี้ยังได้เสริมถึงเรื่องนี้อีกว่า ที่เธอได้พูดถึงประเด็นนี้ขึ้นมา เพราะรู้สึกว่าการที่คนซื้อเครื่องดื่มหรืออาหารมาแล้วกินไม่หมด เพราะว่าไม่อร่อย ทำให้เกิด waste จากการบริโภคได้ ความเห็นจากชาวเน็ต ซึ่งหลังจากเรื่องนี้ออกไปก็ได้มีผู้ใช้ทวิตเตอร์ให้ความสนใจเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างล้นหลาม บ้างก็บอกว่า “ไปคาเฟ่ไหนๆ ก็ไม่เจอที่เครื่องดื่มถูกปากเลยค่ะ ราคาก็แรงมากส่วนใหญ่แก้วละ 60-150 เลยนะที่เจอมา” “คาเฟ่แบบนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ได้ไม่นานหรอก ต่อให้ร้านสวยถ้าของกินแพงแต่คุณภาพห่วย คงไม่มีใครไปซ้ำเกิน 2 ครั้งหรอกค่ะ มุมก็มุมเดิม เข้าใจแหละว่าช่วงนี้คนไม่ค่อยได้เที่ยวไหน ร้านกาแฟสวยๆ สักร้านก็ทำให้ผ่อนคลายเหมือนไปเที่ยวพักผ่อนได้ แต่สิ่งที่น่าจะดึงดูดได้จริงคือคุณภาพสินค้า” บ้างก็บอกว่า “บางร้านก็อร่อยนะคะ แต่ชาวเซลฟี่เยอะไปหน่อย เดินวนถ่ายทั่วร้านจนทำให้คนที่อยากไปนั่งกินเฉย ๆ รู้สึกไม่เป็นส่วนตัวเหมือนโดนคุกคามก็มี นั่งกินอยู่ดี ๆ มายืนจ้องแบบฉันจะถ่ายตรงนี้แกลุกไปสิ”  คาเฟ่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต? […]

House of Crepe

House of Crepe ผู้นำ Street food สู่ห้างระดับไฮเอนด์

ใครจะคิดว่าเครปที่เราเคยซื้อชิ้นละ 20-30 บาท จะนำมาขึ้นห้างสุดหรูได้ แถมมีคนต่อแถวรอซื้อตั้งแต่ห้างเปิดยันห้างปิด และนี่คือความสำเร็จของ House of Crepe

kuppadeli

เรียนรู้จากข้อผิดพลาด พัฒนาสู่ความสำเร็จ Kuppadeli

Kuppadeli คือธุรกิจที่เรา “อยากทำ แต่ไม่มีความรู้” จึงต้องลองผิดลองถูก เรียนรู้จากข้อผิดพลาด กว่าจะรู้เทคนิคการบริหารจัดการ ก็ต้องอาศัยระยะเวลาพอสมควร

Mee OK

ต่อยอดโรงงานบะหมี่ สู่ธุรกิจร้านอาหาร Mee OK (หมี่ โอเค)

ไม่ใช่เรื่องง่ายของการทำธุรกิจที่จะเปลี่ยนแปลงจากสิ่งที่มีอยู่เดิม ให้สามารถสร้างมูลค่าเพิ่ม หรือหาโอกาสใหม่ๆ ให้กับธุรกิจได้ “Mee OK” หนึ่งตัวอย่างความสำเร็จของ ธุรกิจร้านอาหาร ที่ต่อยอดมาจากโรงงานผลิตเส้นบะหมี่ (ส่งร้านสุกี้ชื่อดัง) และแป้งที่มีประสบการณ์มากกว่า 80 ปี  จากประสบการณ์ผลิตบะหมี่กว่า 80 ปี สู่ธุรกิจร้านอาหาร Mee OK (หมี่ โอเค)  “อยากให้เพื่อนได้กินบะหมี่ของตัวเอง” จุดเริ่มต้นง่ายๆ ของคุณม้ง – ปรมะ ห่อทองพูน เจ้าของร้าน Mee OK และเจ้าของบริษัทผู้ผลิตเส้นบะหมี่ให้ร้านดัง ที่คิดอยากจะทำแบรนด์ร้านอาหารของตัวเอง  แบรนด์มันคือสิ่งสำคัญที่ทำให้คนรู้จักเรา ธุรกิจโรงงานของเราเริ่มมาตั้งแต่รุ่นอากง จากทำเส้นบะหมี่ขายในชุมชนและย่านใกล้ๆ มาถึงรุ่นพ่อก็เริ่มขยับขยาย ขายให้ภัตตาคารหรือร้านอาหารในเยาวราช ธุรกิจเริ่มใหญ่ขึ้น มีลูกค้าเยอะขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่เราจะได้ลูกค้าที่บอกกันปากต่อปาก ทีนี้พอมาถึงรุ่นผม ก็เลยตัดสินใจที่จะเปิดโรงงานผลิตเส้นบะหมี่และแป้ง เพื่อสร้างมาตรฐาน คุณภาพ และความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ จนได้กลุ่มลูกค้าเพิ่มเป็นธุรกิจร้านอาหาร และธุรกิจส่งออกไปต่างประเทศ อยากทำแบรนด์ของตัวเอง  เหตุผลหลักๆ เลย ก็คือตอนที่เราทำโรงงานอย่างเดียว เหมือนเราต้องพึ่งลูกค้าเป็นหลักในการขาย เพราะเราเป็นโรงงาน ไม่มีหน้าร้านหรือแบรนด์แบบเค้า ยกเลิกออเดอร์ทีเราก็เสียกำไรตรงนั้นไป […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.