ฟาสต์ฟู้ด แห่ง ฮอยอัน Banh Mi มีดีอะไร? - Amarin Academy

ฟาสต์ฟู้ด แห่ง ฮอยอัน Banh Mi มีดีอะไร?

หนาวนี้ที่เวียดนาม เดอะซีรีส์ ตอนที่ 2 ฟาสต์ฟู้ด แห่ง ฮอยอัน Banh Mi มีดีอะไร? เมืองฮอยอัน ประเทศเวียดนาม เมืองที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว และอุดมสมบูรณ์ไปด้วยอาหารการกินมากมาย วันนี้เราไม่พลาดที่จะมาลอง ฟาสต์ฟู้ดสไตล์เวียดนามกันบ้าง ว่าเมนูเด็ดคืออะไร? และทำไมถึงครองใจทั้งชาวเวียดนามและชาวต่างชาติได้

 

ฟาสต์ฟู้ด แห่ง เมืองฮอยอัน

             เรามาทำความรู้จัก “ฮอยอัน” หรือ “โห่ยอาน” คร่าวๆกันก่อน ฮอยอันถือได้ว่าเป็นเมืองขนาดเล็กอยู่ตรงฝั่งทะเลจีนใต้ ในเขตจังหวัด “กว๋างนาม” ทางตอนกลางของประเทศเวียดนาม เมืองฮอยอันได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลก เมื่อปี พ.ศ. 2542 โดยองค์การยูเนสโก ด้วยเหตุผลว่าเป็นตัวอย่างของเมืองท่าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีการผสมผสานศิลปะและสถาปัตยกรรมทั้งของท้องถิ่นและของต่างชาติไว้อย่างมีเอกลักษณ์

            ในอดีตเมืองฮอยอันเป็นเมืองแห่งความคึกคัก เนืองแน่นเนื่องจากมีทั้งชาวดัตท์ จีน ญี่ปุ่นและอินเดียเดินทางเข้ามาตั้งหลักปักฐาน ทำมาค้าขายกันในเมืองนี้จำนวนมาก จนถึงทุกวันนี้ฮอยอัน ยังคงมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมเยือนตลอด ที่เจอเยอะมากๆเลย คือนักท่องเที่ยวชาวเกาหลี และชาวจีน จึงได้รับการขนานนามว่า “เมืองมรดกโลกสีมัสตาร์ด” หรือ “The City of Lanterns” นั่นเอง มนต์เสน่ห์ของเมืองแห่งนี้ คือ แสงสีที่มีความโรแมนติกยามค่ำคืนที่มาจากโคมไฟกระดาษหลากสีและสีมัสตาร์ดของอาคารบ้านเรือน ร้านกาแฟ ร้านค้า ร้านอาหารซึ่งมีเอกลักษณ์โดดเด่นไม่เหมือนใคร

ฟาสต์ฟู้ด

            นอกจากนี้ ฮอยอันยังเป็นเมืองหนึ่งของเวียดนามที่นักลงทุนชาวต่างชาติให้ความสนใจ และอยากมาลงทุนทำธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจร้านอาหารประเภท QSR (Quick Service Restaurant) หรือที่เรียกว่า ธุรกิจฟาสต์ฟู้ดนั่นเอง เนื่องจากมีมูลค่ามหาศาลถึง 651,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แบรนด์ดังแบรนด์ใหญ่อย่างแมคโดนัลด์และเบอร์เกอร์คิง จึงอยากขยายสาขาเข้ามาที่เวียดนาม โดยเริ่มเข้าไปชิมลางได้ไม่กี่ปี แต่กลับพบว่าเป็นตลาดที่เจาะยากมากในหมู่ผู้บริโภคท้องถิ่น ส่งผลให้อัตราการเติบโตของธุรกิจชะลอตัวมาก

            แมคโดนัลด์ และเบอร์เกอร์คิง อาจประสบความสำเร็จในการละลายพฤติกรรมการกินของผู้บริโภคในตลาดจีนและญี่ปุ่น ทำให้ผู้บริโภคยอมรับอาหารตะวันตกมากขึ้น และธุรกิจเติบโตได้เร็ว แต่ที่เวียดนามนั้นแตกต่างอย่างสิ้นเชิง ตอนที่แมคโดนัลด์เข้ามาเปิดสาขาแรกที่นครโฮจิมินห์เมื่อปี 2014 ผู้คนนับร้อยแห่เข้าคิวเป็นชั่วโมง เพื่อรอซื้อเบอร์เกอร์มาลอง แต่หลังจากนั้นไม่นาน ความคึกคักก็ซาลงจนกลายเป็นเงียบเหงา จากที่แมคโดนัลด์เคยตั้งเป้าจะขยายธุรกิจในเวียดนามให้ครบ 100 สาขา ภายใน 10 ปี จนถึงขณะนี้ แมคโดนัลด์ในเวียดนามมีเพียง 17 สาขาเท่านั้น

            ข้อมูลระบุว่าแมคโดนัลด์และเบอร์เกอร์คิง มีส่วนแบ่งในตลาดฟาสต์ฟูดเวียดนามรวมกันเพียง 2.8% ขณะที่เคเอฟซีมีส่วนแบ่ง 4.4% และพิซซ่าฮัทครองมากหน่อย 21.3%

 

ทำไมเวียดนามจึงเป็นตลาดที่เจาะยาก

            ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจว่า เวียดนามเป็นประเทศที่ผ่านศึกสงครามมาอย่างต่อเนื่อง การที่โลกตะวันตกจะเข้ามาดำเนินธุรกิจจึงเป็นไปได้ยาก แม้สงครามสุดท้ายที่ต่อสู้กับอเมริกาจะสิ้นสุดเมื่อปี 1972 ก็ยังทิ้งช่วงไปอีกกว่า 2 ทศวรรษ กว่าเวียดนามจะฟื้นฟูประเทศ และเปิดประตูรับนักลงทุนจากข้างนอกในปี 1995 สิ่งที่เชนฟาสต์ฟู้ดจากสหรัฐฯ เผชิญคือ การแข่งขันอย่างดุเดือด ทั้งจากร้านอาหารท้องถิ่นและร้านจากต่างประเทศที่หวังเข้ามาครองตลาดเวียดนามกันทั้งนั้น      


            อีกทั้งเวียดนามยังเป็นประเทศที่ถือได้ว่าผู้คนยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรมของประเทศอย่างชัดเจน มีวัฒนธรรมอาหารอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตัวเอง อาหารที่ได้ชื่อว่าเป็นฟาสต์ฟู้ดสไตล์เวียดนามนั้น มีมากมาย โดดเด่นสุดได้แก่ เฝอ (ก๋วยเตี๋ยวน้ำ) และบานหมี่ หรือ บั๋นหมี่ (แซนด์วิชเวียดนามที่ได้รับอิทธิพลจากยุคอาณานิคมฝรั่งเศส) นี่ยังไม่รวมข้าวราดแกง และขนมจีนหลากหลายแบบ

ฟาสต์ฟู้ด
บานหมี่

            นอกจากร้านข้างถนนจะสะดวกและหาง่าย ปัจจัยสำคัญอีกอย่างคือ รสชาติและราคา หากไม่พูดถึงกลุ่มนักท่องเที่ยว ฟาสต์ฟู้ดตะวันตกไม่ได้ถูกปากชาวเวียดนามนัก เพราะพวกเขาคุ้นชินกับเฝอและบานหมี่ หรือ บั๋นหมี่มากกว่า จะดีหน่อยก็แบรนด์ฟาสต์ฟู้ด “จอลลี่บี” จากฟิลิปปินส์ที่ยังพอทำรายได้ ขยายสาขาได้ 80 กว่าสาขาเพราะรสชาติหวาน เผ็ด เค็ม และจัดจ้านกว่า อย่างไรก็แล้วแต่ เบอร์เกอร์หรือไก่ทอดก็ไม่ใช่อาหารที่ลูกค้าจะบริโภคได้ทุกวัน เนื่องจากราคาแพงกว่าอาหารข้างทางมาก เบอร์เกอร์ 1 ชิ้นอาจซื้อเฝอได้ 2-3 ชามเลยทีเดียว ผู้บริโภคเวียดนามจึงเทใจให้ฟาสต์ฟู้ดแบบเวียดนามมากกว่า

ฟาสต์ฟู้ด

            ไปเยือนฮอยอันทั้งที ต้องไม่พลาดไปยืนรอต่อคิวกินบานหมี่ หรือ บั๋นหมี่ (Banh Mi) ฟาสต์ฟู้ดอันโด่งดังของเวียดนาม แซนวิชที่ผสมวัฒนธรรมอาหารฝรั่งเศสกับอาหารเวียดนามเข้าด้วยกัน กลายเป็นบานหมี่ (Banh Mi) เมนูลูกครึ่งประจำประเทศ ซึ่งหากินได้มากมายแทบจะทุกตรอก ซอก ซอย เป็นหนึ่งใน ไม่ต่างจากข้าวแกง หรือก๋วยเตี๋ยวหมูของบ้านเรา และที่ฮอยอัน บานหมี่หรือบั๋นหมี่ดังที่สุดของเมืองต้องที่ Banh Mi Phuong ที่แม้แต่ Anthony Boudain พิธีกรอาหารชื่อดังของอเมริกา ก็ยังมากินเมนูเด็ดของร้านนี้ ขนมปังฝรั่งเศสหรือบาแก็ตของ Banh Mi Phuong เป็นสูตรลับของมิสเฟือง (Phuong) เจ้าของร้าน ที่ทุกชิ้น อบกันสดใหม่ทุกวันอยู่ข้างๆร้าน ด้วยคิวแถวที่ยาวเหยียด ทั้งลูกค้าชาวต่างชาติเอง คนเวียดนามเองก็มายืนรอต่อคิวไม่ใช่น้อย แนะนำควรหลีกเลี่ยงช่วงเที่ยงวัน หรือมื้อเย็น เพราะคิวจะแน่นมาก


            ไม่แปลกใจที่จะมีข้อมูลว่าชาวเวียดนามจ่ายเงินไปกับร้านอาหารท้องถิ่นถึง 78% และจ่ายให้กับร้านฟาสต์ฟู้ดแบรนด์นอกแค่ 1% เท่านั้น ช่วงระหว่างปี 2016-2018 จำนวนผู้บริโภคเวียดนามใช้บริการร้านฟาสต์ฟู้ดลดลง 31% และเดินเข้าร้านอาหารข้างทางมากขึ้น 70% อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีฟาสต์ฟู้ดจากต่างประเทศแบรนด์ไหนที่ถอดใจ ยังมีความพยายามจะปรับกลยุทธ์เพื่อเอาชนะใจผู้บริโภคท้องถิ่น อาทิ การปรับรสชาติให้ถูกปาก โดยเพิ่มเมนูที่ชาวเวียดนามคุ้นเคย เช่น ข้าวหมูย่างไข่ดาว และข้าวปลาทอด เป็นต้น แบรนด์ฟาสต์ฟู้ดสัญชาติอเมริกันจะสามารถพลิกกลยุทธ์จนพิชิตตลาดเวียดนามได้หรือไม่ คงต้องจับตาดู

            ฝากไว้สำหรับเพื่อนๆผู้ประกอบการ การสำรวจกลุ่มลูกค้าในทำเลที่อยากเปิดร้านเป็นเรื่องสำคัญ วัฒนธรรมการกินอาหารของคนแต่ละพื้นที่ย่อมแตกต่างกัน ควรหาข้อมูลมากๆ สำรวจตลาดใกล้เคียงก่อนเปิดร้านอาหาร

 


 

                   การทำร้านอาหาร ยังมีอีกหลายเรื่องราว หลายขั้นตอนที่เจ้าของร้านควรรู้ ดังนั้น ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง กับงานใหญ่ส่งท้ายปี  Amarin Academy 3rd Anniversary : Food Trend Connect  งานครบรอบ 3 ปีของ Amarin Academy กับการรวมตัวของเหล่าผู้ประกอบการร้านอาหารกว่า 150 ร้าน พร้อมโอกาสการสร้าง Connection กับร้านชื่อดังต่างๆมากมาย อีกทั้งยังรวบรวมผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายแขนงที่จะมาอัพเดทเทรนด์ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็น วิเคราะห์พฤติกรรมการบริโภคของลูกค้า / งานดีไซน์ร้านสุดเจ๋ง / กลยุทธ์เรียกลูกค้าเข้าร้านสไตส์ Influencer ชื่อดัง ปิดท้ายด้วยปาร์ตี้สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ร่วมพูดคุยกับเหล่ากูรูและเจ้าของร้านผู้มากประสบการณ์ในบรรยากาศเป็นกันเอง ซึ่งงานจะจัดขึ้นในวันอังคารที่ 17 ธันวาคม 2562

 

สมัครเข้าร่วมงาน Amarin Academy 3rd Anniversary : Food Trend Connect  คลิก!!

Amarin Academy

เรื่องแนะนำ

ครีเอทเมนูอาหาร

5 เคล็ดลับ ครีเอทเมนูอาหาร เรียกลูกค้าเข้าร้าน

การทำร้านอาหาร เป็นอีกธุรกิจที่ต้องสร้างความแตกต่าง เพื่อให้สามารถอยู่รอดในทุกสภาวะการแข่งขันของตลาดในปัจจุบัน และในยุคที่ลูกค้ามีตัวเลือกมากมาย ซึ่งการสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ ของร้าน ก็เป็นส่วนหนึ่งที่อาจทำให้ผู้บริโภคหันมาสนใจได้ คราวนี้เรามาดูกันว่า ถ้าอยากสร้างความแตกต่างให้เมนูอาหาร และให้เมนูของร้านคุณพิเศษกว่าคู่แข่ง จะต้องมีวิธี ครีเอทเมนูอาหาร อย่างไรบ้าง มาดู 5 เคล็ดลับนี้  5 เคล็ดลับ ครีเอทเมนูอาหาร เรียกลูกค้าเข้าร้าน   พลิกแพลง และปรับเปลี่ยน ลองใส่ไอเดียให้กับเมนูดั้งเดิมที่ได้รับความนิยมในร้าน ด้วยวัตถุดิบอื่น ๆ เพื่อสร้างรสชาติหรือรสสัมผัสใหม่ ๆ  หรือใช้การนำเสนอที่แปลกตาไปจากรูปแบบดั้งเดิม ยกตัวอย่าง การเปลี่ยนสำรับกับข้าวแบบชาวเหนือ ให้เป็นลักษณะเบนโตะแบบญี่ปุ่น หรือการปรับเปลี่ยนวัตถุดิบบางอย่างของเมนูในกระแสเพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับกลุ่มลูกค้า เช่น เปลี่ยนไข่มุกเป็นเฉาก๊วยแบบไทยๆ สำหรับลูกค้าที่อาจจะไม่ชอบทานไข่มุก   ความคาดเดาไม่ได้ ถ้าต้องการเจาะกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบกระแสใหม่ ๆ อาจลองเพิ่มความรู้สึกแปลกใหม่ให้กับเมนู ด้วยสิ่งที่เขาคาดเดาไม่ได้ ไม่ว่าจะรสชาติหรือการนำเสนอหน้าตาอาหาร  เช่น ร้านเบอร์เกอร์ ธรรมดาชิ้นละ 25 บาท ให้กลายเป็น Challenge Meals  เสิร์ฟเบอร์เกอร์ชิ้นยักษ์เริ่มต้นที่เซตละ 2,500 บาท โดยนำไอเดียฟาสต์ฟู้ดมาทำการตลาด […]

โลโก้ร้านอาหาร

9 การออกแบบ โลโก้ร้านอาหาร สุดเจ๋ง

โลโก้ร้านอาหาร คือหนึ่งในสิ่งสำคัญที่สร้างการจดจำและความประทับใจให้ลูกค้าตั้งแต่แรกเห็น ฉะนั้นการออกแบบโลกโก้ให้โดนใจทั้งตัวเราและลูกค้าจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก

ถ่ายภาพสินค้าให้สวย

เทคนิค ถ่ายภาพสินค้าให้สวย (ด้วยมือถือ) ช่วยเพิ่มยอดขาย

ระหว่างที่คุณกำลังนั่งเล่น Facebook, IG, Twitter ฯลฯ  พลันสายตาก็ไปสะดุดเข้ากับภาพอาหาร ที่ดูน่ากินดีเหลือเกิน เลยอดที่จะกดเข้าไปอ่านรายละเอียดไม่ได้ เผลอๆ ถ้าร้านนี้ตั้งอยู่ใกล้ๆ ที่ทำงานจะได้ชวนเพื่อนไปจัดกันเย็นนี้เสียเลย

Digital Delicious

Digital Delicious เทรนด์ใหม่รูปแบบนำเสนออาหารสุดล้ำ เปิดประสบการณ์ผู้บริโภค

ในยุคนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามามีบทบาทกับทุกๆสิ่ง ไม่เว้นแม้แต่แวดวงอาหาร ซึ่งปัจจุบันการเลือกรับประทานอาหารของผู้บริโภคไม่ได้หยุดเพียงแค่ รสชาติอร่อย หน้าตาอาหารสวยงาม หรือแม้แต่การบริการที่ดีเท่านั้น แต่สิ่งที่จะดึงดูดผู้บริโภคในยุคนี้ได้ก็คือ ประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นและแปลกใหม่ในการรับประทานอาหารนั่นเอง เพื่อให้เกิดการจดจำ สร้างความประทับใจ และเป็นที่พูดถึง เรากำลังพูดถึง Digital Delicious ที่นำอาหารและดิจิทัลอาร์ต มารวมไว้ด้วยกัน กับรูปแบบการนำเสนอสุดล้ำที่ชวนว๊าว   เปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้บริโภคด้วย Digital Delicious  ปัจจุบันนี้แวดวงอาหารบ้านเรา ก็มีวิวัฒนาการที่น่าสนใจมากขึ้นทุกวัน อย่างเช่นล่าสุดที่บอกไปว่ามีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาในการพรีเซ้นท์อาหาร เพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้บริโภค นั่นก็คือโปรเจคDigital Delicious ที่ริเริ่มโดยบริษัท Doozy Digilab ผู้นําด้านการสร้างสรรค์ประสบการณ์ดิจิทัลรูปแบบใหม่ ได้นำอาหารและดิจิทัลอาร์ตมารวมไว้ด้วยกัน ในรูปแบบของอาหาร Fine Dining โดยเชฟชื่อดัง เช่น เชฟเอริก ไวด์มันน์ ผู้คว้าตำแหน่งเชฟกระทะเหล็ก Iron Chef Thailand จาก Oriental Residence Bangkok, เชฟแพม-พิชญา อุทารธรรม, เชฟแต-จันทร์ชนก สุนทรญาณกิจ ศิลปินเชฟขนมอบชื่อดัง และเค-อานนท์ ฮุนตระกูล […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2024 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.