ทุกวันนี้ผู้คนหันมาให้ความสำคัญกับอาหารการกินในทุก ๆ ทาง นี่จึงเป็นเหตุผลชวนให้ผู้ประกอบการหันมาใส่ใจสุขลักษณะในการประกอบอาหาร เพื่อสร้างความมั่นใจทั้งต่อคนเสิร์ฟและคนรับประทาน ลองเปลี่ยนมาใช้ สติ๊กเกอร์บอกรายละเอียดวัตถุดิบ กัน!
.
สติ๊กเกอร์บอกรายละเอียดวัตถุดิบ (Food Rotation Labels หรือบางคนอาจจะเรียกว่า Daydot) คือ เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการจัดระบบวัตถุดิบที่จะนำมาใช้ประกอบอาหาร โดยในสติกเกอร์จะมีหัวข้อให้ผู้ใช้ระบุข้อมูลเกี่ยวกับวัตถุดิบนั้น ๆ เช่น วัตถุดิบคืออะไร ผลิตวันไหน หมดอายุเมื่อไหร่ และใครเป็นคนเปิดใช้ เพื่อป้องกันการนำวัตถุดิบที่ไม่ปลอดภัยมาใช้ในการบริโภค
ตัวอย่างข้อมูลที่ควรมีบนสติกเกอร์ติดอาหาร:
1.ชื่อผลิตภัณฑ์ (Product) เพื่อบ่งบอกว่าผลิตภัณฑ์นั้น คืออะไร
2.การจัดเก็บ (Type) : มีการจัดเก็บแบบไหน เช่น แช่แข็ง (Frozen) แช่เย็น (Chiller) หรือเก็บในอุณหภูมิห้อง (Ambient)
3.วันที่ผลิต (Product Date)
4.เวลาผลิต (Production Time)
5.วันที่หมดอายุ (Expiry Date)
6.เวลาที่หมดอายุ (Expiry Time)
7.ชื่อพนักงานที่เตรียม (Staff Name) เพื่อบ่งบอกว่าผลิตภัณฑ์นี้ใครเป็นคนเตรียม ซึ่งคนนั้นก็คือผู้รับผิดชอบการนำผลิตภัณฑ์นี้มาใช้ด้วย
หมายเหตุ: ข้อมูลข้อที่ 3-6 เป็นข้อมูลสำคัญที่กำหนดการนำผลิตภัณฑ์มาใช้ เพื่อให้เป็นไปตามหลัก First in First out (FIFO) หรือมาก่อนใช้ก่อน ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพของอาหารที่นำมาเสิร์ฟให้กับลูกค้า อีกทั้งยังสามารถลดการเกิด Waste ที่อาจเกิดจากการจัดเก็บผลิตภัณฑ์เก่าและใหม่รวมกัน
วิธีใช้: ใช้ติดที่บรรจุภัณฑ์ที่บรรจุวัตถุดิบนั้น ๆ สำหรับของสด หากทำการล้างและตัดแต่งเสร็จแล้ว ให้กรอกรายละเอียดลงบนสติกเกอร์ จากนั้นทำการแปะลงบนบรรจุภัณฑ์ที่ใช้บรรจุ แล้วทำการจัดเก็บ สำหรับของแห้งหรือเครื่องปรุง หลังจากการเปิดใช้งานให้กรอกรายละเอียดต่าง ๆ ลงบนสติกเกอร์ ซึ่งข้อมูลสำคัญสำหรับวัตถุดิบประเภทนี้ คือ วันที่เปิดใช้ ผู้เปิด เป็นต้น
สติกเกอร์ที่ว่านี้มีอยู่หลายรูปแบบด้วยกัน หนึ่งในนั้นก็คือแบบ Daydot ที่มีการนำมาใช้เป็นครั้งแรกปี 1985 ในระบบอุตสาหกรรมอาหาร เป็นสติกเกอร์สีตามวันในสัปดาห์ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาสีตามวันจึงได้กลายมาเป็นมาตรฐานและตัวกำหนดในการหมุนเวียนการใช้อาหาร
เราสามารถพบการใช้สติกเกอร์ติดอาหารได้ในครัวที่มีมาตรฐานระดับมืออาชีพ เช่น ครัวในโรงแรม ครัวภัตตาคาร หรือร้านที่มีระบบการจัดเก็บที่มีประสิทธิภาพ เพราะมันเป็นเครื่องมือที่ช่วยในการเสิร์ฟอาหารที่ปลอดภัยให้กับลูกค้า ให้ความมั่นใจทั้งต่อคนเสิร์ฟและคนรับประทาน ช่วยให้การจัดการในครัวมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพิ่มความแม่นยำในการใช้วัตถุดิบ ลดขยะที่อาจหลงเหลือจากการใช้วัตถุดิบที่ไม่เป็นระบบ และที่สำคัญยังช่วยให้ธุรกิจคุณดำเนินไปได้อย่างราบรื่น
เพราะในหลายกรณีวัตถุดิบที่หมดอายุแล้วก็มีหน้าตาปกติ แต่จริง ๆ อาจมีแบคทีเรียหรือเชื้อโรคเจริญเติบโตอยู่ในวัตถุดิบนั้นแล้ว หากเผลอนำมาใช้ก็จะเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคได้ เครื่องมือนี้จึงเป็นตัวบ่งบอกถึงความปลอดภัยของอาหาร ที่น่าเชื่อถือกว่ารูปลักษณ์ที่เราเห็น
เชื่อว่าคุณคงไม่ต้องการเสิร์ฟอาหารที่พอกินได้ให้กับลูกค้า แต่เป็นการเสิร์ฟอาหารที่มีคุณภาพให้กับลูกค้ามากกว่า เพราะคุณภาพของอาหารก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้อาหารจานนั้นอร่อย การติดสติ๊กเกอร์บอกรายละเอียดวัตถุดิบ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง ในการรักษาคุณภาพของอาหาร และเป็นปัจจัยที่ทำให้ร้านอาหารมีระบบการจัดการที่ดี
สำหรับใครที่อยากได้ฉลากติดอาหารไปใช้ สามารถดาวน์โหลดได้ที่ลิงก์
ซึ่งฉลากนี้เป็นรูปแบบเดียวกับที่ร้านปลาร้าเด้อ ร้านของพี่ธามม์ ประวัติตรีใช้ด้วยนะ
.