ในยุคดิจิทัลที่ร้านอาหารไม่ได้มีคู่แข่งเป็นเพียงร้านอาหารด้วยกันเท่านั้นแต่ยังมีร้านอาหารออนไลน์และบริการจัดส่งอาหารถึงที่เข้ามาแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาด เจ้าของร้านอาหารจึงต้องปรับตัวและนำเทคโนโลยีในยุคดิจิทัลมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในทุกๆด้าน ดังเช่นวิทยากรทั้ง 3 ท่านซึ่งเป็นเจ้าของร้านอาหารที่มากประสบการณ์และมาแบ่งปันความรู้ในงานเสวนา ร้านอาหารยุคใหม่ ปรับอย่างไร ให้ทันยุคดิจิทัล จัดขึ้นที่ K ONLINESHOP SPACE ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 5 โดยคุณอาริยะ คำภิโล เจ้าของร้านสลัดเพื่อสุขภาพ Jones’ Salad คุณกันติชา สมศักดิ์ เจ้าของร้านขนมหวานสไตล์เกาหลี Cheevit Cheeva คุณธนพงศ์ วงศ์ชินศรี เจ้าของร้านบุฟเฟต์ชาบู Penguin Eat Shabu
ระบบหลังบ้านจัดการได้ด้วยซอฟต์แวร์
วิทยากรทั้ง 3 ท่านต่างยืนยันว่าระบบการจัดการงานบริการและงานครัวที่ดีนั้นสำคัญมาก ทุกร้านจำเป็นต้องมี SOP (Standard operating procedure) หรือสูตรมาตรฐานของร้านที่ใช้ควบคุมและประเมินผลการทำงาน ในช่วงแรกร้าน Penguin Eat Shabu ใช้ระบบที่ทำขึ้นเองจากโปรแกรม Excel ซึ่งคุณธนพงศ์กล่าวว่าค่อนข้างยุ่งยากและใช้เวลานาน เพราะต้องวิเคราะห์ตัวเลขสต็อกสินค้าและต้นทุนเองทั้งหมด ขณะที่ร้าน Jones’ Salad มีนักพัฒนาซอฟต์แวร์เขียนระบบให้ ซึ่งมีข้อเสียที่ปัญหาไม่ได้รับการแก้ไขทันท่วงทีเพราะมีนักพัฒนาดูแลเพียงคนเดียว เช่นเดียวกันกับ Cheevit Cheeva ที่นักพัฒนาซอฟต์แวร์ในท้องถิ่นทำระบบให้ แต่ก็ต้องเสียเวลากับการแก้ไขปัญหาทีละจุดเช่นกัน
ปัจจุบันทุกร้านใช้ซอฟต์แวร์สำหรับการจัดการร้านตั้งแต่การสั่งวัตถุดิบ คำนวณต้นทุน และเก็บข้อมูลลูกค้า ฯลฯ ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่ได้มาตรฐานและจัดเก็บข้อมูลในระบบอินเทอร์เน็ต (Cloud Storage) นอกจากนี้ในส่วนของการจัดการวัตถุดิบและควบคุมคุณภาพอาหารให้มีมาตรฐานเดียวกันทุกสาขา ร้าน Cheevit Cheeva และ Jones’ Salad ยังแก้ไขปัญหาด้วยการใช้ครัวกลางและจัดส่งอาหารกระจายไปยังสาขาต่างๆ แม้ว่าจะทำให้มีค่าใช้จ่ายในการจัดส่งเพิ่ม แต่เจ้าของร้านทั้งสองยืนยันว่าคุ้มค่ากับคุณภาพและรสชาติที่ได้มาตรฐานเหมือนกัน ซึ่งเป็นกลยุทธ์ดึงดูดใจลูกค้าให้เลือกเข้าร้านไม่ว่าร้านจะตั้งอยู่ที่สาขาไหน
บริหารคนต้องใช้ใจ +ตัวช่วยออนไลน์
ต้องยอมรับว่าการบริหารคนนั้นต้องใช้หลักการบริหารที่อาศัยความเข้าใจและการสื่อสารเป็นหลักโดย คุณอาริยะสรุปปัญหาเรื่องพนักงานไว้ 2 ประเด็นคือ 1.หาคนมาทำงานไม่ได้จึงต้องรับทุกคนที่มาสมัคร 2.จัดการคนให้ทำงานได้ดี อยู่ได้นาน และทำงานตรงความถนัด ปัญหาเรื่องหาคนทำงานไม่ได้มักเกิดขึ้นในช่วงแรกของการเปิดร้าน ระยะนี้เจ้าของร้านอาจต้องแก้ปัญหาด้วยการลงไปทำเอง แต่เมื่อเปิดร้านไปสักพัก ร้านเป็นที่รู้จักจะมีคนเข้ามาสมัครทำงานมากขึ้น
คุณกันติชากล่าวเสริมถึงหลักการคัดเลือกพนักงานว่าจะคัดเลือกคนที่มีคุณสมบัติตรงกับ DNA ของแบรนด์ คือ สดใส มีชีวิตชีวา ตามชื่อและสินค้าของร้าน เพราะนอกจากลูกค้าจะได้กินขนมหวานที่สดชื่นแล้วยังอยากให้ได้รับบริการจากพนักงานที่มีบุคลิกสดใสร่าเริงด้วย เมื่อรับเข้ามาทำงานแล้วจะมีระบบการสอนงานจากพนักงานรุ่นพี่ประกบ ซึ่งคล้ายกับระบบการเทรนนิ่งพนักงานของร้าน Penguin Eat Shabu ที่มีการสอนงานจากพนักงานรุ่นสู่รุ่น นอกจากนี้ยังมีขั้นตอนการทำงานที่ชัดเจน เช่น ขั้นตอนการชั่งตวงวัตถุดิบ วิธีการปรุงน้ำซุป
คุณอาริยะกล่าวปิดท้ายเกี่ยวกับการสร้างแรงจูงใจให้พนักงานว่าทำได้โดยใช้ระบบการปรับตำแหน่งและเพิ่มค่าจ้างเพื่อสร้างแรงจูงใจให้พนักงาน และคลุกคลีกับพนักงานร้านให้มากที่สุด ซึ่งนอกจากจะเข้าไปดูแลพนักงานที่ร้านตามสาขาต่างๆแล้วยังใช้ตัวช่วยในยุคดิจิทัลอย่างแอปพลิเคชั่นพูดคุยทางออนไลน์ (chat application) โดยใช้ในช่วงของการเช็กสต็อกสินค้าก่อนปิดร้าน ผู้จัดการของแต่ละสาขาจะต้องถ่ายรูปสต็อกวัตถุดิบที่เหลือส่งให้ดูทุกวันซึ่งนอกจากจะได้ควบคุมต้นทุนสินค้าแล้วยังได้สื่อสาร พูดคุย และรับฟังปัญหาของพนักงานทุกสาขาในทุกๆวันด้วย
สร้างตัวตนร้าน ทำการตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย
ในยุคที่ผู้บริโภคเลือกเชื่อข้อมูลจากผู้บริโภคด้วยกัน ดังจะเห็นได้จากพฤติกรรมการหาข้อมูลรีวิวร้านอาหารก่อนตัดสินใจเดินเข้าร้าน วิทยากรทุกท่านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าในปัจจุบันสื่อออนไลน์ไม่ใช่พื้นที่ในการโฆษณาสินค้าอย่างที่เคยเป็นมาแต่เป็นช่องทางสร้างความสัมพันธ์ระหว่างร้านกับลูกค้า เพื่อให้ลูกค้ารู้ว่าทางร้านมีตัวตนและพร้อมสื่อสารกับเขาทุกเมื่อ
คุณกันติชากล่าวว่าสิ่งสำคัญในยุคนี้คือการสร้างสินค้าที่ดีในโลกออฟไลน์จนคนอยากแชร์บนออนไลน์ ดังจะเห็นได้จากลูกค้าที่ร้านมักถ่ายรูปขนมหวานของร้านลงบนโลกออนไลน์และเกิดการแชร์ต่อๆกันจนได้ลูกค้ารายใหม่เพิ่มขึ้น ซึ่งถือเป็นคอนเทนต์ที่ผู้บริโภคสร้างให้กับทางร้านเอง (User–Generated Content)
ในส่วนของการสร้างคอนเทนต์บนโลกออนไลน์ คุณอาริยะกล่าวว่าต้องเป็นเนื้อหาที่ดึงดูดความสนใจของคนได้ภายใน 5 -10 วินาที โดยจุดยืนของแฟนเพจร้าน Jones’ Salad นั้นคือการให้ความรู้และสร้างชุมชนของคนรักสุขภาพ ทำให้แฟนเพจของร้าน Jones’ Salad มีตัวตนที่ชัดเจนและเป็นมากกว่าพื้นที่โฆษณาทางออนไลน์
เช่นเดียวกันกับคุณธนพงศ์ที่ย้ำว่าโลกออฟไลน์และออนไลน์นั้นผสมผสานเป็นเรื่องเดียวกัน คือ ร้านอาหารต้องทำอาหารให้อร่อย จัดไฟ จัดร้านเพื่อให้ลูกค้าถ่ายรูปออกมาสวย เพื่อให้ลูกค้าบอกต่อถึงความประทับใจไปในโลกออนไลน์ นอกจากนี้สื่อโซเชียลมีเดียยังเป็นช่องทางที่ทำให้เจ้าของรับฟังความเห็นลูกค้าได้แบบทันที (Real Time) ดังเช่นทางร้านที่เมื่อมีลูกค้าตำหนิถึงการบริการผ่านแฟนเพจ ทางร้านจะส่งข้อมูลไปให้พนักงานที่สาขานั้นๆแก้ไขทันที
เมื่อปัญหาคือสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ร้านอาหารในยุคใหม่จึงต้องเรียนรู้ผู้บริโภคและเลือกใช้เครื่องมือให้เหมาะสม เพราะในยุคดิจิทัลที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ร้านอาหารที่จะอยู่รอดคือร้านที่รู้จักปรับตัวและก้าวไปให้ทันกับทุกกระแสความเปลี่ยนแปลงนั่นเอง