โอยั๊วะ การเดินทางกว่า 20 ปี กับ บทเรียนที่หาซื้อไม่ได้ - Amarin Academy

โอยั๊วะ การเดินทางกว่า 20 ปี กับ บทเรียนที่หาซื้อไม่ได้

ถ้าใครเคยผ่านไปย่านมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์บางเขน ถนนเกษตร-งามวงศ์วาน อาจจะเคยมีโอกาสได้เห็น หรือเคยไปทานร้านอาหารร้านหนึ่งที่ชื่อว่า โอยั๊วะ ร้านอาหารชื่อดังที่มีมานานกว่า 20 ปี แต่การเดินทางของโอยั๊วะ กว่าจะมาถึงวันนี้นั้น ผ่านเรื่องราวมามากมาย กว่าที่จะหาความเป็นตัวตนได้ และต้องเจอกับบทเรียนอะไรบ้าง เรามาฟังจากคุณกุ้ง ทสานุช ไทกุล เจ้าของร้านโอยั๊วะ กันครับ

 

การเดินทางกว่า 20 ปี

ของธุรกิจร้านอาหาร โอยั๊วะ

โอยั๊วะ

จุดเริ่มต้นของร้าน โอยั๊วะ

ชื่อโอยั๊วะ จริงๆแล้วมีมานาน 20 กว่าปีแล้วค่ะ เริ่มจากร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์เล็กๆ ที่ อตก. เป็นแค่ห้องแถวห้องเดียว ทำมาได้ระยะหนึ่ง พอร้านเริ่มไม่เป็นที่นิยมแล้ว ร้านก็ปิดตัวลง แต่แฟนของพี่เป็นคนรักการทำร้านอาหาร ก็เลยคิดว่าเรามาลองเปิดร้านอาหารกันไหม ก็เลยยังเอาชื่อโอยั๊วะคงไว้เหมือนเดิม แต่มาเปิดเป็นร้านอาหารแถวเมเจอร์รัชโยธิน เรียกว่าเป็นร้านอาหารรุ่นแรกๆที่มีความเป็นสวนด้วย ก็จะแปลกจากที่อื่นทำให้ลูกค้าชอบ

 

ทำไมต้องชื่อโอยั๊วะ

จริงๆ ไม่มีเหตุผลอะไรเป็นพิเศษเลย แค่ช่วงวัยรุ่นยุคพี่ ก็จะคุ้นกับคำว่า โอยั๊วะ คือ กาแฟดำ คิดว่ามันเป็นชื่อติดหู ชื่อมันก็ทำให้ร้านเราดูกันเอง เข้าถึงง่าย ดูเป็นมิตร  ซึ่งมันกลายเป็นว่าก็นำพาให้ลูกค้าสงสัย และเข้ามาสอบถามพูดคุยกับเรา ว่าชื่ออะไร มีโอยั๊วะขายไหม ทำไมชื่อเหมือนร้านเล็กๆ แต่ไม่มีโอยั๊วะขาย อะไรแบบนี้ ก็ทำให้ลูกค้าเริ่มสนใจเรามากขึ้น ช่วงแรกร้านเราก็กระแสตอบรับดีมาก ดังมากในช่วงแรก

โอยั๊วะ

ปัญหาที่เข้ามา คือจุดเปลี่ยน แลกกับบทเรียนที่หาซื้อไม่ได้

แต่ปัญหาก็เกิดขึ้นจนได้ ร้านเปิดแล้วกระแสดี แต่สุดท้ายเราถูกขอคืนพื้นที่เพื่อใช้ในการก่อสร้างคอนโด เราก็ต้องปิดตรงนั้นไป

ต่อมาเรามาเปิดร้านโอยั๊วะ ย่านเกษตร-งามวงศ์วาน หลังจากนั้นก็เกิดวิกฤต คือ ร้านนี้อยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยก็มีข่าวว่า ห้ามให้มีร้านขายแอลกอฮอลล์ในระยะที่เขากำหนด ลูกค้าก็หายหมดเลย เราก็เลยคิดว่า ลองมาจับกลุ่มลูกค้านักศึกษาแล้วกัน เราคิดว่าเราต้องอยู่ให้ได้ ทำอย่างไรก็ได้ให้อยู่รอด ไหนจะค่าเช่าหลายแสน เราเลยทำอะไรไปแบบไม่คิดให้ดีๆ มันเป็นบทเรียนที่หาซื้อไม่ได้ ต้องเจอเอง

ต่อมาเราเปลี่ยนมาทำร้านหมูกะทะ เราใช้ชื่อโอยั๊วะ มาใช้เป็น โอยั๊วะหมูกะทะ ก็ไม่ได้คิดว่ามันจะส่งผลกระทบไหม มันไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ดี พอเปิดร้านหมูกะทะช่วงแรกก็ดี มีคนรอคิวหลายร้อยคน หลังจากนั้นได้ประมาณแค่ 20 วัน ลูกค้าหาย สืบหาสาเหตุก็ปรากฏว่ามีลูกค้าอ้างว่ามาทานมาทานแล้วท้องเสีย ก็นำไปโพส เราก็ติดต่อไปพูดคุยสอบถามจากลูกค้า ซึ่งเรื่องนี้เราก็ให้กฎหมายเข้ามาช่วยในการดำเนินการ ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่เข้ามาถาโถมร้านอย่างหนักมากในช่วงนั้น

แต่จุดเปลี่ยนของเรา ก็คือ หลังจากนั้นเราก็ยังทำมาเรื่อยๆ แต่รู้สึกว่าไม่ใช่ตัวเราเลย ทำแล้วทุกข์ใจ รับไม่ได้ที่เห็นอาหารเหลือทิ้งทุกวัน เราอยู่เส้นทางร้านอาหารมา เห็นว่าวัตถุดิบเหล่านี้ มีมูลค่าขนาดไหน เลยตัดสินใจปิดร้านหมูกะทะลง แล้วกลับมาทำร้านอาหารแบบที่เป็นตัวเราเอง ล่าสุดโอยั๊วะ เปิดร้านอาหารอีกหนึ่งร้านที่ชื่อว่า โอยั๊วะ Home made breakfast brunch dessert ซึ่งเพิ่งเปิดไปเมื่อประมาณกลางปี 2562

ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม เพื่อพัฒนาร้าน

ต่อมาก็เริ่มศึกษาหาความรู้จากที่ต่างๆ เพิ่มมากขึ้น เรารู้สึกว่าเปิดโลกเลย มันก็คล้ายสิ่งที่เราทำ เพียงแต่บางอย่างเรายังไม่เข้าใจขนาดนั้น เราก็นำมาปรับใช้หลายอย่าง เช่นเรื่อง การปรับเมนู เมื่อก่อนร้านมีเมนูเป็นร้อย แต่ของทั้งหมดนี้ มันคือต้นทุนที่สะสมทั้งนั้นเลย มันคือหนึ่งในวิชาที่เขาสอน เราปรับเรื่องเมนู อย่างแรกคือ ซิกเนเจอร์ นำเมนูที่ขายดีมาให้ลูกค้าได้เห็น เป็นเมนูที่ทำเงิน เราลองปรับใหม่หมดเลย แล้วมันก็จริงตามนั้นเลย ต้นทุนร้านลดลง ของที่ขายได้ก็คือ เมนูเด่นๆ ลูกค้าก็จะเปิดเมนูแค่ 3-4 หน้าแรกแค่นั้น ประมาณ 10 -20 เมนู

หลังจากนั้นก็เริ่มมา ปรับเรื่องรูปแบบการบริกา ความใส่ใจของพนักงาน เรื่อง Service mind ต้องละเอียดอ่อนมากขึ้น ดูแลคุณภาพในการบริการ รวมถึงเปลี่ยนชุดพนักงานให้ดูดีขึ้น เราเรียนรู้บทเรียนเรื่องการปรับลุคพนักงาน ก็พบว่า ทำให้การแสดงออกของลูกค้ากับพนักงานเปลี่ยนไป พอพนักงานมีรูปลักษณ์ที่ดูดีขึ้น ก็มีผลจริงๆ ความเชื่อมั่นที่จะเข้าไปบริการลูกค้า เขาก็จะมั่นใจมากขึ้น ภาพลักษณ์ของร้านก็ดีขึ้นไปด้วย

โอยั๊วะ
คุณกุ้ง เจ้าของร้านโอยั๊วะ

หัวใจหลักในการทำธุรกิจร้านอาหารของโอยั๊วะ คือ?

หัวใจหลัก คือ ความใส่ใจ การทำร้านอาหารเราต้องลงลึกไปให้ถึงทุกๆส่วน ทั้งลูกน้อง ลูกค้า ใส่ใจทุกส่วน ละสายตาไม่ได้เป็นหัวใจที่สำคัญมาก

การทำร้านอาหาร จะว่าไปก็หมือนเราฝากชีวิตไว้กับคนอื่นด้วย อย่างเราเป็นเจ้าของ เราเป็นคนใส่ใจในการทำร้าน แต่ถ้าเพียงแค่วันเดียวที่พนักงานบริการไม่ดี ชักสีหน้าใส่ลูกค้า ไม่มี Service Mind ลูกค้าก็รู้สึกแย่ไปแล้ว และร้านก็อาจเกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีไปด้วย แต่ถ้าพนักงานเราใส่ใจเหมือนเรา บริการดี ลูกค้าก็สัมผัสได้

 

อ่านต่อบทความที่น่าสนใจ

ถอดเคล็ดลับ “เสวย” จากรุ่นสู่รุ่น รีแบรนด์ใหม่อย่างไร ให้ปัง!

Creamery boutique ice creams ทำอย่างไร ในวันที่กลุ่มลูกค้าเดิมเปลี่ยนไป?

ถอดบทเรียน “ หม้อเบ้อเร่อ “ พลิกวิกฤติร้านเกือบเจ๊ง ให้กลับมาอยู่รอดอีกครั้ง

เพราะกล้าที่จะเปลี่ยน สูตรความสำเร็จของเชฟกิ๊ก ทายาทรุ่นที่ 3 ร้าน เลิศทิพย์

 

เรื่องแนะนำ

อรรถรส

อรรถรส กล้าแข่ง ในทำเลที่มีร้านอาหารเยอะ

อรรถรส ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 39 ซึ่งเต็มไปด้วยร้านอาหารหลากหลายสัญชาติ เพราะอะไรจึงกล้าเปิดร้านในทำเลที่มีร้านอาหารเยอะอยู่แล้ว เราจะไปหาคำตอบกัน

เปิดร้านอาหารในศูนย์การค้า

สำรวจตัวเองให้พร้อม ก่อนตัดสินใจ เปิดร้านอาหารในศูนย์การค้า

ปัจจุบันจะสังเกตได้ว่า ร้านอาหารที่อยู่ภายในศูนย์การค้านั้น มีมากมายหลากหลายแบรนด์ ซึ่งก็มีทั้งแบรนด์ใหญ่ ร้านดัง หรือร้านที่ไม่ใช่ร้านดัง แต่เป็นร้านใหม่ๆ ที่เข้ามาเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคมากขึ้น ซึ่งร้านเล็กๆ ก็สามารถที่จะ เปิดร้านอาหารในศูนย์การค้า ได้เช่นกัน สำหรับใครที่กำลังมีความคิดว่า อยากขยายสาขาธุรกิจอาหารของตัวเองมาอยู่ในศูนย์การค้าบ้าง คุณต้องสำรวจความพร้อมของตัวเองก่อน แล้วความพร้อมที่ว่านี้หมายถึงความพร้อมในด้านใดบ้าง คุณประภา จิตวิวัฒน์พร Leasing Manager Business Development Group ศูนย์การค้า Seacon Square มีคำแนะนำมาฝากกัน   สำรวจความพร้อม ก่อนตัดสินใจ เปิดร้านอาหารในศูนย์การค้า   1.เจ้าของร้านต้องสำรวจความพร้อมในการยอมรับกฎระเบียบของศูนย์การค้า ในแง่ที่ศูนย์การค้านั้น จะไม่เหมือนการเปิดแบบ Stand Alone เพราะจะมีกฎระเบียบ ข้อบังคับต่างๆ ที่ค่อนข้างละเอียดในการปฏิบัติตาม เหมือนเราเป็นลูกบ้านในหมู่บ้าน ที่ต้องปฏิบัติตามกฎ ซึ่งถ้าพร้อมและรับได้กับข้อบังคับต่างๆของศูนย์การค้า ก็จะเป็นการช่วยลดปัญหาอุบัติเหตุที่จะตามมาได้ ซึ่งความจริงแล้วกฎระเบียบไม่ได้ยุ่งยากมากอย่างที่คิด เพราะส่วนใหญ่จะเป็นกฎที่เน้นเรื่องของความปลอดภัยเป็นหลักมากกว่า 2. เจ้าของร้านต้องสำรวจความพร้อมเรื่องเงินลงทุน ว่ามีเงินลงทุนที่พร้อมจะ เปิดร้านอาหารในศูนย์การค้า ได้เพียงพอหรือไม่ เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาที่จะตามมา เพราะเจ้าของร้านต้องมีเงินลงทุนที่เพียงพอ ในส่วนของงานก่อสร้าง การออกแบบ การจ้างผู้รับเหมา […]

ศูนย์การค้า

รวมเรื่องเข้าใจผิด! เกี่ยวกับการเปิดร้านในศูนย์การค้า

เชื่อเลยว่า มีเจ้าของร้านอาหารหลายคน หรือแม้แต่คนที่ยังไม่มีร้านอาหารก็ตาม ต้องเคยมีความคิดว่า การจะนำร้านอาหารของตัวเองเข้าไปเปิดอยู่ในศูนย์การค้าใหญ่ๆได้นั้น ทำอย่างไรถึงจะเข้าได้ คงเป็นเรื่องที่ยุ่งยากมาก และดูไกลตัวจนเกินไป ซึ่งทีมงาน Amarin Academy ได้มีโอกาสพูดคุยกับ คุณประภา จิตวิวัฒน์พร Leasing Manager Business Development Group ศูนย์การค้า Seacon Square ได้เผยว่าความจริงแล้ว การนำร้านเข้ามาเปิดในศูนย์การค้านั้น ไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไปอย่างที่หลายคนกังวล และเข้าใจผิดกันไปก่อน แล้วสิ่งที่เจ้าของร้านมักเข้าใจผิด ในการคิดจะนำร้านอาหารเข้าศูนย์การค้า มีอะไรบ้าง มาดูกันครับ   รวมเรื่องเข้าใจผิด! เกี่ยวกับการเปิดร้านในศูนย์การค้า 1. ต้องเป็นร้านใหญ่ แบรนด์ดังเท่านั้น! สาเหตุที่เจ้าของร้านหลายราย มักเข้าใจผิดเป็นอันดับต้นๆ ในการมาเปิดร้านในศูนย์การค้า ก็คือเรื่องแบรนด์ บางรายคิดว่า ศูนย์การค้ามักรับแต่แบรนด์ดังเท่านั้น เราเป็นเพียงร้านเล็กๆ คงไม่สามารถนำร้านเข้าไปอยู่ได้ ซึ่งความจริงแล้ว ศูนย์การค้ารับพิจารณาทั้งแบรนด์ใหญ่ และแบรนด์ใหม่ๆ อยู่เสมอ แต่ที่สำคัญมากๆ เป็นประเด็นหลักเลย ก็คือ ร้านของคุณจะต้องอร่อยจริง คุณภาพดีจริง เพราะฉะนั้น ทำให้อาหารร้านของคุณอร่อยก่อน […]

จริงหรือไม่!? ร้านสวยแม้กาแฟแย่คนก็ซื้อ? ผู้ใช้ทวิตเตอร์แชร์มุมมอง กาแฟแย่และแพง แต่คนเยอะมากเพราะถ่ายรูปสวย หรือคาเฟ่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราไปแล้ว?

จริงหรือไม่!? ร้านสวยแม้กาแฟแย่คนก็ซื้อ? ผู้ใช้ทวิตเตอร์แชร์มุมมอง กาแฟแย่และแพง แต่คนเยอะมากเพราะถ่ายรูปสวย หรือ “คาเฟ่” เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราไปแล้ว? เป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในทวิตเตอร์ เมื่อผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่ง ได้มีการแชร์มุมมองเกี่ยวกับรสชาติของเครื่องดื่มและอาหารของร้าน คาเฟ่ ว่ามักจะมีรสชาติแย่ ในขณะที่ราคาแพงมาก แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีผู้ไปใช้บริการเยอะมาก ด้วยเหตุผลว่าเพราะร้านนั้นถ่ายรูปสวย และเธอยังได้ตั้งคำถามต่ออีกว่า ทำไมคาเฟ่ที่มีมุมถ่ายรูปถึงได้กลายมาเป็นส่วนสำคัญของวิถีชีวิตคนกรุงเทพฯ ได้ขนาดนี้ จนบางทีเธอก็คิดว่าทำไมให้ทำคาเฟ่ให้เป็นสตูดิโอถ่ายรูปไปเลย… โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์รายนี้ยังได้เสริมถึงเรื่องนี้อีกว่า ที่เธอได้พูดถึงประเด็นนี้ขึ้นมา เพราะรู้สึกว่าการที่คนซื้อเครื่องดื่มหรืออาหารมาแล้วกินไม่หมด เพราะว่าไม่อร่อย ทำให้เกิด waste จากการบริโภคได้ ความเห็นจากชาวเน็ต ซึ่งหลังจากเรื่องนี้ออกไปก็ได้มีผู้ใช้ทวิตเตอร์ให้ความสนใจเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างล้นหลาม บ้างก็บอกว่า “ไปคาเฟ่ไหนๆ ก็ไม่เจอที่เครื่องดื่มถูกปากเลยค่ะ ราคาก็แรงมากส่วนใหญ่แก้วละ 60-150 เลยนะที่เจอมา” “คาเฟ่แบบนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ได้ไม่นานหรอก ต่อให้ร้านสวยถ้าของกินแพงแต่คุณภาพห่วย คงไม่มีใครไปซ้ำเกิน 2 ครั้งหรอกค่ะ มุมก็มุมเดิม เข้าใจแหละว่าช่วงนี้คนไม่ค่อยได้เที่ยวไหน ร้านกาแฟสวยๆ สักร้านก็ทำให้ผ่อนคลายเหมือนไปเที่ยวพักผ่อนได้ แต่สิ่งที่น่าจะดึงดูดได้จริงคือคุณภาพสินค้า” บ้างก็บอกว่า “บางร้านก็อร่อยนะคะ แต่ชาวเซลฟี่เยอะไปหน่อย เดินวนถ่ายทั่วร้านจนทำให้คนที่อยากไปนั่งกินเฉย ๆ รู้สึกไม่เป็นส่วนตัวเหมือนโดนคุกคามก็มี นั่งกินอยู่ดี ๆ มายืนจ้องแบบฉันจะถ่ายตรงนี้แกลุกไปสิ”  คาเฟ่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต? […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.