เทคนิค หาพนักงานร้านอาหาร ชั้นเซียน ก่อนเปิดร้าน! - Amarin Academy

เทคนิค หาพนักงานร้านอาหาร ชั้นเซียน ก่อนเปิดร้าน!

หาพนักงานร้านอาหาร จนท้อ แถมทำงานได้ไม่ถึงเดือนก็ลาออก ต้องหาพนักงานมาแทนกันให้วุ่น ลดปัญหาน่าปวดหัวเรื่องพนักงาน ด้วยเทคนิคการหาคนให้ตรงใจตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อลดผลกระทบที่เกิดกับร้านของคุณให้มากที่สุดกันดีกว่า

 

เทคนิค หาพนักงานร้านอาหาร ก่อนเปิดร้าน!

WHAT  หาอะไร

ประเภทของร้านอาหารแต่ละแบบ ต้องการพนักงานที่ต่างประสบการณ์กัน  รวมถึงจำนวนที่เหมาะสมก็ต่างกันด้วย เพื่อให้สอดคล้องกับการวางโครงสร้างต้นทุนร้านอาหารที่เหมาะสม ทีมงานร้านอาหารแบ่งเป็น 2 ทีมงานหลัก ๆ  คือ ทีมงานหลังบ้าน เช่น เชฟ ผู้ช่วยเชฟ คนปรุงอาหาร คนแพ็คอาหาร พนักงานล้างจาน และทีมงานหน้าบ้าน เช่น  ผู้จัดการร้าน ผู้ช่วยผู้จัดการ พนักงานต้อนรับ แคชเชียร์พนักงานรับออร์เดอร์  ซึ่งแต่ละตำแหน่งมีหน้าที่การทำงานที่ชัดเจน จำนวนการจ้างงานก็ขึ้นอยู่กับความจำเป็นของร้าน เช่น ถ้าคุณทำร้านอาหาร Quick Service  เน้นพนักงานแคชเชียร์รับ Order ลูกค้า ไม่ต้องจ้าง Food Runner  ก็ได้  หรือร้านขนาดเล็ก ผู้จัดการคนเดียว โดยไม่ต้องมีผู้ช่วยก็สามารถดำเนินงานได้

Tips : ต้นทุนแรงงานเป็น Fix Cost ไม่ควรเกิน 20 % ของต้นทุนทั้งหมด และอย่าลืมกำหนดต้นทุนพนักงานพาร์ทไทม์ไว้ในโครงสร้างต้นทุนด้วย เพื่อให้แผนการคืนทุนร้านอาหารมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

WHERE หาที่ไหน

            แต่ก่อนเจ้าของร้านอาหารมักใช้วิธีติดสื่อหน้าร้าน หรือกรณีเช่าพื้นที่ห้าง อาจใช้พื้นที่ส่วนกลาง แต่อาจไม่มีประสิทธิภาพในยุคปัจจุบัน พนักงานส่วนครัวเชฟ มักจะหาลูกทีมมาด้วยอยู่แล้ว แต่สำหรับพนักงานหน้าร้านปัจจุบันสามารถใช้ช่องทางออนไลน์ให้เป็นประโยชน์ โดยการเข้ากลุ่มคนหางานร้านอาหาร วิธีนี้จะทำให้เราเห็นข้อมูลค่าจ้างแรงงานด้วย  นอกจากนั้นอย่าลืมใช้ช่องทางสื่อโปรโมทเพจ เฟสบุ๊กของร้านเอง หรือสามารถใช้บริการจัดจ้างงาน ซึ่งก็ต้องเผื่อค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไว้ด้วย

Tips :  ลองใช้สื่อเฟสบุ๊คของตนเอง แล้วยิงแอดโฆษณาที่สามารถกำหนด Target ให้สอดคล้องกับความต้องการของคุณได้ เช่น เลือกกำหนดโลเคชั่น เพื่อสรรหาพนักงานที่อยู่ในโลเคชั่นร้าน ลดอัตราการมาสายของพนักงาน  

 

HOW หาอย่างไร

            ขั้นตอนสำคัญคือการสัมภาษณ์คน  ร้านอาหารเป็นธุรกิจขายบริการ เพราะฉะนั้นนอกจากประสบการณ์ ความสามารถการทำงานที่ตรงกับรูปแบบร้านอาหารของคุณแล้ว ทัศนคติของทีมงานก็สำคัญไม่แพ้กัน เจ้าของร้านควรให้ความสำคัญกับการสัมภาษณ์เชิงลึก เพื่อวัดทัศนคติในการทำงานด้วย โดยอาจใช้วิธีสร้างบทบาทสมมติ กำหนดสถานการณ์ เพื่อดูวิธีการแก้ปัญหาก็ได้

Tips : การที่เจ้าของร้านเป็นคนสัมภาษณ์ผู้สมัครเอง จะทำให้ได้คุณสมบัติลูกจ้างตามที่ต้องการ แต่ถ้าไม่มีเวลามากพอสามารถให้ผู้จัดการร้านสัมภาษณ์แทนได้ โดยอาจเป็นการสัมภาษณ์ร่วมกันในช่วงแรกเพื่อให้ทราบถึงแนวทางในการคัดเลือกคนที่อยากได้ก่อน รวมถึงควรนัดคนสัมภาษณ์ให้มากกว่าจำนวนที่อยากได้ประมาณ 80% เพราะโดยธรรมชาติของธุรกิจนี้ ผู้สมัครมักจะเปลี่ยนใจไม่มาสัมภาษณ์ตามนัด ทำให้เสียเวลาได้

 

WHEN หาเมื่อไหร่

            ตำแหน่งที่ควรจะจ้างเป็นอันแรกคือ เชฟ   เพราะมีส่วนร่วมในการกำหนดคอนเซปต์อาหาร เชฟยังมีบทบาทในการเลือกอุปกรณ์ครัวที่ต้องใช้ ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซื้ออุปกรณ์ที่ไม่ได้ใช้งาน การวางระบบครัว การใช้พื้นที่ที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซื้ออุปกรณ์หรือจัดการพื้นที่ใช้งานที่ไม่เหมาะสมได้  ร้านควรจะสรรหาเชฟไม่น้อยกว่า 2 เดือน หลังจากนั้นถึงจะเป็นในส่วนของพนักงานร้านอาหาร ผู้จัดการร้าน พนักงานเสิร์ฟเพื่อเทรนการทำงาน และพนักงานส่วนอื่น ๆ สามารถจ้างได้ก่อนร้านเปิดเพียงไม่กี่วันก็ได้ เช่น พนักงานล้างจาน ขับรถ หรือพนักงานต้อนรับ เป็นต้น

Tips :  เลือกหัวหน้างานที่ดี เพื่อสามารถดูแลทีมงานให้กับคุณได้แทนคุณ และควรกำหนดให้มีการทำการ Test Run เพื่อทดสอบการทำงาน และแก้ไขจุดบกพร่องก่อนเปิดร้าน สัก 1 สัปดาห์

 

 WHO คนที่ใช่ รักษาอย่างไร

            คุณต้องใช้ระยะเวลาในการประเมินว่า คนที่มีอยู่เป็นคนที่ใช่หรือไม่ ร้านอาหารทั่วไปไม่ได้ประสบความสำเร็จจากการจ้างพนักงานชุดแรก อาจจะต้องเปลี่ยนทีมหลายครั้ง ซึ่งส่งผลต่อมาตรฐาน การบริหารการจัดการหน้าร้าน  ทั้งนี้ร้านสามารถแก้ไขปัญหานี้ด้วยการเทรนงาน และกำหนดการทำงานหน้าร้านให้มีระบบ เพื่อให้พนักงานชุดใหม่หรือพนักงานพาร์ทไทม์ สามารถเริ่มงานต่อโดยทันที เจ้าของร้านต้องดูแลพนักงานให้ดีเพื่อให้เขาสามารถดูแลลูกค้าของเราให้ดี โดยกำหนดแรงจูงใจในการผลักดันพนักงานเพื่อให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

Tips  : รักษาระดับการบริการ ไปพร้อมกับการเพิ่มยอดขาย ด้วยการมีการปรับลดเงินเดือนตามความสามารถ ให้รางวัลโบนัสระยะสั้น รวมถึงการให้ส่วนแบ่งเป็นเปอร์เซ็นต์จากยอดที่ขึ้นหน้าร้าน เช่น ทุกยอดขายน้ำดื่มที่เพิ่มขึ้น 100 แก้ว พนักงานได้รับ 500 บาทเป็นต้น

 

เพราะคนคือหัวใจของร้านอาหาร การบริหารการจัดการร้านที่ดี คุณภาพของอาหารและบริการ ขึ้นอยู่กับพนักงานทั้งหลังบ้านและหน้าบ้านทั้งสิ้น คนจึงเป็นหัวใจของร้านอาหาร ร้านของคุณจะทำกำไรหรือขาดทุนก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณให้ความสำคัญ และมีกึ๋นแค่ไหนในการบริหารงาน และบริหารคน

 


 

                     การทำร้านอาหาร ยังมีอีกหลายเรื่องราว หลายขั้นตอนที่เจ้าของร้านควรรู้ ดังนั้น ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง กับงานใหญ่ส่งท้ายปี  Amarin Academy 3rd Anniversary : Food Trend Connect  งานครบรอบ 3 ปีของ Amarin Academy กับการรวมตัวของเหล่าผู้ประกอบการร้านอาหารกว่า 150 ร้าน พร้อมโอกาสการสร้าง Connection กับร้านชื่อดังต่างๆมากมาย อีกทั้งยังรวบรวมผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายแขนงที่จะมาอัพเดทเทรนด์ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็น วิเคราะห์พฤติกรรมการบริโภคของลูกค้า / งานดีไซน์ร้านสุดเจ๋ง / กลยุทธ์เรียกลูกค้าเข้าร้านสไตส์ Influencer ชื่อดัง ปิดท้ายด้วยปาร์ตี้สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ร่วมพูดคุยกับเหล่ากูรูและเจ้าของร้านผู้มากประสบการณ์ในบรรยากาศเป็นกันเอง ซึ่งงานจะจัดขึ้นในวันอังคารที่ 17 ธันวาคม 2562

 

สมัครเข้าร่วมงาน Amarin Academy 3rd Anniversary : Food Trend Connect  คลิก!!

Amarin Academy

 

เรื่องแนะนำ

ลูกค้าหายไปไหนกัน ? เจ้าของร้านตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับพฤติกรรมลูกที่เปลี่ยนไป

ลูกค้าหายไปไหนกัน ? รวมความคิดเห็นจากคนทำร้านกาแฟ เจ้าของร้านตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับพฤติกรรมลูกที่เปลี่ยนไป ร้านคุณกำลังเผชิญกับภาวะยอดขายตก ลูกค้าหายอยู่หรือเปล่า ? เจ้าของร้านกาแฟรายหนึ่งได้มาโพสต์ตั้งคำถามในกลุ่ม “คนบ้ากาแฟ” เกี่ยวกับการทำธุรกิจของตนเองในขณะนี้ได้อย่างน่าสนใจว่า เดี๋ยวนี้ลูกค้าหายไปไหนหมด โดยโพสต์ดังกล่าวได้ระบุข้อความว่า “#ลูกค้าหายไปไหน มาชวนเพื่อนๆ ช่วยกันคิดหน่อย คิดว่าตอนนี้หลายร้านคงเจอกับภาวะ “นั่งตบยุง” “นั่งไถมือถือ” “นั่งดู Netflix” เราเป็นคนนึงที่เคยไม่กินกาแฟ แต่พอเปิดร้านกาแฟกลายมาเป็นคอกาแฟ ขาดกาแฟไม่ได้สักวัน เปิดร้านกาแฟมาเข้าปีที่ 7 เราเริ่มสงสัยว่า “ลูกค้าหายไปไหน” ทั้ง ๆ ที่ในซอยที่ร้านเราอยู่ ไม่มีร้านกาแฟจริงจังที่เป็นคู่แข่ง อาจจะมีร้านชากาแฟที่เป็นคีออสบ้าง แต่ถ้าร้านกาแฟจริงจังมีเราร้านเดียว พอลูกค้าหายไป เราเลยเริ่มสงสัยว่าลูกค้าหายไปไหน หรือเกิดจากกระแส 1. กาแฟดริป/Moka pot ทานเองที่บ้าน 2. เครื่องทำกาแฟแคปซูล 3. กาแฟในร้านสะดวกซื้อ 4. ลูกค้าเลิกกินกาแฟ 5. ลูกค้าไปทานร้านอื่น เพื่อนๆ ช่วยเราคิดหน่อยว่าลูกค้าหายไปไหน?” . หลังจากที่โพสต์นี้ออกไปก็ได้มีทั้งเจ้าของร้านกาแฟ และผู้บริโภคต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นกัน โดยสรุปเป็นหลายปัจจัยดังนี้ ชงกินเองที่บ้าน […]

ร้านอาหารเจ๊ง

9 เหตุผลสำคัญที่ทำให้ ร้านอาหารเจ๊ง !

รู้หรือไม่ 60 เปอร์เซ็นต์ของร้านอาหาร ปิดกิจการหรือเปลี่ยนเจ้าของภายใน 1 ปี เพราะอะไรจึงเป็นเช่นนั้น วันนี้เราจะมาดู 9 เหตุผลที่ทำให้ ร้านอาหารเจ๊ง กัน

กาแฟเปรี้ยวคือกาแฟที่ดี ? มุมมองและที่มาของความเปรี้ยว อีกด้านหนึ่งของรสชาติกาแฟที่คนไทยไม่คุ้นเคย

กาแฟเปรี้ยวคือกาแฟที่ดี ? แชร์มุมมองและที่มาของความเปรี้ยว อีกด้านหนึ่งของรสชาติกาแฟที่คนไทยไม่คุ้นเคย กาแฟเปรี้ยวคือกาแฟที่ดี ? ทำไมร้านกาแฟ Specialty ที่ขึ้นชื่อว่าร้านกาแฟที่พิเศษถึงมักมีแต่กาแฟที่มีรสเปรี้ยว หรือเพราะว่ากาแฟที่ดีจริง ๆ แล้วจะต้องมีรสเปรี้ยวกันนะ อาจเป็นคำถามที่หลาย ๆ คนที่เพิ่งหันมาสนใจกาแฟ ล้วนต้องการคำตอบว่า รสเปรี้ยวคือรสที่ดี ?​ รสที่ดีต้องเป็นแบบไหน ? วันนี้เราลองมาหาคำตอบกันว่ารสของกาแฟนั้นสามารถบอกอะไรกับเราได้บ้าง คุณหมีใหญ่ Coffee Guru เคยได้แชร์มุมมองต่อรสชาติของกาแฟไว้ว่า “คนไทยเราโตมากับวัฒนธรรมกาแฟโบราณและกาแฟสำเร็จรูป เราไม่ได้โตมากับวัฒนธรรมกาแฟ Espresso ซึ่งเป็นวัฒนธรรมกาแฟของอิตาลี ฉะนั้นในการคั่วกาแฟโบราณนั้นจึงต้องเน้นคั่วไหม้ เพราะเป็นกาแฟทุนต่ำ โดยปกติในเมล็ดกาแฟมีรสเปรี้ยวอยู่แล้ว การที่คั่วให้ลึกหรือคั่วไหม้ ก็เพื่อปกปิดลักษณะของกาแฟที่ไม่ดีนั่นเอง จึงเป็นเรื่องง่ายที่จะควบคุมรสชาติของกาแฟได้ คราวนี้ลองกลับมาดูที่เมนูกาแฟที่คนไทยนิยมดื่ม ก็จะพบว่าเป็นชนชาติที่ชื่นชอบในรสชาติที่ครบรสนั่นคือ ขม หวาน มัน และชอบเมนูที่ต้องใส่นมเป็นส่วนผสม แต่โดยสากลทั่วโลก เขาดื่มกาแฟร้อน มากกว่ากาแฟเย็น และถ้าพูดถึง Espresso ด้วยแล้ว ยิ่งไม่มีส่วนผสมของนมเข้าไปเกี่ยวเลย” จากข้างต้นจึงสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมการกินกาแฟของคนไทยว่ามักนิยมทานกาแฟที่มีส่วนผสมของนม ไม่ว่าจะเป็นนมข้นหรือครีมเทียม ดังนั้นกาแฟที่นำมาชงจึงมักมีรสและกลิ่นขม เพื่อผสมให้สู้กับกลิ่นหรือความหวานของนมข้นและครีมเทียมได้ ดังนั้นการนำเสนอรสชาติขมของกาแฟในสังคมไทยมาอย่างยาวนาน จึงทำให้สิ่งที่เป็นอีกด้านหนึ่งของกาแฟ นั่นคือ […]

กรณีศึกษาร้านกาแฟ SLOW BAR แม่ค้ารู้สึกกดดันเวลาลูกค้าเยอะ แชร์วิธีแก้จากคนทำร้านกาแฟ + จิตวิทยาการรอคอย

กรณีศึกษาร้านกาแฟ SLOW BAR แม่ค้ารู้สึกกดดันเวลาลูกค้าเยอะ เหตุทำกาแฟอยู่ แต่ก็ออเดอร์อื่นก็รอนาน แชร์วิธีแก้จากคนทำร้านกาแฟ + จิตวิทยาการรอคอย ทุกคนเคยมีความรู้สึกแบบนี้ไหม รู้สึกกดดันจังเลยเวลาลูกค้ามายืนจ้อง… แม่ค้าร้านกาแฟรายหนึ่งได้มาโพสต์แชร์ความรู้สึกพร้อมขอคำแนะนำในการรับมือกับความกดดันเมื่อลูกค้าเยอะ ในกลุ่ม “คนบ้ากาแฟ” เนื่องจากเธอรู้สึกกดดันมาก เมื่อลูกค้ามาสั่งเครื่องดื่มแล้วต้องรอนาน . 1- เธอได้โพสต์ว่า “ขอ HOW TO ทำยังไงไม่ให้กดดันตามลูกค้า เรารู้ ลูกค้ากาแฟรู้ ว่านี่มันคือ SLOW BAR COFFEE แต่บางครั้งคนที่ไม่ได้สั่งกาแฟไม่เข้าใจ งื้ออออ คือแบบ ทำกาแฟอยู่ แล้วลูกค้ามาสั่งเมนูที่ไม่ใช่กาแฟ แล้วรอนาน เพราะติดออร์เดอร์กาแฟ แล้วเราเลยกดดันตามลูกค้าไปด้วย ” . 2- ซึ่งหลังจากที่โพสต์นี้ออกไปก็ได้มีเหล่าคนทำร้านกาแฟต่างเข้ามาให้คำแนะนำแม่ค้ารายนี้พร้อมแชร์ประสบการณ์ที่ตนเองเจอกันอย่างไม่มีกั๊ก โดยส่วนใหญ่ให้คำแนะนำว่าให้ใช้วิธีติดป้ายแจ้งหรือบอกลูกค้าไว้ก่อนว่าเครื่องดื่มมีคิวก่อนหน้าอยู่กี่คิว ต้องรอประมาณกี่นาที แล้วถามว่าลูกค้าสะดวกรอไหม เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจได้ว่าจะรอหรือจะไม่รอ เช่น “ลองบอกเขาไหมคะ ว่ามีคิวอยู่เยอะ รอได้ไหม รอประมาณกี่นาที บางคนคิดว่าของฉัน 1 แก้วเอง แต่ถ้าร้านแจ้งก่อน ว่ามีคิวอยู่ก่อน ต้องรอนาน […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.