หมัดเด็ด Hai di lao หม้อไฟสัญชาติจีน สู่การเป็นร้านอาหารระดับโลก - Amarin Academy

หมัดเด็ด Hai di lao หม้อไฟสัญชาติจีน สู่การเป็นร้านอาหารระดับโลก

ถ้าพูดถึงร้านอาหารประเภท hot pot หม้อไฟ ที่กำลังมาแรงในขณะนี้ จนคนต้องยอมต่อแถวรอคิวหลายชั่วโมงคงหนีไม่พ้น ร้านหม้อไฟสัญชาติจีนที่ชื่อว่า Hai di lao (ไห่-ตี้-เหลา) ร้านหม้อไฟที่โด่งดังในประเทศจีน รวมถึงอีกหลายประเทศ และเพิ่งมาเปิดสาขาในประเทศไทยได้ไม่นาน จนเกิดความสงสัยว่า ร้านนี้มีดีอะไร และทำไมลูกค้าถึงยอมที่จะรอคิวเพื่อให้ได้ทาน

 

” Hai di lao “

จากความสงสัยก็ได้หาข้อมูลเพิ่มเติมของร้าน Hai di lao ก็พบว่าธุรกิจนี้ไม่ธรรมดาเลย เพราะแบรนด์นี้มีต้นกำเนิดจากมณฑลเสฉวน ประเทศจีน และก่อตั้งโดย Zhang Yong (จาง หย่ง) ซึ่งความน่าสนใจอยู่ที่การเริ่มต้นจากเชน Hotpot ในประเทศจีน แต่สามารถก้าวกระโดดขึ้นมาเป็นเชนร้านอาหารระดับโลก ซึ่งปัจจุบันขยายไปแล้ว 400 กว่าสาขาทั่วโลก ซึ่งประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในนั้น และมียอดขายในปี 2018 กว่า 17,000 ล้านหยวน ซึ่งถ้าเทียบกับร้านอาหารประเภทที่คล้ายกันในบ้านเราอย่าง MK Restaurant ที่คิดว่าใหญ่แล้ว มีทั้งร้านสุกี้และร้านอาหารญี่ปุ่น กว่า 600 สาขา มีจำนวนสาขามากกว่า Hai Di Lao แต่เมื่อเทียบรายได้ ปี 2018 MK มีรายได้ 17,234 ล้านบาท กำไร 2,574 ล้านบาท ซึ่งทั้งรายได้ และกำไรน้อยกว่า Hai Di Lao ถึง 3 เท่า

เรามาลองวิเคราะห์ดูว่า Hai Di Lao มีหมัดเด็ดอะไร ทำไมถึงกลายมาเป็นร้านอาหารระดับโลกที่ครองใจผู้บริโภค และก่อให้เกิดเม็ดเงินมหาศาล

 

1.หมัดเด็ด ด้านบริการ

ถ้าใครที่ได้เคยไปที่ร้าน ไม่มีใครไม่พูดถึงการบริการขั้นเทพของร้านนี้ ที่เก็บรายละเอียดความต้องการของลูกค้า ได้เป็นอย่างดี เรียกว่าเป็นจุดแข็งหลักๆ ของร้านเลยก็ว่าได้ ที่บอกว่าละเอียดนั้น ละเอียดอย่างไร เริ่มตั้งแต่การรอคิวของลูกค้าเลยค่ะ โซนนั่งรอก็จะมีบริการเก้าอี้นวดไฟฟ้า บริการทำเล็บ อัดรูป หรือมาเป็นครอบครัวมีลูก ก็จะมีห้องสำหรับเด็กๆด้วย

และเมื่อได้คิวแล้ว พนักงานก็จะพามาที่โต๊ะ ซึ่งจะมีตะกร้าสำหรับเก็บกระเป๋า มีซองพลาสติกสำหรับใส่มือถือ ที่ชาร์ตโทรศัพท์ ลูกค้าผู้หญิงที่ผมยาวก็มียางรัดผมไว้บริการด้วย ใส่ใจรายละเอียดมากๆ เท่านั้นยังไม่พอ ก่อนจะเริ่มสั่งอาหารพนักงานจะนำผ้าเช็ดมือ เอี๊ยมกันเปื้อนมาให้ พร้อมอธิบายเมนูและวิธีการสั่งอย่างละเอียด ไปจนถึงขั้นบริการแกะกุ้งให้ด้วย

นอกเหนือจากนี้ระหว่างการรับประทาน ยังมีการแสดงให้ชมฟรีด้วย ซึ่งการบริการที่กล่าวมานี้นับว่าเป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่ ให้กับลูกค้า ไม่ใช่เพียงแค่มารับประทานอาหารแล้วก็กลับไป แต่การมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้านั้น ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญของการทำธุรกิจอาหารยุคใหม่ให้ประสบความสำเร็จก็ว่าได้ค่ะ

และหากร้านอาหารมีบริการขั้นเทพขนาดนี้ แม้จะมีราคาที่สูงกว่าร้านอื่นๆ แต่เชื่อเลยว่าลูกค้ายอมจ่าย เพื่อแลกกับการบริการที่เหนือความคาดหมายแบบนี้ และประสบการณ์ใหม่ๆ ในการรับประทานอาหาร

Hai di lao

2. หมัดเด็ดที่รสชาติ และคุณภาพอาหาร

การทำร้านอาหารแน่นอนว่า ต้องให้ความสำคัญเรื่องของคุณภาพอาหารมากๆ  แม้ว่าบริการดี แต่รสชาติ และคุณภาพอาหารแย่ ร้านของคุณก็อาจไปไม่รอด แต่สำหรับHai Di Lao ให้ความสำคัญในเรื่องคุณภาพอาหารที่ต้องมีความเป็นมาตรฐานเหมือนกันทุกสาขา ในทุกประเทศ อย่างเช่นเรื่องน้ำซุปที่เป็นจุดเด่น ทางร้านก็จะมีการทำ Base น้ำซุป โดยบรรจุมาแบบสำเร็จรูปในถุงขนาด 760 กรัมเพื่อใส่ลงในหม้อต้มอัตโนมัติทำให้รสชาติไม่ผิดเพี้ยน ในส่วนของวัตถุดิบอื่นๆ เช่น ผัก เนื้อสัตว์ ก็มีการชั่ง ตวง วัดมาแล้วเพื่อให้มีปริมาณที่เท่ากัน และคัดเลือกอย่างดีคุ้มค่ากับผู้บริโภค

 

3. หมัดเด็ด Operation Excellence

อีกหนึ่งหมัดเด็ดของHai Di Lao นั่นก็คือ “การบริหารจัดการร้าน” ที่ยอดเยี่ยม การจัดการวัตถุดิบอย่างเป็นระบบ เช่น การเติมเนื้อสัตว์ในตู้ก็เป็นแบบ FIFO (First In First Out) หยิบขอบจากด้านหน้าก่อน และเติมของจากด้านหลัง ก็จะไม่เกิดวัตถุดิบเก่าค้างตู้

รวมถึงมีการแบ่งหน้าที่พนักงานอย่างชัดเจนและเป็นระบบ ฝ่ายต้อนรับหน้าร้าน พนักงานที่คอยบริการหน้าบ้าน และพนักงานในส่วนหลังบ้าน รวมถึงมีพนักงานคอยบริการลูกค้าอยู่ตลอด ทุกคนผ่านการฝึกมาอย่างดี การมีระบบที่ดีทำให้งานบริการเป็นไปอย่างรวดเร็วไม่ติดขัด

ปัจจุบันมีการจ้างพนักงานกว่า 60,000 คน และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทั้งนี้มีระบุในรายงานสรุปภาพรวมอุตสาหกรรมที่Haidilao เป็นผู้ว่าจ้างว่า บริษัทของเขามีอัตราการรักษาพนักงานไว้กับองค์กรสูงที่สุดในประเภทธุรกิจนี้

 

4. หมัดเด็ด เทคโนโลยี

เทคโนโลยีที่ใช้ในร้านHai Di Lao มีส่วนช่วยในการบริหารจัดการ ลดต้นทุนเรื่องเวลากับร้านอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น เรื่องการรอคิวที่มีระบบให้ลูกค้าสามารถเช็กคิวผ่านออนไลน์ได้ สำหรับการสั่งอาหารก็ใช้การสั่งผ่านไอแพดที่โต๊ะได้เลย ลดระยะเวลาในการเรียกพนักงาน และที่สำคัญลูกค้าสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในการสั่งได้เอง เพราะระบบจะมีการคำนวณจำนวนค่าอาหารให้ก่อนสั่ง

Hai di lao

และนี่คือหมัดเด็ด ที่ทำให้ร้านประสบความสำเร็จ ซึ่งเป็นสิ่งที่คนทำธุรกิจอาหารสามารถนำไปปรับใช้ได้

 

Zhang Yong นอกจากจะเป็นผู้ก่อตั้งHai di lao แล้ว ยังเป็นเจ้าของบริษัทเครื่องปรุงรส Yihai ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ให้กับHai Di Lao รวมถึงเป็นผู้ผลิตสินค้าอื่น เช่น เครื่องปรุงรสสำเร็จรูป หม้อไฟสำเร็จรูป

ซึ่ง 2 บริษัทนี้สร้างรายได้เท่าไหร่?

>> บริษัท Haidilao International Holding Ltd.

ปี 2016 รายได้ 30,801 ล้านบาท กำไร 2,900 ล้านบาท

ปี 2017 รายได้ 41,962 ล้านบาท กำไร 4,055 ล้านบาท

และปี 2018 รายได้ 66,940 ล้านบาท กำไร 6,493 ล้านบาท

 

>> Yihai International Holding Ltd.

ปี 2016 รายได้ 4,883 ล้านบาท กำไร 838 ล้านบาท

ปี 2017 รายได้ 7,389 ล้านบาท กำไร 1,172 ล้านบาท

และปี 2018 รายได้ 12,035 ล้านบาท กำไร 2,459 ล้านบาท

จากตัวเลขพบว่าทั้ง 2 บริษัทเติบโตเป็นเท่าตัว ทำให้ Zhang Yong ก้าวขึ้นเป็นผู้ประกอบการร้านอาหารที่ร่ำรวยที่สุดในโลก

 

…จากที่กล่าวมาไม่แปลกใจเลยว่าทำไมHai Di Lao ถึงกลายเป็นร้านอาหารระดับโลกได้ เพราะความใส่ใจในทุกๆรายละเอียด มอบประสบการณ์ใหม่ๆให้ลูกค้า และไม่หยุดที่จะพัฒนา รวมถึงเข้าใจในความต้องการของผู้บริโภคให้มากที่สุด

 

 

ขอบคุณภาพ : Hai Di Lao Singapore /forbesthailand

เรื่องแนะนำ

ทำร้านอาหาร

ทำร้านอาหาร มีแต่ passion ไม่มีระบบ ไม่รอดนะ!

เวลาได้คุยกับคนที่เริ่ม ทำร้านอาหาร หลายคนชอบบอกว่าเขาอยากทำร้าน เพราะชอบทำอาหาร เวลาทำให้ญาติหรือเพื่อนๆ กินมีแต่คนบอกว่าอร่อย และเชียร์ให้เปิดร้านเลย

ต้นทุนในการทำร้านอาหาร

5 ต้นทุนในการทำร้านอาหาร ที่เจ้าของกิจการควรรู้!

นอกจากต้นทุนด้านวัตถุดิบซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายหลักของร้านอาหารแล้ว ยังมี ต้นทุนในการทำร้านอาหาร ด้านอื่นๆ ที่เราควรทราบอีกมาก แยกได้เป็น 5 ส่วนหลักๆ ดังนี้

ร้านอาหารบริการดี

ร้านอาหารบริการดี เป็นอย่างไร

สิ่งที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่คาดหวัง เมื่อเข้าไปใช้บริการร้านอาหารคือ การบริการที่ดี อย่างนั้นลองมาดูเทคนิคง่ายๆ กันดีกว่า ร้านอาหารบริการดี เป็นอย่างไร

Go Mass หรือ Go Niche โตแบบไหนเหมาะกับร้านของคุณ

                “เมื่อสินค้าไม่ได้แตกต่าง ลูกค้าจะเปรียบเทียบที่ราคาเสมอ” นั่นเป็นเหตุผลว่าคุณจะต้องทำร้านอาหารให้แตกต่างจากคู่แข่ง สิ่งสำคัญที่จะทำให้เกิดความแตกต่าง นอกจากการออกแบบสินค้าและบริการ ก็คือ การทำการตลาดและการสร้างแบรนด์ แล้วจะสร้างแบบไหน Go Mass หรือ Go Niche ที่เหมาะสมกับร้านของคุณ บทความนี้มีคำตอบ   >>MASS คืออะไร Niche เป็นแบบไหน ?             การมุ่งตลาด Mass คือ การทำร้านอาหารเพื่อตอบโจทย์คนหลายกลุ่ม มีความต้องการชัดเจน มีขนาดตลาดที่ใหญ่ ในขณะที่ Niche คือ การเจาะกลุ่มตลาดเฉพาะ มีขนาดตลาดที่แคบลงมา มีผู้เล่นน้อยราย มุ่งการสร้างมูลค่าให้กับสินค้า และสามารถขายสินค้าในระดับราคาที่สูงมากกว่า Mass ยกตัวอย่าง สมัยก่อนร้านอาหารญี่ปุ่นมีความนิยมที่จำกัด เนื่องจากมีราคาสูง นิยมแค่คนไทยที่เคยไปท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่น ร้านอาหารญี่ปุ่นจึงไปแฝงตัวตามย่านธุรกิจที่มีคนญี่ปุ่นทำงานและใช้ชีวิตอยู่ เช่น สุขุมวิท สีลม จึงเป็นตลาดที่ค่อนข้าง Niche […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.