ผักคะน้าคละ หรือ ผักคะน้าคัด ? เตรียมวัตถุดิบอย่างไรให้ได้จานเด็ดมัดใจลูกค้า - Amarin Academy

ผักคะน้าคละ หรือ ผักคะน้าคัด ? เตรียมวัตถุดิบอย่างไรให้ได้จานเด็ดมัดใจลูกค้า

ผักคะน้าคละ หรือ ผักคะน้าคัด ?
เตรียมวัตถุดิบอย่างไรให้ได้จานเด็ดมัดใจลูกค้า 

( SOP การเตรียมวัตถุดิบ + Portion Control = Perfect Dish )

ก่อนจะได้อาหารเลิศรสสักหนึ่งจานต้องผ่านกระบวนการต่างๆ มากมาย เริ่มตั้งแต่การซื้อวัตถุดิบ และหากว่าร้านอาหารของคุณต้องใช้ผักคะน้าจำนวนมาก แล้วคุณกำลังหาซื้ออยู่ที่ตลาดไท คุณจะเลือกผักคะน้าคละ หรือผักคะน้าคัดดีล่ะ ?

สมมติว่าราคาผักคะน้าคละ ในตลาดไท ราคากิโลกรัมละ 23 บาท ก่อนจะนำมาปรุงได้ ต้องตัดใบแก่ ใบเหี่ยว ใบเหลืองทิ้ง ไป และตัดส่วนลำต้นที่แข็งออก คุณอาจจะเหลือผักคะน้าที่ใช้จริงแค่เพียง 7 ขีดเท่านั้น เท่ากับว่าต้นทุนจะไม่ใช่ 23 บาทต่อ 1 กิโลกรัมอีกต่อไป แต่จะเป็น 33 บาท ต่อ 1 กิโลกรัม

 

นอกจากนี้คุณยังต้องเสียเวลาไปกับการคัดแยกเอาผักคะน้าสวยๆ ออกจากกองที่คละกันอยู่อีกต่างหาก ทำให้ต้องเสียคนไปด้วยหนึ่งคนกับกระบวนการนี้ และอย่าลืมว่าวัตถุดิบ คน และเวลา ก็คือต้นทุนที่สำคัญทั้งสิ้น

 

แต่หากว่าคุณซื้อผักคะน้าคัดแล้ว ซึ่งตามท้องตลาดขายกันในราคา 30 บาทต่อ 1 กิโลกรัม และคุณสามารถใช้งานเกือบทั้งหมด อาจจะมีส่วนที่เหลือทิ้งเพียง 1 ขีด ซึ่งราคาที่คำนวณแล้วก็อาจจะขยับเป็น 33 บาทต่อ 1 กิโลกรัม เท่าๆ กับผักคะน้าคละ แต่แน่นอนว่าประหยัดคนและเวลามากกว่า แถมยังสามารถทำกระบวนต่อไปในการจัดเตรียมวัตถุดิบตาม SOP ได้เลย

 

แล้ว SOP ในการเตรียมวัตถุดิบคืออะไรล่ะ ? SOP ก็คือเอกสารที่ต้องเขียนขึ้นเพื่อแนะนำวิธีเตรียมวัตถุดิบนั่นเอง เพื่อให้เกิดความถูกต้องและมีทิศทางเดียวกันทั้งหมดนั่นเอง แถมยังทำให้ลดความผิดพลาดในการทำงานได้อีกด้วย

 

สำหรับขั้นตอนใน SOP เพื่อเตรียมผักคะน้าจะบอกว่า (1) ล้างผักคะน้าให้สะอาด และแช่น้ำยาล้างผักเป็นเวลา 10 นาที (2) ตัดใบแก่ ใบเหลือง ใบเหี่ยว และลำต้นที่แข็งทิ้ง (3) หั่นก้านคะน้า โดยหั่นเฉียงเป็นชิ้นเท่าๆ กัน (4) หั่นใบ โดยผ่ากลางออกเป็นสองส่วน แล้วตัดใบเป็นขนาดพอดี (5) จัดใส่ถุงพลาสติกในปริมาณ 200 กรัม (6) แพ็คลงในกล่องพลาสติกและปิดฝาให้มิดชิด (7) เขียนวันและเวลาที่ผลิต และวัน เวลาหมดอายุ (2 วัน) ที่ข้างกล่อง ก่อนแช่ในตู้เย็นอุณหภูมิประมาณ 7-10 องศา

 

นั่นคือตัวอย่างของ SOP การเตรียมวัตถุดิบอย่างผักคะน้าก่อนจะนำมาปรุงอาหารนั่นเอง แต่ถ้าสังเกตให้ดียังมีอีกหนึ่งอย่างที่สำคัญมากซ่อนอยู่ในนั้น นั่นคือ Portion Control หรือการควบคุมน้ำหนักของแต่ละจานให้เท่ากัน โดยผัดคะน้าหมูกรอบ กับข้าวยอดฮิตของทุกจานในร้านคุณจะมีผักคะน้า 200 กรัมเท่ากันอย่างแน่นอน

 

เห็นหรือยังว่าก่อนธุรกิจร้านอาหารจะประสบความสำเร็จ และมีมาตรฐานเป็นของตัวเองได้ ต้องเริ่มตั้งแต่การเลือกซื้อวัตถุดิบ คำนวณต้นทุนที่เสียไป อีกทั้งยังต้องควบคุมแต่ละขั้นตอนและปริมาณวัตถุดิบอย่างละเอียด เพราะทุกสิ่งคือความใส่ใจที่สามารถทำได้เสมอในฐานะเจ้าของธุรกิจที่ดี เพราะฉะนั้นอย่ามองข้ามแม้แต่การจัดเตรียมวัตถุดิบเป็นอันขาด

ผักคะน้าคละ หรือ ผักคะน้าคัด

 

เรื่องแนะนำ

โครงสรา้ง ต้นทุนร้านอาหาร

โครงสร้าง ต้นทุนร้านอาหาร รู้ไว้…ไม่มีเจ๊ง

โครงสร้าง ต้นทุนร้านอาหาร คือตัวชี้แนะแนวทางว่า ถ้าคุณจะเปิดร้านอาหารสัก 1 ร้าน ควรลงทุนกับสิ่งใดเท่าไรบ้าง และถ้าลงทุนเท่านี้ กี่ปีถึงจะคืนทุน

5 ขั้นตอน พัฒนาทีมงานแบบง่ายๆ ใช้ได้ทุกร้าน

เพราะปัญหาเรื่องทีมงาน เป็นปัญหาคลาสสิคของร้านอาหาร ที่เจ้าของร้านทุกคนพอเปิดไปสักพัก ก็ต้องเจอไม่ว่าจะเป็น พนักงานทำออเดอร์ผิด รสชาติหน้าตาอาหารผิดเพี้ยน เสริฟผิดโต๊ะ รับออเดอร์ตกหล่น ความสะอาดภายในร้านและในครัว จนถึงปัญหาการลาออกบ่อยของพนักงาน   ผมเชื่อว่าสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ปัญหาเหล่านี้ไม่ถูกแก้ และกลับมาหาเราซ้ำๆ ไม่ใช่เพราะเราไม่สอน……… แต่ปัญหาคือ เราไม่มี Flow Chart หรือ SOP ของการพัฒนาความสามารถให้พนักงาน   เมื่อเราไม่ได้วางลำดับขั้นตอนของการสอนเพื่อประเมินพนักงานว่าเขาอยู่จุดไหนแล้ว  และจากนี้เขาควรจะไปไหนต่อ มันก็เลยทำให้เขาอยู่จุดเดิม พอเกิดปัญหา ก็เลยเป็นภาระของ เจ้าของร้านที่ต้องเข้ามาแก้อยู่เสมอ   ยกตัวอย่างปัญหาในครัว เช่น พนักงาน A หั่นผัก มาหลายเดือน ก็หั่นผักอยู่แบบนั้น ไม่เคยได้จับกระทะทำอะไรเลย ยิ่งกว่านั้นพอพนักงานรุ่นพี่ลาหยุด กลายเป็นว่าคนที่อยู่ คือพนักงาน A ที่ทำหน้าที่หั่นผัก จำเป็นต้องมาจับกระทะทำอาหาร แต่ทำไม่ได้ เนื่องจากไม่ได้มีการพัฒนาให้พนักงาน A ได้จับกระทะทำอาหารมาก่อน ทำงานครัวในวันนั้นไม่สามารถดำเนินงานได้อย่างราบรื่นอย่างที่ควรจะเป็น   แสดงว่าเจ้าของร้านไม่เคยตรวจสอบความสามารถของเขาเลยว่าเขาสามารถทำงานได้ด้วยตัวเองไหม อยู่ขั้นไหนแล้ว ดังนั้นเราควรจะตั้งเป้าพัฒนาศักยภาพอย่างไร ต่อพนักงานหนึ่งคนเพื่อให้เขาเกิดผลสูงสุด   วันนี้ผมมี SOP […]

ขายอาหารในศูนย์การค้า

10 ขั้นตอน ขายอาหารในศูนย์การค้า ต้องเริ่มอย่างไร?

เชื่อว่ามีร้านอาหารมากมาย ที่เคยคิดอยากจะเปิดร้านอาหารภายในศูนย์การค้า รวมถึงร้านที่ไม่ใช่แบรนด์ดัง ก็อยากจะพาร้านตัวเองเข้าสู่ศูนย์การค้า เพื่อให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น แต่ก็มีหลายคำถามมากๆว่า ขายอาหารในศูนย์การค้า ต้องเริ่มอย่างไร มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง ยุ่งยากหรือไม่ คุณประภา จิตวิวัฒน์พร Leasing Manager Business Development Group ศูนย์การค้า Seacon Square มาให้คำตอบแบบ Step by Step ให้เจ้าของร้านให้ทราบกันเลย   10 ขั้นตอน ขายอาหารในศูนย์การค้า Step by Step ขั้นตอนแรก เจ้าของร้านต้องโทรเข้ามาที่ศูนย์การค้าเพื่อ ติดต่อฝ่ายขาย ว่ามีความประสงค์ต้องการจะเปิดร้านอาหาร ทีมฝ่ายขายจะมีการสอบถามเบื้องต้นว่า ต้องการเปิดร้านอะไร พื้นที่เท่าไหร่ จากนั้นก็จะให้ทางร้านส่ง Brand Profile มาให้พิจารณาเป็นลำดับถัดไป เจ้าของร้านส่ง Brand Profile ให้ศูนย์การค้าพิจารณา จุดนี้สำคัญมาก เจ้าของร้านต้องทำโปรไฟล์ร้านของตัวเองก่อน เพื่อให้รู้ว่าร้านของคุณเป็นอย่างไร ขายอาหาร หรือเครื่องดื่มประเภทใด หรือแม้กระทั่งมีจุดเด่นอะไรที่น่าสนใจ ยิ่งหากไม่ใช่ร้านดัง Brand […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.