โปรโมทร้านให้เข้าถึงลูกค้า! วิธี โฆษณาร้านอาหารผ่าน Facebook - Amarin Academy

โปรโมทร้านให้เข้าถึงลูกค้า! วิธี โฆษณาร้านอาหารผ่าน Facebook

        โฆษณาร้านอาหารผ่าน Facebook เป็นช่องทางสำคัญที่จะช่วยให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเราได้ทำความรู้จัก สั่งซื้ออาหาร หรือจดจำร้านของเราได้ และมีข้อดีต่างๆ มากมาย เช่น

  • สามารถเริ่มต้นด้วยงบประมาณน้อยๆ ได้เลย 
  • เฟสบุ๊คเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงได้ง่าย 
  • เพิ่มยอดขายได้ในระยะเวลาที่จำกัด 
  • ทำได้สะดวกโดยใช้แค่โทรศัพท์มือถือ หรือคอมพิวเตอร์ 
  • เป็นโซเชียลมีเดียที่คนไทยนิยมใช้กันมากที่สุด

 เจาะกลุ่มลูกค้าที่ควร 

โฆษณาร้านอาหารผ่าน Facebook

        สิ่งที่ทำให้ facebook โดดเด่นมาก คือข้อมูลของผู้ใช้บริการที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นอายุ ที่อยู่อาศัย การศึกษา เพจที่กดถูกใจ การเช็คอินในสถานที่ต่างๆ หรือเหตุการณ์สำคัญในชีวิต เช่น วันครบรอบวันเกิด การแต่งงาน เรียกได้ว่ารู้จักผู้ใช้บริการอย่างละเอียด 

        ทำให้การทำการตลาดผ่าน Facebook สามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้อย่างเจาะจงมาก และเพิ่มโอกาสที่ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของร้านจะเลือกซื้ออาหารกับร้านของเรามากยิ่งขึ้น แต่การกำหนดกลุ่มเป้าหมายบน facebook ควรจะกำหนดอย่างไร ลองมาดูในแต่ละหัวข้อกันครับ 

โฆษณาร้านอาหารใน Facebook

  1. ตำแหน่งที่ตั้ง (Location) 

        เป็นการเลือกกลุ่มเป้าหมายจากที่ตั้งของร้านอาหาร ถ้าร้านอาหารของเราอยู่ในกรุงเทพฯ ก็อาจจะเลือกกว้างๆ ว่าอยู่จังหวัดกรุงเทพฯ หรือจะเลือกตำแหน่งที่ตั้งอย่างละเอียด โดยการปัดหมุดที่ตั้งของร้านอาหารเลยก็ได้เช่นกัน และกำหนดระยะทางที่จะขึ้นโฆษณา เช่น รัศมี 5-10 กิโลเมตรจากร้าน ซึ่งการเลือกรัศมีระยะทางนี้ ก็ควรพิจารณาจากความสามารถในการส่งเดลิเวอรีของร้าน 

        นอกจากนี้ Facebook ยังเลือกรายละเอียดของกลุ่มลูกค้าในพื้นที่ได้อีก เช่น 

  • คนที่อาศัยอยู่ในตำแหน่งที่ตั้งนี้ หรือเพิ่งอยู่ในบริเวณนี้ เช่น คนที่ทำงานอยู่ในบริเวณนี้ (People living in or recently in this location) 
  • คนอาศัยอยู่ในบริเวณตำแหน่งที่เลือกเท่านั้น (People living in this location)
  • เลือกคนที่เพิ่งอยู่ในบริเวณนี้เท่านั้น (People recently in this location) 
  • คนที่มาท่องเที่ยวในบริเวณนี้ แต่มีบ้านอยู่ตำแหน่งอื่น (People traveling in this location)
  1. ข้อมูลประชากร (Demographic) 

        ลักษณะทางประชากรศาสตร์ เช่น เพศ อายุ อาชีพ การศึกษา การทำงาน สถานภาพสมรส รวมถึงไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ ซึ่งกลุ่มผู้บริโภคที่น่าสนใจ คือกลุ่มคนที่เพิ่งได้งานใหม่ คนที่กำลังจะเรียนจบมหาวิทยาลัย คนที่กำลังจะถึงวันครบรอบ คนที่ขึ้นสถานะ In relationship หรือเป็นแฟน/แต่งงานกัน เนื่องจากโอกาสสำคัญเหล่านี้ มักจะมีการเลี้ยงฉลองกัน แต่ในช่วงนี้ที่ผู้บริโภคไม่สามารถออกไปทางอาหารนอกบ้านได้ ก็น่าจะมีการสั่งอาหารเดลิเวอรีมาทานที่บ้าน การโฆษณาร้านอาหารที่เจาะจงผู้บริโภคกลุ่มนี้ก็มีโอกาสสูงที่จะเพิ่มยอดขายได้ 

โฆษณาร้านอาหารใน Facebook

  1. ความสนใจ (Interest)

        การเลือกกลุ่มเป้าหมายจากความสนใจ ก็สามารถค้นหาจาก facebook ได้เลย เช่น ร้านอาหารญี่ปุ่น ก็สามารถเลือกช่องความสนใจ ว่าเป็นซูซิ แซลมอน หรือคำอื่นๆที่เกี่ยวข้องได้ หรือถ้าเป็นอาหารคลีนเพื่อสุขภาพ ก็กำหนดให้เจาะจงได้เช่นกัน และ facebook เองก็มีคำที่แนะนำให้เราได้เลือกกดอีกด้วย 

  1. พฤติกรรม (Behavior) 

        เป็นการเลือกกลุ่มเป้าหมายจากพฤติกรรมของผู้ใช้งาน เช่น การซื้อสินค้าออนไลน์ การใช้โทรศัพท์ หรือกิจกรรมต่างๆ ในอดีต เช่น เราต้องการกลุ่มเป้าหมายที่เคยเดินทางไปยังร้านอาหาร หรือเพิ่งซื้ออาหารออนไลน์ไม่นานมานี้ 

        การกำหนดกลุ่มเป้าหมายเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากในการลงโฆษณา หากผู้ประกอบการสามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสม สอดคล้องกับลักษณะของร้านอาหาร ไม่กว้างเกินไปจนมีการแข่งขันสูง หรือแคบเกินไปจนเข้าถึงผู้บริโภคได้น้อย รวมถึงใส่ใจดูผลการตอบรับที่ได้ และนำมาปรับปรุงพัฒนาต่อไป ก็จะทำให้การ โฆษณาร้านอาหารผ่าน Facebook คุ้มค่ากับเงินที่ลงทุนไปครับ

เรื่องแนะนำ

สำรวจตัวเอง ก่อนเข้าใจ Digital Marketing ผิด

การทำธุรกิจในยุคปัจจุบันนี้เปลี่ยนไปมาก โดยเฉพาะการทำการตลาดที่คนส่วนใหญ่หันมาทำการตลาดออนไลน์กันมากขึ้น จนมีหลายคนเริ่มสงสัยว่า Digital Marketing มันเป็นเพียงแค่กระแสความนิยมชั่วคราวหรือเป็นแฟชั่นรึเปล่า?

Hyper-Personalization

อ่านใจลูกค้าออก บริการได้ตรงใจ ด้วยการตลาดแบบ Hyper-Personalization

อ่านใจลูกค้าออก บริการได้ตรงใจ ด้วยการตลาดแบบ Hyper-Personalization อยากมัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด ก็ต้องอ่านใจลูกค้าให้ออก.. ทุกวันนี้เราอยู่ในยุคที่ผู้บริโภคอยากรู้ทุกอย่าง และสามารถเข้าถึงข้อมูลทุกเรื่องได้ด้วยปลายนิ้ว ฉะนั้นการทำการตลาดแบบเดิมๆ อาจไม่ได้ผลอีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการจำชื่อลูกค้า, ส่งข้อความ หรืออีเมล์ไปอวยพรวันเกิด พร้อมส่วนลดต่างๆ ซึ่งวิธีเหล่านี้กำลังจะกลายมาเป็นเพียงข้อมูลพื้นฐานสำหรับการทำการตลาดเท่านั้น ดังนั้นธุรกิจร้านอาหารหรือแบรนด์ที่จะสะกิดใจคนได้ ต้องเป็นแบรนด์ที่รู้จักและรู้ใจลูกค้า ด้วยการทำการตลาดแบบ Hyper-Personalization ซึ่งเป็นการตลาดที่เข้าถึงตัวบุคคลมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่ตรงใจลูกค้ามากกว่าที่เคย อย่าปล่อยให้เสียเวลาเปล่า เจ้าของธุรกิจทั้งหลายต้องรีบทำความเข้าใจ เรียนรู้ และปรับตัว รวมถึงเปลี่ยนรูปแบบวิธีการทำงานให้เข้ากับสถานการณ์ แล้วจะช่วยให้ลูกค้าเดินเข้าร้านได้อย่างยิ้มแย้มและเต็มใจ หัวใจของ Hyper Personalization อยู่ที่ “Big Data” ก่อนอื่นต้องอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ก่อนว่าการตลาดแบบ Hyper Personalization เป็นการนำ Big Data แบบเรียลไทม์มาใช้ในการคาดเดาความต้องการของผู้บริโภค ไม่ใช่แค่ข้อมูลจากประวัติการสั่งซื้อทั่วไป แต่เป็นการเอาข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์ออกมาเป็นพฤติกรรมการซื้อ เพื่อให้สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ว่าลูกค้าคนนี้อยากจะซื้อกับเราครั้งถัดไปเมื่อไหร่ หรือจะกระตุ้นเขาให้ซื้อได้ด้วยวิธีไหน ซึ่ง Big Data คือการนำข้อมูลรอบๆ ตัว จากหลายๆ ส่วนมาประมวล วิเคราะห์ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อ  จึงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับเจ้าของร้านอาหาร ที่จะนำมาวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมลูกค้า […]

กินอาหารนอกบ้าน

เจ้าของธุรกิจร้านอาหารต้องรู้ 4 พฤติกรรมของผู้บริโภคกับการ กินอาหารนอกบ้าน

จากสภาพเศรษฐกิจที่ส่งผลถึงพฤติกรรมของผู้บริโภค ทำให้เราได้เห็นถึงรูปแบบการกินอาหารนอกบ้านที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละปี แสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มนั้นมีการเปลี่ยนแปลงเสมอ

ยอดขายร้านอาหาร

จิตวิทยาการตลาด เพิ่ม ยอดขายร้านอาหาร ด้วย “เทคนิค FOMO”

        ในยุคที่ร้านอาหารถูกบังคับให้ต้องพึ่งพาระบบเดลิเวอรี การตลาดออนไลน์จึงยิ่งมีการแข่งขันสูงขึ้น โดยมีเป้าหมายให้ลูกค้าซื้ออาหารจากร้านของตัวเอง ซึ่งหนึ่งในวิธีที่จะช่วยดึงดูดลูกค้าได้ คือการสร้างโฆษณาที่น่าสนใจ แต่จะทำอย่างไรให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น ลองมาศึกษาหลักจิตวิทยาการตลาด ที่จะช่วยเพิ่ม ยอดขายร้านอาหาร ของคุณด้วยเทคนิค FOMO ครับ หลักจิตวิทยาการตลาด: เทคนิค FOMO  ช่วยเพิ่ม ยอดขายร้านอาหาร         FOMO เป็นคำย่อมาจาก Fear Of Missing Out ซึ่งเป็นกลยุทธ์การตลาดจากทำให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกว่า “ไม่อยากพลาดโอกาส” เช่น กลัวจะไม่ได้รับสิทธิพิเศษที่มีจำกัด ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น เป็นการเลือกจากความรู้สึกในตอนนั้นมากกว่าการใช้เหตุผล และทำให้เกิดความพอใจที่ซื้อได้ทันเวลา รู้สึกคุ้มค่า เหมือนเวลาที่เผลอซื้อสินค้าช่วง Flash Sales แม้จะไม่จำเป็นนั่นแหละ หรือแม้แต่การกด Like เพจที่รวมโปรโมชันอาหารต่างๆ ในเฟสบุ๊ก เพราะไม่มีใครอยากพลาดโอกาสกันหรอกครับ          จะเห็นว่าหลักจิตวิทยาแบบนี้พบได้จริงในชีวิตประจำวัน และเกิดขึ้นได้ในทุกเพศทุกวัย  รวมถึงช่องทางออนไลน์ก็สามารถเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ได้ โดยที่มีค่าใช้จ่ายไม่สูงมากนัก ผู้ประกอบการร้านอาหารในยุคนี้ […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.